ความคิดเห็นที่ 1 *โลกไม่น่าอยู่แล้ว...............ฤาเธอ ภัยพิบัติถล่มเสมอ................หมู่นี้ โหดใดเทียบมนุษย์เออ..........จิตอนาถ กรรมบาปผิดชั่วชี้..................ทู่ซี้ต่างทน* ************************************* เขียนตอนเที่ยงก่าๆ ก่อนออกไปรับประทานข้าว สวัสดีคุณลำน้ำค่ะ ระยะนี้ดูอะไรๆรอบตัว หม่นไปซะมากมาย น่าเบื่อหน่ายค่ะ ทนนะคะ ทนอย่างเดียวเลย . จากคุณ : ชญานุช - [ 29 พ.ค. 49 12:13:36 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สมัยก่อนน้ำท่วม.......ธรรมดา สรรพสัตว์พึ่งพา.........อิ่มท้อง น้ำมามดถูกปลา.........เขมือบ น้ำลดมดคอยจ้อง.......กัดเนื้อกินคืน สวัสดี ครับ พี่ชญานุช ปัจจุบัน มดกับปลา คงมึนตึ้บ ไม่รู้ไผเป็นไผ จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 29 พ.ค. 49 13:38:46 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ฝนตกน้ำท่วมบ้าน .......... บนดอย โคลนถล่มทิ้งร่องรอย ..... ร่ำไห้ ธรรมชาติรุกคืบคอย ....... ไล่ล่า มนุษยชาติจงได้ ............ ตระหนักพร้อมต่อกร สวัสดีค่ะคุณลำน้ำ C และพี่นุช ติดตามดูภาพข่าวอุทกภัยครั้งนี้แล้วทั้งเศร้าและใจหาย ไม่อยากให้เหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้เกิดขึ้นอีกเลย จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ 29 พ.ค. 49 13:53:16 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ธรรมชาติเรียกร้อง.......เอาคืน มนุษย์ผู้ฝ่าฝืน.............ต่อสู้ ไม่อยู่ร่วมหยัดยืน........ผืนป่า ซ้ำซากที่รับรู้.............เดือดร้อนลำเค็ญ สวัสดี ครับ คุณชารา ธรรมชาติต่างหากที่ถูกไล่ล่า จากน้ำใจของมนุษย์ จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 29 พ.ค. 49 14:31:30 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เลนโคลนตมถล่มบ้าน.....เรือนพัง มันบ่มีจีรัง.....................อย่างนี้ มีคนชั่วโอหัง..................หมาหมู่ รุมโค่นชาติเหยียบขยี้.......ไม่ยั้งเลยหนอ? จากคุณ : เมื่อไรปชป.และสาวกจะเลิกฏอแล๋ (chatmar) - [ 29 พ.ค. 49 14:44:20 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เลนโคลนตมสาดเปื้อน...ท่วมเมือง ถล่มด้วยขัดเคือง..........เรื่องร้อน สกปรกเปล่าเปลือง........ผงซัก ฟอกเอย ถูขัดไม่สะท้อน.............ภาพซ้อนลายเงา สวัสดี ครับ คุณเมื่อไรฯ  (chatmar) จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 29 พ.ค. 49 15:24:53 ]

ความคิดเห็นที่ 7 จันทร์สวัสดิ์ค่ะ คุณลำน้ำฯ และทุกๆ ท่าน ฟ้าหมองหม่นมืดครึ้ม........อีมครึม อากาศเศร้าปนซึม..................ซ่อนซ้อน ผู้คนบ่นกันพึม.......................ลั่นพรั่น พรึงนอ อาเพศเหตุเดือดร้อน...............ป่วนล้วนล้างผลาญ     ลานเสวนากระทู้แรก.......วางราง กลบทแบบเจือจาง................เรื่อยเจื้อย ตามมาต่อท้ายหาง...............แถวแน่ว อืดอาดเป็นงูเลื้อย.................ล่าช้าเช่นเคย  *(ก้านต่อดอก)* จากคุณ : อังศนา - [ 29 พ.ค. 49 15:31:38 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ๏ ฤๅธรรมชาติชะล้าง.....ชะรอยมนุษย์ แรกเริ่มรึสิ้นสุด.............โศกเศร้า รวนโลกจักถึงจุด...........จำกัด   โลกเวย ภัยพิบัติรบเร้า...............เร่าร้อนวิญญา  ๚ ๏ โฉมหน้าวิกฤติกล้ำ......กลับกลาย บริบทต้นชนปลาย..........ตรรกสิ้น ผู้คนต่างล้มตาย............ตามเหตุ น้ำแยกร่างเป็นชิ้น..........ยากชี้สมานฉันท์  ๚ ๏ อันมนุษย์มิก่อเกื้อ.......กรณี ธรรมชาติชิงชังตี............ตอบโต้ เกณฑ์กรรมกับวิถี...........เวียนว่าย ฤๅขีดลิขิตโป้-...............ปดแม้แลเห็น ๚ะ๛ _______________ รำพันริมลำน้ำ ฯ พื้นที่ของโลกชักอุดมสมบูรณ์ไปด้วยความโศกเศร้าขึ้นทุกขณะ ไม่นับสงครามรบราฆ่าฟัน  ก็ภัยพิบัตินี่แหละครับที่สะท้อนผลพวงต่างๆนานา จากการกระทำของมนุษย์ผู้เห็นแก่ได้ทั้งหมดทั้งมวล โดยที่มองไม่เห็นทางออกให้มนุษย์หลุดพ้นได้เลย ไม่ว่ามุมไหน ! เหตุการณ์อุทกภัยสดๆร้อนๆในบ้านเมืองเราก็เช่นกัน เราเรียกร้องและรับรู้กันมามากแล้ว   ถึงผลแห่งการตัดไม้ทำลายป่า แต่เราไม่สามารถยับยั้งการกระทำเหล่านี้ลงได้นับแต่อดีต มันเหมือนเป็นภาวะปกติของกลุ่มนายทุนผู้ไม่รู้ร้อนรู้หนาว โยกเยกเอย น้ำตาท่วมโลก มนุษย์ใจงอ กอดคอสับโขก ฯ จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 29 พ.ค. 49 16:01:03 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ฟ้าหมองหม่นมืดครื้ม........ทะมึนเงา เงื้อมโหง่นเหมือนภูเขา......ตระหง่านง้ำ อาเพทเหตุบรรเทา...........เมื่อไหร่ นาแม่ พรึงพรั่นเหวหุบถ้ำ............ซ่อนใต้เงาดำ แปรปรวนวิปริตล้วน...........แปรผัน แปรเปลี่ยนเวียนหมุนพลัน...ปรับด้าน อากาศป่วนมหัน-...............ตภัยสู่ มนุษย์สั่นสะท้าน.............โลกร้าวรุนแรง ยามเย็นสวัสดิ์ ครับ พี่อังศนา จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 29 พ.ค. 49 16:03:39 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขุนเขาสูงเสียดฟ้า....ป่าฝน ชื่นฉ่ำลำสายชล......แม่น้ำ ฤดูเปลี่ยนเวียนวน....วัฏจักร น้ำหลากมากก็ช้ำ.....ขอดแห้งก็ขมใจ อ่างเก็บน้ำเขื่อนกั้น....ธารา ยามสุขบ่นำพา.........เรียกร้อง ยามทุกข์สิโหยหา.....เพรียกกู่ หาเพื่อนมาปกป้อง... หลีกพ้นอุทกภัย ธรรมชาติโหดร้าย..... ..จริงหรือ เมื่อมนุษย์หยุดนับถือ....ป่าแล้ว ก่อกรรมล่วงตีนมือ.......ย่ำเหยียบ ราบเรียบถางถากแผ้ว...โล่งโล้นเตียนเขา สวัสดี ท่านจอมมารฯ จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 29 พ.ค. 49 17:21:43 ]

ความคิดเห็นที่ 11 นานาสิ่งแวดล้อม.............รอบตัว เฉกเช่นในครอบครัว.......พี่น้อง ธรรมชาติพันพัว..............ร่วมอยู่ สันติสุขจักต้อง...............เกิดด้วยสมดุล จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 29 พ.ค. 49 17:28:41 ]

ความคิดเห็นที่ 12 .                                        สวัสดีครับทุกท่าน เข้ามาร่วม ลานเสวนา บทที่๑ ขอรับ ๐ ลานเสวนาเริ่มแล้ว           บทปฐม หวังมิตรประกาศคารม          กลั่นกล้า สองเก้าพฤษภาคม             วันแรก พุทธศักราชสองห้า-            สี่เก้าปีจอ ฯ ๐ ขอสะบัดหยาดหมึกแต้ม    ยุคสมัย หวังสถิตย์อักษรใจ              สว่างจ้า จารึกเจตนาใส                    ระบายโลก หวังวิปโยคยุติบ้า                 โศกใบ้สลายเสีย ฯ -- บทที่๑ -- ๐ จะน้ำเหนือน้ำตาหรือน้ำใต้ แม้น้ำภัยใหลท่วมนองไปทั่ว แต่น้ำใจคนไทยใสไม่มัว ไม่ต้องกล้วน้ำไหนจะไปซับ... เซ่อ... น้อมบันทึก ----------------------------------------------------- จากคุณ : xers - [ 29 พ.ค. 49 17:37:06 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เคยฟังเพลง  น้ำท่วม ดีกว่าแล้ง ผมว่าแห้ง แล้งนี้ ยังดีกว่า มิต้องหลบ พบซุง ที่พุ่งมา หรือโคลนป่า มากับดิน สิ้นตัวพลัน บ้านเล็กใหญ่  ไร่สวน รวนไปหมด ความรันทด ท้อใจ ให้โศกศัลย์ นับแต่นี้ อยู่กิน ดิ้นวันวัน รอแบ่งปัน เฉพาะหน้า พาห่วงใย........ ขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้ ที่เริ่มก่อน ท่านจอมมารขอบคุณ หลายๆ ที่ทักเรื่องผมแหกโค้ง จากคุณ : น้องทิมมี่ - [ 29 พ.ค. 49 19:40:56 ]

ความคิดเห็นที่ 14 โจรปล้นความเดือดร้อน......ดารดาษ ไทยลักไทยระบาด.............บาปช้า ใครเผลอพ่อดเก็บกวาด.......ขโมยกลับ เพิ่มทุกข์ทุกหย่อมหญ้า........ทุกเหย้าทุกข์เรือน ฯ __________ อีกหนึ่งปัญหาครับท่านลำน้ำ ฯ แล มิตรสหาย ขโมยขโจรที่มาพร้อมความเดือดร้อนทุกทีไป   อาศัยช่องทางความชุลมุนวุ่นวาย ความไม่พอดีของคน  จนขาดยั้งคิดก็มีส่วน จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 29 พ.ค. 49 19:45:45 ]

ความคิดเห็นที่ 15 19.08 น. ๐ ปี 42 น้ำท่วมทั้ง            เมืองจันท์ เขาถล่ม จมน้ำกัน             ทั่วหน้า ธรรมชาติปรับใหม่ มัน       มีเขื่อน เพิ่มแน "เขื่อนปากพลวง" น้ำฟ้า     เก็บไว้ให้สวน ๐ ควรระวัง หากรู้             สมดุล "เพิ่มลด" ระวัง "คุณ         โทษ" ไว้ ป่า-น้ำ ลด-เพิ่ม หนุน         ปรับสภาพ ใหม่แน ดิน รับน้ำไม่ได้                ก็ต้องถล่มพัง ๐ สร้างป่า สร้างแหล่งน้ำ    ที่ใด ต้องปรับสมดุล ไป            ทุกด้าน ปรับใหญ่เกิดเภทภัย          พิบัติ ค่อยปรับค่อยเปลี่ยน บ้าน   อยู่ขึ้นคานหาม ๐ ถามต่อว่าปรับแล้ว         ดีไหม ก่อนเกิดอุทกภัย              สุดแล้ง มีเขื่อนต่างดีใจ                ทุกหมู่ ก่อนสุข ทุกข์หน้าแห้ง       เหี่ยวหน้าเหมือนผี ๐ ตอนนี้ฝนฟ้าตก            ตามฤดู ฝนอุดมพรั่งพรู                จากฟ้า น้ำไม่ขาดคลองคู             เต็มฝั่ง น้ำไม่ท่วม แต่ บ้า            โคตร"น้ำมัน"แพง 19.34 น. ........................................................................................................... ภัยธรรมชาติ...เกิดจากธรรมชาติเปลี่ยนสมดุลครับ อยู่กับธรรมชาติ...ไม่รักษาสมดุลของธรรมชาติ...ก็ต้องยอมรับชะตากรรม ธรรมชาติปรับสมดุลใหม่แล้ว...อย่าให้สมดุลนี้เปลี่ยนอีก รอการปรับสภาพให้เข้าสมดุลสักสองสามปี...จะดีเองครับ ...เหมือนสวนนกผี ที่กิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ เมืองจันทบุรีไง... ปีนี้ฝนฟ้าชุ่มฉ่ำ สามสี่วันตกลงมาที ไม่ต้องติดเครื่องรดน้ำ ........................................................................................................... มาร่วมเล่น" ลานเสวนา " ด้วยใจเต็มร้อยครับท่าน ลำน้ำ C...และสหายกวีทุกท่าน ........................................................................................................... มาแก้ไขฉันทลักษณ์ พลาดตำแหน่งเอกที่...ป่าเพิ่ม น้ำเพิ่ม หนุน     ปรับสภาพ ใหม่แน...ครับผม แก้ไขเมื่อ 29 พ.ค. 49 20:15:58 จากคุณ : นกโก๊ก - [ 29 พ.ค. 49 19:50:35 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ปฐมบทเริ่มต้น.........เสวนา เพื่อนมิตรจำนรรจา....ตอบโต้ ประเด็นคั่นเวลา........นำร่อง ฝนตกบ้านพังโย้.......เดือดร้อนอุทกภัย สวัสดี ครับ คุณ เซ่อ  คุณน้องทิมมี่ ท่านจอมมารฯ ท่านนกโก๊ก และ สมาชิกทุกๆท่าน ขอเชิญคุยกันตามอัธยาศัย นะครับ จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 29 พ.ค. 49 21:32:19 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อยุ่ใต้ฟ้ากลัวอะไรไปกับฝน เกิดเป็นคนเมื่อถึงที่ก็ล้มหาย สักวันหนึ่งทุกคนก็ต้องตาย แต่ความหมายต่างกัน ณ วันนั้น จะน้ำท่วมฝนแล้งล้วนทุกข์ยาก ความลำบากยากจนทนบากบั่น เกิดมาแล้วเรียนรู้สู้ฝ่าฟัน ความขยันจักนำชัยมาให้เอง จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 29 พ.ค. 49 21:56:26 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ๐ ธรรมชาติบ่งชี้........สมดุลย์ ตัดป่าไม้ทารุณ........สัตว์น้อย เอาเปรียบเทียบนายทุน......เงินหมื่น ล้านแฮ เขาตัดเขาต่อถ้อย......หลบลี้หนีสูญ ๐ ธรรมดาป่าไม้.........ชายเขา หากปลูกเหลื่อมหลบเงา........รุ่มร้อน เห็นเมฆเลื่อนฟ้าเทา......ครุมคร่อม เขาแล เตรียมหลบหนีไม้ท้อน.......ท่อนแท้ซุงถลา ๐ ธรรมดาแค่สัตว์น้อย.......แมวเหมียว นอนหลับอืดตัวเดียว.......บอกได้ ฝนตกนกรังเทียว........บินกลับ มดไต่กำแพงไซร้...........บอกได้มีฝน ๐ เอาเงินแปดสิบล้าน.......เตือนภัย ดูมดแดงคันไฟ.......ไต่ด้วย ดูแมวหลับหวดใน.......หวดนิ่ง เขาพยากรณ์ฉ้วย..........แน่แท้แค่สลึง จะเอาเงิน 80 ล้านไปสร้างเครื่องเตือนภัย สูญป่าว ลองให้ประชาชนเลี้ยงแมว เลี้ยงมด จะดีกว่าไม่ต้องใช้สักบาทเดียว ชาวมอร์แกนรอดมาได้อย่างไร จะไม่ใช่ ภูมิปัญญาหรอกรี หมั่นสังเกตุ และศึกษา  แมวนอนหวด แมวซึม มดคาบไข่ ฝนจะตก 80ล้าน วัวหายล้อมซุง ซุงมาเงินมา จริงมั๊ยครับท่าน จากคุณ : สามเอส - [ 29 พ.ค. 49 22:40:08 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อุทกภัยท่วมแล้ว.............มีเฮ จำหน่ายจ่ายแจกเท.........ทุบทิ้ง เล่นล้างไพ่เก้าเก.............โกหก คอรับชั่นกลอกกลิ้ง..........กลบคลุ้งกลิ่นคาว สวัสดีครับ ท่าน 3 เอส มีเรื่องราวมากมาย ที่ไม้ซีก งัดไม้ซุงไม่ได้ เคยสงสัยไหม ครับ "เขื่อน"บางแห่ง ถึงต้องเรียกว่า"ฝาย" เป็นภาษา ลูกหลานศรีธนญชัยใช้เลี่ยงบาลี ครับ ฝาย-อาคารทดน้ำที่ยอมให้น้ำไหลข้ามผ่านได้ เวลาก่อสร้าง ไม่ต้องศึกษาผลกระทบทางนิเวศน์วิทยาสิ่งแวดล้อม  เพื่อนก็สร้างกันโครมๆ ผลที่ตามมา จึงมี กรณี ร้องเรียนไม่จบไม่สิ้น ฝายราศีไศล เป็นอาทิ เคยเห็นไหม ครับ ถ้านึกไม่ออก รูปร่างเหมือนกันทุกอย่าง กับเขื่อนปากมูล ,เขื่อนเจ้าพระยา ครับ แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 49 02:24:48 จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 30 พ.ค. 49 02:21:38 ]

ความคิดเห็นที่ 20 Dam safety ติดตั้ง..........มากมาย เป้าล่อให้วัวควาย............ขวิดเขวี้ยง เครื่องประดับเรียงราย......ผุกร่อน มีเหตุค่อยเสกเพี้ยง.........ร่ายร้องเรียกมา ปกติเขื่อนใหญ่ๆ เขาจะ มี อุปกรณ์ วัดตรวจสอบความปลอดภัย อยู่เบื้องต้นหลายอย่าง  เหมือน คนเราจะเจ็บป่วย ก็ต้องมีสิ่งบอกเหตุ แต่ปัญหาคือ ขาดการดูแลและเอาใจใส่ เพราะ คิดว่าไม่มีประโยชน์  ปล่อยให้ชำรุดเสียหาย  เหมือนถังดับเพลิง ที่แขวนโชว์ไว้ แต่ไม่ตรวจสอบน้ำยา  จะรู้ ก็เมื่อไฟไหม้หมดบ้าน แล้ว . จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 30 พ.ค. 49 02:39:30 ]

ความคิดเห็นที่ 21 05.48 น. ๐ น้ำท่วม โทษป่าไม้            เขาเขิน ขาสะดุด โทษทางเดิน          รกแท้ อกหัก โทษเขาเมิน              ไม่รัก แพ้เลือกตั้ง โทษแพ้            เพราะด้วยโดนโกง ๐ โคลงเคลง กันล้มคว่ำ        คะมำหงาย ใครเล่าจะอธิบาย                 สรุปได้ มากหมอมากความ หมาย      หายนะ โลกนรกหมกไหม้                ใช่ล้วนตัว"คุณ" ๐ "บาปบุญ คุณโทษ" นั้น      โทษใคร กระจ่างแจ้งแก่ใจ                 ท่านรู้ วิกฤตที่เกิด มีไหม                มันเกิด เองฤๅ โอกาสจากวิกฤต ผู้              ฉลาดรู้เรียนกัน ๐ ฝันร้าย หายนะ ล้วน          เราเอง ร้องเล่นเต้นรำ เพลง             เร่งเร้า พูดมากปากเปียก เกรง          ปากเปื่อย หยุดทุกอย่าง แล้วเข้า           ร่วมด้วยช่วยกัน 06.13 น. .......................................................................... เรียนรู้วิทยาศาสตร์  ความรู้ใหม่ได้จากปฏิกริยาวิกฤต เกิดอาเภทภัยพิบัติ  เมื่อธรรมชาติวิกฤต ชีวิตไม่สมหวัง จึงคิดสร้างวิกฤตเพื่อโอกาส ..........................................................................       คนโง่รอโอกาส...คนฉลาดสร้างโอกาส เราฉลาดเรียนรู้กันจริงหรือ...ไยต้องสร้างวิกฤตเพื่อโอกาส แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 49 06:31:16 จากคุณ : นกโก๊ก - [ 30 พ.ค. 49 06:29:28 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อังคารสวัสดิ์.. ลานเสวนาสภาร้อยกรอง ฝน-กระหน่ำหนักต้อง......ตามกาล น้ำป่า-แรงมหาศาล...............ทะลักล้น โคลน-ไหลถล่มแหลกลาญ......ราบเรียบ ซุง-โผล่ลอยท่วมท้น...............อ่วมแท้ประชาไทย ..วงจรวิบัติที่เกิดขึ้นซ้ำซาก ไม่มี รมว. หน้าไหนเคยคิดแก้ให้ตรงจุด การลักลอบตัดไม้ทำลายป่าเกิดขึ้นมานาน และก็คงจะมีอยู่ต่อไป จนกว่าจะไม่เหลือป่าให้มันตัดกัน ..จะมีใครซักกี่คนที่จะกล้าเถียงได้เต็มปากเต็มคำด้วยความเชื่อมั่น อย่างจริงใจว่า อุทกภัยที่ตามมาด้วยโคลนถล่ม ซุงทะลักทุกครั้งนี่ ไม่ได้เป็นผลพวงของการลักลอบตัดไม้ในป่า จากคุณ : อังศนา - [ 30 พ.ค. 49 09:14:57 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ภูมิปัญญาแต่ครั้ง..........บุราณ สัมผัสแห่งวิญญาณ........สัตว์รู้ สำเนียกบ่งอาการ.........บอกเหตุ อาเพทเตรียมต่อสู้........พรักพร้อมทันควัน ปัจจุบันวิปริตด้วย..........แปรผัน สัตว์ระส่ำงุนงัน.............ยอกย้อน ใช่นรกสวรรค์...............กำหนด มนุษย์ทำเดือดร้อน.........กลับหน้ากลอกหลัง -ปลาเคยผสมพันธุ์และวางไข่เป็นฤดูกาล ถูกมนุษย์ควบคุมวงจรชีวิต เป็น สัตว์จีเอ็มโอ จนไม่รู้จัก วิถีธรรมชาติแล้ว -กบเคยร้องลั่นทุ่งเดือนหก เดี๋ยวนี้ไม่กล้าร้อง (โอษฐภัยแท้ๆ กรรมของกบ) -แม้แต่สัตว์ตัวน้อยๆอย่างมดแดงก็ยังโดนหลอก... จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 30 พ.ค. 49 10:11:28 ]

ความคิดเห็นที่ 24 หยุดทุกอย่างร่วมด้วย...........ช่วยกัน เปลี่ยนวิกฤติเร็วพลัน............คิดสร้าง เป็นโอกาสสมานฉันท์..........สันติ เมืองบ่ล่มบ่ร้าง...................ฉลาดแก้ปัญหา โอกาสมีบ่ใช้.................เหมาะสม วิกฤติของสังคม.............ซับซ้อน เก็บกดค่อยสะสม...........คุกรุ่น ระเบิดจนสะท้อน............สะท้านสะเทือนเมือง บางครั้งนักการเมืองเปลี่ยนโอกาส กลับเป็นวิกฤติ  เพื่อผลประโยชน์อย่างเดียวล้วนๆ ไม่มีอะไรเคลือบแฝง จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 30 พ.ค. 49 10:46:38 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ฝน-กระหน่ำเริ่มแล้ว............ฤดูกาล ซุง-โผล่โชว์หลักฐาน...........รากต้น น้ำป่า-ซัดแหลกลาญ...........เก็บกวาด โคลน-กลบหลบบ่พ้น...........ทะลักล้นประจาน อานอ่วมท่วมปากอ้า............มองเห็น ลิ้นไก่ระริกเหม็น................อวดโอ้ หลบเลี่ยงเบี่ยงประเด็น........เซแถลก หน้าแหกเพราะปดโป้..........ภาพฟ้องประชาชน จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 30 พ.ค. 49 11:09:30 ]

ความคิดเห็นที่ 26 12.45 น. ๐ ปี 42 สส. ร้องว่า             เขาถล่ม น้ำท่วม ท่อนซุง ถม            ทั่วพื้น เลือกตั้ง ต่อมา ขม             ขื่นเข็ด สอบตก ด้วย น้ำตื้น            จุดใต้กลางวัน ๐ นั่นล้วนไม้เนื้ออ่อน          ชัดชัด รอยไม่มีถูกตัด                  สักต้น พื้นที่อุทธยาน รัฐ               อนุ- รักษ์แล ตาบอดสอดเห็น ด้น            ด่าได้ด่าดี ๐ นกผี กล้ากล่าวอ้าง          ตามจริง บ้านนอกคอกนา อิง            กล่าวอ้าง ป่าเขาแหล่งที่สิง                สถิต ล้วนรักษ์ ป่า พ่อสร้าง          รักษ์น้ำแม่หลวง ๐ หวงแผ่นดิน ไม่ทิ้ง           ถิ่นฐาน ปักหลักร่วมประสาน            จิตสู้ รู้จักมักจี่ จาน                    เจือช่วย คนต่างถิ่น ผู้ "รู้                  มาก"ล้วนไปเลย ๐ "ทรามเชย" ใครจักให้       ทรามเชย อุทกชะล้าง เผย                 กระจ่างแจ้ง สื่อยกเมฆอ้าง เคย             เห็นชัด แล้วฤๅ เมฆหมอกบังใจ แกล้ง         ไม่รู้ไม่เห็น 13.21 น. .......................................................................... ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย...สมัยนี้ข่าวสารกระจายเร็วนัก พื้นที่ป่าอนุรักษ์...ท่านหรือจักกล้าลักลอบตัดไม้ขายกิน ด้วยความเคารพ...เห็นจริงด้วยตา...ปากว่าตามที่เห็นจริง .......................................................................... แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 49 13:32:57 แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 49 13:27:02 จากคุณ : นกโก๊ก - [ 30 พ.ค. 49 13:24:17 ]

ความคิดเห็นที่ 27 สามปีเอลนิโญ่..................มาเยือน ปีสี่ลานิญ่ามาเตือน............ด้วยน้ำ วนเวียนอยู่เช่นนี้................นานนัก  แล้วเฮย แล้งสามน้ำหนึ่งนั้น.............น่ารู้เป็นไป ฝนตกขี้หมูไหล.................รวมกัน คนจันรัยร้อยพัน................เหล่าพวก รวมหัวยึดเขตขัณฑ์............เกือบได้ แล้วนา รอวันขี่ควายไล่.................เข้ายึดครองเมือง น้ำตา บ่าท่วม นาคร ท่วมบ้าน สัญจร บ่ได้ เมืองเปี่ยม น้ำป่า บ่าไป มาใหม่ น้ำบ้า มาเมือง จากคุณ : ไม่เอาถ่าน (เตาฟืน) - [ 30 พ.ค. 49 14:19:13 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ข่าวกระจายสื่อสร้าง..........กระจุย ยกเมฆลอยเหมือนปุย........นุ่นพลิ้ว หัวข้อข่าวโม้คุย................ขึ้นพาด ยับย่นขมวดคิ้ว.................พลิกเนื้อหาความ วางโอเวอร์แอ้คชั่น.............หวือหวา สายด่วนรายงานมา..........ว่าไว้ โอละพ่อบางครา..............ครับท่าน เติมแต่งใส่สีให้................น่าค้นอ่านตาม เมืองสยามเขตกว้าง..........ไพศาล ตำหนิในตำนาน..............เล่าแจ้ง วิเคราะห์พินิจทาน.............ตรวจสอบ รัก-ชอบมีกลั่นแกล้ง........เท็จข้อมูลเสนอ คนใกล้ในพื้นที่...............เหตุการณ์ แจ้งชัดมีหลักฐาน............ยกอ้าง คนไกลสื่อผ่านสาร..........สนเทศ สังเกตุประมวลสร้าง........จากข้อมูลขยาย หลายเรื่องราวผ่านพ้น......พบเห็น น้ำท่วมชั่วเช้าเย็น............ป่าวร้อง พื้นที่ต่ำจำเป็น................ระบายร่อง เล่นข่าวว่าจักต้อง............โยกย้ายเมืองหนี ด้วยความเคารพ ท่านนกโก๊ก แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 49 14:49:17 จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 30 พ.ค. 49 14:43:59 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ธรรมชาติเวียนวนจนปวดเฮด คอยสังเกตสังกาไม่ถนัด ด้วยวิถีเปลี่ยนไปมองไม่ชัด ตัวชี้วัดคืออะไรก็ไม่รู้ บ้างแห้งแล้งติดต่อสี่ห้าปี หรือบางทีท่วมล้นจนหดหู่ จะโชคดีโชคร้ายต้องลองดู มนุษย์ผู้เก่งกาจฉลาดนัก ฝนตกขี้หมูไหลมารวมกัน คนจันรัยร้อยพันมาหาญหัก รวมหัวยึดเขตขัณฑ์กันคึกคัก ขี่ควายควักไล่ออกไปนอกเมือง น้ำไหลไฟดับสวัสดิ์ คุณ ไม่เอาถ่าน (เตาฟืน) จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 30 พ.ค. 49 16:18:30 ]

ความคิดเห็นที่ 30 16.11 น. .......................................................................... ความคิดเห็นที่ 26   12.45 น. ๐ ปี 42 สส. ร้องว่า             เขาถล่ม น้ำท่วม ท่อนซุง ถม            ทั่วพื้น เลือกตั้ง ต่อมา ขม             ขื่นเข็ด สอบตก ด้วย น้ำตื้น            จุดใต้กลางวัน                            ฯลฯ ๐ ฉันทลักษณ์ อักขระ สะกดอาถรรพ์ ฉันทะลัก ดึงดัน ไร้...สามัญ...สำนึก ขออภัย ท้ายวรรคหนึ่ง พึ่งรู้สึก เอก...ถล่ม...จนสะอึก นึกละอาย ๐ ลำน้ำชี อีสานฉ่ำ น้ำใจชื่น ฝนถล่ม ท่วมพื้น ลื่นล้มหงาย กระทู้ "ลานเสวนา" อย่าได้ พังทะลาย นกใจหาย...ไม่สายเกิน...แก้ไขกัน .......................................................................... ขอแก้ไขโคลงสี่ กรอบ คห. 26 ด้วยสามัญสำนึกใฝ่สูงครับ .......................................................................... ๐ ปี 42 สส. ร้องว่า             เขาขรม น้ำท่วม ท่อนซุง ถม            ทั่วพื้น เลือกตั้ง ต่อมา ขม             ขื่นเข็ด สอบตก ด้วย น้ำตื้น            จุดใต้กลางวัน 16.26 น. จากคุณ : นกโก๊ก - [ 30 พ.ค. 49 16:30:03 ]

ความคิดเห็นที่ 31 16.37 น. ๐ นกผกผัน คน...จันท์รัย...ไร้สามัญสำนึก โคลงตกผลึก อาถรรพ์ใจ ใส่กลอนกัก ล้อกลอนใจ ไหลลื่น สะอื้นฮัก น้ำทะลัก ดินทะลาย ไม่อายเลย ๐ ชีวิตรั้น ผ่านสังคม ที่ล้มเหลว โดดผ่านเหว หายนะ มาเอื้อนเอ่ย เหลียวหลังดู หมู่สหาย หญิงชายเอย อย่าวางเฉย ช่วยขยับ สับกลอนใจ ๐ "น้ำไหล ไฟดับ" จับมาคิด กายใจจิต...ชีวิตนี้...มีหลงใหล "น้ำถล่ม เขาพัง" ฟังความนัย น้ำลายปาก ถล่มใส่ใคร เขาก็พัง 16.57 น. .......................................................................... คำคมคนโบราณ...ที่ท่าน อุปมาอุปมัย ไว้... ...มันไม่น่าจะง่ายตามที่ใจคิด...ใช่หรือไม่ .......................................................................... คารวะสวัสดีท่าน ลำน้ำ C ด้วยความเคารพ เช่นกันครับ แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 49 17:15:20 แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 49 17:12:31 แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 49 17:09:12 แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 49 17:08:17 จากคุณ : นกโก๊ก - [ 30 พ.ค. 49 17:07:26 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ครืนครืนเสียงกึกก้อง ...... กลางไพร ปลุกนิทราหลับใหล ........ ลุกร้อน น้ำซัดทุกสิ่งไป ............. เป็นขยะ เสียงระงมสะท้อน .......... หวีดร้องใจสลาย ไม่เหลือทุกสิ่งสิ้น ............ หมดสูญ เศษซากความสมบูรณ์ ...... ทับท้น น้ำตาหลั่งอาดูร ............... ราวดับ มองรอบกายคิดค้น .......... ค่ำแล้วนอนไหน สวัสดีค่ะคุณลำน้ำ C และทุกท่าน ก็ได้แต่หวังว่าเหตุการณ์ร้ายๆแบบนี้จะไม่เกิดซ้ำๆอีก ทุกฝ่ายหันหน้ามาร่วมมือร่วมใจกันแก้ไขปัญหา ด้วยความจริงใจ จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ 30 พ.ค. 49 20:07:54 ]

ความคิดเห็นที่ 33 น้ำตารินหลั่งล้น ....... จากตา ร้องร่ำไห้โหยหา ....... ทุกข์เศร้า น้ำป่าพัดเรือนพา ...... พิบัติ พาลหมดอาลัยเฝ้า .... ฝากฟ้าฝากฝน จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ 30 พ.ค. 49 20:24:44 ]

ความคิดเห็นที่ 34 20.25 น. ๐ เดือนเคียงดาว (เรา)เข้าคู่        เคียงใจ จะทุกข์ยากเพียงใด                  ก็สู้ สึนามิ ถล่มใน                          คราก่อน ไทยเทศ ประจักษ์ รู้                  ทึ่งน้ำใจไทย ๐ เหนือใต้ออกตก ล้วน             ระทม ฟังข่าวแล้วขื่นขม                     แทบท้อ เมืองกรุงกลับระงม                   ด้วยศึก น้ำลายแน ไอ้โม่ง ส่งลิ่วล้อ                      ป่วนบ้าน"การเมือง" ๐ เสื้อเหลืองเสื้อฟ้า โอ่             อัดกัน ศาลสถิตยุติธรรม์                    โยกโย้ ร่วมด้วยช่วยกัน วัน                  นั้นจะ มีฤๅ ใต้ตบเหนือ เหนือโต้                ตอบด้วยน้ำลาย ๐ ไม่อาย ต่างชาติบ้าง             หรือไร ฉลองสิริราชบัลลังก์ ใคร          คิดบ้าง อุตรดิตถ์อุทกภัย                    ใต้เดือด ร้อนแล อำนาจบ้า อย่าอ้าง                  ปกป้องราชบัลลังก์ 21.29 น. จากคุณ : นกโก๊ก - [ 30 พ.ค. 49 21:36:33 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เคลื่อนคลาดคลาดเคลื่อนแล้ว....ลานเส -  วนาเฮย รับลูกลูกรับเขว.......................ขัดข้อง คลุมครอบครอบคลุมเกว...........ไกวแกว่ง คิวผิดผิดคิวคล้อง....................ค่อยคล้อยคอยขืน  ฯ ___________________ คิวปิดสวัสดิ์ท่านลำน้ำ ฯ จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 31 พ.ค. 49 08:06:05 ]

ความคิดเห็นที่ 36 08.51 น. ๐ ฝนตกน้ำท่วมบ้าน - ฝนต้านน้ำท่วมบก...ยกเสวนา ไม่รู้ว่า...คิวผิด - คิดผิว...เผิน เมืองพัง - มั่งเพื่อง..เรื่องขัดเขิน หากบังเอิญ คลาดเคลื่อน เตือนติงกัน ๐ คนเมืองจันท์ คำ...จันรัย...ทำให้เพี้ยน ฉันทลักษณ์ เลยเปลี่ยน เป็นหุนหัน สะกดคำ ทำให้เลี้ยว "คด" เคี้ยวกัน ขอบคุณที่ สะกดอาถรรพ์ ทันท่วงที 08.58 น. อีโก้สวัสดิ์ครับท่าน  จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร จากคุณ : นกโก๊ก - [ 31 พ.ค. 49 09:05:04 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอขอบคุณ ผู้เข้า ร่วมเสวนา พี่ชญา นุชนั้น อย่าหม่นหมอง คุณชารา คงเลิกเศร้า น้ำตานอง chatmer ผู้เกี่ยวข้อง ปอชอปอ อังศนา ร้อยเรียง เคียงประสาน ท่านจอมมารฯ ณ หมู่บ้าน มอออษอ คุณxersน้อม บันทึก ในจอมอ น้องทิ่มมี่ ร้องคลอ ด้วยบทเพลง ท่านนกโก๊ก ผวนผัน อาถรรพ์พ่อ ท่านสามเอส ถักทอ โคลงแสนเก่ง ไม่เอาถ่าน เตาฟืน ช่วยบรรเลง ลำน้ำฯเอง ขอรี่ไหล ไปเรื่อยเอย ท่วมทุ่งสวัสดิ์ แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 49 10:33:48 จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 31 พ.ค. 49 10:28:57 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ผมเสนอความเห็นเพิ่มเติมสักนิด จากที่เราคิดตั้งกระทู้เสวนาขึ้นมาก็เพื่อระดมความคิดเห็นในเชิงร้อยกรอง http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4397008/P4397008.html รวมถึงร่วมกันจัดระเบียบกระทู้เพื่อการเสวนาจะทำได้ง่ายขึ้น เมื่อมีการตกลงใจใช้คำว่า "ลานเสวนา" ก็เป็นที่ยอมรับกันทุกฝ่ายเท่าที่ให้ความเห็นได้ แต่การเสวนานั้นจะเกิดขึ้นจริง ก็ต้อง พูด ต้อง ฟังกัน  จำกัดกรอบให้อยู่ในประเด็นของ จขกท. แตกปลีกย่อยบ้างก็ไม่ได้เคร่งครัดหนักหนาอะไรนัก แต่หากต่างคนต่างเสนอสิ่งที่เป็นตัวเองตั้งใจอยู่ด้านเดียว  มันก็ไม่ใช่เสวนาความคิด มันเป็นการยัดเยียดให้ร่วม  นานเข้าก็จะถูกละเลย ลานเสวนา น่าจะมี เลขบทกำกับ เช่น ลานเสวนา(บทที่) ๑ เรื่อง ........ ความชัดเจนก่อนตั้งไม่น่าจะเป็นแบบใครนึกตั้งก็ตั้ง นั่นมันเพียงกระทู้ส่วนตัว การที่นำเสนอความคิดแบบเฉียบพลันทันที   เป็นทางออกหนึ่งของงานเขียนเท่านั้น น่าจะมีการตกลงกันแบบที่ ท่านลำน้ำฯทำในกระทู้ก่อนหน้านี้ ผมว่าน่าจะมีการแสดงตัวก่อน  เพื่อได้ไปตรวจทานทำการบ้าน เป็นการฝึกฝนงานเขียนให้รอบคอบและจัดเจนขึ้นไปอีกทาง ยกตัวอย่าง ถนนนักเขียนฯ เขาจะทำแบบนั้น อีกทั้งเขายังจะยกลิ้งค์ของกระทู้ก่อนขึ้นไป เพื่อบอกกล่าวเล่าขานงานเดิมกัน และไม่เป็นการละเลยฉันทลักษณ์ที่ดีงามของไทยที่จะบอกกล่าวถึงผังบทร้อยกรองบทนั้นๆ ผมมองว่าเป็นวัฒนธรรมลงตัวด้วยกาละเทศะ จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 31 พ.ค. 49 11:01:13 ]

ความคิดเห็นที่ 39 พุธสวัสดิ์ค่ะ ทุกๆ ท่าน เห็นแล้วต้องเอ่ยเอื้อน.......อรรถา ที่เรียกลานเสวนา...................เพื่อเน้น การตั้งกระทู้มา.....................รวมมิตร คุยเรื่องที่เลือกเฟ้น.................ฝากถ้อยถึงสหาย มุ่งหมายให้แตะร้อย..........กรอบเรียง เป็นแหล่งคุยกันเพียง...............หนึ่งกระทู้ ต่อถ้อยเพื่อถกเถียง................ไถลแวะ สลับกับทักทายผู้.....................ผ่านเข้ามาเขียน แล้วเวียนกันรับไม้.........ต่อมือ ฉันทลักษณ์ได้ฝึกปรือ..........ปรับบ้าง ใช่เรื่องรีบร้อนฮือ-..............เห่อประดิษฐ์ ตั้งถี่แล้วกระทู้ร้าง................มิไร้ประโยชน์หรือ ขอทำความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับกระทู้ลานเสวนาสักนิดนะคะ.. ..ตามที่คุยกันในกระทู้เดิมของคุณชารา อาจจะไม่ชัดเจนสำหรับบางท่าน กระทู้ที่จะเป็นลานเสวนา  เป็นกระทู้ที่เราจะแวะเวียนมาคุยกันในประเด็นที่ จขกท. ตั้งไว้ไปเรื่อยๆ หรืออาจจะเฉไฉนอกประเด็นได้ตามธรรมชาติ เหมือนอย่างที่มัก จะเกิดขึ้นในวงสนทนาจริงๆ ดังนั้นแต่ละกระทู้น่าจะมีความยาวอย่างน้อยร้อยกรอบ ก่อนที่จะส่งไม้ให้ท่านอื่นหาประเด็นเพื่อตั้งกระทู้ใหม่ต่อไป ..สำหรับประเด็นร้อนทางการเมือง หรือประเด็นอื่นใด ที่ท่านใดจะตั้งขึ้นมา ก็ย่อมเป็นสิทธิอันชอบธรรม  ใครมีข้อมูล หรือมีอารมณ์ร้อยกรองจะแจมเมื่อไหน อย่างไรก็ว่ากันไปตามอัธยาศัย แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 49 11:28:15 จากคุณ : อังศนา - [ 31 พ.ค. 49 11:22:45 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อิอิ.. เปิดค้างไว้ แล้วไม่ได้รีเฟรชค่ะ จึงไม่ทันเห็นกรอบข้างบนของคุณจอมมารฯ จากคุณ : อังศนา - [ 31 พ.ค. 49 11:26:12 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เริ่มต้นใหม่ขัดข้อง.........บางประการ เทคนิคบ่ชำนาญ...........ซักซ้อม ชี้แนะส่งสัญญาณ.........คิวต่อ เสวนาพรักพร้อม..........ถักร้อยเรื่องคุย นาวาลำเดียวกันสวัสดิ์ จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 31 พ.ค. 49 11:33:02 ]

ความคิดเห็นที่ 42 อาจเข้าใจคลาดเคลื่อนเตือนกันได้ เพื่อทำให้ลานเสวนาพาคิดสร้าง เสนอประเด็นหลากหลายให้แนวทาง เป็นตัวอย่างแห่งวิถีที่งดงาม สวัสดีค่ะทุกท่าน เห็นว่าคงเป็นความคลาดเคลื่อนสำหรับการเริ่มต้นน่ะค่ะ ลานเสวนาอาจจะขลุกขลักไปบ้างก็เพราะยังเป็นเรื่องใหม่ เชื่อว่าพวกเราจะปรับตัวกันได้ค่ะ เริ่มนับลานเสวนากระทู้นี้เป็นบทที่ 1... ส่วนกระทู้ต่อไปก็ว่ากันไปตามลำดับ สำหรับท่านที่มีมีประเด็นอื่นที่เห็นว่าไม่ตรงกับกระทู้ลานเสวนา ก็สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้ตามอัธยาศัย แต่คงต้องขออนุญาตเว้นคำว่าลานเสวนาไว้เฉพาะกระทู้เสวนาจริงๆ จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ 31 พ.ค. 49 11:34:41 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เริ่มต้นแปะกระทู้ ....... ทันที ลืมกดก่อนจะรี- ........ เฟรชจ้อง ความเห็นท่านมากมี ... ปรากฏ เราพี่พี่น้องน้อง ........ คิดคล้ายคลึงเหมือน ไม่ได้รีเฟรชก่อนส่งความเห็น ... ล่าสุดก่อนแปะเห็นเฉพาะกระทู้คุณจอมมารฯ จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ 31 พ.ค. 49 11:37:54 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เสวนาบทนี้............ชั้นปฐม ฝนตกน้ำค้างพรม....เริ่มต้น ขัดตาทัพมัธยม.......รุ่นพี่ ผิดถูกช่วยคิดค้น.....บอกชี้แนวทาง สวัสดี ครับ ทุกๆท่าน คุยกันไปเรื่อยๆครับ เพื่อความเข้าใจไปในแนวทางเดียวกัน แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 49 14:58:22 จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 31 พ.ค. 49 14:24:50 ]

ความคิดเห็นที่ 45 15.49 น. ๐ น้ำป่าซัดขยะเข้า           ลานเส- วนา ทะลักจากสวนกวาดเท       กลบทิ้ง งานเสร็จร่วมฮาเฮ             หัวเราะ แฮะแฮะ พักเหนื่อยหงายท้องกลิ้ง    ก่อนให้หายเขิน ๐ เหิรฟ้ามาจากเบื้อง         บูรพา มีกฏกรอบกติกา              ไม่รู้ ต่างถิ่นหลงเข้ามา             ปล่อยไก่ "นกทอดกรอบ" รับผู้         เยี่ยมกระทู้"ลานเสวนา" ๐ อาหารจานเด็ด ให้         แก้หิว น้ำท่วมข้าวของปลิว          หมดร้าน ร่วมด้วยช่วยเป็นทิว          แถวรับ ส่งแน น้ำลดแล้วสร้างบ้าน          ใหม่นี้เสวนา 16.19 น. เก็บกวาดขยะลานเสวนาเรียบร้อยแล้วครับผม เชิญมิตรสหายล้อมร่วมวงกินโต๊ะกันก่อนเสวนาครับ จากคุณ : นกโก๊ก - [ 31 พ.ค. 49 16:24:26 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณพี่นกนั้น..........เฮฮา เรื่องปกติธรรมดา.........ไม่รู้ ผมก็ปล่อยไก่กา..........บ๊อยบ่อย เสวนากระทู้................แต่งแต้มกันไป น้ำป่าซัดหมู่บ้าน...........ครอบครัว น้ำคำบ่หมองมัว............พี่น้อง น้ำไหลหลากน่ากลัว......วิกฤติ น้ำจิตน้ำใจต้อง............กอบกู้ยื่นมือ จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 31 พ.ค. 49 21:25:25 ]

ความคิดเห็นที่ 47 *โพยภัยในโลกล้วน               อันตราย มีเกิดมีดับไป                         ทั่วหน้า หมองหมางโกรธโทษใคร         กันเล่า ธรรมชาติคลั่งปานฟ้า               มืดแล้วครืนคนอง *สองมือหมายโค่นไม้             ทลายลง ผืนป่าเสทือนพลิกปลง             ดับดิ้น ฝนรินกระหน่ำตรง                  ไหลหลั่ง   หลามไล่ท่วมชีพสิ้น                 ร่ำไห้อาดูร วสันต์สวัสดีค่ะ คุณลำน้ำC และทุกท่าน ธรรมชาติเป็นผู้สร้าง  มนุษย์ทำลายด้วยความละโมภ ยามธรรมชาติกลับเป็นผู้ทำลายสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมา บ้าง  แล้วจะโทษใครกันดีหนอ........ ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก กับเหตุการณ์วิบัติที่เตือนเป็นระยะ   แต่มนุษย์ก็ยังหาสำนึกไม่  หลายชีวิตที่สิ้นไปกับ ประโยชน์ที่คนบางจำพวกได้รับไป ........ยุติธรรม.....แล้วล่ะหรือ? แก้ไขเมื่อ 01 มิ.ย. 49 02:16:37 จากคุณ : สิคีรียา - [ 1 มิ.ย. 49 02:14:44 ]

ความคิดเห็นที่ 48 มิตรสหายร่วมล้อม.........สนทนา เติมแต่งด้วยห่วงหา.......โอบเอื้อ หลากความคิดนำพา......สานก่อ มิตรภาพเอื้อเฟื้อ..........เพื่อสร้างสุขสันต์ ขอบคุณ ท่านจอมมารฯ พี่อังศนา คุณชารา ที่ช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้ครับ ผมไปแก้ไขเพิ่มเติม ใส่ลิ้งค์ ไปกระทู้ก่อนหน้านี้แล้วครับ เพื่อเป็นแนวทาง ในการกระทู้บทต่อๆไป ขออภัยด้วยครับ ก้อ ผมออกตัวก่อนแล้ว ว่า อ่อนพรรษา ท่องบทสวด ยังไม่คล่อง   จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 1 มิ.ย. 49 10:18:42 ]

ความคิดเห็นที่ 49 *โพยภัยในโลกล้วน               อันตราย มีเกิดมีดับไป                         ทั่วหน้า หมองหมางโกรธโทษใคร         กันเล่า ธรรมชาติคลั่งปานฟ้า               มืดแล้วครืนคนอง *สองมือหมายโค่นไม้             ทลายลง ผืนป่าเสทือนพลิกปลง             ดับดิ้น ฝนรินกระหน่ำตรง                  ไหลหลั่ง   หลามไล่ท่วมชีพสิ้น                 ร่ำไห้อาดูร วสันต์สวัสดีค่ะ คุณลำน้ำC และทุกท่าน ธรรมชาติเป็นผู้สร้าง  มนุษย์ทำลายด้วยความละโมภ ยามธรรมชาติกลับเป็นผู้ทำลายสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมา บ้าง  แล้วจะโทษใครกันดีหนอ........ ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก กับเหตุการณ์วิบัติที่เตือนเป็นระยะ   แต่มนุษย์ก็ยังหาสำนึกไม่  หลายชีวิตที่สิ้นไปกับ ประโยชน์ที่คนบางจำพวกได้รับไป ........ยุติธรรม.....แล้วล่ะหรือ? แก้ไขเมื่อ 01 มิ.ย. 49 02:16:37 จากคุณ : สิคีรียา  - [ 1 มิ.ย. 49 02:14:44 ] ยุติธรรมร่ำร้อง............เพรียกหา เปื้อนอาบคราบน้ำตา.....ปวดร้าว จนและเจ็บระอา............ซ้ำซาก ยังขาดโอกาสก้าว.........ขยับชั้นสังคม เวรกรรมก่อนชาติสร้าง.....ปางไหน ลิขิตให้เป็นไป.................ฉะนี้ คนละโมบคือใคร............สร้างบาป เพื่อนมนุษย์ป่นปี้............รับรู้ไหมหนอ สวัสดี ครับ คุณสิคีรียา ยุติธรรม.....แล้วล่ะหรือ?  คือคำถามที่ได้คำตอบไม่เหมือนกัน ขึ้นกับว่าเราไปถามใคร... เหมือนบ้านเมืองเราตอนนี้เลย จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 1 มิ.ย. 49 10:54:45 ]

ความคิดเห็นที่ 50 .                         สวัสดีครับทุกท่าน                         ๏                         มาเป็นกำลังใจ                         ส่งเสริมวิถีไทย                         ผูกไว้อดีตปัจุบัน                         ฉันทลักษณ์สลักไว้                         หากคิดประดิษฐ์ใหม่                         จารึกให้โลกเรียน                         เปลี่ยนเก่าให้ดีขึ้น                         หรือจับเก่ามาฟื้น                         คืนชื่นให้ลานเขียว                         เรียวหญ้าเริ่มแตกหน่อ                         ดอกหญ้าเริ่มผลิช่อ                         ก่อทุ่งเป็นลานสวย                         กรวยดอกเริ่มออกผล                         สลัดเม็ดเพื่อผลิ ตน                         ก่อร่างเพื่อสร้างต้น                         บนกวีไพร                         ๚ สวัสดีครับ นานๆเข้ามาทีครับ ช่วงนี้ ทุกสิ่งต้องมีเริ่มต้นครับ แล้วค่อยปรับแก้ เป็นกำลังใจ ขอรับ เซ่อ... น้อมบันทึก --------------------------------------------- จากคุณ : xers - [ 1 มิ.ย. 49 11:11:39 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เพราะกระแสน้ำอุ่นมันหนุนเนื่อง มันก่อเรื่องสร้างฝนบนฟ้าใส มรสุมพัดพาเข้าฝั่งไป เจออากาศชื้นที่ไหนก็ตกลง ด้วยไอน้ำในสมุทรนั้นมากล้น กลายเป็นฝนตกหนักเกินประสงค์ เรียกว่าลานิญญ่าโปรดอย่างง สามปีครั้งมันจะลงที่เอเซีย จากนั้นอีกสามปีมีอีกแบบ ไอ้นี่แสบพาให้ใจละเหี่ย กระแสน้ำเย็นกลับมานัวเนีย ไอน้ำน้อยดินจึงเสียน้ำออกไป เกิดเป็นแล้งซ้ำซากยากจะแก้ เป็นเวรกรรมแท้แท้ทำไงได้ เป็นผลกรรมของมนุษย์ต้องเป็นไป ก็ตัดไม้ที่คุมน้ำจึงช้ำกัน ลานิญญ่าฝนมากหากมีไม้ ก็อุ้มน้ำเอาไว้ได้ใช่เสกสรรค์ เอลนิโญ่ไม่มีน้ำไม้ก็กัน ไม่ให้น้ำจากดินนั้นระเหยไป พอฝนตกน้ำท่วมบ้านกันบานเบอะ โคลนก็เลอะทรัพย์ก็ล้วนละลายหาย เองก็พังเศรษฐกิจก็วอดวาย ถ้าไม่หยุดตัดไม้บรรลัยเอย จากคุณ : ไม่เอาถ่าน (เตาฟืน) - [ 1 มิ.ย. 49 11:17:11 ]

ความคิดเห็นที่ 52 น้ำท่วมริมฝั่งท้น.....น้ำตา ซุงพรากพ่อแม่หา....ป่านนี้ โคลนถมทับไร่นา....ฝังลูก หลานฤๅ กรรมก่อมาก่อนกี้....ฤแท้ใครทำ จากคุณ : KAVINT - [ 1 มิ.ย. 49 13:05:13 ]

ความคิดเห็นที่ 53 มนุษย์เอาแต่ได้......แต่เดา กี่ยุคกี่สมัยเขลา......แต่นั้น คิดบังคับฟ้าเอา.......ประโยชน์ ล้างขัดโลกแบ่งชั้น.....ขุดสร้างอย่างใจ จากคุณ : KAVINT - [ 1 มิ.ย. 49 13:12:35 ]

ความคิดเห็นที่ 54 12.39 น. ๐ รู้ทุกอย่าง เมื่อ ได้         อ่านเขียน นิสัย ติดจากโรงเรียน         ทุกผู้ การบ้าน ไม่เคยเพียร         ทำส่ง ลอกเพื่อน ก็ ไม่รู้             เรื่องนี้"สันดาน" ๐ อ่านเขียนฟังข่าว แล้ว    สติแตก รู้เรื่อง อธิบายแยก            แยะได้ ถึงบ้าน ก็ลืม แปลก           จริงวะ จากบ้าน อ่านข่าว ไฮ้         ลอกอ้างเหมือนเดิม ๐ เริ่ม "ลาน" ใหม่ ให้เรี่ยม- เร้เร- ไรแล โรงเล่าโรงเรียน เห            หักด้าน "การบ้าน" ที่ เคยเก           ทำส่ง ลาน"เล่า" ลาน"เรียน" บ้าน  ใหม่นี้"ลานเสวนา" ๐ น้ำป่า ไหลบ่าเข้า            บ้านคน ใยถล่มแต่คนจน               เท่านั้น คนรวยที่ใจสน                  แต่ทรัพย์ รู้หลบรู้หลีก ปั้น                เรื่องร้ายใส่ใคร ๐ ใน"ลานเสวนา" อย่าบ้า   น้ำลาย น้ำท่วม ขาดใจตาย           แต่ต้น ยึดหลัก ปักใจ หมาย         กลอนสลัก โคลงแน กลอน"หลุด"โคลง น้ำล้น    ลื่นล้ม"ตามกัน"     แก้ไขเพิ่มเติม...13.47 น.                                       แก้ไขเมื่อ 01 มิ.ย. 49 14:21:54 แก้ไขเมื่อ 01 มิ.ย. 49 13:51:18 แก้ไขเมื่อ 01 มิ.ย. 49 13:49:22 แก้ไขเมื่อ 01 มิ.ย. 49 13:31:30 จากคุณ : นกโก๊ก - [ 1 มิ.ย. 49 13:26:28 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ..แวะมาราตรีสวัสดิ์ เอลนินโญ่ ลานินญ่า เรื่องอากาศ ธรรมชาติ แปรปรวน ล้วนหนักหนา ทั้งฝนหลั่ง ทั้งร้อนแล้ง แบ่งเวลา ผลัดกันมา มุ่งประทุษ มนุษย์เรา หากสมบูรณ์ ด้วยป่าไม้ ไม่ผันเปลี่ยน เต็มหุบเหว ทุ่งราบเตียน ตามขุนเขา ถึงหน้าร้อน ไม่แล้งร้าย  ไม้แบ่งเบา ถึงหน้าฝน ไม้บรรเทา อุทกภัย ..ข้าพเจ้าเผอิญเติบโตมากับผู้คนในแวดวงป่าไม้   จึงรักและเห็นคุณค่าของต้นไม้ และได้รับรู้ทั้งเรื่องดีและร้าย ที่เกิดขึ้นกับป่า  แต่ดูเหมือนเรื่องเลวร้ายมันมีมากกว่าจนแทบ จะไม่หลงเหลือความหวัง ปล. คุณเตาฟืนเขียนกลอนดีจังเลยค่ะ ..ยิ่งอ่านยิ่งรื่น จากคุณ : อังศนา - [ 1 มิ.ย. 49 21:45:18 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขุนเขาสูงป่าไม้ ............... สร้างเมือง เกิดก่อความรุ่งเรือง ......... เริ่มต้น เป็นแกนหลักฟันเฟือง ...... วัฏจักร ป้องปกภัยผ่านพ้น ........... พบฟ้าสดใส ให้ความเย็นร่มพร้อม ....... เพียงพอ ธรรมชาติร่วมถักทอ ........ ทุ่งท้อง เกื้อกูลแบ่งปันขอ ........... เคียงขนาบ ระบบนิเวศน์สอดคล้อง .... โอบเอื้ออุ่นอิง สวัสดีค่ะคุณลำน้ำ C และทุกท่าน ทั้งคนและธรรมชาติต่างต้องเกื้อหนุนกัน ต่างฝ่ายต่างให้ซึ่งกันและกัน เมื่อใดที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเรียกร้องเอาแต่ได้ ความสมบูรณ์งดงามก็จะถูกทำลาย ไม่ต่างกับมิตรภาพหากต่างฝ่ายต่างพร้อมมอบให้ ย่อมไม่มีสิ่งใดมาทำลายได้ ตราบใดที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่เป็นฝ่ายเรียกร้องเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว ความงดงามแห่งมิตรภาพก็จะเติบโตยั่งยืนตลอดไป จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ 2 มิ.ย. 49 10:52:06 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ความรู้สึกอุ่นร้อน ............. เย็นหนาว อาทิตย์สาดส่องคราว ........ รุ่งแจ้ง พระจันทร์แจ่มสกาว .......... เจิดจรัส โลกลดความแห้งแล้ง ........ ร่มรื้นสุขสันต์ ฝนพรำปันแผ่นพื้น ............ สดใส นกป่าพร่ำเพรียกไพร ........ กู่ก้อง สายลมพัดพริ้วไหว ........... ฟังแว่ว ธรรมชาติงดงามพ้อง ........ ภพพื้นเพียงฝัน อยากย้อนหลังกลับสู่อดีตที่ธรรมชาติสมบูรณ์ ป่าไม้ร่มครื้ม เสียงนกร้องก้องพงไพร เสียงแห่งธรรมชาติสะท้อนดัง หากผู้คนที่ทำร้ายป่าต่างมีสำนึก คงจะไม่มีสภาพที่เลวร้ายเกิดขึ้นดังเช่นทุกวันนี้ โคลนถล่ม น้ำกัดเซาะถนนพัง เขื่อนพัง บ้านถูกน้ำพัดพาหายไป ผู้คนไร้ที่อยู่ พรากพ่อ พรากแม่ พรากลูก พรากญาติพี่น้อง จากไปโดยไม่รู้ล่วงหน้า ความเสียหายทางวัตถุน้อยกว่าความปวดร้าวทางจิตใจ จะหายาชนิดไหนมาเยียวยาให้หายขาดได้ จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ 2 มิ.ย. 49 11:31:23 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เส้นทางน้ำ กำหนด ความสดใส เส้นทางใจ ใช้กำหนด ความสดชื่น เมื่อทดน้ำ ฉ่ำไหล ใช้ยั่งยืน เมื่อปรับใจ ให้ตื่น รู้ชื่นบาน น้ำอาจล้น ฝนอาจแล้ง แบ่งเบาทุกข์ บรรเทาภัย ให้ผาสุก ทุกหย่อมย่าน คือหน้าที่ มีภาระ ชลประทาน ฟ้าบันดาล เพียงใด เผื่อใจรับ คือภาระ หน้าที่ คือชีวิต ใช้ความรู้ กู้วิกฤติ ตามลำดับ ธรรมชาติ ธรรมดา ฟ้ากำชับ เมื่อมีธรรม กำกับ ย่อมดับภัย "โชคชัย  บัณฑิต" ชอบวรรคสุดท้ายนี้มากครับ "เมื่อมีธรรม กำกับ ย่อมดับภัย" สวัสดี ครับ  ทุกๆท่าน -คุณXers ... -คุณไม่เอาถ่าน(เตาฟืน) -คุณKAVINT -คุณนกโก๊ก -คุณอังศนา -คุณชารา ขอบคุณ ที่ร่วมเสวนา ครับ แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 49 22:46:55 จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 2 มิ.ย. 49 22:42:17 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เอลนินโญ่ ลานินญ่า เรื่องอากาศ ปรากฏการณ์ ธรรมชาติ ตามวิถี เมื่อมนุษย์ เข่นฆ่า ตามราวี ธรรมชาติ จะหลบหนี ไปที่ใด จึ่งคลั่งแค้น คลุ้มคลั่ง ดั่งที่เห็น ใช่กรรมเวร ทำมา แต่ปางไหน ทุกทุกอย่าง มีที่มา และที่ไป ตามเงื่อนไข ของกาล และเวลา นานนับวัน ยิ่งกระจาย ไปหลายแห่ง ความรุนแรง น่าอนาถ หวาดผวา ไม่ใช่เรื่อง ปกติ ธรรมดา วนเวียนมา เหมือนก่อนเก่า ที่เล่ากัน จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 2 มิ.ย. 49 23:25:43 ]

ความคิดเห็นที่ 60 มนุษย์เอาแต่ได้......แต่เดา กี่ยุคกี่สมัยเขลา......แต่นั้น คิดบังคับฟ้าเอา.......ประโยชน์ ล้างขัดโลกแบ่งชั้น.....ขุดสร้างอย่างใจ จากคุณ : KAVINT   - [ 1 มิ.ย. 49 13:12:35 ]   มนุษย์เอาจิตตั้ง.............โดยตน ฉลาดสมองกล..............ซับซ้อน สร้างจักรหุ่นเครื่องยนต์...ช่วยทุ่น แรงเอย อาวุธบังคับต้อน............เสกสร้างอย่างใจ ความฉลาดของคน ก็น่ากลัว ครับ แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 49 23:46:41 จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 2 มิ.ย. 49 23:43:06 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ธรรมชาติอาจโหดร้าย.........เท่าดี หากมนุษย์ไม่ปราณี............ รักษ์ไว้ ธาราท่วมชีวี.......................ลาลับ ไปเอย ทุกข์โศกทรัพย์สินไร้...........ยากแท้ใครสมาน สวัสดีค่ะคุณลำน้ำ C และทุกท่าน จากคุณ : ทะวาย - [ 3 มิ.ย. 49 10:23:55 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ธรรมชาติอาจโหดร้าย.........บางที มนุษย์ต่างรู้ดี................... .ทราบได้ ธาราท่วมชีวี......................จมดับ ทุกข์โศกปรากฏให้...........รับรู้เนืองเนือง เสาร์สวัสดิ์ครับ คุณ ทะวาย จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 3 มิ.ย. 49 10:37:48 ]

ความคิดเห็นที่ 63 มนุษย์เอาแต่ได้ ............. ดังเห็น จึงเกิดทุกข์ยุคเข็ญ .......... รุกเข้า ธรรมชาติเปลี่ยนไปเป็น .... ปฏิปักษ์ ฟ้าสั่งลงโทษเศร้า ........... สุขสิ้นชนสยอง สวัสดีค่ะคุณลำน้ำ C และทุกท่าน จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ 4 มิ.ย. 49 12:48:25 ]

ความคิดเห็นที่ 64 กอบโกยเอาเปรียบฟ้า...........เปลี่ยนดิน พลิกโลกติดปีกบิน................เหยียบน้ำ กดระเบิดเขาหิน.....................ราบเรียบ โค่นป่าทารุณซ้ำ....................สัตว์ร้องไห้หนี จากคุณ : KAVINT - [ 4 มิ.ย. 49 13:43:03 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ลิงค่างช้างม้ากบ...........กระต่ายงู กระรอกหมาปลาปู.........ส่ายหน้า หมีควายเม่นขนฟู...........คางคก ฝนตกน้ำท่วมฟ้า.............โศกเศร้าตามกัน จากคุณ : KAVINT - [ 4 มิ.ย. 49 13:53:33 ]

ความคิดเห็นที่ 66 กอบโกยอย่างหน้ามืด ....... ตามัว หวังประโยชน์ส่วนตัว ......... อยากได้ ไม่เคยคิดเกรงกลัว ........... ทัณฑ์โทษ ผืนแผ่นดินร่ำไห้ .............. ร่ำร้องโหยหวน หรือจวนจะจบสิ้น ............. สังสาร โลกหมดความเบิกบาน ...... บัดนี้ เหลือเพียงภาพวันวาน ...... ในอดีต คนโลภกำหนดชี้ .............. ชาติสิ้นหรือไฉน สวัสดีค่ะคุณ KAVINT พวกเราต่างก็ได้แต่มองและรับรู้โดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย จนในที่สุดก็จะไม่มีอะไรเหลือ จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ 4 มิ.ย. 49 17:03:21 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ชีวิตในป่าต้อง ........... เตลิดหนี ลิงค่างบ่างเม่นหมี ...... หม่นไหม้ เคยอยู่สุขสบายดี ....... แต่ก่อน ต้องร่อนเร่ขาดไร้ ....... ขาดบ้านเรือนนอน ตราบใดที่ผู้รุกรานไม่เคยมีสำนึกต่อหายนะที่เกิดขึ้นกับชีวิตอื่น ความสงบสุขคงจะกลับคืนมาเหมือนเดิมไม่ได้ การร่วมกันสร้างจิตสำนึกและร่วมมือกันอย่างจริงจังจากทุกฝ่าย ดูเหมือนยากอย่างยิ่งที่จะทำให้เป็นจริงได้ หรือว่าเราต้องยอมแพ้กันจริงๆ จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ 4 มิ.ย. 49 17:54:04 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ป่าไม้โดนเลื่อยต้น........จนตาย ลิงค่างถูกทำลาย..........หมดสิ้น ภูเขาโล่งเขาดาย......... .ถางถาก น้ำท่วมปากถึงลิ้น........พูดได้ฤาไฉน เที่ยวนี้ไม่มีใครพูดถึงเรื่องตัดไม้ทำลายป่าเลย เงียบเป็นเป่าสาก หรือเป็นเพราะว่ามีคนออกมารับรองแล้ว ว่าเป็นแค่ไม้อ่อน แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 49 19:07:18 จากคุณ : ทะวาย - [ 4 มิ.ย. 49 19:03:43 ]

ความคิดเห็นที่ 69 สวัสดี ครับ ทุกๆท่าน... เพียงฝนแรกเดือนหกตกกระหน่ำ อุทกภัยก่อระส่ำขวัญผวา โคลนถล่มจมลับดับชีวา เสียงร้องไห้ร่ำหาน้ำตานอง                          อุตรดิตถ์ลับแลแลลับร่วง                          สุโขทัยน่าเป็นห่วงยังเศร้าหมอง                          แพร่ลำปางน่านน้ำล้นหลากนอง                          ปิงวังยมเอ่อล้นสองตลิ่งเนือง ความเดือดร้อนแผ่กระจายหลายพื้นที่ ปานฉะนี้ยังผวาหน้าซีดเหลือง บ้านเคยอยู่พินาศพังค่อนทั้งเมือง ธรรมชาติโกรธเคืองเรื่องน่ากลัว แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 49 22:54:56 จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 4 มิ.ย. 49 20:55:53 ]

ความคิดเห็นที่ 70 . เรื่องแบบนี้เกิดมาแล้วหลายครั้ง น้ำป่าพังเสียหายหลายครั้งใหญ่ บ้านน้ำก้อน้ำชุนเคยเป็นไป เพชรบูรณ์ร้องไห้เมื่อไม่นาน                     ทุกครั้งที่เหตุการณ์ผ่านชั่วคืน                     หน่วยงานยื่นมือมาช่วยประสาน                     คิดป้องกันอุตลุตอย่างเชี่ยวชาญ                     รัฐบาลขับขานด้วยจริงจ้ง แต่ทำไมยังซ้ำแล้วและซ้ำเล่า ปัญหาเก่าข้อเดิมที่คาดหวัง จะดำเนินเร่งด่วนอย่างจีรัง คำที่พูดเสียงดังเลือนหายไป จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 4 มิ.ย. 49 21:16:43 ]

ความคิดเห็นที่ 71 . ถนัดแต่แก้ปัญหาปลายสาเหตุ เกิดอาเพทจึ่งตีฆ้องร้องช่วยเหลือ พอสงบอืดอาดเป็นเรือเกลือ โครงการเพื่อแก้ไขไม่เห็นมี                      เราป้องกันไม่ได้หรือไม่ทำ                      เรื่องราวซ้ำวนเวียนเกิดขึ้นถึ่                      อภิมหาโครงการโปรเจคฯดี                      ในชาตินี้เกิดได้เมื่อไหร่กัน รัฐบาลเปลี่ยนชุดหยุดสานต่อ เก็บชลอเข้าลิ้นชักด้วยไหวหวั่น บริหารงบประมาณตาเป็นมัน จึ่งยักแย่ยักยันทุกวันนี้ จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 4 มิ.ย. 49 21:35:41 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ๐ ฝนตกน้ำท่วมท้อง..........นาหาย ซุงพุ่งเข้าทำลาย.............หมู่บ้าน กองดินถล่มมิดหาย...........ตายหมู่ ใครตัดไม้ป่ากว้าน............เก็บแล้วฝังหลุม ๐ ฝนตกน้ำท่วมบ้าน...........เมืองพัง แควเขื่อนเคยขอดยัง............ท่วมได้ น้ำท่วมทั่วเรือนพัง.............ถ้วนทั่ว ไทยเฮย คนชั่วตัดป่าให้...............หมู่ไม้ดินฝัง สวัสดีท่านลำน้ำ ซี จากคุณ : สามเอส - [ 4 มิ.ย. 49 22:35:51 ]

ความคิดเห็นที่ 73 น้ำหลากไหลหลากล้น......ระอุเหนือ อุทกภัยระบาดเหลือ.........ระบุได้ ทุกข์ทุกว่านวงศ์เครือ.......คณาญาติ วอนท่านแบ่งสรรให้.........พี่น้องผองสหาย ฯ ____________ สวัสดีครับท่านลำน้ำ และ สหายทุกท่าน ฯลฯ จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 5 มิ.ย. 49 13:37:22 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ***49 ."   ยุติธรรม.....แล้วล่ะหรือ?  คือคำถามที่ ได้คำตอบไม่เหมือนกัน  ขึ้นกับว่าเราไปถามใคร..."........ *************************** **นั่นสินะ..จะถามใครที่ไหนเล่า ใครจะเฝ้าตอบได้..... ใครเฉลย ถามแมกไม้...ก็วายวอดไม่เหลือเลย ถามขุนเขา...ก็เมินเฉยเพียงเอกา **ถามสรรพสัตว์.....เจ้าตื่นแตกแยกไม่ถูก ถามคนปลูก....ต้นไม้ไพรใครเล่าหวา ถามสายน้ำ....ใครใช้  ให้ไหลมา ถามดินผา....ไยถล่มเป็นตมโคลน **ถามเจ้าป่า..เทพารักษ์....คงหนักจิต ถามท้องฟ้าวิปริต......กลายเป็นฝน ถามเด็กน้อย...ก็ขวัญหาย..แม่วายชนม์ ถามพ่อแม่.....ก็ทุกข์ทนลูกพลัดกาย **ถามชาวบ้าน...ก็สับสนอับจนแล้ว ถามคนรัฐ  ...ก็ไม่แคล้วคำตอบหาย ถามนายทุน...ก็ด้านจน   คนถามอาย ถามคนจน....ก็ไม่ไหว..เขาให้ตังค์ **ขอหัวเราะ   เยาะเย้ย เหวย เหวย ฟ้า เอียงนักหนา  คนล้มตาย ไร้ความหวัง แต่ผู้ก่อกรรมลำเค็ญ  บ้านเป็นวัง ยังจีรังยืนหยัดได้ไร้ร้อนเย็น **คงต้องก้มถามกรรมเป็นกำเนิด กรรมที่เกิดจากใครไยไม่เห็น เอาเป็นว่าโทษ เทวา  พาลำเค็ญ คนสร้างเวรเสวยสุข...ทุกข์คนจน..... **สวัสดีอีกครั้งค่ะ   คุณลำน้ำ C จริงแท้แน่นอนถามคนที่ได้ประโยชน์ จากการเห็นแก่ได้  ละโมภ ทุจริต เขา ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องธรรมดาธรรมดา ของภัยธรรมชาติ   แต่ถ้าถามคนเดินดินกินข้าวแกงโดยเฉพาะ คนยากจนในที่ห่างไกลความเจริญ   ที่เป็น ผู้สูญเสีย       เขาก็ไม่รู้จะตอบว่าไง  ตอบ ไม่ได้แม้แต่ตนเอง   ว่าทำไมต้องเป็นพวก เขาที่รับเคราะห์   **สุดท้ายคงต้องรอพญายม เป็นผู้ให้คำตอบ หาความยุติธรรมได้  เมื่อชีวิตหลังความตายมาถึง.....?     แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 49 02:55:38 จากคุณ : สิคีรียา - [ 6 มิ.ย. 49 02:51:46 ]

ความคิดเห็นที่ 75 น้าป่าหลากลากเอาไม้เข้าใส่บ้าน น้ำตาหลั่งเหมือนวันวานบ้านเสียหาย คนที่รักของที่หวงมาวอดวาย แม้ร้องไห้จนตายก็ไม่คืน แม้ตัวเราไม่ได้อยู่ในหล้าโลก น้ำก็บ่ากรากโกรกไม่อาจฝืน ความผันแปรแห่งโลกทุกวันคืน แม้ขัดขืนก็ไม่อาจผัดผ่อนมัน เมื่อน้ำป่าบ่าท่วมร่วมกับบาป ด้วยเวรกรรมส่งสาปไม่ผ่อนผัน จึงกระจองอแงไปตามกัน จงทำบุญและเชื่อมั่นในผลกรรม ไม่มีสิ่งใดเกิดโดยไร้เหตุ แม้จะเป็นอาเพศกลางคืนค่ำ หรือเภทภัยกลางวันนั้นคนทำ จะเป็นเวรหรือกรรมก็เพราะคน จากคุณ : ไม่เอาถ่าน (เตาฟืน) - [ 6 มิ.ย. 49 09:54:44 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ๐ ฝนตกน้ำท่วมท้อง...........ท่วมตัว ท่วมปากจนมิดหัว..............ดับดิ้น ซ้ำกระหน่ำครอบครัว.........ที่อยู่ น้ำลดใช่จบสิ้น................เดือดร้อนนอนผวา ๐ ฝนตกมาสะท้าน..........หวั่นเกรง น้ำท่วมพังละเลง............อีกครั้ง หอบหลานลูกกระเตง......ปีนป่าย วิตกยากหยุดยั้ง............สำนึกใต้สามัญ ๐ ฝนตกน้ำท่วมบ้าน.......เมืองพัง หลายเขื่อนเฝ้าระวัง.......เสี่ยงสร้าง น้ำล้นอ่างฯเก็บขัง........ปริแตก อุทกภัยกวาดล้าง........เรียบล้มหน้ากระดาน สวัสดี ครับ ท่าน สามเอส แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 49 10:30:31 จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 6 มิ.ย. 49 10:14:21 ]

ความคิดเห็นที่ 77 . ระอุเหนือแล้วหลากล้น      ลงมา ไหลสู่เจ้าพระยา              แม่น้ำ กระจายแผ่มรรคา            ธรรมชาติ เก็บกวาดสิ่งขวางค้ำ         แกร่งกล้าตามวิถี ญาติพี่น้องร่วมเชื้อ          วงศ์เครือ ร่วมถิ่นคอยช่วยเหลือ       โอบอ้อม บริจาคจุนเจือ                  ปันแบ่ง ตามแต่กำลังพร้อม           เปี่ยมล้นน้ำใจ สวัสดี ครับ ท่านจอมมารฯ จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 6 มิ.ย. 49 10:28:21 ]

ความคิดเห็นที่ 78 สุดท้ายคงต้องรอพญายม เป็นผู้ให้คำตอบ หาความยุติธรรมได้  เมื่อชีวิตหลังความตายมาถึง.....? *********************** . สุดท้ายคงจักต้อง         ทัมใจ แก้หวัดและแก้ไอ         ฮัดเช้ย วันปีเลื่อนเงื่อนไข         จังหวะ ทำผิดที่คนเย้ย             ถูกต้องก็มี ทำใจสวัสดิ์ครับ คุณสิคีรียา มองกว้างๆมองไกลๆ ปัญหามันเล็กนิดเดียว เหมือนตัวเราอยู่ในอวกาศ มองมายังโลก ก็แค่ดาวเล็กๆดวงหนึ่ง บางครั้งการคิดแบบนี้ ก็สบายใจดีครับ จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 6 มิ.ย. 49 10:46:49 ]

ความคิดเห็นที่ 79 .................................... ไม่มีสิ่งใดเกิดโดยไร้เหตุ แม้จะเป็นอาเพศกลางคืนค่ำ หรือเภทภัยกลางวันนั้นคนทำ จะเป็นเวรหรือกรรมก็เพราะคน เมื่อน้ำป่าบ่าท่วมร่วมกับบาป ดั่งคำสาปคราบไคลให้สถล ธรรมชาติชอกช้ำซ้ำเกินทน บันดาลดลเป็นไปในชั่วคืน แม้ตัวเราไม่อยู่ในหล้าโลก วิปโยคเกิดขึ้นก็ดาดดื่น ชัยชนะใช่อยู่ใต้กลไกปืน ธรรมชาติหยัดยืนด้วยตัวเอง น้ำป่าหลากซากไม้ภัยพิบัติ น้ำใจขัดขืนต้านการข่มเหง น้ำจะท่วมเพียงใดไม่หวั่นเกรง ช่วยละเลงน้ำใจไปทดแทน กลอนพาไปสวัสดิ์ครับ ท่านเตาฟืน แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 49 13:50:33 จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 6 มิ.ย. 49 11:20:05 ]

ความคิดเห็นที่ 80 อนิจจาน้ำป่าบ่าท่วมบ้าน ทรัพย์สินอันตรธานบ้านยังหาย ทั้งชีวิตมิตรสหายก็วางวาย เหลือแต่กายใจดับดิ้นดั่งสิ้นใจ หรือฟ้าดินพิโรธลงโทษสิ้น น้ำตารินเกาะขอนตอนน้ำไหล เพราะบุกรุกทำลายป่ามาเท่าใด น้ำมือใครกันเล่าเฝ้ารังแก เหลือเพียงเด็กกำพร้าน่าสงสาร ไม่พบพานสิ่งขอแม้พ่อแม่ ต่อนี้ไปหาใครได้ดูแล ทุกอย่างแปรเปลี่ยนสลายตามสายน้ำ สวัสดีค่ะคุณลำน้ำ C และทุกท่าน จากคุณ : ทะวาย - [ 6 มิ.ย. 49 11:30:30 ]

ความคิดเห็นที่ 81 เหลือเพียงเด็กกำพร้าน่าสงสาร ไม่พบพานสิ่งขอแม้พ่อแม่ ต่อนี้ไปหาใครได้ดูแล ทุกอย่างแปรเปลี่ยนสลายตามสายน้ำ อนิจจาสายน้ำยามวิโยค ลำธารโตรกเคยไหลชื้นชุ่มฉ่ำ ช่วยหล่อเลี้ยงชาวนาคราคราดดำ มากระหน่ำท่วมท้นล้นแผ่นดิน แม่คงคาธาราเคยพิสุทธิ์ ชำระล้างคาวมนุษย์ไม่จบสิ้น ตั้งแต่เกิดจนตายวายชีวิน ทำหากินอาศัยได้พึ่งพา แม่พิโรธโกรธกรี้ยวเดี๋ยวก็หาย แล้วกลับกลายเป็นรักสิเน่หา มนุษย์น้อยน่าสมเพชเวทนา ยังดื้อดึงไม่ห่วงหาคราแม่เตือน สวัสดี ครับ คุณทวาย จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 6 มิ.ย. 49 13:38:58 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ธรรมชาติโหดร้าย.....................บางครา อนาถคลื่นพัดพา......................ทุกข์ท้น สู่มนุษย์โลกา...........................พังพินาศ สูญดับพลัดพรากพ้น..................ห่างร้างครอบครัว พ่อแม่อีกลูกน้อย......................ร้องระงม น้ำเชี่ยวกรากพาจม....................สลดเศร้า หมดสิ้นทรัพย์ทุกข์ตรม...............ร้าวรวด ชีวิตที่เหลือเฝ้า.........................ต่อสู้หยัดยืน หวัดดีค่ะ คุณลำน้ำ C และทุก ๆ ท่านค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 6 มิ.ย. 49 20:59:40 ]

ความคิดเห็นที่ 83 o ธรรมชาติโหดร้าย..... ..จริงหรือ? เมื่อมนุษย์หยุดนับถือ....ป่าแล้ว ก่อกรรมล่วงตีนมือ.......ย่ำเหยียบ ราบเรียบถางถากแผ้ว...โล่งโล้นเตียนเขา o หากเรารักแม่น้ำ.........ลำคลอง อนุรักษ์บึงหนอง..........เขตห้วย ผดุงถิ่นแผ่นดินทอง......บ้านเกิด ประเสริฐเลิศล้ำด้วย......ช่วยฟื้นคืนหวน สวัสดี ครับ คุณยี่หร่า ไม่ได้เจอเสียนาน สบายดีนะครับ จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 7 มิ.ย. 49 06:24:55 ]

ความคิดเห็นที่ 84 o เบญจพรรณป่าไม้..............พงไพร ป่าดิบป่าผลัดใบ................ป่าหญ้า ป่าละเมาะป่าใส.................ป่าโปร่ง ป่าชุ่มชื้นฝนฟ้า..................เกิดน้ำลำธาร o นานาสิ่งแวดล้อม.............รอบตัว เฉกเช่นเป็นครอบครัว......เพื่อนพ้อง ธรรมชาติพันพัว...............ร่วมอยู่ สันติสุขจักต้อง...............จากห้วงสมดุล จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 7 มิ.ย. 49 06:30:26 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ฝนตกแปดสิบข้อ..........ความเห็น กระหน่ำกระทู้แช่เย็น......นิ่งอึ้ง ตกแล้วตกอีกเป็น...........แผ่นตก ร่องเอย น้ำท่วมตาฉ่ำซึ้ง..............ช่วยเค้นมุกเสนอ จากคุณ : KAVINT - [ 7 มิ.ย. 49 19:02:03 ]

ความคิดเห็นที่ 86 วันนี้ไปงานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติที่เมืองทองธานีมาครับ มีเรื่องของหญ้าแฝก ที่สามารถยึดดินไว้ด้วยคุณสมบัติของรากฝอยที่หยั่งลึกและโยงเป็นเครือข่ายใต้ดิน ป้องกันการพังทลายของดินได้อย่างดียิ่ง ขอเล่าเรื่องหญ้าแฝก.................แสนดี ช่วยยึดผืนปฐพี.........................ปกหล้า โครงการอีกมากมี.....................ทรงห่วง ใยเอย มอบประทานจากฟ้า...................เพื่อพื้นดินไทย จากคุณ : KAVINT - [ 7 มิ.ย. 49 19:13:23 ]

ความคิดเห็นที่ 87 โยงใยเครือข่ายคล้าย..............ผู้คน เติบใหญ่แตกกอผล................แผ่กว้าง ยังประโยชน์อยู่บน..................ผืนแผ่น ดินนา รากลึกดินดีสร้าง.....................ยิ่งซึ้งความหมาย จากคุณ : KAVINT - [ 7 มิ.ย. 49 19:17:06 ]

ความคิดเห็นที่ 88 พุธสวัสดิ์ค่ะ ทุกๆ ท่าน ปล่อยประเด็น คลี่คลาย ปลายกระทู้ แล้วฝากเรื่อง ควรรู้ ตะล่อมหลัง วางตบท้าย ให้ตรึกตรอง ต้องระวัง เคยเผลอพลั้ง ก็เริ่มใหม่ ได้ฝึกปรือ.... รอให้คนมาบ่น.. จะได้หาเรื่องชักใบเข้าฝั่งฉันทลักษณ์เสียหน่อย ..ขอฝากข้อสรุปแนวความคิดจากหนังสือ ตำนานฉันทลักษณ์กับหลักการใหม่ ของคุณคมทวน คันธนู (หน้า ๑๗-๒๒)  โดยว่ากันเฉพาะประเด็น 'ลีลาโคลง' ~.~.~.~.~.~ ในหนังสือวรรณวิเคราะห์ฯ เล่มนั้น คุณคมทวนพูดถึง ลีลาโคลง กับการใช้คำ โดยอธิบายว่า โคลงจะมีจังหวะการอ่านเอื้อนตามลำดับบาทดังนี้.. บาท๑ เป็น ๒ - ๑ - ๒ - ๒ และ ๒ (มีสร้อย) บาท๒ เป็น ๒ - ๑ - ๒ - ๒ บาท๓ เป็น ๒ - ๑ - ๒ - ๒ และ ๒ (มีสร้อย) บาท๔ เป็น ๒ - ๑ - ๒ - ๒ - ๒ จึงสังเกตได้ว่ามีจังหวะทอดตรงคำที่ ๓, ๕, ๗ และ ๙ การใช้คำมีลหุ (คุณคมทวนเรียกคำครึ่ง) จึงต้องพิถีพิถัน ถ้าเลือกใช้ให้เหมาะเจาะ อ่านแล้วก็จะแพรวพราย ~.~.~.~.~.~ ตัวอย่าง ๑   หลับตาหวังให้หลับ...............สนิท กลับยิ่งหวามวาบจิต..............ละห้อย แลเห็นพักตร์มิ่งมิตร...............มาอยู่ ใกล้แล เห็นเนตรหล่อนชม้อย.............ชม้ายตราตรู ไร้แรง ไร้พลัง ไร้จังหวะ(ที่ดี) เพราะใช้คำลหุถึง ๔-๕ จุด คือ สนิท - ละห้อย - ชม้อย - ชม้าย ซึ่งแม้ว่าพยางค์โคลงจะครบถ้วน แต่อ่านแล้วลีลากระตุก ฟังไม่รื่น ~.~.~.~.~.~ ตัวอย่าง ๒   ตราบขุนคีริข้น..............ขาดสลาย แลแม่ รักบ่หายตราบหาย.........หกฟ้า สุริยจันทรขจาย............จากโลก ไปฤๅ ไฟแล่นล้างสี่หล้า..........ห่อนล้างอาลัย เลือกใช้คำลหุอย่างเหมาะเจาะ จึงมีลีลางดงาม แพรวพราย ~.~.~.~.~.~ ตัวอย่าง ๓   การเวกหรือวิเวกร้อง.................ระงมสวรรค์ เสนาะไม่เหมือนเสนาะฉันท์........เสนาะซึ้ง ประกายฟ้าสุริยาจันทร์...............แจร่มโลก ไฉนฤๅ เมฆพยับอับแสงสะอึ้ง...............อร่ามแพ้ประพนธ์เฉลย ใช้คำลหุมากเกินไป ก็เฝือ ~.~.~.~.~.~ จากคุณ : อังศนา - [ 7 มิ.ย. 49 20:30:39 ]

ความคิดเห็นที่ 89 เลือกเรื่องนี้เพื่อย้ำ........พยางค์โคลง สามสิบคำเชื่อมโยง..............แยกสร้อย พบช่องโหว่เป็นโพรง.............พลั้งพลาด โปรดระมัดระวังถ้อย.............ที่ร้อยอย่าถลำ คำลหุที่เลือกใช้...........เฉกสอง ความอาจครบหากสนอง........แต่เนื้อ จังหวะยากประคอง...............เสียงขาด ควรปรับเปลี่ยนให้เอื้อ...........เผื่อเอื้อนออกเสียง ..ที่เลือกย้ำเรื่องพยางค์โคลง ก็เนื่องจากเห็นโคลงหลายๆ บท ใส่คำเกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวรรคหลังบาทสุดท้าย ไม่ว่าจะเป็นเพราะ ไม่สันทัดการนับพยางค์โคลงหรือจะเป็นเพราะอนุโลมให้ตัวเองก็ตาม ซึ่งทำให้โคลงบทนั้นๆ มีข้อบกพร่องอย่างน่าเสียดาย ..ส่วนคำที่มีลหุ บางครั้งเราใช้เพราะนับพยางค์ได้ครบ   และไม่อยากเสียเวลาหาคำอื่น โดยไม่ทันคิดว่าอ่านแล้วจะสะดุด (จำได้ว่าท่านแปดณอฯ เคยพูดไว้นานแล้วว่า แต่งเสร็จลองอ่านดังๆ แล้วเราจะรู้เองว่าใช้ได้หรือยัง) ..ข้าพเจ้าเองแม้เป็นคนที่ชอบใช้คำลหุเป็นลูกเก็บ และแต่งอย่างคึกคะนองบ่อยครั้ง เพราะอ่านให้ตัวเองฟังแล้วรู้สึกสนุกดี แต่.. ต้องโดนจัดไว้เป็นประเภทที่ ๓ นั่นแหละ ..อิอิ สรุปได้ว่า.. การสรรหาคำมาใช้ให้ตรงต้องจังหวะ โดยไม่ติดขัด จัดว่าเป็นลีลา ซึ่งมือสมัครเล่นอย่างพวกเราก็คงต้องศึกษากันไป ฝึกปรือกันไป จนกว่าจะสามารถ ผสมผสานลีลาให้ลงตัวกับโวหารจนเป็นทางโคลงอันแพรวพรายของตนเอง จากคุณ : อังศนา - [ 7 มิ.ย. 49 21:08:42 ]

ความคิดเห็นที่ 90 น้ำท่วมตาฉ่ำซึ้ง..............เค้นเสนอ ตกร่องแต่งเพราะเบลอ.....เจิ่งน้ำ ฉันทลักษณ์เผลอเรอ.......ลอยฟ่อง ไหลล่องเร่งพายจ้ำ.........จุ่มจ้วงเร็วเกิน สวัสดี ครับ ท่าน Kavint   ขอบคุณครับ พี่อังศนา ที่นำข้อสรุปดีๆ มาฝาก ผมคงอยู่ ในประเภท ที่ 1 แหะ แหะ เสวนาบทที่ 1 น่าจะสมควรแก่เวลา ขึ้นบทใหม่ สมาชิกท่านใดจะรับไม้ต่อ โปรดแสดงเจตจำนงค์ได้เลยนะ ครับ   แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 49 09:57:52 จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 8 มิ.ย. 49 06:55:19 ]

ความคิดเห็นที่ 91 พฤหัสบดีสวัสดิ์ค่ะ ท่านทั้งหลาย ระหว่างรอร้อยเล่น.........ฆ่าเว- ลาแล ระรื่นร่ายไขว้เขว........................ฝากคล้อง ระทดระทวยเท............................ถ้อยเทียบ ระลึกไว้ว่าต้อง............................แต่งแล้วลองเสียง อิอิ.. แวะมารอดูไม้ ๒ เหมียนกัน จากคุณ : อังศนา - [ 8 มิ.ย. 49 14:41:11 ]

ความคิดเห็นที่ 92 รอเวลาวาดไว้............สวยงาม รอสมัครอาสาตาม.....ส่งถ้อย รอแลเรื่องชวนถาม....ชวนคิด รอมิตรมาเรียงร้อย.....กระทู้ไม้สอง รอดู   แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 49 20:45:52 จากคุณ : ทะวาย - [ 8 มิ.ย. 49 17:47:31 ]

ความคิดเห็นที่ 93 จอง เสื้อเหลืองคอปกตราสัญญลักษณ์ฯ กันไว้หรือเปล่าครับ ราคาสั่งจองของแท้สองร้อยกว่าบาท ซื้อวันนี้ของปลอมริมถนนประมาณ 400 เป็นครั้งแรกที่เห็นการตลาดแบบ Demand  มากกว่า Supply อย่างมหาศาล และโอกาสเป็นของผู้ผลิต 100% จากคุณ : KAVINT - [ 8 มิ.ย. 49 22:28:52 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ทบทวนอ่านทุกข้อ.........ความเห็น ระหว่างรอประเด็น.........ใหม่แจ้ง วันฝนตกลมเย็น............เป็นหย่อม ชุ่มฉ่ำรดนาแล้ง.............พลิกฟื้นความหวัง สวัสดี ครับ ทุกๆท่าน จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 9 มิ.ย. 49 22:38:23 ]

ความคิดเห็นที่ 95 จองเสื้อเหลืองใส่โก้..........ปกตราฯ จองกระทู้เสวนา...............หน่อยเน้อ ดีมานด์มากแน่นหนา.........คิวต่อ บทต่อไปอาจเก้อ.............พลาดแล้วรอนาน แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 49 23:17:28 จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 9 มิ.ย. 49 23:09:09 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ไม่ได้ใส่เสื้อเหลืองใช่เรื่องแปลก เพราะในใจมิได้แยกจากเขาอื่น เพราะไม่มีเงินซื้อจึงหยัดยืน ใช้เสื้อมีแม้สีอื่นก็ไม่อาย สีอะไรเหลืองขาวก็เท่านั้น ฝนตกเปียกเหมือนกันล่ะเห็นไหม ใจจงรักภักดีไม่เสื่อมคลาย แม้โคลนเคลื่อนทับกายก็ภักดี เสื้อสีขาวแกมหม่นด้วยจนยาก เงินนั้นหาลำบากกระไรนี่ จึงไม่ซื้อเสื้อเหลืองเพราะไม่มี ดูทีวีร้องเพลงร่วมรวมน้ำใจ ขอเทียนพระมาได้ดีใจเหลือ รอเวลาอุ่นเอื้อสว่างไสว ก็จุดเทียนหน้าทีวีไม่อายใคร น้ำตาเทียนหยดไหลเหมือนตาเรา จากคุณ : ไม่เอาถ่าน (เตาฟืน) - [ 10 มิ.ย. 49 07:47:27 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ๏ เหลืองไสวสว่างทั้ง.........นครา ใจทุกใจหลอมมา...............ผนึกร้อย ดวงตาเอ่อน้ำตา................ปีติ จงรักเกินกว่าถ้อย...............ครบถ้วนจักแถลง ๚ะ ..ขอตัดตอนจากบทเต็มมาเติมสีเหลือง จากคุณ : อังศนา - [ 10 มิ.ย. 49 09:55:46 ]

ความคิดเห็นที่ 98 พี่หมี.. จองแล้ว จองเลย.. มารับไม้ซะดีๆ จงอย่ายึกยัก อ้อ.. พรุ่งนี้ถ้าว่าง เชิญห้องช่อมาลี แดรี่ควีน (เกษตร) ๑๑ น. เด้อค่ะ ~.~.~.~.~.~.~.~.~ ใจ เชียร์ จากคุณ : อังศนา - [ 10 มิ.ย. 49 10:02:46 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ฟุตบอลโลกเริ่มแล้ว........เทศกาล นัดแข่งดึกแทบคลาน.......เที่ยวลุ้น ดูสนุกอย่างเบิกบาน.........เขกเข่า แรกเล่นใจกระตุ้น...........ติดไม้ปลายนวม ผีพนันวางเล่ห์ร้าย............ลวงตา หลอนหลอกชาวประชา.....เคลิบเคลิ้ม อำนาจแห่งเงินตรา...........เพชฌฆาต ชีวาตย์อาจสั่นเทิ้ม...........หมดเนื้อหมดตัว รัก  เชียร์ .................................... แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 49 21:52:04 แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 49 00:47:12 จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 11 มิ.ย. 49 00:34:01 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ยี่สิบเท้าเข้าแย่งแบ่งข้างเล่น จนกลายเป็นเรื่องราวของทั้งโลก ร่วมอารมณ์โรมรันเข้าพงรก ตื่นตระหนกตามกระแสแห่แหนดู การละเล่นเห็นสนุกด้วยลูกหนัง แย่งกันมั่งหนีกันมั่งกันทั้งคู่ คนดูนั้นแบ่งข้างนับประตู เล่นกันอยู่วุ่นวายไปอย่างนั้น ปัญญาชนคนช่างคิดบัณฑิตกล่าว ไม่เห็นหนเป็นเรื่องราวอย่างไรนั่น ไม่เห็นมีสาระอะไรกัน เสียเวลาเสียวิญญาณไร้ปัญญา ทั้งเสียเงินสร้างเรื่องให้เปลืองเปล่า ในทุกคราวมันก็ช่างสร้างปัญหา มีคนโง่เล่นพนันกันทุกครา ผลสุดท้ายอาชญาเต็มแผ่นดิน ไม่ว่าทีมชาติใดได้ชนะ ทีมที่แพ้ก็จะเสียหายสิ้น พวกที่เชียร์ก็ทำลายจนพังพินท์ จราจลบนดินก็เดือดดาล กระแสโง่โชว์เขลาเอาคนโง่ หัวไม่โงหน้างุดมุดอยู่นั่น ใครจะว่ายังไงก็ช่างมัน สุดท้ายแล้วกระแสนั้นก็กินคน จากคุณ : ไม่เอาถ่าน (เตาฟืน) - [ 11 มิ.ย. 49 09:13:36 ]

ความคิดเห็นที่ 101 โลกความจริงมีขาวและมีดำ จะเลือกทำอย่างไรตามใจท่าน กระแสโลกผันแปรไม่แช่นาน ใช้วิจารณญาณผ่านร้อนรุม ลงเล่นน้ำรู้จักหลุมลึกตื้น สามารถยืนมั่นคงไม่บ่ามบุ่ม กระแสกรากเชี่ยวไหลกายใจคุม ต้องรัดกุมคิดหน้าหลังระวังภัย ดูฟุตบอลสอนใจให้รู้เหมาะ รู้จักเดาะรู้จักโหม่งเข้าตรงไหน รู้จักเลี้ยงรู้จักเตะลูกไปไกล รู้ชนะรู้อภัยให้ผู้คน กติกาสากลกำหนดไว้ เป็นเงื่อนไขป้องกันการสับสน ตะลุมบอนอลเวงอลวน เสียบเตะคนขาแข้งหักต้องพักยาว มีใบเหลืองใบแดงไว้เว้นวรรค ไม่ยึกยักกรรมการเขาว่ากล่าว ในเกมส์แพ้คนไม่แพ้เรืองยืดยาว ต้องเป็นกาวประสานใจเพื่อนในทีม ................. จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 11 มิ.ย. 49 10:26:47 ]

ความคิดเห็นที่ 102 จันทร์สวัสดิ์ค่ะ ทุกๆ ท่าน บทแรกว่าเรื่องน้ำ...........ล้นนอง บทต่อที่จับจอง.....................เริ่มจ้ำ โคลงเรือร่วมเฉลิมฉลอง.........จากอดีต จนจวบปัจจุบันย้ำ..................หยาดฟ้ามาถวัลย์ สารพันเรืออีกร้อย.........ชนิดเรียง เปิดช่องชวนถกเถียง.............พิสูจน์ท้า สามารถแต่งโคลงเคียง..........เข็นขนาบ ไพเราะลือกระฉ่อนหล้า..........ละเมียดได้เสมอเหมือน อิอิ.. พบว่าคุณกวินทร์แวะเข้ามารับไม้อย่างเงียบเชียบยามวิกาล จึงขออนุญาตวางลิงค์ไว้ให้แทนดังนี้ [ลานเสวนา ๒] * ~ ~ โคลงเรือ ~ ~ * http://pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4448475/P4448475.html จากคุณ : อังศนา - [ 12 มิ.ย. 49 08:35:26 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ขอบคุณท่านผู้ร่วม..............เสวนา อุทิศสละเวลา.....................แต่งแต้ม บทที่หนึ่งฝนซา..................ลาจาก แล้วเอย บทที่สองลองแง้ม..............เสนาะล้ำโคลงเรือ สวัสดี และขอบคุณ ครับ ทุกๆท่าน จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 12 มิ.ย. 49 15:17:20 ]

ความคิดเห็นที่ 104 โคลงใดใครแต่งแต้ม.................เป็นโคลง เราแต่งยานเตงโตง....................บ่ได้ ความโง่พาเรือล่ม.......................จมเฮย โคลงเรือง่ายกว่าง่าย...................ยากแท้โคลงกลอน จากคุณ : ไม่เอาถ่าน (เตาฟืน) - [ 14 มิ.ย. 49 13:10:09 ]

ความคิดเห็นที่ 105 18.40 น. ๐ โคลงใจใคร่แต่งแต้ม             เป็นโคลง ยามแต่งยานเตงโตง                 จับเต้า ยามโง่โธ่ทั้งโลง                       เราล่ม ยามฉลาดพลาดพลั้งเศร้า           เสกสร้างโคลงกลอน 18.49 น. .................................................................................................. บลูทูชล่ม...ไม่รับลงทะเบียนเข้าระบบเนทเวิร์ค เสียหลายวัน เวลา 18.20 น. วันนี้...ห้วงเวลาต้องห้าม...ผ่านไปแล้วหรือไร .................................................................................................. ทรงพระเจริญ...ทรงพระเจริญ...ทรงพระเจริญ แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 49 19:04:07 จากคุณ : นกโก๊ก - [ 14 มิ.ย. 49 19:02:33 ]

ความคิดเห็นที่ 106 . โคลงใดใคร่แต่งแต้ม          ตามใจ โคลงอาจเคลงแกว่งไกว      แผกบ้าง โง่ก่อนจะฉลาดไว              เปรื่องปราด ยากง่ายคอยเพียรสร้าง       หมั่นซ้อมฝึกปรือ จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 19 มิ.ย. 49 16:10:13 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ลมสอบพัดสาบสร้าง........กระแส อากาศปรวนผันแปร.........เปลี่ยนข้าง ฝกตกทุกวันแล...............สุขภาพ  บ้างนา หรือตกมาไล่ช้าง.............และชะล้างขี้หมู  ฯ _____________ ดูแลสุขภาพประชาธิปไตยกันบ้างครับ จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 4 ก.ค. 49 19:45:38 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ความคิดเห็นที่ 101 กติกาสากลกำหนดไว้ เป็นเงื่อนไขป้องกันการสับสน ตะลุมบอนอลเวงอลวน เสียบเตะคนขาแข้งหักต้องพักยาว มีใบเหลืองใบแดงไว้เว้นวรรค ไม่ยึกยักกรรมการเขาว่ากล่าว ในเกมส์แพ้คนไม่แพ้เรืองยืดยาว ต้องเป็นกาวประสานใจเพื่อนในทีม คุณ ลำน้ำ C ******************** *ที่ว่ามาคล้ายการเมืองเรื่องวุ่นนัก กติกาเห็นตระหนักยังหักหาญ กรรมการเหมือนเจว็ด..น่ารำคาญ ถูกคัดคานยังด้านสู้ไม่รู้อาย *มีโยกโย้  ยึกยัก หนักสีข้าง แต่ละอย่าง หัวชนฝาพาเสียหาย วิ่งเปลี่ยนหลัก  พรรคเปลี่ยนคน จนวุ่นวาย จะมีไหม สักหนึ่งตน เป็นคนดี จากคุณ : สิคีรียา - [ 5 ก.ค. 49 22:39:04 ]

ความคิดเห็นที่ 109 จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 16 ก.ค. 49 21:00:06 ]

ความคิดเห็นที่ 110 จากคุณ : สิคีรียา - [ 16 ก.ค. 49 23:39:29 ]

ความคิดเห็นที่ 111 จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ 28 ก.ค. 49 18:09:26 ]