CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    หลายคำถามเกี่ยวกับ “ปฏิญญาฟินแลนด์”

    ส่วนที่ 1 เนื้อข่าว

    ปฏิญญาฟินแลนด์ที่ถูกกล่าวขานถึง เริ่มจากนายโสภณ สุภาพงษ์ รักษาการ ส.ว.กรุงเทพฯ กล่าวในวงเสวนาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และกล่าวในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์เมื่อวันเสาร์

    ระบุว่าเป็นแนวคิดผู้ก่อตั้งไทยรักไทยโดยเฉพาะบุคคลที่เคยเข้าป่าหรือคนเดือนตุลา ซึ่งปฏิญญานี้เขียนขึ้นที่ประเทศฟินแลนด์ เมื่อ พ.ศ. 2542 มีเป้าหลายหลัก 5 ประการคือ 1.ยึดรากหญ้า 2. ใช้ทุนนิยมเป็นระบบเศรษฐกิจหลักของประเทศ 3. จัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว 4. รื้อระบบราชการทั้งหมด 5. ต้องให้สถาบันพระมหากษัตริย์เหลือเพียงสัญลักษณ์ทางพิธีกรรม

    นอกจากนี้ นายปราโมทย์ นาครทรรพ นักวิชาการอิสระ และนายคำณูนสิทธิสมาน คอลัมนิสต์ ได้เขียนถึงเรื่องดังกล่าวลงในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเช่นกัน

    ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กลุ่มจุฬาเชิดชูคุณธรรมนำประชาธิปไตย และสหพันธ์องกรผู้บริโภค ได้จัดเสวนาวิชาการหัวข้อ "วิกฤตน้ำมันใครได้ใครเสีย"โดยนายโสภณ สุภาพงษ์ รักษาการ ส.ว.กทม. ซึ่งร่วมเสวนาเวยได้เปิดโปงถึงเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง

    นายโสภณกล่าวว่า ปรากฏการณ์นี้สอดคล้องกับการเปิดโปงยุทธศาสตร์ฟินแลนด์ ซึ่งยุทธศาสตร์นี้เกิดเมื่อปี 2542 มีนายทุนทางการเมืองคนหนึ่งอยากตั้งพรรคการเมืองมาก เพื่อวางแผนปกครองประเทศไทย นายทุนคนนี้ได้คุยกับกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองในพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยและมีประสบการณ์การเคลื่อนไหวด้านมวลชน การคุยมีขึ้นที่ฟินแลนด์ ซึ่งนักเคลื่อนไหวที่อยู่ในพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยคนนี้ได้นำเรื่องมาคุยกับเพื่อนฝูงเกือบ 200 คน แต่ทั้ง 200 คนไม่เห็นด้วยกับเขาเพราะมองว่าเป็นเรื่องของการทุจริตไม่ใช่เรื่องอุดมการณ์ ซึ่งมี 5 เรื่องคือ

    1. การได้อธิปไตยจากรากหญ้านำมาซึ่งมาซึ่งพลังอำนาจทางการเมือง ข้อนี้มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ใช้หลักการเดียวกับคอมมิวนิสต์ แต่พรรคคอมมิวนิสต์เอาอุดมการณ์เข้าแลก แต่การเคลื่อนไหวของกลุ่มปฏิญญาฟินแลนด์ แลกอธิปไตยจากรากหญ้าด้วยทุนและเงินงบประมาณ เพื่อให้ตนเองได้คะแนนเสียงขึ้นมาเท่ากับแปรอธิปไตยจากรากหญ้าให้เป็นอธิปไตยของตนเอง ไม่ใช่เรื่องอุดมการณ์

    2. การได้มาซึ่งทรัพย์สินของประเทศเพื่อประโยชน์ตนเองโดยกลุ่มปฏิญญาฟินแลนด์เมื่อตั้งพรรคขึ้นมาแล้ว ก็พยายามแปลงทรัพย์สินสาธารณะเข้าตลาดหุ้นให้คนกลุ่มเดียวได้ประโยชน์การปฏิบติเช่นนี้สอดคล้องกับการทำงานของมวลชนของบุคคลที่เคยเคลื่อนไหวในพรรคคอมมิวนิสต์

    3. มีการตั้งจุดประสงค์ให้พรรคการเมืองเดียวมีความเข้มแข็ง เป็นความคิดของซ้ายจัด หากมีพรรคการเมืองเดียวเกิดขึ้น การจัดการจะง่ายขึ้น ความเป็นเอกภาพง่ายขึ้น และมองว่าการตั้งพรรคการเมืองพรรคเดียวสำเร็จ ก็จะแปรรูปพลังของประชาชนและข้าราชการมาสู่อำนาจของตนในรูปแบบซีอีโอ โดยจะสถาปนาตนเองคล้าย ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และนายลีกวนยู อดีตนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์

    4. รื้อระบบราชการทั้งหมด ให้เปลี่ยนความภัคดีที่ต้องเป็นข้ารับใช้ราชการ มาเป็นข้าที่ภัคดีต่อซีอีโอ เพราะขณะนี้บัตรข้าราชการและบัตรประชาชนไม่มีตราครุฑประทับอยู่บนบัตรแล้ว การเปลี่ยนในลักษณะนี้ทำให้ผลประโยชน์ตกแก่ตนจำนวนเล็กๆ ทำลายคุณค่าของประชาชนทั้งประเทศ อยากเตือนหลายฝ่ายว่าอย่าลืมพระราชดำรัสที่พระราชทานแก่นายสุเมธ ตันนิเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ว่าอาชีพของพระองค์คือข้าราชการ

    5. เขาจะทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสัญลักษณ์ ให้ข้าราชการขึ้นตรงต่อซีอีโอ แล้วสถาปนาเงินเป็นศาสนาใหม่ โดยคิดว่าถ้าใส่เงินเข้าไปทุกคนก็จะเคารพ

    "เมื่อเชื่อมโยงเข้ามาสู่ราคาน้ำมันการบริหารจัดการในการกำหนดราคาน้ำมันก็คือ นักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐและชาวต่างชาติ ที่เข้ามาหาผลประโยชน์จากบริษัทน้ำมันเหล่านั้น โดยใช้อำนาจรัฐในรูปทรัพย์สินแจกประชาชน และนำตัวเองเข้ามาถือหุ้นเป็นประธานบริษัทและเข้าข่ายปฏิญญาฟินแลนด์ 2542 คนเช่นนี้ ไม่รักชาติไม่เห็นประโยชน์ประชาชนฉะนั้นเราต้องตีแผ่ข้อมูลให้ประชาชนได้รับทราบ" นายโสภณกล่าว

    (มีต่อ ส่วนที่ 2)
    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    R e p o r  t  e r  : News Online
    http://www.reporter.co.th/index.php?option=com_content&task=view&id=1469&Itemid=1


    แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 49 22:26:18

    แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 49 22:23:07

    จากคุณ : grassroot - [ 26 พ.ค. 49 22:13:22 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป