ความคิดเห็นที่ 144
ในขณะที่รัฐบาลทำการศึกษา โดยที่ปรึกษามาตั้งแต่ปี 44 โดยว่าจ้างที่ปรึกษาวิเคราะห์ผังเมือง แนวทางการพัฒนา ซึ่งมีการว่าจ้างศึกษาทั้งระบบ ทั้งผังรวม ผังเฉพาะ และการหาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ดีที่สุดมา ดำเนินการให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสุวรรณภูมิ...เพราะมันเป็นวาระแห่งชาติ เป็นงานของชาติ..
ในทางกลับกัน ที่อภิสิทธิ์ออกมาค้านรัฐบาลไม่ให้พัฒนาเมืองล้อมรอบสนามบิน...แต่ กทม.ทำอะไรครับ... รองหัวหน้าพรรค ปชป. อภิรักษ์ กำลังเร่งใ้ห้ไจก้า ซึ่งไม่ได้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้ มาทำการศึกษาเพื่อวางผังเพื่อพัฒนาเมืองเช่นเดียวกัน ในรัศมีสนามบิน 25 กม. เพื่อดำเนินโครงการเอง ตั้งงบประมาณมาซ้ำซ้อนทั้งที่รัฐบาลได้ดำเนินการไปแล้ว และออกประกาศควบคุมพื้นที่โดยรอบสนามบินในรัศมีดังกล่าว ตามประกาศกรมโยธาธิการ ห้ามการก่อสร้างอาคาร ดัดแปลง ตั้งแต่ปี 2547 ในระหว่างรอผลการศึกษาผลกระทบของสนามบิน และแนวทางการพัฒนาพื้นที่ซึ่งเหมาะสมกับสนามบิน ซึ่งเป็นกิจกรรมหลักเพื่อใช้ประโยชน์ของสนามบินบนพื้นที่โดยรอบ..กทม. ดื้อที่จะทำเองทั้งที่ศักยภาพของตนเองไม่เพียงพอ เพราะหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องต่าง ก็เป็นหน่วยงานที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับของ กทม. ตามข่าวข้างล่างนี้ครับ..
------------------------------------------
กทม.เร่งเครื่องโครงการอุทยานนคร-ศูนย์ฝึกอบรม-ออกแบบ-คมนาคม ดัน"ลาดกระบัง"เป็นชุมชนย่อยนำร่องพัฒนาพื้นที่หลายศูนย์กลางฝั่งตะวันออก ครอบคลุมพื้นที่ 450 ตร.กม.รอบพื้นที่สุวรรณภูมิ
แหล่งข่าวจากกรุงเทพมหานคร เปิดเผย"สยามธุรกิจ"ว่า จากเป้าหมายดังกล่าวทาง กทม.จึงได้เร่งให้บริษัทที่ปรึกษาฯ ทำการศึกษาโครงการอุทยานนคร"การ์เด้นซิตี้"เพื่อจัดวางการพัฒนาพื้นที่ต่อเนื่องจากสนามบินสุวรรณภูมิ ในรัศมี 25 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่เขตหนองจอก,ประเวศน์,สมุทรปราการตอนใต้ และฉะเชิงเทรา กินอาณาบริเวณ 450 ตร.กม. คาดว่าโครงการดังกล่าวจะเริ่มได้ในปลายปี 2549 และเริ่มของบประมาณในปี 2550
ซึ่งโครงการดังกล่าว สามารถแบ่งออกเป็น 5 เขต คือ 1)ชุมชนศูนย์ประชุมนานาชาติ เขตหนองจอก 2)เมืองเศรษฐกิจด้านคมนาคมขนส่งสินค้า เขตมีนบุรี 3)โครงการศูนย์ชุมชนย่อยชานเมือง รองรับธุรกิจการบินหรือเป็นซับเซ็นเตอร์ โดยกำลังให้ญี่ปุ่นศึกษาอยู่ 4)ชุมชนที่อยู่อาศัยชั้นดี ประเวศน์ 5)ชุมชนที่อยู่อาศัย คลองสามวา ทั้งนี้กทม.ได้กำหนดกรอบการพัฒนาให้เป็นเมืองแบบหลายศูนย์กลาง เพื่อลดความแออัดของเมือง
และได้กำหนดให้มีการพัฒนาศูนย์พาณิชยกรรมและศูนย์ชุมชนชานเมืองในพื้นที่ กทม.จำนวน 7 แห่ง ประกอบด้วย ศูนย์ชุมชนลาดกระบัง,มีนบุรี,สะพานใหม่,บางนา-ศรีนครินทร์,หนองจอก,ศูนย์ชุมชนลาดกระบัง (เดิม) และบางขุนเทียน
โดยบริษัทที่ปรึกษาไจก้า จากญี่ปุ่น ได้ร่วมกับหน่วยงานกองวางผังเมือง กทม.จัดสรรงบประมาณจำนวน 800-900 ล้านบาท ในการจัดตั้งสถานที่ศูนย์ฝึกอบรมให้เป็นนานาชาติขึ้นที่เขตหนองจอก เพื่อรองชาวต่างชาติที่เข้ามาพร้อมกับการเปิดสนามบินนานาชาติ และระบบโลจิสติกส์
และกำหนดให้ศูนย์ชุมชนลาดกระบัง เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพและมีบทบาทในการพัฒนาสูง ทั้งด้านกายภาพ เศรษฐกิจและสังคม และได้ถูกกำหนดให้เป็นศูนย์ชุมชนย่อยนำร่องในการพัฒนาพื้นที่ของกทม.จากเมืองศูนย์กลางเดี่ยวเป็นเมืองหลายศูนย์กลางของชุมชนเมืองฝั่งตะวันออก,เป็นพื้นที่เชื่อมสู่สนามบินสุวรรณภูมิมีการสร้างและจัดให้มีที่พักอาศัยที่มีคุณภาพสูงชั้นดีรองรับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นในเขตชานเมือง และที่พักของพนักงานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการบิน
นอกจากนี้ยังมีศูนย์ออกแบบและวิจัย ศูนย์คมนาคมในย่านมีนบุรีอีกด้วย
------------------------------------------------------
จากคุณ :
TRAT
- [
25 มิ.ย. 49 00:35:49
]
|
|
|