| เห็นด้วย (2 คน) |
| ไม่เห็นด้วย (41 คน) |
| จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 43 คน |
พันธมิตรกู้ชาติเช็คกำลังพร้อมแล้ว ล้มระบอบทักษิณ วางแผนชุมนุมใหญ่กลางเดือนกค. "สนธิ-จำลอง"แบะท่าหนุนปฎิวัติเพื่อประชาชน จับยักษ์ใส่ขวด-ปิดเกมการเมืองที่ยังคาราคาซัง
Source - แนวหน้า
Sunday, June 25, 2006
กรุงเทพฯ--25 มิ.ย.--แนวหน้า
เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน กลุ่มพันธมิตรประชาชาเพื่อประชาธิปไตย ได้จัดงานสมัชชาพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยครั้งที่ 1 เรื่อง "หยุดระบอบทักษิณก่อน แล้วปฏิรูปการเมืองที่"มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โดยมีแกนนำพันธมิตรฯจาก 76 จังหวัดทั่วประเทศและประชาชนกว่า1,000 คนให้ความสนใจเข้าร่วมประชุม
ทั้งนี้ในช่วงเช้า 5 แกนนำพันธมิตรฯได้พูดคุยกับที่ประชุมสมัชชา และได้อภิปรายเรื่อง "หยุดระบอบทักษิณและเครือข่าย" มีประเด็นหลักคือ การตีแผ่เปิดโปงเครือข่ายระบอบทักษิณอย่างดุเดือดนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตร กล่าวว่า ตั้งแต่รัฐบาลยุคพล.อ.ชาติชาย ชุณหวัณ ได้เดินพยายามเปิดการค้าเสรี โดยได้เปิดให้กลุ่มทุนต่างชาติเข้ามาครอบงำประเทศชาติ กระทั่งเกิดวิกฤตเศรษฐกิจประชาชาเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ซึ่งรัฐบาลทักษิณก็ได้เดินตามเช่นกันเพราะเมื่อเข้ามาในแวดวงการเมืองได้เข้ามาเป็นกลุ่มทุนผูกขาด และบูชาประเทศสิงค์โปร์ ปั่นภาพพจน์ กำจัดคนที่ไม่ฟังคำสั่ง แปรรูปรัฐวิสาหกิจของชาติเพื่อนำไปสังเวยต่างชาติ ซึ่งขณะนี้ต้องจับตาดูสถานการณ์การเมืองอย่างใกล้ชิด และคาดว่าอาจจะมีการชุมนุมใหญ่ในเดือนกรกฎาคมนี้นายพิภพ ธงไชย หนึ่งในแกนนำพันธมิตร กล่าวว่า ขณะนี้เรากำลังสู้กับทุนนิยมสามานย์ ที่ทำลายกฏหมาย ทำลายสังคม เราจำเป็นต้องล้มระบอบทักษิณ ให้ออกจากระบบการเมือง ต้องปฏิรูปการเมืองให้ประชาธิปไตย กลายเป็นธรรมมาธิปไตยให้ได้ด้านนายสมศักดิ์ โกศัยสุข ประธานแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์และหนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ กล่าวโจมตีนโยบายประชานิยมของรัฐบาลทักษิณ อาทิโครงการเอสเอ็มแอล และเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยระบุว่าระบอบทักษิณเป็นสมุนของทุนนิยมข้ามชาติ ดังนั้นภารกิจของพันธมิตรฯต้องให้ระบบทักษิณ พ้นไปและปฏิรูปการเมือง จัดการกับความไม่ชอบมาพากลต่างๆนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ คณบดีคณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา กล่าวว่าระบอบมีเหตุอัปลักษณ์ 6 ประการคือ 1.ระบอบทักษิณเป็นระบอบทุนนิยมผูกขาดบริวาร 2. เป็นระบอบที่เปลี่ยนประเทศเป็นบริษัทของตนเอง แบ่งคนออกเป็น 2 พวกคือทาสในเรือนเบี้ยสมัยใหม่คือผู้ที่กู้เงินรัฐบาลและศัตรูที่ต่อต้านเรียกว่าระบบประชาสวามิภักดิ์ส่วนข้อ 3. คือเป็นระบบสายตรงมีตัวทักษิณ กับประชาชนเ ท่านั้น 4. ปั่นภาพพจน์และใช้ความรุนแรงเพื่อสร้างภาพ ตั้งแต่มีรัฐบาลชุดนี้มีคนตายจำนวนมาก 5. โคตรอภิมหาคอรัปชั่นเพื่อคำจุนระบอบทักษิณ และ 6.แปลงสมบัติชาติเป็นสมบัติส่วนตัว"จากการตรวจสอบข้อมูลที่เป็นสาเหตุหนึ่งที่รัฐบาลนี้ต้องการให้มีสุวรรณภูมินคร เนื่องจากมีเจ้าของที่ดินรายใหญ่ เจ้าคือ กฤษฎานคร ,มหากิจศิริ, ไทยซัมมิท, คุณหญิงพจมาน ชินวัตร อยู่ในระแวกดังกล่าว"นายสมเกียรติ กล่าวและว่าการออกมาชุมนุมของประชาชนยังมีความจำเป็นเพราะถือเป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่สามารถล้มรัฐบาลได้ อย่างไรก็ตามต้องรอการทำหน้าที่ของตุลาการว่าจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างไร แต่ไม่มีใครรับประกันได้ว่าหากศาลไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ กองทัพจะออกมาแก้ไขปัญหาดังกล่าวหรือไม่
ส่วนพล.ต.จำลอง หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ กล่าวโจมตีการขายหุ้นของ พ.ต.ท. ทักษิณ และระบุว่าเหตุการณ์ที่วิกฤติถึงวันนี้เพราะผู้นำขาดความชอบธรรม เป็นเหตุให้ประชาชนต้องออกมาแสดงพลังขณะที่ช่วงบ่ายมีการแบ่งกลุ่มสมัชชาออกเป็น 5 กลุ่มตามจำนวนภาค เพื่อให้แกนนำแต่ละภาคหารือกันถึงสถานการณ์การเมืองและระบอบทักษิณ จากนั้กนั้นกลุ่มพันธมิตรฯได้ออกแถลงการณ์มีใจความกลุ่มมพันธมิตรพร้อมที่จะเดินหน้าต่อต้านระบอบทักษิณโดย 1. เตรียมพร้อมชุมนุมใหญ่ตลอดเวลาหากพบว่ามีกระบวนการดื้อดึงและต่อต้านอำนาจศาล โดยอาจจะประชุมใหญ่ในเดือนกรกฎคมนี้ 2. ตีแผ่เปิดโปงความฉ้อฉลและกลลวงของนโยบายประชานิยมที่มุ่งหวังคะแนนเสียงมากกว่าแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน 3.เดินหน้าจัดเวทีพันธมิตรสัญจรทั้งในระดับภาคและระดับจังหวัดเพื่อให้ข้อมูลข่าวสารกับพี่น้องประชาชน4.จัดตั้งศูนย์ข้อมูลในระดับท้องถิ่นเพื่อชี้ให้เห็นถึงภัยคุกคามจากระบอบทักษิณที่มีต่อชุมชนท้องถิ่น5. จัดตั้งกรรมการพันธมิตรฯ ในระดับภาคและระดับจังหวัด รวมทั้งคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์ต่างๆ เช่น ยุทธศาสตร์ปฏิรูปการเมือง 6. ยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหวระดับจังหวัดหรือระดับเครือข่ายปัญหา หรือเครือข่ายอาชีพ โดยไม่จำเป็นต้องผูกติดกับการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ เสมอไป และ 7.จัดตั้งคณะประสานงานระดับภาคๆ ละ 3 - 5 คน ทั้ง 6 ภาค เพื่อร่วมประชุมกับแกนนำทั้ง 5 และกรรมการพันธมิตรฯ ส่วนกลางภายหลังการประชุมสมัชชา ฯ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ กล่าวว่า มีบทความจากหนังสือเส้นทางใหม่ ที่เป็นหนังสือของกองทัพ ได้เขียนไว้อย่างชัดเจนว่ากองทัพจะไม่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 72 ที่รัฐธรรมนูญเปิดอำนาจไว้ ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้เป็นไปได้อย่างสูงที่จะทำให้เกิดการปฏิวัติ ต้องรอดูว่าจะเกิดรัฐประหารครั้งที่ 19 เกิดขึ้นหรือไม่ ส่วนตัวไม่อยากให้มีการปฏิวัติเกิดขึ้นนายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวว่าความเห็นส่วนตัวมองว่า หากจะมีการปฏิวัติเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปการเมืองที่ทำเพื่อประชาชน ถ้าไม่เป็นการปล่อยยักษ์ออกขวดก็พอรับได้ ถือว่าไม่เป็นการขัดหลักประชาธิปไตย ที่ผ่านมาได้จับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเชื่อว่าภายในเดือนกรกฎาคมนี้อาจจะมีการชุมนุมใหญ่อีกครั้ง แต่ต้องมีการประชุมหารือกับแกนนำพันธมิตรฯทั้งหมดอีกครั้งหนึ่ง
ด้านพล.ต.จำลอง กล่าวว่า เราต้องมีความมั่นใจในพลังอำนาจตุลาการที่เป็นอำนาจที่พร้อมบริบูรณ์ที่สุดขณะนี้มาแก้ไขสถานการณ์ ส่วนที่ก่อนหน้านี้มีข่าวหนาหูว่าทหารจะปฏิวัตินั้น คงห้ามไม่ได้ เพราะประเทศไทยยังเป็นประเทศกำลังพัฒนา ประชาธิปไตยยังไม่ได้หยั่งรากลึก แต่ถ้าเป็นการปฏิวัติแล้วอยู่เคียงข้างประชาชนก็พอรับได้ แต่ถ้าปฏิวัติแล้วเพื่อบางคนบางกลุ่มก็เหมือนในอดีตที่ผ่านมาอยู่ได้ไม่นาน และนี่ไม่ใช่แนวคิดของพันธมิตรฯไม่ได้สนับสนุน
จากคุณ :
<_Eminem_>
- [
25 มิ.ย. 49 19:26:24
]