PANTIP.COM : P4360264 นายไทกร พลสุวรรณ ก็คือคนที่พา"คุณฐิติมา" ไปหา"เทพเทือก นั้นเอง มันทำกันเป็นขบวนการเจงๆ เริ่มเห็นภาพชัดแล้ว []

ความคิดเห็นที่ 2

เตรียมร้อง UN สอบ กกต.แฉ ทรท.ไม่เข็ดจ่ายเงินพรรคเล็กลงสู้เลือกตั้ง 24/4/2549

--------------------------------------------------------------------------------

แกนนำกลุ่มอีสานกู้ชาติ แฉ เลือกตั้งแบ่งเขต 23 เม.ย. ทรท.ยังแจกเงินพรรคเล็กลงประกบ ค่าหัวคนละ 5 แสน ชี้ แจกเงินรอบแรกหลักฐานชัด จี้ กกต.สั่งยุบพรรค ทรท. เตรียมยื่นยูเอ็น สอบ กกต.พร้อมชู ตั้ง หมอเสม – หมอประเวศ – อานันท์ เป็นกรรมการอิสระคุม กกต.

ที่ห้องประชุมสีดา โรงแรมรัตนโกสินทร์ วันนี้ (23 เม.ย.) นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำกลุ่มอีสานกู้ชาติ แถลงข่าวกรณีที่คณะอนุกรรมการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้จัดตั้งขึ้น โดยมี นายนาม แย้มยิ้ม อดีตรองประธานศาลฎีกา เป็นประธาน เพื่อสอบสวนกรณีพรรคเล็กถูกว่าจ้างโดยผู้บริหารของพรรคไทยรักไทยให้ส่งผู้สมัครลงแข่งขันในพื้นที่ภาคใต้เพื่อให้ผู้สมัครจากพรรคการเมืองใหญ่ หลุดพ้นจากกฎเกณฑ์คะแนน 20%

โดยผลสรุบสำนวนในเบื้องต้น พบว่า มีมูลความผิดจริง ว่า กรณีตนเคยแถลงข่าวไปแล้วเมื่อวันที่ 8 มี.ค.2549 และตนก็เป็นคนแรกที่นำหลักฐานเกี่ยวกับการว่าจ้างออกมาเปิดเผย ซึ่งหลักฐานก็ตรงกับผลของอนุกรรมการ ที่มี นายนาม แย้มยิ้ม อดีตรองประธานศาลฎีกา เป็นประธาน

ซึ่งผลสรุป ก็คือ พรรคพัฒนาชาติไทย และพรรคแผ่นดินไทย ได้รับเงินสนับสนุนจากพรรคไทยรักไทย ซึ่งหลักฐานเหล่านี้เคยยื่นให้พรรคประชาธิปัตย์ ชี้ชัดว่า ตนไม่ได้สนับสนุนทางการเงิน แต่เป็นการว่าจ้างให้กระทำความผิด เพื่อให้ผู้บงการได้ประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งมีการจัดจ้างเป็นขบวนการ โดยมี พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา และ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เป็นผู้บงการ และได้แบ่งตัวเชื่อมขบวนการเป็นสองสาย

แกนนำกลุ่มอีสานกู้ชาติ กล่าวว่า สายที่หนึ่ง มี นายทวี สุวรรณพัฒน์ คนสนิทของ พล.อ.ธรรมรักษ์ เป็นผู้จ่ายเงิน มี นายไพโรจน์ หรือ ถั่ว เพื่อนสนิทของ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช รองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย เป็นสื่อมวลชนและนักเคลื่อนไหวทางการเมือง รวมถึงนายต้อยเป็นตัวเชื่อม

ซึ่งหลังจากที่ทั้งสามได้เข้าไปประชุมวางแผนร่วมกับ พล.อ.ธรรมรักษ์ และนายพงษ์ศักดิ์ ที่พรรคไทยรักไทย ก็ได้ไปติดต่อ นายชวาการ โตสวัสดิ์ นายสุขสันต์ ชัยเทศ และนายบุญทวีศักดิ์ อมรสิน โดย นายสุขสันต์ และนายบุญทวี จะรับเงินจากนายไพโรจน์ให้ไปว่าจ้างผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคพัฒนาชาติไทย ประกบกับผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคไทยรักไทย ในพื้นที่พรรคฝ่ายค้านเดิม ทั้งนี้ นายบุญทวี ยังเป็นผู้ติดต่อ นายอมรวิชญ์ สุวรรณนพ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวเชื่อมไปว่าจ้างให้เจ้าหน้าที่ กกต.เปลี่ยนแปลงฐานข้อมูลสมาชิกพรรค รวมทั้งจัดทำเอกสารสมาชิกพรรคย้อนหลัง และจัดทำทะเบียนเอกสารพรรคการเมือง (ท.พ.6) ปลอม

นายไทกร กล่าวต่อว่า สายที่สอง มี พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต (เสธ.ไอซ์) หัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.ท.ผดุงศักดิ์ กลั่นเสนาะ ผู้ช่วยหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม น.ต.ศิธา ทิวารี โฆษกพรรคไทยรักไทย เป็นตัวเชื่อม โดยมี นายไพฑูรย์ วงศ์วานิช ผู้สมัคร ส.ส.พรรคแผ่นดินไทยที่อ้างตัวว่าเป็นเพื่อนสนิท กับ พล.อ.ธรรมรักษ์ เป็นคนกลาง คอยประสานระหว่าง พล.อ.ไตรรงค์ เพื่อประสานไปยังนายธรรมรักษ์ในการรับเงิน

โดย นายไตรรงค์ ได้ติดต่อไปยัง นางฐัติมา ภาวะลี นายพันธมิตร ดวงทิพย์ และนายบุญอิทธิพล ชินราช หัวหน้าพรรคแผ่นดินไทย ซึ่งเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดจัดหาผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้ กรุงเทพมหานคร และภาคกลางบางส่วน เช่น สระแก้ว สุพรรณบุรี รวมทั้งจัดทำใบสมัครสมาชิกพรรคแผ่นดินไทยย้อนหลัง และหนังสือรับรองผู้สมัครที่เป็นเท็จ โดยแม้ว่า พล.อ.ไตรรงค์ และ พล.ท.ผดุงศักดิ์ จะไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย แต่โดยตำแหน่งแล้วทั้งสองมีตำแหน่งในกระทรวงกลาโหม ที่มี พล.อ.ธรรมรักษ์ เป็น รมว.กลาโม จึงสรุปว่าทั้งสองทำตามคำสั่งของ พล.อ.ธรรมรักษ์

ดังนั้น การที่ กกต.พยายามยืดเวลาในการตัดสินผู้บงการว่าจ้าง ซึ่งคือ พรรคไทยรักไทย ออกไปอีก 10 วัน จึงน่าจะเป็นการตัดตอนเพื่อไม่ให้เรื่องดังกล่าวถูกสอบสวนถึงตัวผู้บงการว่าจ้างคือ พรรคไทยรักไทย ซึ่งเมื่อพยานหลักฐานมีความชัดเจนเช่นนี้แล้ว กกต.สามารถมีคำสั่งยุบพรรคไทยรักไทย ที่ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยตนหวังให้ กกต.ทำตามกฎหมายที่จะยุบพรรคไทยรักไทย เพื่อให้การปฏิรูปการเมืองดำเนินได้ต่อไป

“ที่ พล.ต.ต.เอกชัย วารุณประภา เลขาธิการ กกต.อ้างว่า หลักฐานยังสาวไม่ถึงพรรคการเมือง และอ้างว่าพยาน คือ นางฐัติมา ให้การกลับไปกลับมา ผมอยากบอกว่านางฐัติมาเป็นเพียงพยานแค่คนเดียวจากทั้งหมด 4 คนที่กลับคำให้การ ซึ่งเป็นเพราะเขาโดนบีบทั้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ว่าราชการ จ.ร้อยเอ็ด แต่พยานที่เหลืออีกสามปาก ยังยืนยันในการทำผิดของผู้บริหารพรรคไทยรักไทย เช่นเดิม

ฉะนั้น วันนี้ กกต.ต้องเลือกแล้วว่าจะเอาพรรคไทยรักไทย หรือชาติบ้านเมืองไว้ หาก กกต. เลือกอุ้มพรรคไทยรักไทย พี่น้องประชาชนที่รักชาติจะรุมสาปแช่งท่าน และถ้าวันใดที่พรรคไทยรักไทย หมดอำนาจ พี่น้องประชาชนจะรุมประชาทัณฑ์ และท่านก็จะไม่มีที่ยืนในแผ่นดินไทย แม้แต่ตารางนิ้วเดียว แต่หาก กกต.จะเลือกเอาประเทศชาติบ้านเมือง พี่น้องประชาชนก็พร้อมที่จะให้อภัย ซึ่งท่านและครอบครัวจะได้ยืนอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี โดยคนไทยพร้อมจะให้อภัยผู้ที่สำนึกผิดเสมอ” แกนนำกลุ่มอีสานกู้ชาติ กล่าว

ทั้งนี้ นายไทกร ยังกล่าวถึงการตรวจสอบทำหน้าที่ของ กกต.ด้วยว่า ในสัปดาห์หน้าจะยื่นหนังสือต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อให้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบการเลือกตั้ง และการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต.เนื่องจากพบการกระทำผิดทุจริต และไม่เที่ยงธรรมในการจัดการเลือกตั้ง

ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ทำลายการปกครองในระบอบปะชาธิปไตย ที่เอื้อให้การจัดการเลือกตั้งที่ไม่สุจริต และขัดต่อเจตนารมณ์ที่แท้จริงของประชาชน นอกจากนี้ ตนจะเรียกร้องให้มีการตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมา เพื่อตรวจสอบการทำงานของ กกต.ด้วย โดยคณะกรรมการดังกล่าวควรจะให้มีลักษณะเช่นเดียวกับ คณะกรรมการอิสระสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) ซึ่งบุคคลที่มีความเหมาะสมจะเป็นคณะกรรมการ เช่น นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส นพ.เสม พริ้งพวงแก้ว นายอานันท์ ปันยารชุน โดยการดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการดังกล่าวอาจจะดำเนินการโดยฝ่ายรัฐบาลก็ได้

แกนนำอีสานกู้ชาติ ยังเปิดเผยข้อมูลการทุจริตจัดการเลือกตั้ง ส.ส.แบ่งเขตรอบใหม่ ในวันที่ 23 เม.ย.ด้วยว่า ยังมีกระบวนการบงการจากผู้บริหารพรรคไทยรักไทย ผ่าน นายบุญทวีศักดิ์ อมรสินธ์ จัดจ้างพรรคเล็กให้ลงสมัครแข่งขันอยู่ โดยหากผู้สมัครคนใดผ่านการรับรองสิทธิลงสมัครจาก กกต.จะได้รับค่าตอบแทนจำนวน 500,000 บาท แต่ถ้าผู้สมัครรายใดลงสมัครแต่ไม่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติจาก กกต.ก็จะได้รับเงิน 100,000 บาท เป็นค่าตอบแทน ซึ่งประเด็นเหล่านี้ กกต.ก็ยังไม่สอบสวน ทั้งที่ กกต.มีอำนาจที่จะสั่งตรวจสอบบัญชีการโอนเงินเพื่อสืบหาความเชื่อมโยง

http://www.directionplan.net/DP/News/edit_newsdetail.asp?id=874&cateId=4

จากคุณ : กบเหลาดินสอ - [ 11 พ.ค. 49 21:42:09 ]

ความคิดเห็นที่ 5

"เทพเทือก"ยันไม่ได้จ่าย1ล้านให้พยานใส่ร้ายไทยรักไทย
พยานประชาธิปัตย์ออกโต้กันเอง "สุเทพ" ระบุ ไม่ได้จ่ายเงิน 1 ล้านบาทให้พยานใส่ร้ายพรรคไทยรักไทย ระบุ ทุกอย่างพิสูจน์กันในศาล

(27มีนาคม) นางฐัติมา ภาวะลี ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคแผ่นดินไทย กล่าวว่า ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว ที่บ้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ตนถูกลูกน้องนายสุเทพ เอาตัวไป เก็บไว้ที่เซฟเฮ้าส์ เขาบอกว่าให้ทำงานให้เขาชิ้นหนึ่ง เพื่อโค่น ทรท.ว่าจ้างพรรคเล็ก เอาสคริปต์มาให้ตนดูมีการเอ่ยชื่อผู้ใหญ่ใน ทรท. สคริปต์นี้นายสุเทพเป็นผู้ยื่นให้ตน เขาพยายามหว่านล้อม พูดทุกอย่างเพื่อให้ตนเอนไปเข้าข้าง ปชป.

วันแรกนั้น นายไทกร ติดต่อตนมาว่าตนและหัวหน้าพรรคทำเอกสารปลอม และมีรายชื่อ ที่ กกต. แต่ไม่เจอตน มีการทิ้งเบอร์ไว้ให้ มีการโทรนัดกับคุณไทกร เขาว่าตนกับหัวหน้านั้นปลอมเอกสาร และถามว่ามีพรรคไหนหนุนหรือไม่ และเขาก็จะพาไปคุยกับนายสุเทพ ว่าถ้าจะหลุดคดีก็ต้องไปคุยกับคุณสุเทพ นายสุเทพ ก็บอกว่าเขาเสนอเงินให้ และจะให้ตำแหน่งในพรรค และให้อัดเทป เขาพยายามพูด พอเขาเสนอเงินค่าจ้างตนก็เห็นว่าไม่เลวเหมือนกัน เพราะตนก็ไม่มีเงินเหมือนกัน เขาก็อ้างว่า หัวหน้าพรรคแผ่นดินไทยก็มาแล้ว ตนก็เห็นว่า เมื่อหัวหน้าพรรคก็มาแล้วตนเองก็เป็นแค่ผู้สมัครจะอยู่ทำไม แต่ทราบภายหลังว่าคุณสุเทพหลอก เขาพยายามพูดว่า ทรท.ต่อไปก็อยู่ไม่ได้ พรรคจะแตก ต่อไปก็เหลือ ปชป.ที่จะเป็นพรรคใหญ่ พอมาทำวีซีดี ที่คุณสุเทพว่าจะให้ 1 ล้าน แต่เขาจ่ายมาแค่ 3 แสนก่อน อีก 7 แสนจะจ่ายหลังจากขึ้นศาลแล้ว และเขาบอกว่าจะไม่เอาวีซีดีนั้นไปเผยแพร่ เงินนั้นคุณสุเทพให้ลูกน้องเอามาให้ที่ห้องคุณสุเทพ พอรับสินบนแล้วเหมือนถูกบังคับในตัว เขาจะให้ทำอะไรก็ต้องทำตาม และเขาก็ให้คนติดตามเขา และคุมขึ้นเครื่องที่สุราษฎร์ฯ ช่วงนั้นติดต่อใครไม่ได้ และถูกนำตัวไปขึ้นศาล มีคนติดตามเป็น 10 ถ้าไม่ทำตามตนก็คงตายไปแล้ว วันที่ตนให้น้องสาวไปแจ้งความ คุณสุเทพกล่อมตนจนถึงเที่ยงคืน แต่ตนอยากกลับบ้าน เขาก็ขู่ว่าถ้าไม่ทำตามเขาให้ดูคดีชิปปิ้งหมูก็แล้วกัน ตนไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร ก็ขอยืมโทรศัพท์ ให้น้องสาวไปแจ้งความที่กองปราบ ถ้าไม่ใช่กองปราบไปเอา ตนก็คงไม่ได้กลับ

คุณชวการ ก็ต้องการออกมา แต่เขาออกมาไม่ได้ และมีการอีเมลล์ให้ญาติไปแจ้งความที่กองปราบแล้ว ตนมีเอกสารการแจ้งความตรงนี้ ตอนที่ถ่ายวีซีดี ของพรรค มีคุณสุเทพ ตนเอง และเจ้าหน้าที่ ไม่มีการกระซิบบอกบท ให้ตนอ่านตามสคริปต์ ที่ตนอ่านมาแล้วหลายครั้ง และมีการถามนำ ไม่มีใครมาบอกบท กับคุณสุขสัน ก็เคยคุย แต่คุณสุขสันบอกว่าออกไปเราก็ตาย คุณชวการ ก็จะด่าตนเรื่องโทรศัพท์ ว่าอยู่นิ่ง ๆ ได้หรือไม่

ที่คุณสุเทพ พูดตอนนี้ จะพูดอะไรก็พูดได้ คุณสุเทพเขาเจาะลึก ทุกคนในแผ่นดินไทย เพื่อเอามาประมวลภาพ พออัดแล้วก็อามาห้องประชุมใหญ่ที่มีคุณองอาจ นายอภิสิทธิ์

นายชวการ โตสวัสดิ์ พยานอีกราย ผู้สมัคร สส.พรรคพัฒนาชาติไทย กล่าวว่า ได้รับการจ้างวานจาก ปชป.เป็น 10 ล้านบาท นั้นตนขอปฏิเสธ ตนเคารพการตัดสินใจของฐัติมา ขอให้ไตร่ตรองว่า การกระทำของฐัติมา นั้นมันขัดกันเอง อย่ามาพาดพิงกล่าวร้าย ที่ตนได้รับงานจากผู้ใหญ่ ทรท.ต่างหากที่เป็นความจริง ตนไปสุราษฎร์ฯก่อน ฐัติมา เมื่อฐัติมาไปถึง ก็ถามว่ามาจากพรรคไหน ก็ถามรายละเอียดว่าไปพบผู้ใหญ่ที่จ้างวานเราอย่างไรบ้าง เธอก็ให้รายละเอียดเหมือนที่ให้สัมภาษณ์ ตนยังอยู่ในการดูแลของท่านสุเทพ ที่ฐัติมาบอกว่าตนแมสเซส ให้ญาติแจ้งความนั้น ตนไม่ได้ทำเลย ฐัติมากำลังสร้างเรื่อง การติดต่อกับญาตินั้นมี แต่ติดต่อไปเพื่อให้สบายใจไม่ต้องห่วง ฐัติมาอาจจะจำเป็นอะไรบางอย่างที่แสดงออกอย่างนี้ ฐัติมาได้มาอยู่รวมกับเราจริง ได้รับการดูแลอย่างดี เรื่องที่ว่าอย่าใช้โทรศัพท์มากนั้น เพราะประเด็นที่เราออกมาเปิดเผยนั้นกระทบกับผู้มีอำนาจ อาจจะถูกดักฟังได้

ตอนที่มาแต่แรกก็ทราบแล้วว่าจะถูกกดดันจากอำนาจที่ยิ่งใหญ่ให้เราเผิดเผยตัว เรายินดีที่จะอยู่เพื่อให้ทุกอย่างชัดเจน จนกว่าจะขึ้นศาล เพราะทุกอย่างต้องพิสูจน์กันในศาลเป็นสำคัญ

นายไทกร พลสุวรรณ ผู้ประสานงานขบวนการอีสานกู้ชาติ กล่าวว่า ตนติดต่อคุณเจี๊ยบ ให้เจอนายสุเทพ เทือกสุบรรณ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้โทษคุณเจี๊ยบ มันเป็นเรื่องของอำนาจที่เหนือกว่า และตนไม่มีอำนาจในการคุ้มครองพยานได้ ต้งอาศัยผู้ที่มีอำนาจมาก จึงไปที่ ปชป.

ตนบอกคุณเจี๊ยบแล้วว่า ถ้ากลับมาแล้วไปให้การอีกอย่างหนึ่ง เราจะไม่มีโอกาสไเด้ขึ้นศาล และเป็นอันตรายกับชีวิต เพราะวิธีการนี้เป็นวิธีการทำลายความน่าเชื่อถือของพยาน เมื่อวานตนก็ให้ภรรยาคุณสุสรรค์ที่เป็นพยานอีกคนหนึ่ง เป็น ผอ.พรรคพัฒนาชาติไทย ไปแจ้งความ เพราะบ้านถูกงัด แต่ทรัพย์สินไม่ได้สูญหาย ก็เกรงว่าอาจจะถูกเอาสิ่งผิดกฎหมายไปไว้ในบ้านได้ เรื่องนี้ยังมีเวลาพิสูจน์ แต่ฝากให้คุณเจี๊ยบ คำพูดถ้ากลับไป กลับมา ตัวเองจะอันตราย ช้างสารกำลังสู้กัน เราแค่หญ้าแพรก แต่ถ้าไปเป็นปฏิปักษ์ทั้ง 2 ฝ่าย เราจะถูกบี้

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กล่าวว่า จะไปขังคุณฐัติมาทำไม ไม่มีความจำเป็น การที่ ฐัติมาไปสุราษฎร์ เพราะรู้สึกว่าจะอยู่ที่บ้านพัก ซ.สุทธิสาร คงไม่ปลอดภัย ตอนแรกว่าจะไปอยู่บ้าน ตจว. หรือถ้าให้ตนหาบ้านพักให้ ตนก็บอกตนมีอีก 3 คน กลางดึกก็โทรฯมาหาตนว่าจะไป ก็ซื้อตั๋วเครื่องบินไทยอินเตอร์ และมีการลงบันทึกประจำตัวว่ามาด้วยความสมัครใจ ฐัติมาก็ให้ปากคำเอง ไม่มีใครไปเสี้ยมสอน และตนไม่เคยคิดเอาวีซีดีไปเผยแพร่นอกจากเอาไปใช้ในศาล

เรื่องเงินจ้างวาน 1 ล้านบาทนั้นไม่เป็นความจริง ตนไม่อยากจะโต้แย้งกับฐัติมา ตนก็ยินดีที่จะไปพิสูจน์คดี การที่ฐัคติมาจะกลับคำให้การตนก็ไม่ทราบไว้คอยดูตอนจบก็แล้วกัน

http://www.komchadluek.net/news/2006/03-27/p1--69026.html

จากคุณ : กบเหลาดินสอ - [ 11 พ.ค. 49 21:47:44 ]