CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ความภาคภูมิใจที่ไม่เคยเปลี่ยนที่ได้เลือก พ.ต.ท ดร. ทักษิณ ชินวัตรมาเป็นผู้นำประเทศ

    แถลงการณ์พรรคไทยรักไทย

    ตามที่ได้มีพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2549 ที่ทรงห่วงใยการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และการยึดมั่นในกฎเกณฑ์ของบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ตลอดจนการไม่ควรไปอ้างรัฐธรรมนูญมาตรา 7 เพราะการขอนายกฯ พระราชทานไม่ใช่การปกครองระบอบประชาธิปไตย และต่อมาศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2549 ให้มีการเลือกตั้งทั่วไปใหม่ ในประเด็นสำคัญ คือ

    ประเด็นแรก การให้ความเห็นในเรื่องการกำหนดระยะเวลาสำหรับการจัดการเลือกตั้ง อันนำไปสู่การประกาศกำหนดวันเลือกตั้งในพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรโดยไม่เหมาะสมและไม่เที่ยงธรรมนั้น คะแนนเสียง 8 ต่อ 6 เห็นว่าชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

    ประเด็นที่สอง  การจัดคูหาเลือกตั้งที่ผู้เลือกตั้งหันหน้าเข้าคูหาลงคะแนนและหันหลังให้คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งและประชาชนผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งกับบุคคลภายนอกที่มาสังเกตการณ์การเลือกตั้งหน้าหน่วยนั้น คะแนนเสียง 8 ต่อ 6 เห็นว่าไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

    ประเด็นที่สาม คะแนนเสียง 9 ต่อ 5 ให้เพิกถอนการเลือกตั้ง และต้องจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไปใหม่ นั้น

    พรรคไทยรักไทยขอน้อมรับพระราชดำรัสไว้เหนือเกล้าฯโดยได้ดำเนินการตามพระราชดำรัสมาโดยตลอด ทั้งขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ

    พรรคไทยรักไทยขอกราบเรียนพี่น้องประชาชน ได้ทราบว่าที่ผ่านมาแม้พรรคไทยรักไทยได้ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งครบ 500 คน และได้รับเลือกตั้งซึ่งเป็นไปตามกติกาทุกประการ แต่พรรคไทยรักไทยก็พร้อมเสมอสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นใหม่ ทั้งนี้เพราะพรรคไทยรักไทยตั้งขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ทางการเมืองให้เกิดความสงบเรียบร้อย ความรุ่งเรืองและความมั่นคงของชาติ  ตลอดจนความผาสุกของประชาชนภายใต้ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

    พรรคไทยรักไทยขอกราบขอบพระคุณ 29 ล้านเสียง ของพี่น้องประชาชนที่ได้ไปใช้สิทธิเพื่อรักษาประชาธิปไตย และขอกราบขอบพระคุณเป็นพิเศษ สำหรับ 16.43 ล้านเสียง ที่ได้มอบความไว้วางใจให้แก่พรรคไทยรักไทย   และขอกราบรบกวนพี่น้องประชาชนได้กรุณาสละเวลาไปใช้สิทธิเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง  

    สำหรับท่านที่อาจจะเบื่อหน่ายสับสน  รำคาญต่อเหตุการณ์การเมืองที่ผ่านมา  จนไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษายนนั้น ได้โปรดกรุณาออกไปใช้สิทธิโดยพร้อมเพรียงกันเพื่อรักษาไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยของเราต่อไป  พรรคไทยรักไทยขอขอบคุณทุกพรรคการเมือง ที่ได้ร่วมแสดงเจตนารมณ์เพื่อรักษาไว้ซึ่งวิถีทางแห่งระบอบประชาธิปไตยในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ผ่านมา เพราะพรรคการเมืองทุกพรรคที่รับเงินอุดหนุนจากรัฐโดยผ่านทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง ย่อมจะต้องตระหนักถึงหน้าที่ในการลงแข่งขันเลือกตั้งทุกครั้ง เนื่องจากเงินดังกล่าวมาจากภาษีของประชาชน พรรคไทยรักไทยขอขอบคุณคณะกรรมการการเลือกตั้งทุกระดับ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ต้องเหน็ดเหนื่อยและเสี่ยงชีวิตในบางพื้นที่ และจะต้องมาเหน็ดเหนื่อยอีกครั้งในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นใหม่

    พรรคไทยรักไทย ขอกราบวิงวอนพี่น้องประชาชนโปรดอย่าเบื่อการเมืองและการเลือกตั้งและโปรดไปใช้สิทธิของท่านเพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พรรคไทยรักไทยเป็นของพี่น้องประชาชน พรรคฯยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าปฏิรูปการเมืองเพื่อแก้ปัญหาระบบตรวจสอบและการทุจริตคอรัปชั่น ยกระดับเศรษฐกิจของประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และผลักดันการดำเนินการตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อแก้ปัญหาความยากจน ปราบยาเสพติด  พัฒนาระบบประกันสุขภาพ 30 บาท รักษาทุกโรค  เร่งสร้างระบบขนส่งมวลชน (รถไฟฟ้า) กว่า 300 กิโลเมตร ครอบคลุมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล     พัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาและการบริหาร    โครงการงบประมาณประชาชน (SML)  ส่งเสริมและพัฒนาโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP)   กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ โครงการจัดสรรที่ดินทำกินและพัฒนาแหล่งน้ำ สร้างบ้านเอื้ออาทรและบ้านมั่นคง ดูแลเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ และคนพิการ ให้ทุนการศึกษาแก่เยาวชน เร่งขยายตลาดต่างประเทศ ยกระดับราคาสินค้าเกษตรและเร่งรัดแก้ไขปัญหาด้านพลังงาน ฯลฯ อย่างต่อเนื่อง   ตลอดจนจะปรับค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ และเงินเดือนของข้าราชการต่อไป      

    พรรคไทยรักไทย ขอกราบเรียนย้ำว่า พรรคไทยรักไทยจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ  กฎหมาย และหลักการประชาธิปไตยตลอดไป  การเมืองเป็นเรื่องของการอาสา อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน การมุ่งเอาชนะโดยไม่เคารพการตัดสินใจของประชาชนจะไม่เกิดประโยชน์ใดๆ ต่อบ้านเมือง และจะเป็นผลร้ายต่อประเทศชาติและประชาชนในที่สุด

    พรรคไทยรักไทย

    8  พฤษภาคม 2549

    1.   หัวหน้าพรรค สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย ลำดับที่ 1

    2.   หากได้รับเลือกตั้งเสียงข้างมาก จะเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ขอให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชน และกลไกของระบบรัฐสภา
    _________________

    จากวิกฤติการณ์การเมืองไทยที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ข้อเท็จจริงที่ผู้เขียนได้ตระหนักถึงอีกประการหนึ่งก็คือท่านนายกฯทักษิณ และพรรคไทยรักไทย ได้สรรสร้างแนวทางใหม่ๆให้กับสังคมไทย และยึดมั่นในระบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นพระประมุขซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่พรรคการเมืองหนึ่งเดินตามครรลองแห่งรัฐธรรมนูญได้รักษาและยึดมั่นในแนวทางนี้อย่างมั่นคง โดยไม่หวั่นไหวต่อการกระทำไดๆทั้งสิ้น ไม่เลือกใช้ "วิธีการนอกระบบ" เหมือนกับพรรคการมืองเก่าแก่พรรคหนึ่งที่ตีตราให้ตัวเองว่า "เราเชื่อมั่นในระบอบรัฐสภา" ที่สนับสนุนมาตรา๗ เพียงเพื่อต้องการกดดันให้ นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่งและเพื่อเรียกร้องความชอบธรรมให้สามารถนำมาตรา 7 มาใช้ทั้งๆที่ในความเป็นจริงนั้นหากนำมาตรา 7 มาใช้จะเป็นการ*ล้มล้างรัฐธรรมนูญ* ที่ไม่มีความหมายเป็นอื่น ... ในขณะที่พรรคไทยรักไทยเห็นควรว่าควรจะยึดมั่นในรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 ที่ระบุว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย เป็นหลักและมีพระมหากษัตริย์ ทรงอยู่เหนือการเมืองซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้เขียนเห็นด้วยและสนับสนุนค่ะ

    และก็ภูมิใจในจุดยืนของตัวเองที่แน่วแน่และมั่นคงมาโดยตลอดค่ะที ...

    1. สนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข .... มิใช่ดึง "ฟ้า" ลงมา "ปกครอง" แทนการ"ปกเกล้่า" ….
    2. สนับสนุนการเลือกตั้งอันเป็นพื้นฐานมิอาจขาดเสียได้ในระบอบประชาธิปไตย ….
    3. ไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามหน้าที่พลเมืองไทยที่ถูกกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ …
    4. ไม่เห็นด้วยกับนักวิชาการบางส่วน สื่อมวลชนที่สนับสนุนนายกฯพระราชทาน และการใช้ "มาตรา๗ "ืที่ชอบดูถูก "ชาวรากหญ้า" และตั้งตนว่าตัวเองเป็นผู้มีปัญญาสูงส่งต้องการติดอาวุธทางปัญญาให้กับชาวรากหญ้าเพื่อโค่นล้มระบอบทักษิณ (ซึ่งไม่เคยมีอยู่จริง มีแต่ัระบอบประชาธิปไตยนโยบายไทยรักไทยและแนวความคิดและความทุ่มเทของ พ.ต.ท.ทักษิณที่เปรียบเสมือนเทียนที่เผาตัวเองให้เกิดการเปล่งแสงสว่างขึ้นในสังคม จึงเป็นภัยอันใหญ่หลวงของศัตรูทางการเมืองของท่านค่ะ.)
    5. ไม่เห็นด้วยและต่อต้านนายสนธิ ลิ้มทองกุลที่แอบอิงสถาบันกษัตริย์เพื่อปลุกระดมมวลชนโดยใช้คำว่า "กู้ชาติ" มาบังหน้่า ....
    6. ไม่เคยโกรธที่หลายครั้งมีคนมาตำหนิว่าผู้เขียนไม่เป็นกลางเพราะไม่เคยเชื่อเรื่องความเป็นกลางทางการเมืองเมื่อต้องเลือกระหว่าง "การเคารพกฏหมาย รักษากติกาประชาธิปไตย " และ "การเชิดชูกฏหมู่" สงสารก็แต่เสียง No Vote ค่ะที่ต้องถูกนายสนธิดึงเข้าพวกไปโดยปริยายเพราะบางคนนี่ก็ไม่ได้ชอบกลุ่มพันธมิตรฯเลย ….นี่ล่ะค่ะในทางการเมืองมันบังคับให้เราต้องเลือกค่ะเพราะความเป็นกลางไม่มีอยู่จริง นี่เป็นสัจจธรรม …
    และ
    7. ภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งใน 18 ล้านเสียงเลือกสุภาพบุรุษประชาธิปไตยนายกฯทักษิณ ชินวัตรมาเป็นผู้ำนำประเทศไทยค่ะ

    จากคุณ : เอื้องอัยราวัณ - [ 8 พ.ค. 49 22:27:28 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป