ความคิดเห็นที่ 9
นายกรัฐมนตรีขอให้เกษตรกรยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงนำความสำเร็จให้ชีวิต
วันนี้ เวลา 10.00 น. ณ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4 01) แก่เกษตรกร 1,000 รายผ่านผู้แทนเกษตรกรจังหวัดละ 5 ราย รวม 50 ราย และมอบโล่เกียรติคุณให้เกษตรกรผู้นำศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชน 10 ราย โดยมีผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ข้าราชการ ผู้แทนเกษตรกรเข้าร่วมงาน จัดโดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวรายงานโดยสรุปว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาความยากจนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยในการแก้ไขปัญหาความยากจนนั้น นายกรัฐมนตรีได้ให้หลักการสำคัญคือ 1. การให้หน่วยงานยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนำมาปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม และถ่ายทอดแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่ระดับชุมชน ระดับครัวเรือน 2. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ปรับโครงสร้างการผลิตให้เหมาะสมสอดคล้องกับแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเพื่อความเข้มแข็งของเกษตรกรในการประกอบอาชีพการเกษตร 3. เร่งจัดที่ดินทำกินให้เกษตรกร ในวันนี้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหรือ ส.ป.ก. เป็นหน่วยงานหลักในการจัดหาที่ดินให้เกษตรกร โดยการดำเนินงานที่ผ่านมา ส.ป.ก.ได้จัดที่ดินให้แก่เกษตรกรแล้วประมาณ 1,500,000 ราย เนื้อที่ประมาณ 24,500,000 ไร่ ใน 3,025 ตำบล 69 จังหวัด สำหรับปี 2549 มีแผนงานจัดที่ดินให้แก่เกษตรกร จำนวน 170,000 ราย ซึ่ง ณ เดือนมิถุนายน 2549 ได้มอบเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 ไปแล้ว 59,752 ราย เนื้อที่ประมาณ 740,000 ไร่ โดยจะมอบเอกสารสิทธิฯ เพิ่มในเดือนกรกฎาคม 2549 อีกประมาณ 90,000 ราย และจะมอบส่วนที่เหลือในเดือนสิงหาคม 2549 ประมาณ 20,000 ราย นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ทำโครงการให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ในการสร้างอาชีพ เป็นการให้ที่ดินพร้อมกับการให้อาชีพและหาตลาดให้เกษตรกร โดยการทำ Contract Farming กับบริษัทผู้ส่งออก บริษัทที่รับซื้อจำหน่ายภายในประเทศ รวมทั้งได้ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในแต่ละพื้นที่ที่มีการแจกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4 01 โดยได้พัฒนาศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชน เพื่อเป็นกลไกในการถ่ายทอดและการเรียนรู้แก่เกษตรกร โดยมีเป้าหมายให้เกิดขึ้นทุกหมู่บ้าน ยึดหลักการสร้างกระบวนการเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงอย่างแท้จริง การฝึกอบรมภาคปฏิบัติ การนำที่ดินมาใช้ประโยชน์ และการพัฒนาเกษตรกรให้รวมตัวเป็นกลุ่มสหกรณ์ หรือวิสาหกิจชุมชนเพื่อดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้วางแผนจัดตั้งศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชน ในทุกหมู่บ้านจำนวน 20,000 หมู่บ้านในปี 2549 2550
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4 01) แก่ผู้แทนเกษตรกร มอบโล่เกียรติคุณให้เกษตรกรผู้นำศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชน และกล่าวมอบโอวาทแก่เกษตรกรผู้ร่วมงานสรุปสาระสำคัญว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรักและห่วงใยพี่น้องเกษตรกรมากที่สุด ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญานาม กษัตริย์นักการเกษตรที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ได้เสด็จเยี่ยมราษฎรตลอดระยะเวลา 60 ปีแห่งการครองราชย์ ทรงพระราชทานความรู้หลายอย่างแก่เกษตรกร ทรงตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ ขึ้นทุกภาค ทรงจัดการเรื่องน้ำให้กับเกษตรกรอย่างเต็มที่ และทรงห่วงใยการทำมาหากินของเกษตรกรภายหลังจากที่เกษตรกรมีที่ดินแล้ว โดยทรงพระราชทานแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เกษตรทฤษฎีใหม่ ให้กับเกษตรกร ซึ่งในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี รัฐบาลจึงได้เร่งรัดดำเนินการแจกเอกสารสิทธิที่ดินทำกินในทุกรูปแบบ
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าในอดีตที่ผ่านมา ที่ดินในประเทศไทยมีแผนที่คนละฉบับ และต่างมาตราส่วน ทำให้เกษตรกรบางคนที่ได้รับเอกสารสิทธิแล้วยังถูกฟ้องร้องเพราะความไม่ชัดเจนของกฎหมายที่ดินที่เหลื่อมกัน วันนี้รัฐบาลจึงได้นำเทคโนโลยีเข้าช่วยทำให้แผนที่ประเทศไทยเป็นมาตราส่วนเดียวกัน 1 ต่อ 4000 ทุกระบบทั้งประเทศ เป็นที่ดินมาตรฐานเดียวกัน เอกสารสิทธิที่ออกให้ต่อไปนี้จึงมีความถูกต้องแม่นยำทั้งด้านกฎหมายและเทคนิค ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีหลักในการตั้งตัว มีครอบครัวที่มั่นคงแข็งแรง เพราะที่ดินเป็นโรงพิมพ์ธนบัตรของคนจน หากคนจนโดยเฉพาะเกษตรกรไม่มีที่ดินก็จะไม่มีโอกาสพ้นจากความยากจน
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าขอให้เกษตรกรเข้าใจว่าการมีที่ดินเพียงอย่างเดียว ไม่ใช่ว่าจะพ้นจากความยากจน เกษตรกรจะต้องขวนขวายหาความรู้และกล้าปรับเปลี่ยน ไม่ทำในสิ่งเดิม ๆ ที่เคยทำแล้วไปไม่รอด ซึ่งศูนย์ศึกษาเพื่อการพัฒนาฯ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ และความรู้ในศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชนจะช่วยให้เกษตรกรได้เรียนรู้ จึงขอให้เกษตรกรผู้ได้รับเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. ได้เรียนรู้และให้เจ้าหน้าที่เกษตรได้ทำงานด้วยอย่างใกล้ชิดโดยไม่เป็นการชี้นำ เพียงแต่ให้ความรู้แก่เกษตรกรและให้เลือกทำในสิ่งที่ถนัด ซึ่งเกษตรกรจะต้องค้นหาตัวเองให้เจอก่อนว่าชอบทำอะไรแล้วมีความสุขและทำได้ดี เพื่อให้เกิดความทุ่มเทในสิ่งที่จะทำให้สำเร็จได้ โครงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนจะช่วยให้ผู้มีเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. สามารถเข้าหาแหล่งทุนได้ด้วยการเริ่มต้นด้วยปัญญา เกษตรกรจึงต้องคิดให้ได้ว่าจะทำอะไร ต้นทุนเท่าไร จะมีรายได้อย่างไร โดยต้องคิดทั้งได้และเสีย เพื่อให้รู้แนววทางว่าจะทำได้สำเร็จหรือไม่ หากไม่รอดก็อย่าทำ ให้เปลี่ยนไปทำอย่างอื่น
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวเน้นให้เกษตรกรผู้ได้รับเอกสารสิทธิ์ฯ ต้องรักษาที่ดินไว้ให้ได้อย่างมั่นคง เพื่อเป็นมรดกให้กับลูกหลานในอนาคต ต้องใช้ที่ดินสร้างรายได้เลี้ยงชีพ โดยให้คำนึงถึงเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้รวมปัญญา คุณธรรม จริยธรรมไว้เป็นหลัก ด้วยการประพฤติตนให้เหมาะสม เลิกเล่นอบายมุขทุกอย่าง มองหาปัญญาที่ถูกต้องเหมาะสม เข้าหาแหล่งทุน ประกอบอาชีพให้ดีที่สุดเพื่ออนาคตของครอบครัว ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวแนะนำให้เกษตรกรอย่าหวังพืชเชิงเดี่ยวอย่างเดียว เช่น สับปะรดที่ปัจจุบันมีราคาไม่ดี หากในอนาคตยังมีทางออกที่ไม่แน่นอน ขอให้นึกถึงเกษตรทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการทำไร่นาผสมผสาน เพื่อให้มีรายได้ตลอดปีโดยขอให้ทำแบบพอกินพอใช้ก่อน
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวแนะนำให้เกษตรกรผู้ร่วมงานในวันนี้ได้พูดคุยกับเกษตรผู้ได้รับเอกสารสิทธิ์ เพื่อนำความรู้ไปปรับปรุงในสิ่งที่ทำอยู่ และอวยพรให้เกษตรกรทุกคนประสบความสำเร็จในชีวิต สร้างอนาคตที่มั่นคงให้กับครอบครัวและลูกหลานต่อไป
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมนิทรรศการศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชน 10 ศูนย์ จากจังหวัด กาญจนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด เพชรบุรี ระยอง ราชบุรี สระแก้ว สระบุรี และสุพรรณบุรี ซึ่งแสดงขั้นตอนการถ่ายทอดการเรียนรู้การประกอบอาชีพทางการเกษตรต่าง ๆ อาทิ การเลี้ยงผึ้ง เลี้ยงปลา การเลี้ยงโคนม โคเนื้อ เกษตรผสมผสาน ไร่อ้อย พืชผักสวนครัว ฯลฯ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สอบถามเกษตรกรผู้ให้ข้อมูลด้วยความสนใจ
http://www.thaigov.go.th/th/News/NewsThai.aspx?News_ID=T49000000457&menu=1
อ่านดูนะ อย่าด่าอย่างเดียว กะธินะไม่ต้องเชื่อมากนักก็ด้าย
จากคุณ :
นะ (tonytui)
- [
13 ก.ค. 49 16:03:55
]
|
|
|