CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ชัยอนันต์ สมุทวณิช กับ ชีวิตที่เลือกแล้ว

    ชัยอนันต์  สมุทวณิช กับ ชีวิตที่เลือกแล้ว

    ชัยอนันต์ สมุทวณิช มีคอลัมน์อยู่ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ใช้ชื่อคอลัมน์ ว่า “ชีวิตที่เลือกได้” เป็นคอลัมน์ที่เขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ทุกคน ทุกองค์กร  ด้วยลีลาและสำบัดสำนวนแบบนักวิชาการ “ปีศาจคาบคัมภีร์”  นั่นคือ เจตนาดีแต่ประสงค์ร้าย
    อันที่จริง ถ้าพูดจากันตามประสาซื่อ แบบลูกทุ่งๆ  ไม่ต้องมีเล่ห์ ไม่ต้องแฝงเหลี่ยม  ชัยอนันต์ น่าจะตั้งชื่อคอลัมน์ของตัวเองว่า “ชีวิตที่เลือกแล้ว” ไม่ใช่ “ชีวิตที่เลือกได้” ซึ่งทำให้ผู้อ่านที่ตามไม่ทัน สับสนว่า ชีวิตที่เลือกได้ คือ เลือกอะไรได้บ้าง และใครเป็นคนเลือก ระหว่างผู้เขียน อย่างชัยอนันต์ กับ ผู้อ่านคอลัมน์
    เหตุที่บอกว่า ชัยอนันต์ น่าจะตั้งชื่อคอลัมน์ว่า “ชีวิตที่เลือกแล้ว” ก็เพราะชัยอนันต์ ได้เลือกที่จะใช้ชีวิต เป็นข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของสนธิ  ลิ้มทองกุล ผู้มีพระคุณต่อตระกูลสมุทวณิช อย่างล้นเหลือ  ทั้งพ่อ ทั้งลูก ได้เลือกที่จะฝากชีวิต และปากท้อง ไว้กับนายเงินผู้มีอุปการคุณผู้นี้แล้ว
    จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะได้เห็นชัยอนันต์ สมุทวณิช   และ พชร สมุทวณิช สองพ่อลูก ยืนเคียงข้างสนธิ ลิ้มทองกุล ในทุกสถานการณ์  และทั้งพูด ทั้งเขียนหนังสือ ให้ผู้ฟัง ผู้อ่านทั่วไป เข้าใจได้ว่า สนธิ เป็นบุคคลที่มีคุณประโยชน์มหาศาลต่อประเทศชาติและแผ่นดินไทย  เป็นบุคคลที่มีดวงตาเห็นธรรม เป็นคนแรก และเป็นผู้กล้าแห่งแผ่นดินสยามที่กล้าออกมาท้าตีท้าต่อยกับนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร
    ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ต่อเนื่องมีนาคม และเมษายน ซึ่งเป็นห้วงเวลาที่สนธิ เร่งโหมสรรพกำลังเพื่อล้มล้างนายกฯทักษิณ ให้ได้ในเร็ววัน  ชัยอนันต์  นับเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อขบวนการสนธิ ลิ้มทองกุล ก่อนที่จะมาขยายตัวเป็นขบวนการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย  ได้เร่งผลิตทั้งงานเขียน และขึ้นเวทีอภิปราย ร่วมวงเสวนา สัมมนา ในสถาบันศึกษา  และขยายความคิดในกลุ่มคนชั้นกลาง แวดวงวิชาการ แทบจะไม่เว้นแต่ละวัน  เพื่อปลุกระดมให้แวดวงปัญญาชน คนชั้นกลาง และนิสิตนักศึกษา  ออกมาร่วมขบวนการขับไล่นายกฯทักษิณ  อย่างต่อเนื่อง
    ชัยอนันต์ เป็นคนแรกที่เสนอให้มีการใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 7 เป็นเครื่องมือกำจัดนายกฯทักษิณ ชินวัตร ด้วยการสร้างภาพให้เห็นว่า มีแต่พระราชอำนาจขององค์พระมหากษัตริย์ เท่านั้นที่จะล้มล้างนายกฯทักษิณ  ได้ โดยการพระราชทานนายกรัฐมนตรี   และเขียนบทความในคอลัมน์ ชีวิตที่เลือกได้  เรียกร้องให้สมาชิกวุฒิสภา ส่วนหนึ่งที่มีอคติกับนายกฯทักษิณ ร่วมกันเข้าชื่อถวายฎีกา ให้ทรงใช้พระราชอำนาจตามมาตรา 7 แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองจากสมาชิกวุฒิสภา
    เมื่อยืมมือผู้อื่นจุดกระแสถวายฎีกา ขอพระราชทานนายกรัฐมนตรี ไม่สำเร็จ  ชัยอนันต์ จึงต้องลงมือเอง ด้วยการเป็นตัวตั้งตัวตีเดินล่ารายชื่อบุคคลจากแวดวงต่างๆ อีก 94 คน  รวมตัวเองอีก 1 ชื่อ เป็น 95 ชื่อ โดยอาศัยสถานภาพ ผู้บังคับการโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย  เป็นเครื่องมือสร้างความน่าเชื่อถือ เนื่องจากตำแหน่งผู้บังคับการโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย  เป็นตำแหน่งที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง  จึงมีการสร้างภาพว่าการเข้าชื่อถวายฎีกาครั้งนี้ มี “นัยยะสำคัญ” บางประการ  ที่ไม่สามารถพูดได้  
    หลังจากยื่นหนังสือทูลเกล้าถวายฎีกา ขอให้ทรงใช้พระราชอำนาจ ตามมาตรา 7  แล้ว ชัยอนันต์ ก็ใช้หนังสือทูลเกล้าถวายฎีกาฉบับนั้น เป็นเครื่องมือแพร่กระจายข่าว และสร้างข่าวอีกมากมาย และสร้างกระแสให้สังคมเรียกร้องการแก้ไขปัญหาการเมือง โดยอาศัยพระราชอำนาจ ตามมาตรา 7  โดยมีสนธิ ลิ้มทองกุล และขบวนการพันธมิตรฯ กระโดดรับลูกที่ชัยอนันต์ ส่งมาให้ แล้วก็เร่งโหมสร้างกระแสอย่างหนักทุกคืนวัน  
    จนทำให้เกิดความเชื่อผิดๆ  ความเข้าใจผิดๆ  การเรียกร้องผิดๆ และการคาดหวังแบบผิดๆ ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  เสมือนหนึ่งการกดดันให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงใช้พระราชอำนาจแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ทั้งๆ ที่ขัดรัฐธรรมนูญ
    กว่ากระแสที่ชัยอนันต์ สร้างขึ้นมา และสนธิ เร่งโหมให้ปกคลุมไปทั่วประเทศไทย จะสงบลงได้ กว่าที่ประชาชนคนไทย จะได้สติกลับคืนมา และเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าข้อเสนอ ข้อเรียกร้องของชัยอนันต์ เป็นการทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เดือดร้อน เพราะเป็นการเรียกร้องให้พระองค์ท่านปฏิบัติในสิ่งที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และเป็นวิธีการที่ไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย  ก็ต้องอาศัย พระบารมี และพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงชี้แนะ เตือนสติคนไทยทั้งประเทศ ว่า
    “….อย่าไปคอยที่จะให้ขอนายกฯพระราชทาน เพราะขอนายกฯ พระราชทาน ไม่ได้เป็นการปกครอง แบบประชาธิปไตย  ข้าพเจ้ามีความเดือดร้อนมาก ที่เอะอะอะไรก็ขอพระราชทานนายกฯ พระราชทาน ซึ่งไม่ใช่การปกครองแบบประชาธิปไตย ถ้าไปอ้างมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญ เป็นการอ้างที่ผิด มันอ้างไม่ได้ มาตรา 7 มี 2 บรรทัดว่า  อะไรที่ไม่มี ในรัฐธรรมนูญ ก็ให้ปฏิบัติตามประเพณี หรือตามที่เคยทำมา ไม่มี เขาอยากจะได้นายกฯ พระราชทาน เป็นต้น จะขอนายกฯ พระราชทาน ไม่ใช่เป็นเรื่องการปกครองแบบประชาธิปไตย เป็นการปกครองแบบ ขอโทษ พูดแบบมั่ว แบบไม่ ไม่ ไม่มีเหตุมีผล…”

    จากคุณ : Mr.PaPa - [ 2 มิ.ย. 49 18:48:15 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป