ความคิดเห็นที่ 65
ในฐานะที่เคยอยู่ไร่ส้มมาก่อน ผมขออธิบายประกอบบทความดังนี้นะครับ
1.น้องๆนักข่าว =ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กๆจบใหม่ครับ อาจจะจบสายตรง เช่น นิเทศน์ศาสตร์,วารสารศาสตร์,สื่อสารมวลชน หรือไม่จบมาสายตรงเลยก็ได้ เราเรียกคนพวกนี้ว่า"นักข่าวสนาม"ครับ อยู่ประจำโรงพักมั่ง,กระทรวง ทบวง ,กรม ถ้าสำคัญมากก็ประจำสภา ประจำทำเนียบ แล้วก็จะมี"สาย"หลักๆครับ เช่น นักข่าวสายการเมือง,นักข่าวสายเศรษฐกิจ,นักข่าวสายอาชญากรรม(ถ้าแยกย่อยลงไปอีกก็จะมีสายตำรวจ,สายทหาร,สายบันเทิง,สายกีฬา) หน้าที่ของน้องๆนักข่าวที่ว่านี้ก็คือวิ่งไปอยู่สนามตามที่ได้รับมอบหมาย ช่วงหลังๆมานี้อยู่ประจำที่ใดที่หนึ่งเป็นเรื่องเป็นราวไปเลย คอยจดคอยสัมภาษณ์คอยเอาไมค์จ่อปาก"แหล่งข่าว" แล้วก็ส่งข่าวเข้าไปยังกองบก. สำหรับคำถามที่ถามนั้น นอกจากจะถามกันไปตาม"กระแส"ข่าวช่วงนั้นๆแล้ว ก็ยังถามตามที่กองบก.หรือ"โต๊ะข่าว"มีคำสั่ง หรือมี"แอสซายน์"มา พอได้คำตอบจากแหล่งข่าวมาแล้วก็จะรายงานเข้าไปยังกอง บก.หรือโต๊ะข่าว ทั้งการส่งประเด็นทางโทรศัพท์,ส่งโทรสาร(สมัยโบราณ),ส่งทางเมล์ในสมัยนี้(ก็เลยเกิดการcopyกันส่ง แทบทุกสำนักข่าว สำนวนเหมือนกันหมด...สมัยโบราณมีการ"ลอกข่าว"กัน ก็ยังพอสำนวนต่างกันมั่ง)
2.กองบก. หรือกองบรรณาธิการ หรือ"โต๊ะข่าว"แต่ละหนังสือพิมพ์,สำนักข่าว,ช่องทีวี,วิทยุ
2.1หัวหน้าข่าว จะมีรูปองค์กรคล้ายๆกันครับ คือจะมีโต๊ะข่าวแยกๆกันไป อาทิเช่น โต๊ะข่าวการเมือง,โต๊ะข่าวการทหาร,โต๊ะข่าวตำรวจ,โต๊ะข่าวเศรษฐกิจ,โต๊ะข่าวกีฬา,โต๊ะข่าวบันเทิง แล้วก็จะมี"หัวหน้าข่าว"คอยดูแล"น้องๆนักข่าว"สนามอีกทีหนึ่ง หัวหน้าข่าวสมัยแต่ก่อนก็เป็นยากเป็นเย็นอยู่นะครับ อายุงานต้องเป็นสิบๆปีขึ้นไป มาสมัยหลังนี้แค่2-3ปีก็ต้องโดนบังคับให้แก่แล้ว พวกนี้อาจเริ่มต้นจากรีไรเตอร์แล้วข้ามมาเป็นหัวหน้าโต๊ะ หน้าที่ก็ตื่นสายๆถึงออฟฟิศเกือบเที่ยง กินกาแฟ อ่านหนังสือพิมพ์ ตรวจข่าวตามประเด็นในเวปไซต์ต่างๆ(รวมทั้งในพันทิป)พอตกบ่ายก็แอสไซน์ สั่งงานเด็กๆน้องๆนักข่าวในสนามให้ตามประเด็น หรือขุดข่าว หรือปั่นกระแส พอซักทุ่มสองทุ่มก็เริ่มปั่นข่าวลงหนังสือำพิมพ์(กรณีเป็นหนังสือพิมพ์) แล้วก็"ให้หัว" คือพาดหัวที่เห็นกันนั่นแหละ พวกหัวหน้าโต๊ะ นานๆทีอาจมีโฉบออกสนามบ้าง ไปเจอแหล่งข่าวขาใหญ่ในสนามเป็นครั้งคราว แล้วก็ตั้งวงกินเหล้ากับพวกหัวหน้าโต๊ะข่าวต่างสำนักกันมั่งอะไรมั่ง หลังๆนี้บางโต๊ะมีอิทธิบารมีมาก อย่าง โต๊ะรถยนต์ เป็นต้น พวกที่"ลองขับ"ทั้งหลายแหล่ มีอิทธิพลชี้เป็นชี้ตายให้รถตัวไหนดีหรือเลวได้ หรือโต๊ะบันเทิง จะขีดเส้นให้ใครเลวใครภาพพจน์เลอเลิศได้หมด เพราะจะนำเสนอไปทางเดียวกัน
2.2บรรณาธิการข่าว หรือเรียกว่า บก. จะเป็นคนที่อยู่กันมานานเก๋ากึ๊กในสนาม ถ้านึกไม่ออกก็อย่างถ้าเป็นค่ายผู้จัดการก็อาจจะเป็นคำนูณ หรือสำราญ หรือตุลย์,ค่ายมติชนก็จะเป็นอย่างบุญเลิศ,ค่ายไทยโพสต์ก็อย่างน้าถึกเรตเอ็กซ์(เพราะแกชอบดูหนังXในโรงพิมพ์) อะไรประมาณนี้ หน้าที่ของท่านบก.ก็คืออาจจะโผล่มาถึงโรงพิมพ์ซัก6โมงเย็นเพื่อ"ประชุมโต๊ะข่าว"แล้วก็กำหนดว่าจะเอาประเด็นไหนมา"เล่นข่าว" จะให้"พาดหัวตัวไม้"อย่างไร จะให้"ธงข่าว"ไปทางไหน ซึ่ง"ธงข่าว"ที่ว่าก็คือจะห้ำหั่นใครให้บัลลัย หรือจะเชียร์ให้ใครกลายเป็นเทวดา...การห้ำหั่นใครก็มีหลายระดับ คือตั้งแต่ระดับ ยั้งดาบไว้ไมตรี,ระดับขี่ม้าเลียบค่าย,ระดับตีเมืองขึ้น,ระดับห้ำหั่นให้บัลลัยมรึงตายแน่ "ธงข่าว"นี้ส่วนใหญ่ก็กำหนดมาจาก"นายทุน"ของค่ายนั้นๆแหละครับว่าจะให้"ธง"มาอย่างไร ท่านบก.ก็ต้องเดินไปตามนั้น ถ้าไม่เดินตามนั้น มรึงก็ต้องไปหาเล่มใหม่ทำ หรือออกจากวงการไป ท่านบก.ขาใหญ่ทั้งหลายจะเจอกันบ้างเป็นบางครั้ง อย่างที่พวกเราคงจะเคยได้ยินเรื่อง 8 อรหันต์มั่งอะไรมั่ง หรือซัก10-20ปีมาแล้วก็จะมี"กลุ่มวันพุธ"ขาประจำก็อย่าง"คุณอา"(ผมไม่บอกนะว่าใคร แต่ในวงการรู้) แล้วก็"หมอเพรา"อะไรทำนองนี้มานั่งกินเหล้ากันทุกวันพุธ นอกจากทำหน้าที่คล้ายๆสมาคมลับแล้วก็เป็นต้นตอของการกำหนด"ธงข่าว"อะไรนี่ด้วย อีกสปีชีส์หนึ่งในไฟรั่มนี้ก็คงจะเป็นคอลัมนิสต์ครับ อิทธิบารมีก็พอๆกับท่าน บก. หรือหัวหน้ากองบก. เพียงแต่พวกนี้จะอาวุโสมากแล้ว ไม่ค่อยจะทำงานทำการ ห่างสนามข่าวไปมาก ใช้อัตวิสัยเป็นหลัก แต่ก็มีสมาคมลับ ประเภทกลุ่มวันพุธกับเขาเหมือนกัน
พวกประเภทที่ 2 นี่แหละครับ คือไล่ตั้งแต่หัวหน้าโต๊ะข่าว,หัวหน้ากองบก.,บก.บห.,คอลัมนิสต์ คือผู้มีบารมีอย่างแท้จริง...พวกแรกคือน้องๆนักข่าวจะส่งรายงานข่าว ประเด็นข่าวมายังไงก็ตาม(ขนาดลอกกันมาทั้งดุ้น)บางทีท่านอ่าน ทำไมพาดหัวไม่เหมือนกัน ประเด็นไปคนละเรื่อง ก็เพราะพวกน้องๆนักข่าว ไม่ได้มีอิทธิบารมีใดๆครับ ความจริงความดีความงามในแวดวงนี้ก็มีเหมือนกัน มีชนิดเป็นตำนานกันได้เลยทีเดียว แต่ก็จะเข้าตำรา"นักหนังสือพิมพ์ไส้แห้ง" แต่วันนี้ก็ไม่รุ่งเรือง ทำอาชีพนี้มา30-40ปี สุดท้ายก็ต้องกลายมาเป็นคอลัมนิสต์แก่ๆครับ
ผมก็เคยหวังแบบคุณทวีวุฒิว่าพวกแก่ๆตายไป ใหม่ๆมาจะดีขึ้น แต่ก็เข้าอีหรอบเดิมครับ พวกที่แก่ตัวลงเริ่มหมดเขี้ยวหมดเล็บ ตัวใหม่ๆก็มีอิทธิฤทธิ์อิทธิเดชขึ้นมาแทน ตราบเท่าที่วงการนี้ยังไม่มีอิสระอย่างแท้จริง ต้องทำงานภายใต้นายทุนที่มีสันดานแบบนายสนธินี่แหละครับท่าน
จากคุณ :
ป๋าเจ้าเก่า
- [
8 ก.ค. 49 15:36:05
]
|
|
|