ความคิดเห็นที่ 1
13.ตระกูลดามาพงศ์ยังรุดเข้าแจ้งความเพิ่มอีกคดี โดยเมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา นางสุดา ดามาพงศ์ อายุ 61 ปี พร้อมด้วยนายชัชชัย ดามาพงศ์ อายุ 33 ปี บุตรชาย ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล ในข้อหาหมิ่นประมาท ระบุว่าตนเป็นญาติห่างๆ กับนางพจมาน ชินวัตร การที่นายสนธิการกล่าวหาคนในตระกูลดามาพงศ์ทั้งหมด สร้างความเสื่อมเสียให้กับครอบครัวของตน **ปฏิญญาฟินแลนด์สุดฉาว 14.คดีหมายเลขดำที่ 1747/2549 วันที่ 30 พ.ค.2549 พรรคไทยรักไทยและ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องต่อนายปราโมทย์ นาครทรรพ คอลัมนิสต์ผู้จัดการรายวัน กับพวกรวม 5 คน ในฐานหมิ่นประมาทฯ กรณีผู้จัดการรายวัน ฉบับวันที่ 17 พ.ค.2549 ตีพิมพ์คอลัมภ์ คิดถึงเมืองไทย ในหัวข้อ ยุทธศาสตร์ฟินแลนด์ แผนการเปลี่ยนแปลงการปกครองไทย ซึ่งถือเป็นต้นเรื่องของกระแสที่โหมกระพือในเวลาต่อมา ในขณะที่ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 7 ส.ค.2549 เวลา 9.00 น. 15.กรณี ปฎิญญาฟินแลนด์ ยังต่อเนื่องด้วยคดีหมายเลขดำที่ 1818/2549 เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.49 พรรคไทยรักไทยและ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นโจทก์ที่ 1 2 ยื่นฟ้องอาญาต่อนายสนธิ ลิ้มทองกุล และพวกรวม 11 คน ซึ่งรวมทั้งนายปราโมทย์ นาครทรรพ, นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง, นายชัยอนันต์ สมุทวณิช และผู้บริหารในเครือผู้จัดการ ในฐานหมิ่นประมาทฯ กรณีการเสวนา ปฏิญญาฟินแลนด์ ยุทธศาสตร์ครองเมืองของพรรคไทยรักไทย ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ในวันที่ 24 พ.ค.49 อาจกล่าวได้ว่าวงเสวนาดังกล่าวยิ่งตอกย้ำกระแสข่าวให้แรงมายิ่งขึ้น ธนา เบญจาธิกุล ทนายความผู้รับมองอำนาจจากพรรคไทยรักไทยให้สัมภาษณ์ว่าโจทก์จะฟ้องเรียกค่าเสียหายในทางแพ่งถึง 1 พันล้านบาท แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการดำเนินการแต่อย่างใด ในขณะที่ศาลอาญานัดไต่สวนมูลฟ้องคดีนี้ในวันที่ 4 ก.ย.2549 เวลา 9.00 น. ข.คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ 16.คดีนี้มีที่มาจากการให้สัมภาษณ์ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ที่สะพานมัฆวาน เมื่อวันที่ 23 มี.ค. และหนังสือพิมพ์คมชัดลึกฉบับวันที่ 24 มี.ค. ได้นำไปตีพิมพ์ในหน้า 18 หลังจากนั้นก็มีการตั้งแถวกันเข้าแจ้งความรวมทั้งสิ้น 82 คดี ทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 10 เม.ย.พนักงานสอบสวนที่มี พล.ต.ท.ชลอ ชูวงษ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ออกหมายเรียกให้นายสนธิมารับแจ้งข้อกล่าวหาในวันที่ 17 เม.ย. ในขณะที่นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความของนายสนธิได้แจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่านายสนธิติดภารกิจการปราศรัยในต่างจังหวัด ซึ่งต่อมาในวันที่ 28 เม.ย.ศาลได้มีคำสั่งให้ออก หมายจับ นายสนธิตามคำร้องของพนักงานสอบสวนด้วยเห็นว่าข้ออ้างของผู้ต้องหาไม่มีเหตุผลเพียงพอ บ่ายวันเดียวกัน นายสนธิพร้อมด้วยทนายจึงเดินทางไปที่กองปราบปรามเพื่อมอบตัว แต่แกนนำพันธมิตรฯ ผู้นี้ก็ต้องถูกกักตัวอยู่นานกว่า 5 ชั่วโมง เนื่องจากต้องเสียเวลารอการอนุมัติการประกันตัวจาก พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร. ทั้งๆ ที่อำนาจอยู่ที่พนักงานสอบสวนเอง ต่อมาในวันที่ 10 พ.ค. พนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนจำนวน 20 แฟ้ม 5 ลังโดยระบุให้ พ.ต.ท.ทวี พรหมมาลี และ พล.ต.ท.ชลอ ชูวงษ์ เป็นผู้กล่าวหาให้กับนายวันชัย สร้อยทอง อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญาซึ่งเป็นหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายอัยการ ในขณะที่อัยการก็กับปล่อยตัวนายสนธิและบรรณาธิการฯ ของคมชัดลึกโดยไม่ต้องประกันตัวเหมือนในชั้นพนักงานสอบสวน เนื่องจากไม่มีบันทึกการจับกุม เงินค่าประกันตัวจึงได้รับคืน ความคืบหน้าของคดีนี้ อัยการจะนัดฟังคำสั่งว่าจะฟ้องหรือไม่ในวันที่ 13 ก.ค. ค. คดี 5 แกนนำพันธมิตรฯ ล้มล้างการประชาธิปไตย 17. คดีนี้เดิมเริ่มเดินเรื่องโดย ร.ต.ฉลาด วรฉัตร อดีตวีรบุรุษประชาธิปไตย เข้าแจ้งความร้องทุกข์แจ้งความดำเนินคดีต่อแกนนำพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 9 มี.ค. และ 12 มี.ค. ในฐานร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีการอื่นใดฯ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาล เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน และเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 จากกรณีที่มีกรชุมนุมขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อย่างต่อเนื่อง อันเป็นต้นเรื่องของคดีที่กลับกลายเป็นคดีที่พิลึกกึกกืออีกคดีหนึ่งในยุครัฐตำรวจภายใต้การนำอันเด็ดเดี่ยวของนายกรัฐมนตรีที่มีเป็นอดีตนายตำรวจ ต่อมา สตช.ได้แต่งตั้งคณะทำงานของพนักงานสอบสวน โดยให้มีหัวหน้าเป็น พล.ต.ท.ชัยยันต์ มะกล่ำทอง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ผู้เคยมีประวัติคัดค้านการชุมนุมของพันธมิตรฯ อย่างโจ่งแจ้งด้วยการให้สัมภาษณ์แนะนำให้ประชาชนตั้งโต๊ะเข้าชื่อแจ้งความจับแกนนำพันธมิตรฯ เมื่อครั้งการชุมนุมที่หน้าสยามพารากอน พนักงานสอบสวนชุดดังกล่าวออกหมายเรียกตัวแกนนำทั้ง 5 ให้มารับทราบข้อกล่าวหาครั้งแรกในวันที่ 20 เม.ย. แต่ทางแกนนำได้มอบอำนาจให้นายนิติธร ล้ำเหลือ หนึ่งในทีมทนายความจากสภาทนายความเดินทางมาขอเลื่อนนัด โดยระบุเหตุผลว่าแกนนำทั้ง 5 ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยยืนยันว่าการชุมนุมเป็นไปตามเจตนารมณ์และสิทธิตามรัฐธรรมนูญ อีกทั้งยังติดภารกิจการปราศรัยในต่างจังหวัด รวมทั้งมีผู้ถูกกล่าวหาบางรายยังไม่ได้รับหมายเรียกดังกล่าว แต่ที่สำคัญคือ หมายเรียก ดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจาก ร.ต.ฉลาดไม่อยู่ในฐานะของผู้ถูกกล่าวหา เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นความผิดอาญาต่อรัฐไม่ใช่ส่วนตัว เรื่องที่เป็นประเด็นหมองคล้ำของคดีนี้ ไม่ได้มีเพียงการแต่งตั้งพนักงานสอบสวนผู้มีอคติและ หมายเรียก ที่พิการเท่านั้น ทว่าอยู่ที่การเปลี่ยนตัวผู้กล่าวหา และ ยัดข้อหาเพิ่ม ซึ่งได้รับการเปิดเผยขณะที่ 5 แกนนำเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 1 พ.ค. อาจเรียกได้ว่า การเปลี่ยนตัวผู้กล่าวหาจาก ร.ต.ฉลาด ไปเป็น ชัชวาลย์ สุขสมจิตร ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นหมากเกมที่ตำรวจสอดเข้ามาเพื่อให้หมายเรียกหรืออาจจะหมายถึงหมายจับมีน้ำหนักขึ้น และแก้ลำเมื่อครั้งที่ฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาจับปมผิดได้ว่า ร.ต.ฉลาดไม่อยู่ในฐานะผู้เสียหาย แต่ที่หนักข้อมากกว่านั้นคือการ แอบ ยัดข้อหาเพิ่มอีก 4 กระทง นอกเหนือจากฐานความผิดตามมาตรา 116 ทั้งที่ไม่อยู่ในหมายเรียกก่อนหน้านั้น อันได้แก่ 1.มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และมีผู้เป็นหัวหน้าหรือสั่งการ 2.ร่วมกันเดินแถว เดินเป็นขบวนแห่ หรือเดินเป็นขบวนใดๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจรโดยไม่ได้ใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานจราจร 3.ร่วมกันวาง ตั้ง ยื่น หรือแขวนสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือกระทำด้วยประการใดๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานจราจร และ 4.ร่วมกันกระทำการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม แกนนำทั้ง 5 ได้ปฏิเสธทั้ง 5 ข้อกล่าวหาโดยยืนยันว่าการชุมนุมดังกล่าวเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 44 ในขณะเดียวกัน นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายผู้รับมอบอำนาจจากนายสนธิ ยืนยันว่าจะฟ้องดำเนินคดีกับ ร.ต.ฉลาด ฐานแจ้งความเท็จและกลั่นแกลังให้ผู้อื่นถูกดำเนินคดีอาญา รวมถึงฟ้องร้องต่อเจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้องฐานปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบอีกด้วย จนเมื่อวันที่ 8 พ.ค. สำนวนก็ถึงมืออัยการ แต่ล่าสุด กระแสข่าวที่พนักงานสอบสวนซึ่งนำโดย พล.ต.ท.ชัยยันต์ เตรียมจะแจ้งข้อหากับแกนนำ ระดับจัดการ อีกประมาณ 10 กว่าคน ใน 5 ข้อหาเดิมที่เคยแจ้งต่อ 5 แกนนำมาแล้วก็เริ่มหนาหูขึ้น เป็นไปได้สูงที่การออกหมายเรียกครั้งนี้จะเป็นเป้าเดียวกันกับกระแสข่าวที่เคยรั่วก่อนหน้านี้ว่าจะรวบเพิ่มอีก 17 คน เชื่อกันว่ามาตรการรอบนี้จะเป็นแผนล้อมกรอบเพื่อยุติการเคลื่อนไหวของพันธมิตรที่ร่ำๆ ว่าจะมีการชุมนุมใหญ่ต้นเดือน กค.นี้ ทั้งนี้ ผู้ที่อยู่ในโผมีอยู่หลายคน อาทิ สุริยะใส, การุณ ใสงาม, ไชยวัฒน์ สินสุวงษ์, ศิริชัย ไม้งาม, เพียร ยงหนู เป็นต้น อันเป็นหมากเกมในตาเดียวกันกับการริดำเนินคดีกับคอลัมนิสต์ นักวิชาการ และสื่อมวลชน ง. คดีถล่ม สนธิ 18. คดีหมายเลขดำที่ 1062/2549 วันที่ 4 เม.ย.49 พ.ต.ท.ทักษิณ ยื่นฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ในฐานหมิ่นประมาทฯ จากกรณีการปราศรัยในเวทีพันธมิตรฯ 5 วัน คือ วันที่ 6, 10, 13, 16, และ 22 มี.ค.49 คดีนี้ศาลอาญานัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 24 ก.ค.2549 และวันที่ 7 ส.ค.2549 19. คดีหมายเลขดำที่ 1397/2549 วันที่ 31 มี.ค.49 นายเก่งกาจ ศรีหาสาร ข้าราชการซี 8 แห่งกรมอุทยาน สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยื่นฟ้องอาญาต่อนายสนธิ ในฐานหมิ่นประมาทฯ กรณีจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรนัดพิเศษที่ จ.ระยอง เมื่อวันที่ 21 มี.ค.49 และกล่าวว่าโจมตีโจทก์ และเผยแพร่ผ่านสื่อในเครือของผู้จัดการ ศาลจังหวัดเชียงรายนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 3 ก.ค.นี้ 20.คดีกรมกร๊วก กรมประชาสัมพันธ์ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อบริษัท ไทยเดย์ ด๊อทคอม จำกัด และพวกรวม 5 ราย เมื่อ 3 ก.พ.49 ในความผิดร่วมกันดำเนินกิจการให้บริการวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์ไม่ได้รับอนุญาติ ตาม พ.ร.บ.วิทยุโทรทัศน์ พ.ศ.2598 ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 เลื่อนัดฟังคำสั่งคดีว่าจะส่งฟ้องศาลหรือไม่ในวันที่ 16 ส.ค.2549 โดยในระหว่างนี้ให้พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม เจ้าของคดีไปสอบสวนเพิ่มเติมอีก 10 ประเด็น เอามาจาก ผจก.... ท่านนายกอย่ายอมนะเอาให้เข็ดคราวที่แล้วถอนเลยได้ใจ
จากคุณ :
สายลมกับแสงแดด
- [
29 มิ.ย. 49 19:37:58
]
|
|
|