| กกต (71 คน) |
| ปชป (7 คน) |
| ช่างมันฉันไม่แคร์ (1 คน) |
| กระทู้ไม่สมควรแจ้งลบ (0 คน) |
| จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 79 คน |
'ปชป.-กกต.' งัดแผนสู้เดือด ไล่พ้นคุมเลือกตั้ง-โยนข้อหาล้ม2เม.ย.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อาคารศรีจุลทรัพย์ ว่า เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (9 พ.ค.) มีการประชุม กกต.เพื่อให้โอกาสกับนายบุญทวีศักดิ์ อมรสินธุ์ หัวหน้าพรรคพัฒนาชาติไทย และนายวรรธวริทธิ์ ตันติภิรมย์ หัวหน้าพรรคชีวิตที่ดีกว่า เข้าชี้แจงข้อกล่าวหา กรณี กกต. มีมติเสนอศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคพัฒนาชาติไทย เนื่องจากคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีพรรคการเมืองใหญ่จ้างพรรคการเมืองเล็กลงรับสมัครเลือกตั้ง พบว่าพรรคพัฒนาชาติไทยรับจ้างพรรคการเมืองขนาดใหญ่ลงสมัครเลือกตั้ง
นายบุญทวีศักดิ์ กล่าวว่า ได้ให้ข้อมูลกับ กกต. ว่า มีพรรคการเมืองใหญ่ เป็นพรรคเก่าแก่จ้างไม่ให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง โดยเมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา นายสุขสันต์ ชัยเทศ ผู้อำนวยการพรรค ได้โทรศัพท์มาสอบถามว่า จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ หากส่งมีคนจะสนับสนุนทางด้านการเงินให้ โดยไม่ได้ระบุว่าหมายถึงใคร ต่อมานายสุขสันต์ได้มาคุยด้วยตัวเอง ว่าหากผู้สมัครคนใดจะลงสมัครให้รับผิดชอบค่าสมัครเอง และได้ลงนามในใบรับรองการเป็นสมาชิกพรรค พร้อมรับรองการส่งลงสมัครไว้ให้ โดยให้นายสุขสันต์เป็นผู้ดำเนินการ
หัวหน้าพรรคพัฒนาชาติไทยกล่าวต่อว่า จากนั้น ในวันที่ 5 มี.ค. นายสุขสันต์ นายชวกานต์ โตสวัสดิ์ ได้นำนายไทกร พลสุวรรรณ มาพบ โดยนายไทกรแจ้งว่า มีพรรคการเมืองเก่าแก่จะให้เงิน 5 ล้านบาท เพื่อขอให้หยุดเลือกตั้ง ไม่ให้ส่งผู้สมัครลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่ได้ปฏิเสธไป ต่อมา วันที่ 15 มี.ค. นายไทกร นายสุขสันต์ และนายชวกานต์ ได้ขับรถยนต์ไปพบที่บ้านพักย่านมีนบุรี โดยมีรถตู้ตามไปอีกคันหนึ่ง และทั้ง 3 คน ได้เข้าไปคุยกันภายในบ้านหลังดังกล่าวว่า ผู้ที่รออยู่ในรถตู้จะให้เงินจำนวน 15 ล้านบาท เพื่อให้บอกว่ามีผู้จ้างให้ลงสมัคร โดยให้โยนความผิดให้กับนายเพ้ง และ พล.อ.ธรรมรักษ์ แต่ตนไม่ยอม ทั้ง 3 คน จึงบอกว่า จะให้ผู้ที่อยู่ในรถตู้เข้ามาคุยในบ้านได้หรือไม่ แต่ได้ปฏิเสธไป เนื่องจากบ้านคับแคบ และเป็นผู้เดินออกไปคุยในรถตู้ ขณะนั้นเวลาประมาณ 02.00 น. เมื่อขึ้นไปบนรถก็พบกับผู้บริหารพรรคการเมืองใหญ่และเก่าแก่ สั่งการให้ตนแอบอ้างว่าได้รับเงินให้ลงสมัคร ส.ส. จากนายเพ้ง และ พล.อ.ธรรมรักษ์ แต่ตนตอบกลับไปว่าทำไม่ได้ ชายคนดังกล่าวจึงกล่าวว่าไม่เป็นไรและถือว่าไม่เคยพบกันมาก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบุญทวีศักดิ์พูดจบ ได้หยิบนามบัตรของนายไทกรออกมาให้สื่อมวลชนดู นามบัตรดังกล่าวระบุตำแหน่งของนายไทกร ว่าเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ประธานศูนย์ประสานงานพรรคประชาธิปัตย์ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น พร้อมกล่าวว่า นายไทกรได้โทรศัพท์ไปข่มขู่ครอบครัวของตน จนทำให้ครอบครัวต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น และตนต้องปิดโทรศัพท์ ทั้งนี้ มีพยานอีก 2 ปาก ที่เป็นสมาชิกพรรคพัฒนาชาติไทย เดินทางมาจากจ.สงขลา และมาพักอยู่ที่บ้าน ในวันที่นายไทกร นายชวกานต์ นายสุขสันต์ เดินทางมาพบและได้ยินการสนทนาระหว่างตนกับบุคคลทั้งหมด พร้อมที่จะมาเป็นพยานยืนยันกับ กกต.ในสัปดาห์หน้า
ด้าน นายวรรธวริทธิ์ หัวหน้าพรรคชีวิตที่ดีกว่า กล่าวว่า หลังจากที่ กกต.ได้มีการตัดสิทธิผู้สมัครของพรรคแล้ว เมื่อวันที่ 20 เม.ย. มีกลุ่มบุคคลนำโดยนายไทกร และตำรวจอีก 2-3 นาย ไปข่มขู่บุตรชายตนที่บ้านพักจ.นครราชสีมา เพื่อให้ซัดทอดว่า ได้รับการจ้างจากพรรคไทยรักไทย ในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง จึงไปแจ้งความที่กองบังคับการตำรวจจังหวัดชัยภูมิ และได้วางแผนร่วมกับตำรวจ โดยโทรศัพท์ไปหานายไทกร เพื่อขอทราบเจตนา และต้องการให้ซัดทอดพรรคไทยรักไทยอย่างไร จากนั้น ได้นัดพบนายไทกรที่โรงแรมเซ็นทรัล ลาดพร้าว ไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปลอมตัวเป็นทนาย และมีการติดตั้งกล้องบันทึกภาพ พร้อมบันทึกเสียงไว้เป็นหลักฐาน นายไทกรพยายามให้ตนซัดทอดกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ว่าจ้างผู้สมัครลงรับสมัคร แลกกับค่าใช้จ่าย 4-5 แสนบาท โดยหากซัดทอดว่า นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทยมาพบเพื่อว่าจ้างจะได้เงินไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท
ด้าน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุมแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ วันเดียวกัน ว่า ที่ประชุมพิจารณากรณีที่ 3 ศาล ประกอบด้วย ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง ศาลฎีกา มีข้อเสนอให้ กกต. เสียสละ โดยการลาออก และเห็นว่าข้อเสนอดังกล่าวจะช่วยให้การเลือกตั้งมีความบริสุทธิ์ ยุติธรรม สุจริต และเกิดความเชื่อมั่นในการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ต้องการให้ กกต. รับฟังคำแนะนำดังกล่าว เพราะที่ผ่านมา กกต.มีส่วนสำคัญ ที่ปล่อยให้การเลือกตั้งไม่สุจริต เที่ยงธรรม จะเห็นว่าการเลือกตั้งปี 2548 กกต.ไม่มีการแจกใบเหลือง - ใบแดง แก่ผู้ที่ทุจริตเลือกตั้ง ทั้งที่มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างชัดเจน รวมทั้งการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2549 มีเรื่องการใช้อำนาจทุน รัฐ และสื่อมวลชนของรัฐ ที่เข้ามามีส่วนให้การเลือกตั้งไม่เที่ยงธรรม
"กกต.ควรเร่งพิจารณาทบทวนการทำงานของตัวเองที่ผ่านมาว่าสมควรดำเนินการตาม 3 ศาลฯ แนะนำหรือไม่ หากดำเนินการตามที่ศาลแนะนำ จะทำให้การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นยุติธรรม แต่หาก กกต.ไม่ดำเนินการตามที่ศาลแนะนำ อาจจะทำให้การเลือกตั้งมีปัญหาได้" โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อถึงกรณี นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ระบุว่า หาก กกต.ลาออก จะทำให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง ว่า นายบวรศักดิ์น่าจะเปลี่ยนความคิด เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 138 (3) ระบุว่าสามารถทำให้มีการสรรหา กกต.ชุดใหม่ ได้ วันนี้ นายบวรศักดิ์ควรทำตัวเป็นหลักกฎหมายบ้านเมือง มากกว่าทำตัวเข้าข้างรัฐบาล รวมถึง นายวิษณุ เครืองาม รักษาการรองนายกรัฐมนตรี ด้วย ที่ระบุว่า หาก กกต.ลาออกบ้านเมืองจะวุ่นวาย องค์กรสรรหา กกต. ไม่ครบนั้น ควรหันมารับฟังข้อเสนอแนะของทั้ง 3 ศาลฯ ที่มีความเห็นตรงกันว่า หาก กกต.ลาออก และองค์กรสรรหา กกต.ไม่ครบ ก็ไม่มีปัญหาอะไร
จากคุณ :
NOOKLOOK
- [
10 พ.ค. 49 20:28:43
]