| ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า พรบ.การเลือกตั้งที่ต้องสส.ต้องได้คะแนน 20% สร้างปัญหาให้รัฐธรรมนูญ ให้รับรองการเลือกตั้งเสีย ได้สส.ครบ (4 คน) |
| กกต. เปิดรับสมัครใหม่ พรรคอื่นลงเพิ่ม ได้สส.ครบ (24 คน) |
| การประชุมสภาสามัญครั้งแรกใน 30 วันทำไม่ได้ ประกาศการเลือกตั้งเป็นโมฆะ เลือกตั้งใหม่ (17 คน) |
| เปิดประชุมสภาด้วยจำนวนสส.ที่มีอยู่ (14 คน) |
| ยังไม่ถึงวันที่ 29 ไม่ทราบ บอกไม่ได้ (0 คน) |
| จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 59 คน |
ในส่วนตัวคงโหวตข้อ 1 กับ 4 โดยให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าการเลือกตั้งครั้งแรกเท่านั้นที่สส.ต้องได้คะแนนมากกว่า 20% ในกรณีที่ลงคนเดียว ถ้าต้องครบ 20% ทุกครั้งผมว่ากฎหมายฉบับนี้มีปัญหา ด้วยเหตุที่พอผู้สมัครลง 2 คน แต่คนที่ชนะไม่ถึง 20% ทำไมถึงได้เป็นสส. เป็น logic การเขียนกฎหมายที่ไม่ถูกต้อง แล้วทำไมถึงกำหนด 20% ไม่ 5 10 หรือ 50% บอกตรงๆ ว่าคนเขียนกฎหมายและสส. สว.ที่ผ่านกฎหมายฉบับนี้ทำงานผิดพลาด หรือไม่ก็ศาลรัฐธรรมนูญตีความให้เกิดปัญหาหรือเปล่า หรือไม่ก็กกต.ตีความผิดพลาดเมืองครั้งเลือกสว.ตอนนู้น
ถึงแม้ว่าจะเกิดการเลือกตั้งอีกกี่ครั้งถ้าไม่ใช่การเลือกตั้งครั้งนี้หรือครั้งไหนๆ แล้วเกิดมีสส.คนเดียวอีก กฎหมายข้อนี้ก็มีปัญหาอยู่ดี
การตีความให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะไม่ควรด้วยต้องเปิดประชุมใน 30 วันไม่น่าจะได้ ถ้าเกิดมีภัยพิบัติเช่นแผ่นดินไหว หรืออะไรก็แล้วแต่ทำให้ไม่สามารถทำได้ 30 วันก็คงยืดได้ อีกอย่างจะเลือกกี่ครั้งก็โมฆะตลอดเพราะปัญหาไม่ได้ถูกแก้
การที่ต้องมีสส.ครบ 500 คนเพื่อเปิดประชุมก็เป็นการเขียนกฎหมายที่มีปัญหา (จริงๆ อาจจะไม่มีแต่คนตีความให้มี) เกิดมีบางเขตในประเทศไทยไม่มีคนลงสมัครสส. ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใด เช่นต้องการแยกดินแดนออกจากประเทศไทย หรือข่มขู่ไม่ให้มีใครลงสมัคร อยู่ไม่กี่เขต หรือยินดีจะไม่มีสส. แต่ประเทศไทยไปต่อไม่ได้ ก็ไม่ควร
เพราะฉะนั้นจุดที่ต้องแก้ต้องนี้ก็ 1 กับ 4 แต่ต้องแก้ที่ 1 ก่อนเพราะว่าถ้าแก้ 4 เลยจะไม่ถูกต้องด้วยเขตนั้นยังอยากที่จะมีผู้แทนแต่กฎหมายสร้างปัญหา ตอนนี้จริงๆ ก็ใช้ข้อ 4 ไม่ได้นะครับ เพราะว่าเขตบางเขตอยากได้สส. แต่กฎหมายชั้นต่ำกว่าสร้างปัญหาเป็นข้อเสียเปรียบของเขตนั้นๆ
แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 49 23:14:49
แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 49 23:11:34
จากคุณ :
หนุ่มน้อยหน้าใหวัยสิบหก
- [
25 เม.ย. 49 23:03:48
]