ความคิดเห็นที่ 1 ...ถ้าไม่มีต้นไม้ ทฤษฎีเขาว่า ฝนก็ไม่ตกครับ...แต่นี่มันตกครับ ตกเอามากๆด้วย..หมายถึงอะไร... จากคุณ : TRAT - [ 24 พ.ค. 49 22:01:33 ]

ความคิดเห็นที่ 2 นั่นน่ะ บ้านผม ครับ ญาติพี่น้อง สูญหายไปหลายคน ที่นั่น ปลูกสวนร่วมป่า ที่เรียกว่า สวน ซะป๊ะ ในเขตหฟมู่บ้านน่ะ ไม่ได้ทำลาย แต่ไปทำลายในป่า ต้นน้ำ บอกได้คำเดียวว่า สูญเสีย จากคุณ : s.suk - [ 24 พ.ค. 49 22:04:23 ]

ความคิดเห็นที่ 3 งานนี้ สนสะพาย  มันเตรียมออกมาแฉเรื่องเบื้องหลังน้ำป่า  ว่าเกิดจาก นายกทำขึ้นมา เพื่อ กลบเกลื้อน เอ้ย กลบเกลื่อน การกลับมาทำงาน (เป็นนัยว่า ตีเนียน ) แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 49 23:24:14 จากคุณ : บ๊วยย่นจ้า - [ 24 พ.ค. 49 23:18:11 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมว่าพระเจ้าลงโทษชาวบ้านแล้วนะที่ตัดไม้ทำลายป่า สุดท้ายก็ต้องจบชีวิตแบบนี้ เพราะไม่รักป่า อยู่ในป่า หากินกะผืนป่า แต่ทำลายป่า คล้ายคนเนรคุณ ไม่ช่วยปกป้องป่า แล้วยัง รับจ้างนายทุนทำลายป่า ก็คนพื้นที่อ่ะครับ ผมอยู่ปราจีน จะไปตัดไม้ ที่อุตรดิต จะได้ป่าว มันต้องคน อุตรดิตนั่นแหละ สรุปแล้ว เราจะสมน้ำหน้า หรือสงสารดีครับ ผมยังถามใจผมไม่ได้เลยว่าผมนึกอย่างไงกับชาวบ้าน ที่เสียชีวิตในครั้งนี้ และผมว่า มันต้องมีอีก แหงๆ นี่เพิ่งย่างเข้า ฤดูฝนเท่านั้นนะ แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 49 23:21:40 จากคุณ : กระบี่สวย - [ 24 พ.ค. 49 23:20:53 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ฝายแม้ว ไม่ใช่ฝ่ายนายกฯนะ เป็นฝายเก็บกักน้ำโดยทำธรรมชาติ พวกต้นไม้ล้มเศษไม้ที่หล่น ล้ม ทับถมสะสม ขวางทางน้ำไหล ในลักษณะที่เป็ฯฝายน้ำล้นออกมาเรื่อย ในปริมาณน้ำฝนปกติธรรมดาไม่เป็นไร น้ำจะค่อยล้นค่อยซึมผ่านออกมาทีละน้อย ๆ แต่นี่เมืองไทยรับมรสุมที่นำฝนมาตกในประเทศอย่างหนักในระยะนี้ สังเกตุดูสิว่ามีฝนตกมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2549 เป็นระยะ ๆ และตกหนักมากขึ้นเรื่อยประมาณเดือนเมษายน และหนักมากในเดือนพฤษภาคม นี้ ปริมาณน้ำมากล้นจนเกินกว่าแผ่นดินที่อุ้มน้ำไว้เดิมจะทนไหล น้ำที่ขังอยู่ตามฝายแม้วก็มีบริมาณมากทำให้แผ่นละลายกลายเป็นโคลน คราวนี้ก็เกิดการทะลายของเขื่อนไม้ฝายแม้วเหล่านี้มาพร้อมน้ำพร้อมโคลน จำน้ำตกที่วังตะไครัได้ไหม คนเล่นน้ำตายไปโดยไม่รุ้ต้วเท่าไร ฝนตกขังบนอ่างหินบนน้ำตก สะสมไว้ไม่รู้นานเท่าไร่ อ่างทะลาย ทะลุ น้ำทะลักเทลงมาเบื้องล่าง คนที่เล่นน้ำอยู่ข้างล่างปลาย ๆ น้ำไม่รู้เนื้อรู้ตัว น้ำก็มาถึงแล้ว จากคุณ : Coppergold - [ 24 พ.ค. 49 23:33:10 ]

ความคิดเห็นที่ 6 จะไม่ให้ท่วม ก็ต้องเลิกใช้รถยนต์ ถามหน่อย ว่าจะมีใครไม่ใช้มั่ง จากคุณ : พระจันทร์สีฟ้า - [ 25 พ.ค. 49 00:21:25 ]

ความคิดเห็นที่ 7 งานนี้ไม่เกี่ยวกับตัดไม้อะไรหรอก......น้ำป่าน่ะมันมีมาแต่โบราณ.........สมัยนี้น้ำท่วมก็กลายเป็นข่าวใหญ่...เมื่อ50 ปีก่อน พระบรมรูปทรงม้ายังน้ำท่วมมิดหลังคารถเลย......แถวบ้านยายผมที่นครนายก หน้าฝนน้ำท่วมทุกปี......บ้านมีชั้นล่างได้ที่ไหน แต่ไม่มีใครแปลกใจกันเพราะเป็นเรื่องธรรมดา......คนสมัยนี้ปลูกบ้าน2ชั้น ตัดถนน......ฝนตกลงมามันก็ถูกบังคับให้ไปตามทางที่ว่างอยู่ มันก็ท่วมแรงเป็นธรรมดา..........ที่เหนือคราวนี้มันเป็นน้ำป่าเห็น ๆ มีแต่โคลนที่เกิดจากการอุ้มน้ำไว้เต็มที่จนไม่ไหวแล้วถึงทลายลงมา จากคุณ : ohh_no - [ 25 พ.ค. 49 00:41:27 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นด้วยตาม คห. 7พูดมานั่นแหละ ธรรมชาติที่สุด..แต่ไหนแต่ไรโบราณกาล พื้นที่แถบนี้ก็เป็นแบบนี้....แต่ความรุนแรงมันมากขึ้นเพราะมนุษย์ไปฝืนมัน จากคุณ : TRAT - [ 25 พ.ค. 49 00:45:35 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มันมีท่อนซุงลอยตามน้ำมาด้วยนะ............... นอกจากดูเรื่องตัดไม่ทำลายป่า และพัฒนาระบบเตือนภัยแล้ว อยากให้ส่งเสริมการปลูกหญ้าแฝกตามพระราชดำริมากกว่านี้ ให้ครอบคลุม อยากให้รัฐบาลช่วยทำเป็นนโยบาย ให้ผู้ว่าเข้าไปดูแลด้วย................... จากคุณ : อ่านแล้วก็อดไม่ได้ (nekopoy) - [ 25 พ.ค. 49 08:49:22 ]

ความคิดเห็นที่ 10 หนนี้ไม่มีซุงท่อนครับ เหมือนที่กระทูน จ. นครศรี...นั่นท่อนซุงที่ถูกตัดเลื่อย กองซ่อนไว้ ไหลลงมาเทรวมกันข้างล่าง... แต่ที่นี่ มีแต่ต้นไม้ที่ประกอบมาทั้งรากทั้งโคนครบถ้วน...ไม่ใช่ไม้ที่ไม่มีราก....ไม่งั้นสื่อต้องเอาภาพมาประจานเต็มๆแล้ว ไปกล่าวหาชาวบ้านแบบนั้น ว่าตัดไม้ทำลายป่า คงไม่ถูก... จากคุณ : TRAT - [ 25 พ.ค. 49 09:31:08 ]

ความคิดเห็นที่ 11 น.ส.พ.ไทยรัฐ  ปีที่ 57 ฉบับที่ 17656 วันพฤหัสบดี ที่ 25 พฤษภาคม 2549 จากเหตุการณ์วิปโยคน้ำป่าทะลักดินโคลนถล่มซัดบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วย จ.อุตรดิตถ์ สุโขทัย แพร่ ลำปาง และน่าน เมื่อกลางดึกต่อเนื่องรุ่งเช้าวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ เป็นพื้นที่เผชิญภัยพิบัติหนักที่สุด เกือบทั้งอำเภอต้องจมอยู่ใต้บาดาล บ้านเรือนราษฎรถูกน้ำโคลนซัดเอาท่อนซุงไหลถล่มพังพินาศนับร้อยหลังคาเรือน ถนนแทบทุกสายถูกตัดขาด หนำซ้ำไม่มีทั้งไฟฟ้าและน้ำประปา ทำให้ชาวบ้านจำนวนมากถูกตัดขาดจากโลกภายนอก จากภัยพิบัติครั้งนี้เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตแล้วใน 5 จังหวัดรวม 17 ศพ และสูญหายอีกนับร้อยคน หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต่างระดมกำลังเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน ***ท่อนซุงอีกแล้ว จำได้ว่าตอนเขาคิฎชกูฏที่จันทบุรี เมื่อหลายปีมาแล้ว ก็มีท่อนซุงมาพร้อมกับน้ำป่า ดังนั้นรัฐจะมองว่าเป็นเรื่องใหม่เพราะฝนตกหนัก มันก็ไม่ถูกเพราะเหตุการณ์เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งมาก แต่ก็ไม่ได้คิดจะรณรงค์หรือป้องกันอะไรเลย เหมือนวัวล้อมคอกอีกแล้ว*** จากคุณ : HTK - [ 25 พ.ค. 49 09:33:18 ]

ความคิดเห็นที่ 12 น.ส.พ.ไทยรัฐ  ปีที่ 57 ฉบับที่ 17656 วันพฤหัสบดี ที่ 25 พฤษภาคม 2549 กำชับจับแก๊งมอดไม้ทำลายป่า ต่อข้อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพบท่อนซุงลอยมาตามน้ำด้วย แสดงว่ายังคงมีการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าอยู่ รัฐบาลจะเข้าไปแก้ปัญหาอย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า ทางแถบนั้นยังคงมีการตัดไม้กันอยู่บ่อยๆ เจ้าหน้าที่ก็พยายามเข้าไป ระยะหลังก็จับพวกบุกรุกป่าได้เยอะโดยเฉพาะพวกอพยพ เมื่อถามอีกว่า นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังออกมาเตือนเรื่องโคลนถล่มในพื้นที่อื่น โดยเฉพาะภาคตะวันออก พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า ก็ต้องมีการเตือนภัยเป็นจุดๆ ขณะเดียวกัน จะต้องมีการหารือกับศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติด้วย จากคุณ : HTK - [ 25 พ.ค. 49 09:37:42 ]

ความคิดเห็นที่ 13 หนังสือพิมพ์เขียนอย่างนั้น แต่ภาพข่าวทั้งจากภาพถ่ายทางอากาศ และภาพในสื่อเอง มันเป็นต้นไม้มีรากทั้งนั้น....ไม่ใช่ไม้จากการเลื่อยหรือตัดแล้ว...จะเรียกว่าท่อนซุงได้อย่างไร... คำตอบที่นายกฯกล่าวกับสื่อเป็นการพูดตามคำถาม ของนักข่าว ก็ว่าไป แต่ความจริงคือภาพข่าว...ที่ปรากฎ ไม่ปรากฎที่เป็นลักษณะไม้ท่อนที่เป็นการสุมขอนเอาไว้เพื่อรอการชักลาก... แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 49 10:09:14 จากคุณ : TRAT - [ 25 พ.ค. 49 10:06:54 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แบบนี้จะให้ปลูกป่าอย่างเดียวคงไม่ไหวครับ ถ้าปีหน้าตกมากกว่านี้อีก มันก็ยังแก้ไม่ได้ น่าทำเขื่อนหรือฝายกักน้ำที่รองรับน้ำได้ดีกว่านี้ จากคุณ : ลานดิน - [ 25 พ.ค. 49 10:29:02 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คนอุตรดิตถ์ คนแพร่เขาตัดไม้ทำลายป่าเล่นๆสนุกไปวันๆ เหรอครับ ใครบ้างซื้อไม้ ใครใช้กระดาษ ใครใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ วงกบ ประตูหน้าต่าง บ้างล่ะครับ ใครบ้างบริโภคผลผลิตทางการเกษตรเงาะ ทุเรียน ลางสาด กะหลำ ที่ชาวไร่อุตรดิตถ์ต้องบุกรุกที่ป่าล่ะครับ จากคุณ : karawara - [ 25 พ.ค. 49 11:51:26 ]