ศาสนาพุทธ เป็นศาสนาประจำชาติ ของประเทศไทย
ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการ จึง บรรจุวิชาพระพุทธศาสนา เข้าไปเป็นหนึ่งในหลักสูตรการเรียนการสอน
แต่..ประชากรของประเทศไทย นั้นไม่ได้มีเพียงผู้นับศาสนาพุทธเพียงศาสนาเดียว แต่ยังมีผู้นับถือศาสนาอื่นอีกเป็นจำนวนมาก
ศาสนาอิสลาม จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งศาสนาที่มีจำนวนประชากรไทยนับถือเป็นจำนวนมากเช่นกัน โดยเฉพาะ ทางภาคใต้ประเทศไทย
ผลกระทบจึงเกิดขึ้น เมื่อเด็กมุสลิมต้องเข้าเรียนในโรงเรียน เขาจึงจำเป็นต้องเรียนวิชาพระพุทธศาสนา ร่วมไปด้วย ซึ่ง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ขัดแย้งต่อศรัทธาของชาวมุสลิมอย่างยิ่ง
ธาดา คือ เด็กมุสลิมคนหนึ่ง ที่ เมื่ออายุถึงวัยที่ต้องเข้าเรียน พ่อจึงส่งธาดาเข้าเรียนต่อในโรงเรียนของรัฐที่ไกล้บ้าน
สัปดาห์แรกที่เข้าเรียนธาดาไม่สามารถที่จะทำพิธี กรรมหน้าเสาธงได้ปกติเหมือนเพื่อนๆนักเรียนคนอื่น อันเนื่องมาจากพิธีกรรมส่วนใหญ่หน้าเสาธงเป็นพิธีกรรมแบบชาวพุทธ นั่นคือ การสวดมนต์ไหว้พระ ธาดาได้แต่ยืนตรงมองเพื่อนๆที่ทำพิธีกรรม
เวลานั้นครูที่คุมแถวหันมาเจอธาดาซึ่งไม่ยอมพนมมือสวดมนต์ไหว้พระเหมือนเด็กนักเรียนคนอื่น คุณครูที่คุมแถวจึงเดินตรงดิ่งมาที่ธาดา และ ถามธาดาว่า
ครู---ทำไมเธอไม่ยอมพนมมือ...!
(ธาดาจึงตอบครูกลับไปว่า)
ธาดา---ผมนับถือศาสนาอิสลามครับ พ่อบอกว่าไหว้พระไม่ได้
เมื่อเป็นเช่นนั้น ครู จึงอนุญาตให้ ธาดาไม่ต้องทำพิธีกรรม โดยให้ยืนตรงเฉยๆได้ แต่ตลอดระยะเวลา1 สัปดาห์แรกที่เข้าแถว ธาดาต้องเจอคำถามจากครูที่คุมแถวคนอื่นๆแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา และ ต้องคอยตอบซ้ำไปซ้ำมา ..จนเกือบจะครบครูทุกคน!ของโรงเรียน
ตลอดระยะเวลาของการเข้าเรียนในโรงเรียน แม้จะเป็นเพียงแค่ระดับประถม ซึ่ง ยังไม่มี วิชาพระพุทธศาสนา ให้ต้องเรียนแบบเต็มๆ แต่เนื่องด้วย ขณะนี้ทางโรงเรียน กำลังพัฒนาโรงเรียน เพื่อเป็น โรงเรียนวิถีพุทธ การเรียนการสอนจึงถูกแทรกซึมด้วยคำสอนและพิธีกรรม และ กิจกรรมต่างๆ ของพระพุทธศาสนา และ นี่เองจึงทำให้ธาดา ได้เรียนรู้แง่มุมต่างๆของพระพุทธศาสนามากพอๆกับ เพื่อนๆนักเรียนที่นับถือพุทธรู้ และ บางครั้ง ครูก็สั่งการบ้านเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา เช่น ให้ไปท่องบทสวดมนต์ต่างๆเพื่อมาสอบเอาคะแนน แม้ ธาดาจะเป็นมุสลิม ก็ต้องสอบ เพราะ ต้องเอาคะแนน มีหลายครั้งที่ธาดา ต้องนำหนังสือพระพุทธนา กลับไปท่องที่บ้านเพื่อหวังจะนำไปสอบเอาคะแนน ตามการบ้านที่ครูสั่ง ซึ่ง ธาดา และ ครอบครัว ก็รู้สึกแปลกๆที่ต้องทำเช่นนี้
ตามหลักแล้ว ทุกๆวันศุกร์ จะเป็น วันหยุดของ ชาวมุสลิมในหลายๆประเทศที่นับถืออิสลามทั่วโลก แต่สำหรับธาดา แล้ว เขาไม่สามารถที่จะหยุดวันศุกร์ ได้ เนื่องจาก ระบบราชการและหน่วยงานต่างๆ ในประเทศไทยนั้น วันหยุดราชการ ตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์ บางครั้งธาดาก็ต้อง ขอลาครูเพื่อไปร่วมพิธีละหมาดในวันศุกร์ เพราะ ทุกๆ วันศุกร์ พี่น้องมุสลิมจากทั่วสารทิศจะพร้อมใจกันมาละหมาดที่มัสยิด ซึ่งสำคัญมาก แต่ก็มีบางครั้งที่ธาดาต้องติดเรียน ติดสอบ จึง ไม่สามารถที่จะไปร่วมละหมาดได้ หรือ บางครั้งครูก็ไม่สามารถอนุญาตได้
ปีนี้ธาดาเรียนอยู่ชั้น ป.6 และ ทางโรงเรียนของ ธาดา ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันงานทักษะนักเรียน โดยเป็นการแข่งขันวัดความสามารถทางวิชาการของนักเรียนหลายๆโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษานั้นๆ ซึ่ง ครั้งหนึ่ง ธาดาเองก็เคยได้เป็นตัวแทนของโรงเรียนไปแข่ง วิชาคณิตศาสตร์ ตอนเรียน อยู่ ป.4 และ ได้ที่2ของเขต ปีนี้ธาดาก็คาดหวังว่า เขาจะต้องได้เป้นตัวแทนของโรงเรียนให้ได้ ในวิชาใดวิชาหนึ่ง ตอนนี้ ธาดาคาดหวังว่า เขาน่าจะได้เป้นตัวแทนวิชาคณิต หรือ ไม่ก็วิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งต้องรอลุ้นจากคะแนนสอบ ซึ่ง ทางโรงเรียนจะคัดเอาผู้ที่ทำคะแนนสุงสุดในแต่ละวิชา แต่ ก็ผลก็ดันออกมาว่า วิชาที่ธาดาทำคะแนน ได้สุงสุด ดันเป็น วิชาพระพุทธศาสนา .........!!!
เรื่องราว ของธาดา ที่เกิดขึ้นในรั้วโรงเรียน มันจึงเปรียบเสมือนเขาต้องอยู่ใ นสังคมที่แตกต่างๆ จากสิ่งที่เขาเป็น
เขาต้องเรียนรู้ และ ปรับตัว หรือ บางครั้งก็ต้องจำใจทำผิด
ต่อหลักศาสนาและศรัทธาของตน ด้วยกฏข้อบังคับทางสังคมที่เขาอยู่
ธาดา คาดหวังว่า สักวันกฏข้อบังคับทางสังคม ที่เขาประสบอยู่ สักวันคงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นกว่านี้
หรือ อย่างน้อยเขาก็อยากให้ผู้ออกกฏได้รับรู้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเขา
ปีหน้า ธาดา จะขึ้นชั้น ม.1 และ นั่นจึงหมายความว่า ปีหน้าจะเป็นปีที่ ธาดา จะต้องได้เรียน วิชาพระพุทธศาสนา แบบเต็มๆ และ ต้องเรียนมันอีก 6ปี !!! อะไรจะเกิดขึ้นกับธาดาในอนาคต.............!
จากคุณ :
ต.สะท้านฟ้า
- [
27 เม.ย. 49 23:35:18
]