เพื่อนส่งอีเมล์มาให้อ่านค่ะ อ่านแล้วยิ้ม....
เจ้าหญิงของพวกเรา
Date: Thu, 15 Jun 2006 22:11:22
ไม่อ่านจะเสียใจ
เพื่อนผมเคยเล่าให้ฟังว่า สักประมาณ 20 ปีที่แล้ว
ขณะที่เขากำลังเดินดูหนังสือในร้านหนังสือดวงกมลสยามแสควร์
ก็มีนิสิตหญิงจุฬาสองสามคนเดินเข้ามาในร้าน นิสิตคนหนึ่งใบหน้าสวยคมจัดว่า สวยน่ารัก
แต่ใบหน้าดูคุ้นเหลือเกิน
ทันใด!!! เขาก็เห็นคนเริ่มไหว้บ้างค้อมศรีษะบ้างให้แก่นิสิตคนนั้น
แต่ก็มีเสียงเอ่ยขึ้นมาอย่างเกรงใจจากนิสิตคนนั้นว่า
"ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณค่ะ วันนี้เป็นนิสิต มาหาซื้อหนังสือ เชิญทุกท่านตามสบายค่ะ
ทุกคำที่เอ่ยจะมีคำว่า ค่ะ ตลอดแล้วก็หันไปยิ้มแบบเขินๆกับเพื่อนทีมาด้วยกริยาช่างงามน่ารักเหลือเกินเพื่อนผมย้ำ
ทันใด นิสิตกลุ่มนั้นก็หันไปเห็นผู้อาวุโสท่านหนึ่ง
กำลังเดินดูหนังสืออยู่ในร้านเหมือนกัน
จึงเดินเข้าไปหาพร้อมยกมือไหว้ผู้อาวุโสท่านนั้น
และนิสิตท่านก็เป็นผู้เอ่ยทักว่า
"สวัสดีค่ะอาจารย์ มาหาซื้อหนังสือเหรอคะ"
ทันใด ผู้อาวุโสท่านนั้นก็สะดุ้ง
กำลังจะก้มและย่อตัวลงในท่าทำความเคารพ
แต่ความที่อยู่ในวัยชราจึงไม่ค่อยถนัด
พร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า อ้าว องค์หญิง กระหม่อมมาหาซื้อหนังสือพะยะค่ะ
ในตอนนั้น เพื่อนผมก็จำได้ขึ้นมาว่านิสิตท่านนั้นก็คือ
สมเด็จพระเทพฯ นั่นเอง
ตอนนั้นพระเทพฯก็ทรงเข้ามาประคองอาจารย์ท่านนั้น
พร้อมกับรับสั่ง
ไม่เป็นไรค่ะ อาจารย์ หนูกับเพื่อนมาหาซื้อหนังสือเหมือนกันค่ะ
เพื่อนผม บอกว่าตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ผมรักและเทิดทูนเจ้าหญิงองค์น้อยเสมอมา
ด้วยความที่ท่านไม่ทรงถือพระองค์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์
ผมเคยอ่านจากหนังสือสกุลไทยช่วงตอบปัญหาของใครจำไม่ได้แล้วมีคนเขียนไปถามเจ้าของคอลัมน์ว่า
จริงหรือเปล่าที่พระองค์เคยเสด็จเป็นการส่วนพระองค์ยังเมืองทองธานีเพื่อเสวยร้านอาหารโต้รุ่ง
ก็มีคำตอบว่า จริง
พระองค์เคยเสด็จอย่างส่วนพระองค์จริงๆกับคุณข้าหลวงอีก 2คน ไม่มีองครักษ์ติดตาม
คือเสด็จยังร้านอาหารตามสั่งทั่วไปริมถนน
ตอนแรกไม่มีใครจำพระองค์ได้เลย
แต่มี 2 สามีภรรยาคู่หนึ่งเห็นเข้า ฝ่ายสามีบอกว่า
ไม่ใช่สมเด็จพระเทพหรอก
เพราะนี่คือร้านอาหารโต้รุ่งแล้วก็ดึกมากแล้วด้วย
แต่ฝ่ายภรรยาบอกว่า เหมือนมากก็โต้กันไปโต้กันมา
จนพระองค์ทรงได้ยิน จึงหันพระพักตร์มาทาง 2 สามีภรรยานี้แล้วตรัสว่า
"ใช่ แต่ขอให้ทำตัวตาม สบาย
เท่านั้นแหละครับ 2 คนนี้ก็ก้มลงกราบ
จนคนอื่นๆ แปลกใจก็หันมามองกันหมดทั้งร้าน
เจ้าของร้านกับเด็กเสริฟก็เพิ่งทราบ
จึงรีบเข้าไปถวายความเคารพ
พวกพ่อค้าแม่ค้าแถวนั้นก็นำอาหารของร้านตนมาถวาย
จนกระทั่งเสด็จกลับไป
นี่แหละครับ เจ้าหญิงในใจประชาชนจริงๆ
จำได้ว่าตอนที่พระองค์ท่านเสด็จในงาน concert กาชาดหลายปีแล้ว
พระองค์ท่านทรงเป่า trumpet เพลงคู่กัด
พอท่านทรงเป่าจบ คนดูก็ตบมือท่านก็ทรงรับสั่งว่า
แปลกจังทำไมไม่มีเสียงกรี๊ดเลย
คนดูก็เงียบกริบ...คงตะลึงมั้ง
ท่านก็รับสั่งย้ำอีกครั้งเท่านั้นแหล่ะ..คนดูกรี๊ดถล่ม
ผมเคยเข้าไปเล่นคอนเสิร์ตหน้าพระที่นั่งศาลาดุสิตาลัย
เมื่อสิบห้าปีก่อน พระเทพทรงประชวรหวัดเล็กน้อย
แต่ก็ตรัสก่อนพวกผมเล่นกันว่า
"วันนี้ไม่มีเสียงกรี๊ดนะเป็นหวัด
พอตอนเล่นผมเลยบังอาจถวายแซวพระองค์ท่านว่า
"ในฐานะรุ่นน้องจุฬาฯ ขอพระราชทานอนุญาตเอ่ยพระนามพระองค์ว่าพี่น้อยก็แล้วกันวันนี้ขอให้พี่น้อย หายหวัดเร็วๆนะครับ
คนดูในศาลาดุสิตาลัยเงียบกริบผมก็ชักหนาวสันหลังว่า เหิมเกริมไปหรือเปล่า
เพื่อนร่วมวงรีบชิงพูดต่อว่า
มหาดเล็กครับช่วยยิงให้ถูกคนด้วยแล้วกันคนเลยฮากันตึง... รอดไป
มีเพลงหนึ่งชื่อเพลงกล้วยไข่
ผมก็แปลงเป็นว่า แปลกใจจริง พระเทพฯชอบอะไร
พระเทพชอบกล้วยไข่
เพราะว่าพระองค์ทรงโปรด
ลัล ลัล ลัล ลา
ตอนไปรับพระราชทานดอกไม้จากพระหัตถ์ ผมไปยกมือไหว้ท่าน
ท่านก็ตรัสย้อนผมว่า
"ใครเค้าไหว้กัน เค้าโค้งจ้ะ
จากนั้นท่านก็ตรัสว่าใครบอกฉันชอบกล้วยไข่ ฉันชอบกล้วยน้ำว้าย่ะ
ผมไม่เคยลืมสักภาพเดียวเลยครับ
ตอนเป็นนักเรียนแถวสามย่าน
พระองค์ท่านเป็นนิสิตแล้ว
เคยแอบไปเดิน ส่อง
รถพระที่นั่งซึ่งจอดอยู่หน้าหอประชุมจุฬา
เห็นมีขนมขบเคี้ยวสารพัดใส่โหลเอาไว้ 2-3โหล ทุกวัน
ตลอด 4 ปีที่ทรงศึกษาอยู่
ผู้คนที่ต้องผ่านสัญจรแถวนั้น
ไม่เคยต้องเดือดร้อนกับการกั้นรถขบวนเป็นชั่วโมงๆ
เพียงรถพระที่นั่ง 1 คันกับรถตำรวจนำอีก 1 คันที่ไม่เคยเปิดไซเรน
ไม่เคยเปิดโทรโข่ง ไม่เคยฝ่าไฟแดง เห็นพวกนักการเมือง
มีตำรวจนำตำรวจตาม วิ่งย้อนศร กั้นรถให้แซงลัดคิวแล้ว
นึกถึงสิ่งที่พระองค์ปฏิบัติทุกครั้ง
LONG LIVE OUR BELOVED PRINCESS !
จากคุณ :
รักกิ๊กคนเดียว
- [
25 มิ.ย. 49 00:20:04
]