ความคิดเห็นที่ 1 สโรชา - ความกดดันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ             สนธิ - มหาศาลครับ             สโรชา - ความเคลื่อนไหว ไม่จบไม่สิ้น             สนธิ - ถูกต้องครับ             สโรชา - ตรงนี้นอกเหนือจากเรื่องนี้แล้วเราคงต้องคุยกันถึงเรื่องกฟผ.และเรื่องของขบวนการตรงนี้ คุณสนธิเกริ่นซักนิดนึงได้ไหมค่ะว่าตกลงมันยังไง             สนธิ - เห็นท่านนายกฯพูดไม่ใช่หรือครับว่ามีขบวนการที่จะล้มล้างท่าน ผมคิดว่า เรื่องนี้ต้องพูดขยายความในช่วงต่อไป เอาเป็นสั้นๆว่าถ้าจะอธิบายเรื่องนี้ ต้องอธิบายระดับมหภาค อย่าไปพูดถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับโจรใต้ ต้องดูภาพรวมทั้งหมดและจะเข้าใจเหตุการณ์ในการเมืองทุกวันนี้             สโรชา - โอเคค่ะ เพราะฉะนั้นเราจะมาคุยกันในช่วงหน้า แต่ว่าเรียนให้คุณผู้ชมทราบซักนิดนะคะว่าในสัปดาห์นี้ระบบเอสเอ็มเอสของเราใช้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราจะให้คุณผู้ชมโทร.เข้ามาในโทรศัพท์ระบบปกติ เรียนถามคุณผู้ชมค่ะว่า ท่านเชื่อหรือไม่ว่ามีขบวนการโค่นล้มรัฐบาลอย่างเป็นระบบ โทร.เข้ามาบอกเราที่ 0-2201-6055-60 นะคะ โทร.มาบอกเราว่าท่านเชื่อหรือไม่เชื่อค่ะ พักซักครู่ค่ะ เดี๋ยวกลับมาคุยกันในหลายๆ ประเด็นเลยค่ะ จากคุณ : Ala Moana - [ 27 พ.ค. 49 08:22:09 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สโรชา - กลับมาสู่เมืองไทยรายสัปดาห์นะคะ ก่อนที่เราจะไปคุยกันถึงเรื่องท่านนายกฯ ถึงความเป็นไปที่จะมีขบวนการโค่นล้มรัฐบาลของท่าน เรามาคุยกันถึงเรื่อง กฟผ. กันก่อน การคัดค้านการแปรรูปก็ยังคงดำเนินการต่อไป ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวเยอะพอสมควร ในแง่การแต่งตั้งบอร์ดใหม่ มีการเชิญศ.ดร.ชัยอนันต์ สมุทวณิช มาเป็นประธานบอร์ด มีการปรากฏตัวของบุคคลซึ่งเราไม่ได้เห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์ มีข่าวมาค่อนข้างจะนาน ล่าสุดก็ออกมาปรากฏตัวและดูเหมือนว่าจะมีบทบาทในการคัดค้านด้วย เป็นยังไงค่ะคุณสนธิ ตัวละครค่อนข้างจะเยอะ             สนธิ - ถ้าเราจะมองในภาพรวมแล้ว ถ้ามองให้ลึกซึ้งไปแล้ว การประท้วงการแปรรูป ของพนักงานกฟผ. เป็นสงครามตัวแทนของทุน ทุนเก่ากับทุนใหม่ กลุ่มทุนเก่ากับกลุ่มทุนใหม่             สโรชา - ยังไงคะ             สนธิ - การคัดค้านการแปรรูปนั้นเป็นเหตุที่เกิดขึ้น เพื่อที่จะใช้เหตุอันนี้ เป็นตัวซึ่งยันไม่ให้ทุนใหม่ คือกลุ่มนิวอีโคโนมี พวกกลุ่มทุนหุ้น ทุนเทคโนโลยี ทุนสื่อสาร นัยนี้คือกลุ่มของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร             สโรชา - คือกลุ่มทุนใหม่             สนธิ - สิ่งซึ่งน่าสนใจมากและไม่เคย ถ้าเรามองย้อนหลังไปนิดนึงเราจะเห็นว่า คุณเกษม จาติกวณิช ซึ่งผมรู้จักดี ผมเรียกว่าพี่เษม คุณเกษม จริงๆ แล้ววัตถุประสงค์การออกมา พร้อมกับเรียกอดีตผู้ว่าฯ หรือรองผู้ว่ากฟผ.มาเพื่อที่จะแสดงตัวให้เห็นว่าเป็นห่วงเป็นใย แต่ว่าพี่เษมคงลืมนึกไปว่า สมัยนั้นพี่เษมเป็นคนที่สนับสนุนส่งเสริมให้เกิดเอ็กโก้ขึ้นมา เข้าใจไหมครับ บริษัทผลิตไฟฟ้า และขายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิต             สโรชา - ใช่ค่ะ เพื่อให้มีการแข่งขัน ไม่ได้ผูกขาด             สนธิ - นั่นคือการแปรรูปอีกแบบหนึ่งไปแล้ว และมิหนำซ้ำยังมีการกระจายหุ้นเอ็กโก้ออกไปอีก เพราะฉะนั้นแล้วจริงๆ แล้วการไฟฟ้าได้ถูกแปรรูปไปบางส่วนแล้ว แต่ไม่มีใครค้านตอนนั้น             สโรชา - ทำไมละค่ะ             สนธิ - เพราะ ณ เวลานั้นทุนใหม่ยังไม่มีอำนาจ             สโรชา - ยังเป็นกลุ่มทุนเดิมอยู่             สนธิ – คือกลุ่มทุนเดิมต้องเรียนนิดนึงว่า กลุ่มทุนเดิมคือคนซึ่งเป็นพวกเทคโนแครตเก่า เป็นพวกชาติตระกูล ชาติวุฒิ วัยวุฒิ คือผมอยากจะเรียกกลุ่มคนพวกนี้ว่าเป็นกลุ่มคนซึ่งมีศักดินาเดิม ร่ำรวยมาจากที่ดิน ทำกิจการแบบค่อนข้างจะ traditional เช่น ทำธนาคาร จากธนาคารขยายตัวไปทำประกันชีวิต ประกันภัย หลังจากนั้นไปซื้อตึก ซื้ออาคาร             สโรชา – กลุ่มตระกูลที่ร่ำรวยมาซัก 40-50 ปี จากคุณ : Ala Moana - [ 27 พ.ค. 49 08:24:27 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สนธิ – หรือสมัย 70-80 ปีที่แล้ว สั่งสมกันมาตลอด กลุ่มคนพวกนี้ในยุคสมัยที่อยู่ภายในเผด็จการ ก็จะทำมาหากินภายใต้เผด็จการ แต่ว่าทำมาหากินโดยพึ่งเทคโนแครต ก็คือพวกข้าราชการประจำ เอ่ยชื่อได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นคุณพิสิฏฐ ภัคเกษม สมัยก่อนอยู่สภาพัฒน์ คุณสาวิตต์ โพธิวิหค ซึ่งสมัยก่อนก็อยู่สภาพัฒน์เหมือนกัน คุณปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์หลายต่อหลายคน             สโรชา – ที่คุณสนธิบอกว่า พึ่งพายังไงค่ะ             สนธิ – พวกนี้คือพวกเทคโนแครตไงครับ เทคโนแครตมีโอกาสอธิบายชี้ช่อง พวกนี้โดยสายสัมพันธ์ โดยเชื้อสายแล้วจะเกี่ยวพันกันหมด ซึ่งบางครั้งเกี่ยวพันกันแล้ว คุณสโรชาฟังแล้วอาจจะนึกไม่ถึง เช่นคุณบัณฑูร ล่ำซำ ซึ่งเป็นสายล่ำซำ เป็นบุตรชายของคุณบัญชา ล่ำซำ คุณบัญชา ล่ำซำ เป็นพี่ชายของคุณหญิงชัชนี จาติกวณิช ก็คือภรรยาคุณเกษม             สโรชา – คุณเกษมมีศักดิ์เป็นอาเขยของคุณบัณฑูร ล่ำซำ             สนธิ – ถูกครับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล พี่สาวชื่อม.ร.ว.สำอางวรรณ เทวกุล เป็นภรรยาคุณบัญชา ล่ำซำ เข้าใจหรือยังครับ             สโรชา – เชื่อมโยงกันไปหมดเลย             สนธิ – เสร็จเรียบร้อยแล้วคุณบรรยง ล่ำซำ ก็คือน้องชายคุณบัญชา ล่ำซำ และคุณบรรยง ล่ำซำ ภรรยาชื่อคุณหญิง ภรณี โพธิวิหค ซึ่งก็เป็นพี่สาวของคุณสาวิต โพธิวิหค เห็นหรือยังครับ นี่ผมยกตัวอย่างหนึ่งตระกูลให้เห็น             สโรชา – แค่หนึ่งตระกูลก็มีสายสัมพันธ์ ความเชื่อมโยงอีกหลายๆ ตระกูล             สนธิ – และคุณโพธิพงษ์ ล่ำซำ ก็เกี่ยวพันกับคุณบัญชา ล่ำซำ คุณโพธิพงษ์ ล่ำซำ เป็นนายทุนคนหนึ่ง และเป็นนักการเมือง ในพรรคประชาธิปัตย์ คุณสาวิตต์ โพธิวิหค ก็เป็นคนในพรรคประชาธิปัตย์ เพราะฉะนั้นแล้วในช่วงพรรคประชาธิปัตย์มีอำนาจ ประชาธิปัตย์ก็คือพรรคราชการ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีนโยบาย             สโรชา – ไม่มีนโยบายเลยหรือค่ะ             สนธิ – ให้ข้าราชการกำหนดนโยบายไง แล้วแต่ว่าเสนอมายังไงก็เอาอย่างนั้นไป             สโรชา – มีคำแนะนำมาจากที่ไหน ๆ ก็จะนำมาปฏิบัติอย่างนั้นหรือค่ะ             สนธิ – ถูกครับ ก็เป็นไปอย่างนั้นคือประเทศไทยเป็นอย่างนี้มานมนานแล้ว ตั้งแต่สมัย 2475 พัฒนากันมาเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นแล้วในยุคเผด็จการ พวกเทคโนแครต พวกนี้ ก็จะเป็นเทคโนแครตซึ่งค่อนข้างที่จะมีบทบาทอย่างสูง หนึ่งในเทคโนแครตก็คือ คุณอานันท์ ปันยารชุน ฉะนั้นเราจะเห็นได้ชัด แม้กระทั่งคุณอำนวย วีรวรรณ ก็เป็นเทคโนแครตเก่า เห็นหรือยังครับ เป็นแต่เพียงคุณอำนวย วีรวรรณ ช่วงหลังไปเจอพงหนามในยุคสมัยอดีตนายกฯ ธานินทร์ กรัยวิเชียรหรือที่เขาเรียกว่ารัฐบาลหอย ก็ถูกปลด ในที่สุดต้องต่อสู้จนพ้นพงหนาม ก็เลยก้าวเข้าสู่ภาคเอกชน คุณอานันท์ ปันยารชุน เอง ก็เจอพงหนามเหมือนกันในยุครัฐบาลหอย ข้อหาที่ไปเอาใจทางฝ่าย พูดง่ายๆว่า ไม่สนับสนุนประเทศไทยในเรื่องสงครามในเวียดนาม ก็เลยถูกบีบให้ออกและคุณอานันท์ คุณอำนวยก็มาอยู่ด้วยกัน แต่ว่าสายสัมพันธ์ คือว่าพวกนี้พ่อแม่ก็รู้จักกัน โตขึ้นมาพี่น้องก็รู้จักกัน เป็นสมาชิกสปอร์ต คลับด้วยกันนึกออกไหมครับ             สโรชา – คืออยู่ในสังคมเดียวกัน             สนธิ – สังคมอีลิท เป็นสังคมซึ่งถ้าคุณไม่ได้มีเชื้อสายหรือไม่ได้มีส่วนเกี่ยวพันอะไร ไม่เกี่ยว             สโรชา – เข้ามาไม่ได้เลย             สนธิ – เพราะฉะนั้นถ้าคุณจะรวยขึ้นมาทีหลัง คุณก็คือเศรษฐีใหม่ มันก็จะมีเศรษฐีเก่า อิงศักดินา เศรษฐีใหม่อย่างพวกโสภณพนิช ต้องเรียกว่าเศรษฐีใหม่ครับ พวกเตชะไพบูลย์ก็เศรษฐีใหม่ พวกหวั่งหลี เศรษฐีเก่า เพราะหวั่งหลีเชื่อมโยงกับล่ำซำ เพราะว่าพวกนี้เขาจะแต่งงานซึ่งกันและกันในสมัยก่อน มันไม่เหมือนสมัยนี้ สมัยนี้กลายพันธุ์ไปแล้ว รุ่นหลานเปลี่ยนไปแล้ว แต่สมัยรุ่นพ่อ ลูกไม่ได้เลยนะ             สโรชา – จะต้องแต่งงานนี้กับตระกูลนี้             สนธิ – จะมารักแท้ หอบผ้าหนีไม่มี เพราะฉะนั้นพวกนี้จะอยู่กลุ่มพวกนี้             สโรชา – ก็จะเรียกว่ากลุ่มทุนเก่า จากคุณ : Ala Moana - [ 27 พ.ค. 49 08:25:27 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สนธิ – เรียกว่ากลุ่มทุนศักดินาเก่า กลุ่มทุนใหม่ก็คือพวกเสื่อผืนหมอนใบ อย่างพวกอื้อจื้อเหลียง พวกเอื้อวัฒนสกุล พวกโสภณพนิช พวกเตชะไพบูลย์ พวกรัตนรักษ์ ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา รวมไปจนถึงพวกมหาดำรงกุล นาฬิกาไซโก้ พวกนี้ พวกนี้เป็นยกตัวอย่างให้ฟัง ยังมีอีกหลายตระกูล พวกนี้เรียกว่าพวกเศรษฐีใหม่             สโรชา – คือไม่ได้มาจากพื้นเพ บ้านไม่ได้ร่ำรวย แต่สร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาเอง             สนธิ – มาจากเมืองจีนเลย ต้นตระกูลมาจากเมืองจีน เมื่อเร็วๆ นี้ไม่กี่สิบปีนี้เอง ในขณะพวกนี้อยู่กันมานมนานแล้ว รับใช้เจ้ามานานแล้ว รับใช้เจ้ามีความสนิทสนมกับเชื้อพระวงศ์ เจ้าคนโน้นคนนี้ มีความสนิทสนมกับปลัดกระทรวงคนนี้ เสนาบดีคนนั้น แต่พวกนี้พวกพ่อค้า พวกพ่อค้าเริ่มเข้ามาเป็นกัมปะโด เช่น คุณชิน โสภณพนิช เข้ามาทำงานเป็นกัมปะโด คุณอุเทน เตชะไพบูลย์เข้ามาทำงานร่วมกับท่านเจ้าสัว อื้อจือเหลียง ต้นตระกูลเอื้อวัฒนสกุล คุณสโรชา เห็นตึกอื้อจือเหลียงไหมครับ             สโรชา – ค่ะ พระราม 4             สนธิ – พวกนี้จะมาทำโรงรับจำนำ มาทำเหล้า หลังจากนั้นมาทำธนาคาร             สโรชา – ก็เลยมีการแบ่งแยกกันพอสมควร             สนธิ – แบ่งแยกกันโดยรู้ซึ่งกันและกัน ว่าเฮ้ย พวกนี้พวกเจ๊กใหม่นะ ของฉันเจ๊กเก่า นึกออกไหม             สโรชา – เจ๊กเก่าเลยหรือครับ             สนธิ – เจ๊กเก่า เจ๊กศักดินา เพราะเกี่ยวพันกับพวกเจ้า หลังจากนั้นแล้วพวกนี้พัฒนาขึ้นมา ทีนี้ทั้งสองกลุ่มจะทำหน้าที่ทำงานคล้ายๆ กัน ด้านหนึ่งก็คือพวกนี้จะยึดติดกับพวกข้าราชการ พวกเทคโนแครต กลุ่มจีนใหม่ กลุ่มคนรวยใหม่จะเล่นการเมือง เช่น คุณสหัส มหาคุณ สมัยหนึ่งเคยดูแลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ตั้งแต่สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนรัชต์ยังเป็นแค่พันเอกคนหนึ่ง พอวันหนึ่งจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ปฏิวัติเมืองไทย โค่นล้มรัฐบาลชุดพล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ จอมพลป. พิบูลสงคราม คุณสฤษดิ์ ถามคุณสหัส ว่าเฮ้ย ไอ้หัส ลื้อจะเอาอะไร หมายความว่าตอนนี้อั๊วมีอำนาจ ลื้อจะเอาอะไร คุณสหัส ก็บอกว่า ท่านครับผมขอทำเหล้าแม่โขง ฉะนั้นคุณสหัส ก็มาจับมือกับเจ้าสัวอุเทน เตชะไพบูลย์ พวกนี้มาหุ้นและก็ดึงหุ้นส่วนบางคน เพราะเป็นนายธนาคารด้วยกัน คือสายล่ำซำบางคนมาเข้าหุ้นด้วย เข้าใจไหมครับ ถ้าผูกพันก็ผูกพันในลักษณะนี้             สโรชา - ในเชิงธุรกิจ             สนธิ – แต่ผมกำลังจะบอกว่าจีนใหม่ จะจับอำนาจทางการเมืองเลย ชอบจับทหาร กลุ่มชิน โสภณพนิช สมัยก่อนเป็นพวกพล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ พอโดนโค่นล้มไปปั๊บ คุณชินต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ เพราะว่าตอนนั้นพล.อ.อ. เฉลิมเกียรติ วัฒนางกูร เป็นแม่ทัพฟ้า และร่วมปฏิวัติและก็ไม่ชอบกลุ่มนี้ก็เลยขับไล่คุณชินออกไป คุณชินต้องร่อนเร่พเนจรไปปักหลักที่ฮ่องกง คุณชินถึงต้องตั้งให้คุณบุญชู โรจนเสถียร โปรเฟสชั่นนอลคนหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกคนจีนไหหลำ จบธรรมศาสตร์ทางบัญชี             สโรชา – ทำไมรู้ลึกจัง             สนธิ – จบธรรมศาสตร์ทางบัญชี คุณชินก็เลยสร้างธนาคารกรุงเทพขึ้นมา และคุณชาตรีซึ่งยังพูดไทยไม่ได้เลยตอนนั้น ไปเรียนฮ่องกงกลับมา คุณบุญชูเป็นคนเทรนคุณชาตรีขึ้นมา จนกระทั่งวันนี้คุณชาตรีก็ยังพูดไทยไม่ชัด ก็ยังเขียนภาษาไทยไม่เก่ง อ่านภาษาไทยก็ไม่คล่อง แต่จะชี้ให้ว่าหลังจากนั้นแล้ว คุณบุญชูก็สนิทสนมกับจอมพลประภาส จารุเสถียร ก็เวิร์คจนกระทั่งในที่สุด จอมพลสฤษดิ์ก็ยอม หลังจากจอมพลสฤษดิ์ เสียชีวิตแล้ว คุณชินถึงได้กลับมาเมืองไทยไง และพัฒนาธนาคารให้เจริญเติบโตต่อไป เพราะฉะนั้นแล้วสายจีนใหม่ก็จะมีแตกลูกแตกหลานไป ก็จะมีบริษัทก่อสร้างศรีเฟื่องฟุ้งบ้าง กระจกไทยอาซาฮี ก็ต้องเป็นกลุ่มพวกนี้ ใช่ไหมครับ อะไรก็ตามที่เป็นธุรกิจก่อสร้างใหม่ๆ ที่มีชื่อจีนอยู่ พวกนี้เป็นกลุ่มพวกนี้             สโรชา – เป็นเศรษฐีใหม่             สนธิ - ส่วนพวกเศรษฐีเก่าก็จะทำธุรกิจของตัวเองไป ในทำนองของตัวเอง             สโรชา – อย่างนี้ถ้าเทียบแล้วการพัฒนาค่อนข้างจะผิดกันนะคะ เศรษฐีเก่า ก็อยู่ของเขาเหมือนเดิม             สนธิ – นี่ไงครับ ก็ดูความเจริญเติบโตของธนาคารกรุงเทพ กับธนาคารกสิกรไทย ยุคนั้น กรุงเทพจะโตเร็วกว่ากสิกรไทย เพราะกรุงเทพมีลักษณะการกล้าได้กล้าเสีย กล้าเสี่ยง ในขณะกสิกรไทยถือว่า เขา well establish แล้ว เขาอยู่มานานแล้ว เพราะฉะนั้นแล้วเขาจะมองพวกนี้ค่อนข้างจะเป็น คล้ายๆ ว่าคนละชั้นกัน อย่ามายุ่งกับข้า             สโรชา – อย่ามาเทียบรุ่น             สนธิ – เรื่องนี้สนุกและจะนำไปสู่ยุคที่ 3 ต่อมา คือยุคนิวอีโคโนมี ซึ่งผมคิดว่าเราพูดกันช่วงต่อไป เพราะเวลาจะหมดแล้ว จากคุณ : Ala Moana - [ 27 พ.ค. 49 08:26:31 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สโรชา – เพราะคุยกันมาถึงตรงนี้แล้ว คิดว่าคุณผู้ชมพอจะเห็นภาพแล้วนะคะว่ามี 2 กลุ่มยังไงและตัวกฟผ. เองดูเหมือนว่าจะเป็นแค่ตัวละครตัวหนึ่งในเวทีที่ค่อนข้างจะใหญ่ และกว้าง และมีตัวละครอีกเยอะมากมาย จะเป็นอย่างไรเดี๋ยวกลับมาคุยกันต่อค่ะ   สโรชา - กลับมาสู่เมืองไทยรายสัปดาห์นะคะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลามาคุยกันต่อเลยดีกว่าจะได้ต่อกันติด             สนธิ –เมื่อตอนแรกผมพูดถึงกลุ่มทุนศักดินาเก่า และกลุ่มทุนใหม่ ก็คือกลุ่มจีนใหม่ กลุ่มเก่าศักดินา ซึ่งผูกพันกับพวกเชื้อพระวงศ์ ผูกพันกับบรรดาเทคโนแครตทั้งหลาย             สโรชา – ค่ะ ข้าราชการ             สนธิ – คุณสโรชาต้องจำเอาไว้นะ สมัยก่อน ชาวบ้านธรรมดาไม่มีสิทธิ์หรอก ที่จะส่งลูกหลานไปเรียนต่อต่างประเทศ ลูกหลานที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศ อังกฤษ อเมริกา จะต้องมีเงินมีทอง มีแต่ลูกเจ้า หรือไม่อีกทีก็เป็นลูกพวกศักดินาเก่า เพราะฉะนั้นแล้วคนซึ่งไปจบต่างประเทศในยุคช่วงเมื่ออายุ ตอนนี้เกษียณไปแล้ว ซัก 60 กว่า อย่างพี่เษมนี่ เกษม จาติกวณิช อย่างน้อยที่สุดจะต้องมีสถานภาพในสังคมที่สูงส่งถึงจะไปได้ คนพวกนี้เมื่อกลับมา คนพวกนี้เป็นชนกลุ่มน้อยที่น้อยมาก กลับมาแล้วความรู้ดีกว่าทุกคน ในการพัฒนาประเทศนั้น รัฐบาลจะต้องพึ่งพาคนพวกนี้เป็นคนซึ่งลงมือทำงานและรัฐบาลช่วงหนึ่งของประเทศไทยเป็นช่วงเผด็จการมาตลอด ทหาร ยึดอำนาจเป็น แต่ปกครองไม่เป็น ก็เลยมอบให้คนพวกนี้ปกครอง เพราะฉะนั้นทหารจะยึดแต่อำนาจและสั่งอย่างเดียว และพวกนี้จะเป็นคนกำหนดนโยบายเพื่อให้ทหารสั่ง เพราะฉะนั้นอำนาจที่แท้จริงก็อยู่ในมือเทคโนแครตและข้าราชการประจำ อันนี้ต้องจำไว้นะครับ อำนาจที่แท้จริงอยู่ในมือเทคโนแครต และข้าราชการประจำ พอต่อมาเรื่อย ๆ พอมาถึงจีนยุคใหม่ พวกนี้จะเน้นไปทางด้านการค้า การเมืองไม่สนใจ เน้นการค้า เพิ่งจะมาตอนหลัง ช่วงคุณชิน โสภณพนิช คุณชาตรี ก็เริ่มไปจับการเมืองเพราะรู้ว่าการเมืองเท่านั้นเอง ที่จะขยายฐานให้ธุรกิจเขาใหญ่โตตลอดไป ต่อมาอีกซักพักหนึ่ง เหตุบ้านการเมืองผลัดเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จะสังเกตได้อย่างว่า เวลาพรรคการเมืองใดก็ตามที่เข้ามา ถ้าสมมติว่า เป็นพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ก็โอเคจบ เพราะว่ากลุ่มทุนเก่าจะเป็นกลุ่มซึ่งมีสายสัมพันธ์กับพรรคประชาธิปัตย์ลึกซึ้ง แต่อย่างเช่นพรรคความหวังใหม่เข้ามา หรือพรรคคุณบรรหาร ศิลปอาชาเข้ามา นะครับ คนพวกนี้ กลุ่มทุนเก่าก็ไม่เดือดร้อน เพราะพวกนี้พึ่งพาเครือข่ายข้าราชการเทคโนแครต       สโรชา – คือตราบใดที่ไม่ไปยุ่งกับระบบราชการไม่เป็นไร             สนธิ – ราชการและเทคโนแครต ทุนเก่าไม่เป็นไร             สโรชา – แต่ยุคนี้ก็เกิดปัญหาซิค่ะ             สนธิ – เดี๋ยวซิครับ เดี๋ยวต้องต่อ เพราะฉะนั้นจำได้ไหม คนซึ่งไล่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ออกจากรัฐบาล พวกม็อบสีลมไง ม็อบสีลม เริ่มโดยบรรดาเส้นสาย เครือข่ายกลุ่มทุนเก่า เหตุผลเพราะว่าพล.อ.ชวลิตทำให้ธุรกิจพังทลายจากการลดค่าเงินบาท เอาละทีนี้การเมืองพลิกผันมา ปัญหาใหญ่ของประเทศทุกวันนี้คือมีพรรคไทยรักไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้มาจากกลุ่มทุนเก่า หรือกลุ่มทุนใหม่ แต่มาจากกลุ่มเศรษฐกิจใหม่             สโรชา – ไม่ใช่กลุ่มทุนใหม่ด้วยหรือค่ะ             สนธิ – ไม่ใช่เลย คุณทักษิณ ชินวัตร พรรคไทยรักไทย ร่ำรวยมาจากธุรกิจโทรคมนาคม ธุรกิจโทรคมนาคม เป็นธุรกิจขายอากาศ กลุ่มทุนเก่ากว่าจะสร้างโรงงานโรงงานหนึ่งมาและผลิตสินค้าออกมาหนึ่งชิ้นต้องผ่านกี่กระบวนการ เพื่อให้มีกำไรซัก 10 ล้าน 20 ล้าน แต่นี่นั่งขายอากาศ นาทีละ 3 บาท เพราะฉะนั้นในขณะซึ่งเขามียอดขายปีละ 100,000ล้าน ปีละ 50,000 ล้าน กลุ่มทุนเก่าต้องใช้เวลาถึง 50 ปีกว่าจะได้ 40,000-50,000 ล้าน             สโรชา – ความแตกต่างเยอะมาก             สนธิ – ไม่ต้องดูอะไร ดูง่ายๆ ดูประเภทของธุรกิจ กลุ่มสหพัฒนพิบูลย์ ถ้าไปดูมาร์เก็ตแคป ของสหพัฒนพิบูลย์แล้วยังมีไม่ถึงแสนล้านเลย ทั้งๆ ที่ตั้งมานานแล้ว มีบริษัททุกอย่าง ในชีวิตเราตั้งแต่ตื่นมาจนตาย เราต้องสัมผัสกับสินค้าสหพัฒนพิบูลย์ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง ไม่ใช่เสื้อผ้าก็เป็นผงซักฟอกที่ซักเสื้อผ้าเราหรือว่ายาสีฟัน ซึ่งเราใช้ หรือบะหมี่ มาม่า ซึ่งเรากลับไปที่บ้านเราก็กินกัน             สโรชา – ตอน 5 ทุ่ม จากคุณ : Ala Moana - [ 27 พ.ค. 49 08:29:00 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สนธิ – เขาตั้งมา 40-50 ปีวันนี้มาร์เก็ตแคป ยังไม่ถึง ระหว่าง 50,000-80,000 ล้าน วันนี้เฉพาะชินคอร์ป อย่างเดียว มาร์เก็ตแคป 400,000 ล้าน เห็นไหมครับ 8 เท่า ทั้งๆที่เพิ่งเริ่มมาประมาณ 10 ปีที่แล้วนี่เอง นี่จะเห็นได้ชัด ภาวะเศรษฐกิจตอนนั้นที่ถดถอย ทำให้กลุ่มทุนเก่าและกลุ่มทุนหลายๆ ทุน ถดถอยหมด นะครับ มีอยู่กลุ่มเดียวคือกลุ่มของโทรคมนาคม ที่ไม่ได้ถดถอย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มชินคอร์ป ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ปัญหาก็เริ่มเกิด เมื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตัดสินใจมาเล่นการเมือง เมื่อเข้ามาเล่นการเมือง เขามาด้วย เขาเรียกว่านิวอีโคโนมี หรือคุณจะเรียกมันว่า คาสิโนอีโคโนมีก็ได้ เพราะว่ากลุ่มพวกนี้เป็นกลุ่มซึ่งรู้จักต่อยอดตัวเองในตลาดหลักทรัพย์             สโรชา - ในตลาดหลักทรัพย์             สนธิ – ใช่ครับ เพราะนิวอีโคโนมี มันเป็นอย่างนี้หมดทั่วโลก เขาจะต่อยอดเขา เขาจะเพิ่มมูลค่าเขา และอีกประการหนึ่งสังเกตอย่างไหมว่า ถ้าเราสังเกตให้ดี ๆ ไม่ว่าจะเป็นชินคอร์ป ไม่ว่าจะเป็นบุญคลี ปลั่งศิริ คุณสมประสงค์ คุณนิวัติ ธำรง บุญทรง ไพศาล ใครต่อใคร นี่คือกลุ่มโปรเฟสชั่นนอล ซึ่งทางกลุ่มชินคอร์ปเขากล้าพอที่จะโยนให้ไปบริหาร แต่ในขณะซึ่งกลุ่มทุนเก่านั้นถ้ายังล่ำซำต้องล่ำซำอยู่ ถ้ายังเตชะไพบูลย์ ก็เตชะไพบูลย์อยู่ ถ้าโสภณพนิชก็ยังคงเป็นโสภณพนิช จากชิน โสภณพนิช มาสู่ชาตรี โสภณพนิช ก็ยังชาติศิริ โสภณพนิช เห็นไหม เพราะฉะนั้นแล้วการเจริญเติบโต ทางฝ่ายที่ให้มืออาชีพทำก็เลยก้าวกระโดด เพราะฉะนั้นแล้วทางนี้ก็มองว่า ถ้าอย่างนั้นไปสู้กันในตลาดหลักทรัพย์ ทางนี้เมื่อตัดสินใจมาเล่นการเมือง ก็มาเล่นแนวใหม่ วิธีใหม่เมื่อเข้ามาเล่นแนวการเมืองวิธีใหม่ เขาก็มองว่าตลาดหลักทรัพย์คือเวทีที่ให้ทุกคนเข้าไปร่วมกัน เอาละ เมื่อเข้าไปอย่างนี้แล้ว สิ่งหนึ่งซึ่งเขาต่อสู้ จำได้ไหมที่ผมเคยพูด เขาเข้ามาเพื่อทำลายรากฐานอิทธิพลทางการเมืองเดิม เขาเริ่มด้วยการปราบปรามยาเสพติด ทำไมละ เพราะเงินยาเสพติดส่วนหนึ่งคือเงินซึ่งสนับสนุนในเชิงการเมือง ถูกไม่ถูก อันที่สองเข้ามาปราบปรามเรื่องหวยเถื่อน คือเขาจะตัดท่อส่งน้ำ ตัดท่อส่งน้ำซึ่งธุรกิจการเมืองเก่า มันใช้กัน พึ่งพาอาศัยกัน ทำลายผู้มีอิทธิพล เมื่อตัดท่อส่งน้ำทำลายผู้มีอิทธิพลแล้วก็เท่ากับว่าการเมืองแบบเก่า ซึ่งเขาจำเป็นต้องพึ่งพาอาศัย เขาพึ่งพาอาศัยน้อยลง             สโรชา - ไม่ได้แล้ว             สนธิ – ไม่ได้แล้ว ทุกคนจะต้องเข้ามาสู่ศูนย์รวม อันนั้นคือด้านหนึ่ง อันสุดท้ายซึ่งเขาต่อสู้และก็เกิดเหตุจนทุกวันนี้ จำได้ไหมเขาประกาศสงครามกับระบบราชการ ระบบราชการที่เขาประกาศสงคราม มันไม่ใช่ข้าราชการตาดำๆ ซึ่งอยู่ ซี 4 5 6 7 คือข้าราชการระดับเทคโนแครต ที่ผมเอ่ยชื่อขึ้นมา ข้าราชการพวกนี้ ภาษาเศรษฐศาสตร์ เขาเรียกพวกอำมาตยาธิปไตย คือคนพวกมีสิทธิ์จะกำหนดโพลิซี จำได้ไหมครับ             สโรชา – จริงๆ อำนาจอยู่ในมือพวกนี้แหละ             สนธิ – 3 ปีที่ผ่านมานี้เขาดึงอำนาจคนพวกนี้ซึ่งกำหนดนโยบายออกมา ให้มาอยู่ในมือเขา เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าเขาย้ายปลัดกระทรวงเป็นว่าเล่น ตอนแรกๆ ซึ่งโวยวายกัน ตอนนี้ทุกคนชินแล้ว ตอนนี้ปลัดกระทรวง อธิบดี รองปลัดกระทรวง รู้แล้วว่าอำนาจการเมืองเหนือกว่า เพราะฉะนั้นแล้วเมื่อการเมืองสั่งให้ทำอะไร ก็จะทำหมด ตรงนี้คือการรุกคืบครั้งสุดท้ายเข้าไป ก็เลยทำให้กลุ่มทุนเก่าจำเป็นต้องรวมตัว มองว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อันตรายต่อระบบของเขา เพราะถ้าปล่อยให้รุกคืบต่อไป อีกซัก 1ปี 2 ปี 3 ปี 4 ปี ก็หมายความว่าเขาไม่มีทางถอยแล้ว ตอนนี้หลังเขาชนกำแพงแล้ว นี่คือการตั้งป้อม เพื่อรุกกลับ เห็นหรือยังครับ และไม่มีการรุกกลับอะไรดีเท่ากับเรื่องกฟผ. ทีนี้รัฐบาลชุดนี้ก็เหมือนกิ้งกือ หกคะเมนในเรื่องนี้ เพราะว่าการแปรรูปรัฐวิสาหกิจนั้น สามารถจะแปรรูปด้วยความหลากหลายได้ ไม่มีความจำเป็นต้องแปรทุกอัน เลือกแปรบางอัน ไม่เลือกแปรบางอัน หรือว่าแปรอีกวิธีหนึ่ง ก็คือว่าแทนที่จะเป็นพ.ร.บ.ทุน เปลี่ยนพ.ร.บ.ทุนให้เป็นพ.ร.บ.พัฒนาประสิทธิภาพรัฐวิสาหกิจ เหมือนอย่างที่ท่านอาจารย์ชัยอนันต์ กำลังจะมาทำ             สโรชา – ใช่ มาถึงตัวละครอีกท่านหนึ่ง             สนธิ – ก็แปลกมาก เมื่อพวกนี้มายันตรงนี้และน่าสนใจมาก เรื่องนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นนะ เรื่องนี้เกิดขึ้นสมัยพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ จำได้ไหมครับ พล.อ.ชาติชาติ ชุณหะวัณ เปลี่ยนบอร์ดรัฐวิสาหกิจ เปลี่ยนบอร์ด กฟผ. หมด สมัยที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ดูแลการไฟฟ้าฯ ม็อบกฟผ.ตอนนั้นคือ ม็อบซึ่งเกือบจะโค่นรัฐบาลชุดพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เพราะฉะนั้นแล้ว เรื่องอันนี้เกิดขึ้นมา จะเห็นได้ชัด ที่น่าสนใจคือว่าประเด็นที่ผมเล่าให้ฟังว่าจริงๆ แล้ว ได้มีการแปรรูปมาแล้วคือเรื่องเอ็กโก้ แปรรูปมาแล้ว และคนซึ่งอยู่กลุ่มเดียวกับพวกกลุ่มทุนเก่า ก็คือคุณปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ซึ่งตอนนี้นั่งอยู่ในเครือข่ายธนาคารกสิกรไทย คุณปิยสวัสดิ์ เป็นคนที่สนับสนุนการแปรรูปตั้งแต่เช้ายันเย็น นะครับ สมัยนั้น แต่ว่าไม่เคยมีใครว่า ไม่เคยมีใครว่า มาว่าเอายุคนี้ จากคุณ : Ala Moana - [ 27 พ.ค. 49 08:30:23 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สโรชา – ความแตกต่างอยู่ตรงไหนละคะ             สนธิ – ความแตกต่างอยู่ที่ว่าเผอิญรัฐบาลนี้ก็พลาดไป พลาดตรงที่การแปรรูปปตท.             สโรชา – มันมีตัวอย่างให้เห็นอยู่             สนธิ – การกระจายหุ้นที่ไม่โปร่งใส             สโรชา - ทอท.ด้วยซิ             สนธิ – ทอท. การท่าอากาศยานด้วย ตรงนี้คือจุดบกพร่องและพลาดที่สุดของรัฐบาลก็เลยทำให้ ภาษานักเลงเรียกว่าบอลเข้าทางตีน ทางฝ่ายนี้ก็บอกว่าเห็นไหม             สโรชา – มีจุดอ่อนให้เขาเล่นหละ             สนธิ – ถ้ามองกลุ่มทุนเก่าคือว่า ถ้าทุนรัฐวิสาหกิจ สมมติกฟผ.เข้าตลาดหลักทรัพย์ คุณว่าตลาดหลักทรัพย์มาร์เก็ตแคปเพิ่มอีกกี่เปอร์เซ็นต์             สโรชา – เยอะ             สนธิ – เพิ่มอีก 20 เปอร์เซ็นต์หมายความว่าจะทำให้มูลค่าหุ้นซึ่งเป็นบลูชิพ ในตลาดทั้งหมด เพิ่มอีก 20 เปอร์เซ็นต์ วันนี้กลุ่มชินถือมาร์เก็ตแคป 400,000 ล้านเพิ่มอีก 20 เปอร์เซ็นต์ก็เกือบ 500,000 ล้านใช่ไหม ก็เท่ากับดับเบิล เกือบๆ จะครึ่งหนึ่ง ตรงนี้ที่กลุ่มทุนเก่ายอมให้ไม่ได้ นะครับนี่คือสิ่งซึ่งต้อง ออกมาประกาศว่างานนี้ยังไงเขาต้องสู้             สโรชา – สู้สุดใจขาดดิ้น             สนธิ – สู้สุดใจขาดฤทธิ์ ทีนี้ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก และประจวบเหมาะกับทางใต้ เหตุเกิดขึ้น เมื่อเหตุเกิดขึ้นแล้ว แก้ไม่ได้ แก้ไม่ตก และก็มีหลายขบวนการไม่ยอมให้เหตุสงบ คุณหลับตาวาดภาพดูนะ ทางใต้วางระเบิดตลอดเวลา กฟผ. ไม่จบ             สโรชา – รุมเร้าเยอะแยะไปหมดเลย             สนธิ – เสร็จแล้วนายกฯ ถ้าบินไปต่างประเทศ นะครับ เกิดมีระเบิดมาวางที่หัวลำโพงซักลูกหนึ่ง ศาลากลางที่จ.ปัตตานี ซักครั้งหนึ่ง กฟผ. เคลื่อนพลอีก 200,000 คน เรียบร้อย เพราะฉะนั้นแล้วผมถึงบอกว่า ตอนนี้อย่ากระพริบตา ผมจะบอกให้ คือถ้าจะเข้าใจการเมืองไทยเราต้องมองภาพรวมทั้งหมด คุณจะเห็นได้ชัด เพราะขณะนี้เป็นการต่อสู้กันระหว่างทุนเก่า กับทุนนิวอีโคโนมี             สโรชา – และสรุปแล้วขบวนการทั้งหมด ตัวละครทั้งหมดที่เราคุยกัน มันคือขบวนการเดียวกับที่ท่านนายกฯ บอกว่า ตั้งตาหน้าตั้งตาจะโค่นล้มหรือเปล่า หรือคนละส่วนกัน             สนธิ – ผมคิดว่าเป็นการเปียแชร์ด้วยกัน             สโรชา – คือนายกฯ คนนี้ เป็นคนใจเร็ว คิดอย่างไรพูดอย่างนั้นไม่ซ่อนเร้น คือโดยดั้งเดิมตั้งแต่เป็นหนุ่มเป็นนักเรียนนายร้อย เป็นนายร้อยตำรวจตรี จนกระทั่งทำงานมาช่วงตั้งแต่ก่อนที่มาเป็นใหญ่ท่านเป็นคนซึ่งคิดยังไงพูดอย่างนั้น คือพูดง่ายๆว่าเป็นคนอ่านไม่ยาก คิดอะไรก็พูดออกมาตรงๆ             สนธิ - จริงๆ แล้วเป็นคนที่เขาเรียกว่าซื่อใส คิดอะไรตรงๆ และเผอิญ ๆ ความที่คิดอะไรและพูดตรงๆ ออกมา มันก็เลยระคายหูคนเยอะ นึกออกไหมครับ เมื่อระคายหูคนเยอะ ผสมผสานกับคนรอบด้าน ลูกขุนพลอยพยัคฆ์ คอยปกป้อง และคอยฟ้องเรื่องจริงบ้างไม่จริงบ้างก็ใส่ไป จำได้ไหม เราเคยพูดหลายครั้งว่านายกฯ คนนี้ถ้าได้ข้อมูลที่ถูกต้อง ตัดสินใจได้ถูกทุกเรื่อง             สโรชา – แต่ ...             สนธิ – แต่ถ้าได้ข้อมูลที่ผิด ก็ต้องตัดสินใจไปตามข้อมูลอย่างนั้น เพราะเขาเป็นคนกล้าตัดสินใจ ถูกไหมครับ ตั้งแต่ครั้งแรก เขาบอกว่า เป็นโจรกระจอกปักษ์ใต้เพราะเขาได้ข้อมูลจากตำรวจ ว่าเป็นโจรกระจอกไม่มีอะไร จำได้ไหมครับที่เขาบอกว่า เรื่องสมชาย นีละไพจิตร ว่าอาจจะทะเลาะกับภรรยา ก็เพราะว่าตำรวจ ไปใส่ข้อมูลว่า เขาทะเลาะกับภรรยา แต่ตอนหลังเมื่อเขาได้ข้อมูลที่ถูกต้องแล้ว เขาก็ค่อยเปลี่ยนไปทีละนิด เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เริ่มรู้สึกว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันใดฉันนั้น เมื่อนายกฯ คนนี้พูดจาไม่เกรงใจใครแล้ว ก็ย่อมมีคนไม่พอใจเยอะ เมื่อไม่พอใจเยอะแล้ว มีหนึ่งขบวนการเข้ามา ก็ต้องมีส่วนที่ผสมโรง มีทั้งแม่ยก มีทั้งพ่อยก มีทั้งพวกยก บอกว่าขอร่วมด้วยช่วยกัน นี่คือขบวนการร่วมด้วยช่วยกัน ซึ่งกำลังเกิดขึ้นขณะนี้ เขาถึงออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเขาล้า แต่เขาไม่ท้อ แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะหลุดออกมา บอกว่าผมจะอยู่อีก 10 ปีให้คุณเขย่าผม เข้าใจหรือยังครับ ก็เหมือนราดเบนซินลงไปบนกองไฟอีกทีหนึ่ง ให้ลุกขึ้นมา             สโรชา – ยิ่งท้าทายไปใหญ่เลย จากคุณ : Ala Moana - [ 27 พ.ค. 49 08:31:40 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สนธิ – คือเขาเป็นคนซึ่งนักเลง เขาไม่ชอบให้ใครมาขู่เขา เขามองว่าเขากำลังโดนขู่ เขากำลังโดนตอบโต้อย่างไม่เป็นธรรม เขามองอย่างนี้ แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็หวังว่า ตัวท่านนายกฯ เองก็ต้องหัน มามองพรรคพวกตัวเองเหมือนกัน กระบวนการ             สโรชา - คนใกล้ชิด             สนธิ – หรือกระบวนการพรรคพวกกลุ่มทุนด้วยกัน ซึ่งบางครั้งทำตัวเป็นเหลือบ เกาะเอานโยบายของพรรค และของตัวเองและมาดูดส่วนเกินทางเศรษฐกิจไป โดยที่ไม่แบ่งสันปันส่วนให้คนอื่นเขาได้ คนซึ่งอยู่นอกวง มันก็ไม่พอใจใช่ไหม มันก็บอกว่าถ้าปล่อยให้นายกฯ คนนี้อยู่ต่อไปนะ ก็หมายความว่าอีกหน่อยฉันไม่ต้องทำมาหากินแล้ว             สโรชา – แสดงว่าศัตรูเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ             สนธิ – ก็ตรงนี้ไง แต่ถ้าถามว่าเขาเป็นคนตั้งใจทำ คือถ้าทุนศักดินากลับมามีอำนาจอีกครั้ง บ้านเมืองถดถอยไปอีกยาวเลย แต่ถ้าทุนใหม่อันนี้ยังอยู่ต่อ ก็ต้องแก้ไขพฤติกรรมและวิธีการอีกหลายประการ       ผมคิดว่าเมืองไทยจะไปได้ดี       สโรชา – ค่ะ เดี๋ยวเราจะพักกันซักครู่นะคะ คุณผู้ชมกลับมา ถึงแม้จะไม่มีระบบเอสเอ็มเอสในวันนี้แต่ว่าเราจะมาอ่านความคิดเห็นที่คุณผู้ชมได้โทร.เข้ามาบอกเล่าให้เราฟัง พักซักครู่เดี๋ยวกลับมาค่ะ สโรชา – กลับมาช่วงสุดท้ายของเมืองไทยรายสัปดาห์นะคะ สัปดาห์นี้เราถามคุณผู้ชมว่า คุณผู้ชมเชื่อหรือไม่ว่ามีขบวนการล้มล้างรัฐบาลชุดนี้ เอสเอ็มเอส เราใช้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นดิฉันขอชูให้ดูแล้วกันนะคะ ความหนาของกระดาษที่คุณผู้ชมโทร.เข้ามานะคะ เรานับแล้วและคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ออกมา คือว่าเชื่อ 65 เปอร์เซ็นต์ ไม่เชื่อ 35 เปอร์เซ็นต์ ก็หลังจากที่เราคุยกันมาคร่าวๆ ก็คงเห็นภาพบ้างละว่าตกลงเป็นยังไง แต่สาเหตุก็เข้ามาหลากหลายนะคะ แต่ว่าเชื่อส่วนมากก็เป็นเพราะว่า เหมือนกับปัญหาเข้ามารุมเร้า พร้อมๆ กันหลายๆ ปัญหา เพราะฉะนั้นอาจจะมีคนอยู่เบื้องหลังพยายามสร้างปัญหาขึ้นมา นั่นคือความคิดเห็น             สนธิ – ต้องต่อนิดนึง เมื่อพรรคไทยรักไทยโดยพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เข้ามา คุณสโรชา จะสังเกตว่าคนเข้ามาร่วมพรรคไทยรักไทย กลุ่มทุนเก่าจะน้อยมาก แทบจะไม่มีเลย นอกจากจะเป็นกลุ่มทุนใหม่ และเป็นกลุ่มซึ่งต่อยอดจากตลาดหลักทรัพย์จะมีอยู่คนเดียวเองที่เกี่ยวพันกับกลุ่มทุนเก่าคือ คุณอดิศัย โพธารามิก ซึ่งเคยลงทุนกับพวกล่ำซำ แต่ไม่เป็นไร แต่ผมจะเล่าให้ฟังว่า สังเกตอย่างนะ ถ้าต่างจังหวัดตอนนี้ ทางภาคเหนือ อีสาน ความเชื่อมั่นที่มีต่อพรรคไทยรักไทยยังสูงมาก ภาคกลางก็มีแต่กรุงเทพฯ ความเชื่อมั่นลดน้อยลงเยอะ ภาคใต้อย่างที่เรารู้ ปัญหาใต้ ใช่ไหม เพราะฉะนั้นแล้วผมเชื่อว่า ถ้าวิเคราะห์ทางการเมืองลึกแล้ว เลือกตั้งยังไง พรรคไทยรักไทยก็ยังมา เป็นเพียงแต่ว่า จาก 400 เสียงตอนนี้อาจจะได้ไม่ถึง 300 แต่ก็ยังได้เกินครึ่ง ผมคิดว่า ตรงนี้ต่างหากใครก็ตามที่คิดที่จะต่อสู้กับพรรคไทยรักไทย ไม่ให้รุกต่อ คงคิดว่าจะต้องหาทางสร้างเหตุการณ์เพื่อล้มล้างไปเลย เพราะถ้าสู้ต่อในแนวประชาธิปไตย ไม่เวิร์ค และเป็นที่น่าสังเกตว่า เมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น อาจารย์อมร จันทรสมบูรณ์ ท่านก็ออกมาให้สัมภาษณ์นะครับ ในแนวทางที่บอกว่า น่าจะมีพรรคที่ 3 ควรจะต้องมีการแก้รัฐธรรมนูญ คุณสุเมธ ตันติเวชกุล ก็ออกมาให้สัมภาษณ์เรื่องการคอร์รัปชั่นแบบบูรณาการ คือเป็นจังหวะพั้วะ ๆ คือคุณสุเมธก็รู้ว่ามีความใกล้ชิด เพราะฉะนั้นแล้วอาจจะถูกมองว่านี่เป็นความเห็นอันหนึ่ง แต่จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้ แต่สรุปง่ายๆ ว่าตอนนี้กระแสข่าวลือก็ออกมาตลอดเวลา จากคุณ : Ala Moana - [ 27 พ.ค. 49 08:37:23 ]

ความคิดเห็นที่ 9 สโรชา พูดน้อยจัง เอาค่าตัวไป ตามค่าแรงขั้นต่ำ จากคุณ : จอบศักดิ์ - [ 27 พ.ค. 49 08:38:06 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สโรชา – เหมือนเป็นสเต็ปเลยนะคะ             สนธิ – เป็นสเต็ป แต่ว่าที่ผมพูด ผมไม่ได้เข้าข้างใคร ผมเล่าเหตุการณ์ เพื่อให้คุณสโรชาและผู้ชมทางบ้านจะได้เข้าใจภาพรวมทั้งหมด             สโรชา – ภาพรวมว่าอะไรมันลิ้งค์กับอะไร             สนธิ – มันกำลังเกิดอะไรขึ้น เข้าใจไหมครับ เพราะฉะนั้นแล้วพอมาที่ปัญหากฟผ. ผมคิดว่า พวกที่ต่อต้านและพวกที่คิดจะล้มล้างรัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายกฯคนนี้ เข้าใจถึงธรรมชาตินายกฯ คนนี้เข้าใจตรงที่ว่าหนึ่งเป็นคนไม่ยอมคน เพราะฉะนั้นแล้วก็หาทางสร้างสถานการณ์ให้นายกฯพูดตลอดเวลา             สโรชา – ไปจี้             สนธิ – พูดตลอดเวลาว่าผมไม่หยุดการแปรรูป ยังไงก็ต้องเดินหน้าต่อ เข้าใจไหมครับ เขารู้ว่าถ้ายิ่งพูด ไปจี้ นายกฯ กลัวเสียหน้า นายกฯ ก็จะพูดอย่างนี้             สโรชา – ตอกย้ำอยู่จุดเดิม             สนธิ – ตอกย้ำตลอดเวลา นายกฯจะตกหลุมคนพวกนี้ไปเรื่อยๆ เข้าใจไหมครับ แต่ผมคิดว่าการตั้งอาจารย์ดร.ชัยอนันต์ สมุทวณิช ขึ้นมาเป็นประธานกฟผ. อย่างน้อยที่สุด ผมรู้ว่าท่านนายกฯ อ่านเกมออกแล้ว เพราะว่าอาจารย์ชัยอนันต์ ต้องเข้าใจนะครับ ตัวอาจารย์ชัยอนันต์เป็นคนซึ่งเห็นว่าพ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2542 อาจจะขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญ เพราะท่านเป็นคนเขียนคำวินิจฉัยเรื่องนี้ลงสมัยที่ท่านเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ท่านเขียนมาแล้วและกลุ่มที่คัดค้านนายกรัฐมนตรีก็เคยเห็นพ้อง ทั้งกลุ่มผู้คัดค้านและนายกฯ เองก็เคยพูดมาเมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่าพ.ร.บ.ทุนอาจแก้ไขได้ หรือเขียนใหม่ทั้งฉบับเลยก็ได้ อาจจะเปลี่ยนเป็นพ.ร.บ.พัฒนาประสิทธิภาพรัฐวิสาหกิจ เพื่อเป็นแผนแม่บท ซึ่งผมคิดว่า เมื่อเป็นเช่นนั้นและถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เป็นเรื่องที่เป็นสิริมงคล             สโรชา – คือพูดง่ายๆว่ามีการคุยกันแล้วระหว่างท่านนายกฯ กับผู้คัดค้านว่าควรจะมีการทำอย่างนี้ การแต่งตั้งอาจารย์ชัยอนันต์ขึ้นมาซึ่งอาจารย์ชัยอนันต์ก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ดูเหมือนไปในทิศทางที่ดีซิค่ะ             สนธิ – คืออาจารย์ชัยอนันต์เป็นคนซึ่งมีเวร มีกรรม             สโรชา – ทำไมค่ะ             สนธิ – เวลาแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ถ้าเป็นเผือกร้อนไม่ค่อยมีใครอยากถือ จะโยนให้แกถือตลอดเวลา นะครับ แต่เวลามีความสุขความสบายไม่เคยคิดถึงแกเลยซักเรื่อง แต่พอหลังชนกำแพงทีไร อาจารย์ชัยอนันต์มาช่วยหน่อย             สโรชา – ก็ถือว่าอาจารย์เก่งไงค่ะ             สนธิ – อาจารย์ชัยอนันต์เป็นคนแก้ปัญหาเรื่องบางจาก โดยอยู่เบื้องหลังในการแก้ปัญหา ตอนอาจารย์ชัยอนันต์เป็นประธานการบินไทย อาจารย์ชัยอนันต์ไปปรับโครงสร้างการบินไทยไว้ดีมาก และไปถามพนักงานการบินไทยทุกวันนี้หรือ ให้ลงคะแนนเสียงกัน ทุกคนจะรักอาจารย์ชัยอนันต์หมด เพราะอาจารย์ชัยอนันต์ เป็นคนซึ่งรักองค์กระและส่งเสริมให้การบินไทยเจริญ ไปเช็คได้ ไม่ว่าประธานชุดไหนก็ตาม ผมไม่สนใจหรอก ไม่มีใครสู้อาจารย์ชัยอนันต์ได้ เพราะเขาเป็นคนจริงจังและจริงใจ ผมคิดว่า พ.ร.บ.อันใหม่ถ้าจะร่วมกันร่างน่าจะเริ่มได้แล้วและผมคิดว่าน่าจะเอาคนซึ่งเป็นนักวิชาการ และเป็นซึ่งประชาชนเชื่อใจเช่นอาจารย์รังสรรค์ ธนะพรพันธ์ เพราะอาจารย์รังสรรค์ เป็นคนซึ่งวิพากษ์วิจารณ์นายกฯ คนนี้ เอาเข้ามานั่งเลย ไม่เป็นไร อาจารย์ปรานี ทินกร ซึ่งเป็นคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ อาจารย์แล ซึ่งเป็นกรรมการเก่า ของกฟผ. อาจารย์แล เป็นคนซึ่งชำนาญเรื่องแรงงานมาก และอาจจะเอาตัวแทนสหภาพเข้ามาด้วย ประธานสหภาพเข้ามานั่งเลย ไม่เป็นไร และมาดูซิว่าจะร่างยังไง ที่จะให้พ.ร.บ.ใหม่ คือพ.ร.บ.พัฒนาประสิทธิภาพรัฐวิสาหกิจก็คือว่าเราอาจจะไม่ได้พูดถึงเรื่องการแปรณรูป เราอาจะพูดถึงเรื่องการทำยังไง ที่จะให้รัฐวิสาหกิจ นั้น รัฐบาลยังเป็นเจ้าของอยู่ แต่ในขณะเดียวกันยังมีหุ้นบางส่วนซึ่งออกไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ คือปรับเปลี่ยนซะใหม่แทนที่จะแปรรูป             สโรชา – เหมือนตั้งกติการ่วมกัน จากคุณ : Ala Moana - [ 27 พ.ค. 49 08:38:54 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สนธิ – ให้ความมั่นใจผมคิดว่าถ้าเป็นอย่างนี้ได้ ผมคิดว่า ผมอยากให้ทางสหภาพ นี่จะสงกรานต์แล้ว ผมอยากให้สหภาพกลับบ้านไปฉลองสงกรานต์ ให้อภัยกันซะ มาเริ่มกันซะใหม่ นะครับและหาเวลาที่จะมาดูซิว่า เป็นยังไงบ้าง ว่าสิ่งซึ่งอาจารย์ชัยอนันต์ คิดจะทำ หรือว่ารัฐบาลร่วมมืออาจารย์ชัยอนันต์มันเป็นไปได้ไหม และถ้าเป็นไปได้ มันน่าจะจบได้ คือผมคิดว่า มันร้อนนะ และถ้ามันมีเหตุผลพอ คือคนเราต้องเริ่มด้วยความเชื่อใจกันบ้าง จะไม่เชื่อใจรัฐบาลชุดนี้ไม่เป็นไร แต่ขอให้เชื่อใจว่า ตอนนี้อาจารย์ชัยอนันต์มาแล้ว มาเป็นตัวแทน รัฐบาลา และผมเชื่อวาอาจารย์ชัยอนันต์เป็นคนซึ่งใครสั่งให้หันซ้ายหันขวาไม่ได้ อาจารย์ชัยอนันต์ยืนอยู่บนความถูกต้องและผมเชื่ออาจารย์ชัยอนันต์แก้ปัญหาให้ได้             สโรชา – ค่ะ เพราะฉะนั้นหวังว่าคงจะไปในทิศทางที่ดี และดูเหมือนว่าจะไปเช่นนั้นจริงๆ นะคะ             สนธิ – ผมหวังเช่นนั้นครับ             สโรชา – อย่างหลายๆ ครั้งที่เราคุยกันมา คุณผู้ชมจะมองเหตุการณ์ใด ๆ ในเมืองไทยที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองเรา เราคุยกันมาหลายเดือนแล้วค่ะ ว่าอย่ามองเพียงเหตุการณ์เดียวมองเป็นภาพรวม มองไม้ทั้งป่า และเราจะเข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองเราขณะนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หมดเวลาแล้วนะคะสำหรับเมืองไทยรายสัปดาห์ พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้าเวลา 22.00 น. วันศุกร์ค่ะ วันนี้คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ดิฉัน สโรชา พรอุดมศักดิ์ลาไปเพียงเท่านี้สวัสดีค่ะ             สนธิ – สวัสดีครับ Bye bye ..... Sondhi & Sarocha จากคุณ : Ala Moana - [ 27 พ.ค. 49 08:41:07 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อ่านแล้วแสดงว่า สนธิ+สโรชา  =  อีกัวน่าเปลี่ยนสี  ซิค่ะ จากคุณ : atomic kat (nano boy) - [ 27 พ.ค. 49 09:19:51 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สนธิ ถ้าออกมาพูดแบบผู้ดีและมีเหตุผลแบบนี้ จะมีคนเชื่อมากมาย ทักษิณอาจล้มไปแล้วก็ได้  แต่นี่ออกมาก็ด่าเหมือนคนไม่มีการศึกษา ถ่อย สถุล กุ้ย เหลือเกิน แล้วใครจะไปเชื่อเล่าครับ -อ่านแล้วทำให้ทราบว่า สนธิ รับจ้างนายทุนเก่าเพื่อโค่นล้มทักษิณจริง ๆ  สนธิให้เหตุผลดีทำให้ฝ่ายนายทุนเก่าช่วยกันลงขันให้สนธิล้มทักษิณ สุดท้ายก็ล้มไม่ลง สนธิเลยออกมาแฉเพื่อให้ทักษิณสนับสนุนเงินหรือเปล่าครับ - ทำให้เรารู้ความจริงอะไรอีกมาก จากคุณ : p (shikima) - [ 27 พ.ค. 49 10:01:01 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สนธิก็เคยเชลียร์นายกฯหนิ อิอิ ..แต่ว่าเรื่องกลุ่มทุนเก่ากับกลุ่มนิวอิโคโนมี นี่น่าจะจริง ผมว่าความเคลื่อนไหวพวกนี้มีกลุ่มทุนขนาดใหญ่คอยชักนำอยู่แล้ว ...... จากคุณ : subzero - [ 27 พ.ค. 49 10:06:44 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ผจก เปลี่ยนไปจริงๆ  สรุปว่า สุดท้ายทักษิณก็ทำให้ สนธิ ไหลไปรวมกับ กลุ่มทุนเก่า และทำหน้าที่เป็นนายทวารดึงแนวร่วมที่ไร้ปัญญาแต่ชอบไหลไปตามกระแสเข้ามาเป็นสายน้ำสายใหญ่แห่งการ มั่ว จนได้ ใช่มั๊ย จากคุณ : kaybrab - [ 27 พ.ค. 49 10:19:39 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คนชอบสนธิ เคยถามตัวเองไหมว่า ทำไมสนธิเมื่อปี 2547 กับสนธิ ปี2548/49 จึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ ข้อมูลที่ฟังจากสนธิคนเดียวกันนี้ทำไมจึงตรงกันข้ามเลย ...คนเยี่ยงนี้เชื่อถือได้อย่างสนิทใจจริงๆหรือ ...เรากล้าเอาข้อมูลของคนที่เชื่อถือไม่ได้มาเป็นสาระในการคิดต่อๆไปหรือ ...เรากล้าเอาข้อมูลจากคนที่เชื่อถือไม่ได้มาเป็นเครื่องมือในการตัดสินใจกับชาติของเราหรือ จากคุณ : อาหนวด - [ 27 พ.ค. 49 11:39:03 ]