ความคิดเห็นที่ 1 ลองพิจารณา "สรุปผลการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง ของอนุกรรมการ กกต." ดูสักหน่อย หน้า 2...ที่ว่า... "...........สักครู่หนึ่งได้พบ พล.อ.ธรรมรักษ์ฯ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล และนายทหารนอกเครื่องแบบอีก 2 คน โดยได้พูดคุยและตกลงกันว่าจะทำการตัดต่อข้อมูลการเป็นสมาชิกพรรค กรณีที่มีผู้สมัครเป็นสมาชิกพรรคไม่ครบ 90 วัน ที่เรียกว่า ตัดต่อพันธุกรรม  โดยถอดชื่อสมาชิกพรรคบางคนออกจากบัญชีรายชื่อสมาชิกพรรคแล้วนำชื่อผู้ที่พรรคจะส่งลงสมัครแทนที่ โดยใช้หมายเลขสมาชิกพรรคและวันสมัครสมาชิกพรรคเดิม" และที่หน้า 5...ที่ว่า ".....ได้พบ พล.อ.ธรรมรักษ์ฯ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล และนายทหารนอกเครื่องแบบอีก 2 คน เข้ามาพูดคุยและตกลงกันว่าจะทำการตัดต่อข้อมูลการเป็นสมาชิกพรรคกรณีที่มีผู้สมัครเป็นสมาชิกพรรคไม่ครบ 90 วัน ที่เรียกว่า  ตัดต่อพันธุกรรม  โดยถอดชื่อสมาชิกพรรคบางคนออกจากบัญชีรายชื่อสมาชิกพรรคแล้วนำชื่อผู้ที่พรรคจะส่งลงสมัครแทนที่โดยใช้หมายเลขสมาชิกพรรคและวันสมัครสมาชิกพรรคของสมาชิกคนเดิม.... และที่หน้า 13...ที่ว่า "...ด้วยการตัดต่อข้อมูลการเป็นสมาชิกพรรคกรณีที่มีผู้สมัครเป็นสมาชิกพรรคไม่ครบ 90 วัน ที่เรียกว่า ตัดต่อพันธุกรรม  โดยถอดชื่อสมาชิกพรรคบางคนออกจากบัญชีรายชื่อสมาชิกพรรคแล้วนำชื่อผู้ที่พรรคจะส่งลงสมัครแทนที่โดยใช้หมายเลขและวันสมัครสมาชิกพรรคเดิม" จะเห็นว่า สำนวน...." ตัดต่อพันธุกรรม"  เป็นสำนวนที่ทาง พรรค ปชป. คิดขึ้นมาเอง...เป็นการเฉพาะกรณีนี้ แต่ทาง อนุกรรมการ กกต. ก็ยัง copy สำนวน " ตัดต่อพันธุกรรม "  ของ ปชป. ...ออกมาในข้อสรุปถึง 3 แห่ง เอามาให้ดูแล้วพิจารณากันเองน่ะ จากคุณ : สายชล26 - [ 30 พ.ค. 49 23:49:57 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ที่แปลกอีกที่ก็ตรงนี้... หน้า 2 ....ของรายงาน โดยนายอมรวิทย์ สุวรรณผาเจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์ผู้มีหน้าที่บันทึกข้อมูลสมาชิกพรรคการเมือง ยอมรับว่าเป็นผู้นำข้อมูลที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงมาบันทึกลงในฐานข้อมูลของนายทะเบียนพรรคการเมืองโดยได้ค่าตอบแทน 30,000 บาท และได้นำเงินจำนวนดังกล่าวมามอบให้ไว้เป็นหลักฐานต่ออนุกรรมการสืบสวนสอบสวนด้วย ที่น่าสังเกตก็คือ.....ลองไปดูที่ http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9490000039182 >>> ผู้สื่อข่าวรายงานจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า วานนี้ (22 มี.ค.) นายนาม แย้มยิ้ม อดีตรองประธานศาลฎีกา ซึ่ง กกต.แต่งตั้งให้เป็น ประธานคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงกรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ กกต.มีส่วนร่วมแก้ไขข้อมูลพรรคการเมืองเพื่อให้ผู้สมัครพรรคเล็ก มีสิทธิลงสมัคร โดยมีแกนนำคนสำคัญของพรรคไทยรักไทย เป็นผู้สนับสนุนด้านการเงิน ได้แจ้งต่อ ประธาน กกต.ขอถอนตัวจากการเป็นประธานกรรมการฯดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่า เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องการเมืองไปแล้ว ที่แปลกก็คือ คณะอนุกรรมการฯ ไม่ยอมสอบลงไปในรายละเอียดว่า..นายอมรวิทย์ สุวรรณผาเจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์ ได้รับเงินมาจากใคร....ที่รับเงินมาแค่ 30,000 บาท แต่ทำงานใหญ่เพียงนั้น และที่แปลกกว่า ก็คือ.... นายอมรวิทย์ ได้นำเงินจำนวนดังกล่าวมามอบให้ไว้เป็นหลักฐานต่ออนุกรรมการสืบสวนสอบสวนด้วย นายอมรวิทย์ เก็บเงิน 30,000 บาทเอาไว้เพื่อ "มอบให้ไว้เป็นหลักฐานต่ออนุกรรมการสืบสวนสอบสวน" ผมตั้งข้อสังเกตไว้หน่อยนะ....มีการดำเนินการสอบสวนคล้ายกับต้องการ "กันนายอมรวิทย์ไว้เป็นพยาน".....แต่ต่อมาทาง กกต. มีมติให้ส่งนายอมรวิทย์ ไปดำเนินคดี เรื่องนี้ จึงต้องติดตามกันต่อไป จากคุณ : สายชล26 - [ 30 พ.ค. 49 23:50:33 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เท่าที่ ทนนั่งอ่านสรุปสำนวนการสอบสวนของคณะอนุกรรมการฯ ทีแรก ผมนึกว่าเป็น "คำร้องของ ปชป." ซะอีก จริงๆนะ .... มันคล้ายกับ สำนวนที่ สุเทพฯ เอามาแถลงออกสื่อให้เห็นก่อนหน้านี้ ก็แปลกดี จากคุณ : สายชล26 - [ 30 พ.ค. 49 23:51:00 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ที่น่าสนใจก็คือ ... หลังจากยุบสภาใหม่ๆ  พรรค ปชป. ได้ขอส่งคนเข้าไปตรวจสอบที่ฝ่ายทะเบียนของ กกต. ...และเดินเข้าออกใน กกต. จนสังเกตได้ โดยอ้างว่า จะได้ตรวจสอบบัญชีสมาชิกของพรรคการเมืองอื่นๆ ได้ จะเห็นได้ว่า...พรรค ปชป. เป็นพรรคเดียวที่ส่งคนเดินเข้านอกออกในในฝ่ายทะเบียนของ กกต. แล้วใครกันแน่ ที่ไปติดต่อ ว่าจ้าง "เจ้าหน้าที่ กกต." ให้ทำการเปลี่ยนรายชื่อสมาชิกของพรรคเล็ก ......จนถูกจับได้ ผมให้มองอีกมุมหนึ่งน่ะ จากคุณ : สายชล26 - [ 30 พ.ค. 49 23:51:21 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผู้ที่ไปเป็น "นกต่อ" ติดต่อกับพรรคเล็ก....บอกว่าสามารถ " ติดต่อ ว่าจ้าง "เจ้าหน้าที่ กกต."ให้ทำการเปลี่ยนรายชื่อสมาชิกของพรรคเล็ก ".......น่าจะเดาได้ว่าเป็นฝ่ายใด แล้วนำมาแบล็กเมล์พรรคเล็กในภายหลัง..... โดยทั้งบีบ ทั้งโน้มน้าวให้คนในพรรคเล็กให้การใส่ร้ายไปตามบทที่ต้องการ "ผู้ทำ" หวังแค่ผลทางการเมืองเท่านั้นแหละ .... แค่ให้การเลือกตั้งดูไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม มีการจ้างพรรคเล็กลงสมัคร คงนึกไม่ถึงว่า...แผนการที่ทำจะถูก "ย้อนรอย" ไปหาได้เกือบทุกกรณี มันแสดงให้เห็นว่า .... ใน กกต. เองก็มีเกลือเป็นหนอนนั่นแหละ จากคุณ : สายชล26 - [ 30 พ.ค. 49 23:51:49 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ที่น่าแปลกอีกอย่างก็คือ .... คณะอนุกรรมการชุดนี้เคยยื่นใบลาออกมาครั้งหนึ่งแล้ว ตอนที่ กกต.ใหญ่ ให้คณะอนุกรรมการชุดนี้สอบ "เจ้าหน้าที่ กกต. คนที่รับจ้างเปลี่ยนข้อมูลคอมพิวเตอร์" ตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยว่า ..... ใครเป็นคนจ้างด้วยเงิน 30,000 บาท คณะอนุกรรมการที่บินไปสอบพยานได้ถึงเซฟเฮาส์ที่สุราษฎร์ ...กลับไม่สามารถสอบให้ได้ผลออกมาว่า เจ้าหน้าที่รับเงินมาจากใคร และในสำนวนสรุปผลการสอบของคณะอนุกรรมการ ก็ไม่ได้แสดงให้เห็นด้วย และมีผู้ตั้งข้อสังเกตอีกว่า ... คณะอนุกรรมการฯ สรุปโดยพยายามโยงไปถึงหัวหน้าพรรค และอ้างไปถึงมาตราที่กำหนดโทษเกินไปกว่าในความน่าจะเป็น พิจารณาเอาเองแล้วกันนะ จากคุณ : สายชล26 - [ 30 พ.ค. 49 23:52:16 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ภาพและคำบรรยายชุดนี้น่าจะเป็นประโยชน์แก่ พลเอกธรรมรักษ์ ซะมากกว่า...... เพราะมันไปค้านกับ "คำให้การของพยาน" ในสำนวนของท่านนามฯ พลเอกธรรมรักษ์ ก็แค่เอาภาพและคำบรรยายที่สุเทพนำมาแสดง ไปให้กับ "คณะอนุกรรมการ กกต. ชุดของท่านนามฯ" เพื่อให้เห็นว่า "คำให้การของพยาน(น่าจะเป็นนายชวการฯ) " ในสำนวนสอบสวนของคณะท่านนามฯ ...... ขัดแย้งกับ.... ภาพจากวงจรปิดและคำบรรยายที่สุเทพนำมาแสดง หลักฐานจาก ปชป. ทั้ง 2 แหล่ง ..... มันค้านกันเอง แต่งเรื่องจนจำไม่ได้ว่าที่ "แต่ง" เอาไว้ก่อนหน้านั้น ... ให้การว่าอย่างไร เละครับ... เละ จากคุณ : สายชล26 - [ 30 พ.ค. 49 23:53:59 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อวานดูยังงงๆ แต่วันนี้ฟันธงภาพตัดต่อ เชื่อมั้ยเรารู้สึกขยะแขยงในการกระทำของพวกนี้มาก น่าละอายเหลือเกินพวกเขากำลังดูถูกประชาชนมากๆ เขาไม่รู้เลยหรือว่ายิ่งทำคนยิ่งสมเพทเขามากๆ จากคุณ : bitter sugar - [ 31 พ.ค. 49 00:10:21 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คงพยายามเหมือนตอนที่ให้ผู้หญิงพรรคเล็กพรรคหนึ่งมาอัดวีซีดีง่ะ แน่ใจเหรอว่าที่ ปชป กำลังทำอยู่มันเพื่อชาติบ้านเมือง ข้า จะคอยเฝ้าดู พวกเจ้าทำอะไรกับชาติไทยบ้าง วันนึงเมื่อมันเกินขอบเขตของความพอดีของการเล่นเกม สิ่งที่เจ้ามิได้ถวิลหาจะโหมกระหน่ำเจ้าผู้มิเคยเหลียวแลชาติบ้านเมืองดั่งปาก จากคุณ : อวดเก่ง - [ 31 พ.ค. 49 00:16:44 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เยี่ยมมากครับ คุณสายชล แม่น..มากๆ แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 49 01:05:32 จากคุณ : ปัญญาแห่งตน (My_Wisdom) - [ 31 พ.ค. 49 00:49:52 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เจ้าหน้าที่ศาลบางตัว สมัยนั้นคือพวกที่เรียนสายวิทย์ไปไม่รอด ก็เท่านั้น จากคุณ : น้ำฟ้างาม - [ 31 พ.ค. 49 01:59:20 ]

ความคิดเห็นที่ 12 http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4412477/P4412477.html เอียงตัวโก่ง.. จากคุณ : เสธดำ (tsunami20) - [ 31 พ.ค. 49 02:10:40 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ข้อสังเกตุก็คือ  ภาพเก้าภาพนั้น  ภาพที่ 1-4 เป็นภาพที่อ้างว่ากลุ่มบุคคลได้ทะยอยขึ้นมารออยู่หน้าห้องท่านธรรมรักษ์  ส่วนภาพที่ 5 คือภาพท่านธรรมรักษ์กำลังขึ้นบันได  และภาพที่ 6  คือภาพที่ท่านธรรมรักษ์เข้ามาในห้องรัฐมนตรี  โดยในภาพที่6 มีคำบรรยายว่า  ท่านธรรมรักษ์ได้ผ่านและทักทายกลุ่มผู้คอยอยู่หน้าห้อง คำถาม  ถามว่าทำไมไม่เอารูป ที่ท่านธรรมรักษ์เดินผ่านและทักทายกลุ่มผู้ที่มารออยู่หน้าห้องออกมาโชว์ครับ.......... เพราะมันเป็นภาพสำคัญที่สุดที่จะยืนยันว่า ท่านธรรมรักษ์รู้จักและได้พบกับกลุ่มผู้อ้างอิงจริงๆ  เพราะมีภาพตัวละครทั้งหมดอยู่ในฉากเดียวกัน คำตอบก็คือ  ก็เพราะมันไม่มีน่ะสิ  มันตัดต่อไม่ได้   เลยต้องใช้วิธีข้ามภาพสำคัญไปครับ...........งานนี้เค้าไม่ได้หวังจะยุบพรรค ทรท.ครับ  เค้าหวังเพียงผลการเลือกตั้งในเดือน ต.ค. ครับ เพราะคดีนี้กว่าจะตัดสินอีกนานไม่น้อยกว่า 1 ปี ถึงเวลานั้น ทรท.ก็แพ้เพราะเสียชื่อเสียงไปแล้วครับ   ส่วน กกต. เป็นแพะเหมือนเดิม แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 49 04:42:06 จากคุณ : เพียงกระซิบ - [ 31 พ.ค. 49 04:38:43 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แล้วถ้ารู้ว่ามัเข้าข้างกันรู้พื้นเพเค้าดีทำไมไม่ออกมาแฉตั้งแต่แรกก่อนที่จะตั้งเป็นคณกรรมการทำไมต้องออกมาตอนที่จะตัดสินไม่เข้าข้างพรรคใหญ่เล่า จากคุณ : gogoh - [ 31 พ.ค. 49 06:18:55 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สำนวนศาลไม่แน่ใจครับ แต่ภาพที่อกมาจาก กระทรวงกลาโหมแน่ครับ จากไทยรัฐวันนี้ครับ วันเดียวกัน ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.สิริชัย ธัญญสิริ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังเข้าพบ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รมว.กลาโหมว่า พล.อ.ธรรมรักษ์ไม่ได้วิตกหรือซีเรียสกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยกล่าวสั้นๆว่าไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ส่วนภาพที่ออกมาเป็นการเดินทางมาทำงานตามปกติทุกวัน ไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ และ พล.อ.ธรรมรักษ์ก็ยืนยันว่าไม่เคยเห็นบุคคลในภาพดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ภาพที่ปรากฏทางหน้าหนังสือพิมพ์เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดของกระทรวงกลาโหมจริง จึงได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน โดยให้ พล.ต.พัชราวุธ วงศ์เพชร ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผน กระทรวงกลาโหม เป็นประธานการสอบสวน โดยมีกรรมการประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากกรมเสมียนตรา กรมพระธรรมนูญและศูนย์กิจการอวกาศกระทรวงกลาโหม เป็นกรรมการร่วมสอบสวน โดยได้กำชับให้สอบสวนเสร็จภายใน 2-3 วัน เพราะถือเป็นเรื่องเร่งด่วน สำหรับกล้องวีดิโอวงจรปิดดังกล่าว เพิ่งได้รับงบประมาณในสมัย พล.อ.อู้ด เบื้องบนเป็นปลัดกลาโหม โดยติดตั้งเมื่อเดือนธันวาคม 2548 โดยบริษัทวิชั่นแอนด์ซิคิวริตี้ ซิสเต็ม จำกัด จากคุณ : Pakpow - [ 31 พ.ค. 49 08:45:38 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาตอบความเห็นครับ โดยเฉพาะ คุณสายชล26 ที่ใช้ความพยายามอย่างสูงวิเคราะห์สำนวนการสอบสวน จนได้ความว่า คำว่า"ตัดต่อพันธุกรรม" เป็นการกระทำอย่างไร มีการใช้คำนี้เสมือนเป็นภาษากฏหมาย คำดังกล่าวไม่ใช่ภาษากฏหมายแน่นอน อีกทั้งยังมีการอ้างถึงใจความสำคัญถึงสามครั้ง ซึ่งในสำนวนการสอบสวนสมควรใช้แต่สำนวนภาษากฏหมายเท่านั้น กรณีนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ทำสำนวนการสอบสวนฉบับนี้ "จงใจ"ทำสำนวนด้วยใจ"ลำเอียง"เป็นอย่างยิ่ง ไม่น่าเชื่อว่าประธานกรรมการที่เป็นถึงอดีตผู้พิพากษาศาลฏีกา  จะให้ความเห็นชอบการทำสำนวน ที่มีสำนวน "ไม่สมควรอย่างยิ่ง"ได้ถึงเพียงนี้ อะไรที่ทำให้ดวงจิตแห่งความยุติธรรมที่เคยมีมาแทบตลอดทั้งชีวิตตุลาการของท่านต้องมัวหมองได้อย่างนี้... หากใครเป็นผู้ต้องเสียหายจากการทำสำนวนที่ "ลำเอียง" อย่างนี้ จะต้องฟ้องร้องเอาผิดกับคณะอนุกรรมการฯชุดนี้แน่นอน ในข้อหา "เป็นเจ้าพนักงานกระทำการหรือละเว้นกระทำการโดยมิชอบ " เพื่อปกป้องเกียรติยศชื่อเสียง และเป็นการลงโทษผู้ที่กระทำมิชอบมิให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่สาธารณชนต่อไป จากคุณ : NOOKLOOK - [ 31 พ.ค. 49 09:15:46 ]

ความคิดเห็นที่ 18 การที่จะได้ภาพมาจะต้องมีการวางแผนไว้ก่อน เพราะถ้าไม่รู้ใครคุมกล้องก็ได้ยากจะได้ภาพเพราะทำลายทุกๆ 15 วัน กล้องวงจรปิดนี้ควบคุมโดยทหารซึ่งถ้าวันนั้นไม่ใช่พวกเดียวกันคุมก็จะได้ภาพนี้ยากมากเพราะภาพจะลบในแค่ 15 วัน ก่อนไปต้องวางแผนกันก่อน มีพวกตัวแสดงไปยืนหน้ากล้องหน้าห้องเตรียมไว้ก่อน ขณะอีกพวกยืนที่กระไดคอยดูธรรมรักษ์มา เมื่อธรรมรักษ์มาแล้ว พวกตัวแสดงต่างๆก็รีบหลบไปปล่อยให้ธรรมรักษณ์เข้าห้องโดยไม่เห็นอะไร สังเกตได้จากไม่มีภาพธรรมรักษ์เจอกับตัวแสดงพรรคเล็กสักรูปซึ่งถ้ามีก็จะเป็น "รูปที่สำคัญมาก. จากนั้นตัวแสดงก็มาแสดงอีกนีดหน่อยจึงเป็นการถ่ายแยกกันโดยสิ้นเชิง การไม่ได้ภาพทั้งหมดจึงฟังไม่ได้ว่าเป็นอย่างที่ ปชป กล่าวอ้าง แล้วเชื่อได้ว่ามีการจัดฉากแสดงอย่างแน่นอนโดยสังเกตได้ว่าคนที่แต่งกายเป็นตำรวจชำเลืองมองกล้องรับรู้ว่ามีการถ่ายอยู่ งานนี้จึงเป็นงานที่เตรียมการมาแบบ MI (MISSION IMPOSSIBLE) จากคุณ : วิจิโน - [ 31 พ.ค. 49 09:18:52 ]

ความคิดเห็นที่ 19 คห.#18 "ก่อนไปต้องวางแผนกันก่อน มีพวกตัวแสดงไปยืนหน้ากล้องหน้าห้องเตรียมไว้ก่อน ขณะอีกพวกยืนที่กระไดคอยดูธรรมรักษ์มา" ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้น ใช้ Photo Shop ทำได้สบายกว่าครับ. ไม่รู้ว่าพวกคนแก่ๆ ตามเทคโนโลยีทันหรือเปล่าก็ไม่รู้ ขนาด วิดิโอ ยังซ้อนภาพกันได้เลย. จากคุณ : mcmon - [ 1 มิ.ย. 49 08:00:29 ]