CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ***หรือนี่คือเบื้องหลังความพยายามโค่น กกต.? ***

    กระทู้นี้เป็นกระทู้คำถาม ฉะนั้น จึงขอให้ผู้ที่เข้ามาอ่าน อ่าน "โจทย์" ให้ละเอียด ก่อนที่จะแสดงความเห็นนะครับ

    ผมนั่งดูข่าวที่เลขา ฯ ศาล  เสนอแนะให้ กกต. ชุด "วาสนา" ลาออก เพื่อเปิดโอกาสให้ศาลเข้าไปจัดการเลือกตั้งรอบใหม่ และมี "เสียงกระหึ่ม" จากนักวิชาการบางกลุ่มและสื่อมวลชน เรียกร้องให้ กกต. ชุดนี้ลาออก โดยให้เหตุผลว่า ไม่ยุติธรรม

    ผมจึงไปค้นข้อมูลว่า กกต. ชุด "วาสนา" นี้ มีที่มาจากไหน ขอตัดมาบางส่วนนะครับ ได้ความว่าดังนี้

    "...วันที่ 4 ตุลาคม 2544  การประชุมวุฒิสภาเมื่อ ได้มีมติลงคะแนนเลือกตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดใหม่จากรายชื่อผู้ที่ผ่านการสรรหาจำนวน 10 คน ผลปรากฎว่าผู้ได้รับเลือกเป็น กกต.ชุดใหม่ 5 คน คือ พล.ต.ท.วาสนา เพิ่มลาภ ได้ 133 คะแนน พล.อ.ศิรินทร์ ธูปกล่ำ ได้ 130 คะแนน นายวีระชัย แนวบุญเนียร ได้ 123 คะแนน นายจรัล บูรณพันธุ์ศรีได้ 105 คะแนน และนายปริญญา นาคฉัตรีย์ ได้ 102 คะแนน..."
    ก่อนหน้าที่จะมีการเลือกกกต.ชุดใหม่โดยที่ประชุมวุฒิสภา เอแบกโพลล์ ได้ทำการสำรวจ เรื่อง “สำรวจความคิดเห็นและความเชื่อมั่นต่อวุฒิสภาในการคัดเลือกบุคคลมาเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดใหม่ : กรณีศึกษาเปรียบเทียบระหว่างตัวอย่างประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครผู้ติดตามข่าว

    "...ผลการวิเคราะห์ความคิดเห็นของกกต.ประจำจังหวัดพบว่า บุคคลที่กกต.ประจำจังหวัดให้ความเชื่อมั่นมากที่สุดได้แก่ อันดับที่หนึ่ง พล.ต.ท.วาสนา เพิ่มลาภ มีผู้ที่ระบุว่าเชื่อมั่นร้อยละ 46.6 อันดับที่สองนายอุดม เฟื่องฟุ้งเชื่อมั่นร้อยละ 31.5 อันดับที่สามนายวีระชัย แนวบุญเนียรเชื่อมั่นร้อยละ 28.7 อันดับที่สี่นายชูชาติ ศรีแสงเชื่อมั่นร้อยละ 23.3 และอันดับที่ห้ามีสองคนคือนายสมชัย ศรีสุทธิยากร และนายปริญญา นาคฉัตรีย์ เชื่อมั่นร้อยละ 21.4
    เมื่อพิจารณาในด้านความไม่เชื่อมั่น พบว่าบุคคลที่กกต.ประจำจังหวัดไม่ให้ความเชื่อมั่นมากที่สุดคือพล.อ.ศิรินทร์ ธูปกล่ำ มีผู้ระบุว่าไม่เชื่อมั่นร้อยละ 27.5 รองลงมาคือนายปริญญา นาคฉัตรีย์ไม่เชื่อมั่นร้อยละ 25.5 และนายสมชัย ศรีสุทธิยากรไม่เชื่อมั่นร้อยละ 22.8..."

    ที่มา: http://www.ipoll.th.org/article/Ecom/Ecom.htm

    ทั้งนี้ ในช่วงกระบวนการสรรหา กกต. ของวุฒิสภา ก็มีปัญหาครับ เพราะมีการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า การสรรหาช่วงที่มี พล.อ.ศิรินทร์ ธูปกล่ำนั้นมีปัญหา ก็เลยมีการสรรหาใหม่ จนได้ และคนที่ยื่นเรื่องให้ศาล ฯ ตีความ ก็คือ กลุ่มของ พล.ต.อ.ประทิน และ นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทองนั่นเอง  และ กกต.ที่ได้รับเลือก คือ คุณปริญญา นาคฉัตรีย์ ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า เป็นเพื่อนกับคุณชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรค ปชป.

    นั่นคือประเด็นที่มาครับ

    ในช่วงการเลือกตั้ง 2 เม.ย. มีการร้องคดีที่น่าสนใจคดีหนึ่ง ก็คือ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ยื่นคำร้องต่อ กกต. เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2549ว่ามีหลักฐานว่า ผู้บริหารพรรคไทยรักไทย ว่าจ้างให้พรรคเล็กส่งผู้สมัครเลือกตั้ง โดยมีลำดับเหตุการณ์ดังนี้

    (จากมติชน)

    **วันที่ 21 มีนาคม

    นายสุเทพแถลงที่พรรคประชาธิปัตย์ โดยเปิดวิดีโอบันทึกคำให้การของนางฐัติมาว่า รองหัวหน้าพรรคใหญ่ 2 คน บอกให้ส่งผู้สมัครในกรุงเทพมหานครและภาคใต้แล้วจะให้เงินสนับสนุน โดยรองหัวหน้าพรรคที่ดูแลภาคอีสานได้ให้ เสธ.อ.เป็นผู้ดูแล ซึ่งมี เสธ.ผ.นำเงินไปให้ 1.45 ล้านบาท เพื่อนำไปจ่ายให้ผู้สมัครของพรรคแผ่นดินไทย 29 คน และหากมีผู้สมัครคนไหนคุณสมบัติไม่ครบ โดยเฉพาะเรื่องการเป็นสมาชิกพรรค 90 วัน จะมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงในคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ช่วยแก้ข้อมูลให้

    **วันที่ 23 มีนาคม

    นางฐัติมาให้การกับอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนของ กกต.ที่กองบังคับการตำรวจภูธร ภาค 8 จ.สุราษฏร์ธานี มีใจความสรุปได้ว่า นางฐัติมาเดินทางไปให้ถ้อยคำที่พรรคประชาธิปัตย์โดยความสมัครใจ เนื่องจากเห็นว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ กำลังตรวจสอบเรื่องทุจริตการสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ไม่ได้ถูกชักจูงหรือถูกบังคับขู่เข็ญจากบุคคลหนึ่งบุคคลใด

    นางฐัติมายังระบุอีกว่า เมื่อวันที่ 5 มีนาคม นายพันธมิตร ดวงทิพย์ ผู้สมัครส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคแผ่นดินไทย นำเงินมามอบให้ 3 แสนบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้กับผู้สมัคร

    **วันที่ 25มีนาคม

    นางฐัติมา เข้าแจ้งความที่กองปราบฯและพลิกคำให้การ โดยระบุถึงสาเหตุไปให้การที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ว่า

    "เมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ต.ท.สุวิชา จินดาคำ สารวัตรสอบสวน สน.มักกะสัน ขับรถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยูมาหาที่ทำการพรรคแผ่นดินไทย ตั้งอยู่ย่านดินแดง กรุงเทพฯ จากนั้นเชิญให้ไปที่พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้ไปพบกับนายบุญอิทธิพล ชิณราช หัวหน้าพรรคแผ่นดินไทย ที่รออยู่ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ แต่เมื่อไปถึงไม่พบนายบุญอิทธิพล เหมือนถูกหลอกให้ไป จากนั้นได้พบกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และมีการแจ้งว่าเอกสารการสมัครนั้นปลอมแปลงจึงบอกไปว่า พรรคเป็นผู้จัดทำให้

    นายสุเทพบอกว่า อยากให้ช่วยแฉพรรคไทยรักไทย เพราะต้องการจะโค่นล้ม มีการเสนอผลประโยชน์ให้ 1 ล้านบาท โดยจ่ายล่วงหน้า 3 แสนบาท มีการจ่ายเงินในห้องนายสุเทพ มีหลักฐานการโอนเงินเป็นสลิปของธนาคารกรุงเทพ สาขาสะพานควาย ได้โอนเงินไปเข้าบัญชีของน้องสาวที่บัญชีธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาจังหวัดร้อยเอ็ด ส่วนที่เหลือนายสุเทพบอกว่า จะให้เมื่อขึ้นให้การต่อหน้าศาลเสร็จแล้ว"

    **วันที่ 26มีนาคม

    นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เปิดแถลงชี้แจงการให้ปากคำของนางฐัติมาและปฏิเสธการจ่ายเงินให้เป็นการตอบแทนโดยยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีเงินทองมากมาย และไม่มีปัญญาจ้างพยานเป็นล้านๆ และยังแฉถึงสาเหตุที่นางฐัติมาเปลี่ยนใจพลิกคำให้การเพราะน้องสาวโดนบีบคั้น..."

    (ต่อ)

    จากคุณ : ขนมต้ม - [ 10 พ.ค. 49 13:59:35 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป