ความคิดเห็นที่ 1 ทำไมคนไทยถึงเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากว่าประโยชน์ของชาติ คำตอบคือ มนุษย์ทุกชาติ สันดานดิบแล้วเห็นแก่ตัวทั้งนั้น เพียงแต่ว่า ประเทศนั้นๆ จะมีการจัดระบบ ระเบียบ รวมทั้งการตรวจสอบให้ ความเห็นแก่ตัว นั้นไม่ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย และ กระทบกับผู้อื่น รวมทั้งเป็นอุปสรรคต่อความเจริญของประเทศหรือไม่ ทำไมเด็กไทยรุ่นใหม่จึงหลงไปกับค่านิยมฟุ้งแฟ้อ มั่วเซ็กซ์ พี้ยา คลั่งวัฒนธรรมหน้าเกาหลี คำตอบคือ ลักษณะเฉพาะของคนไทยที่ถูกปลูกฝังมานานให้อยู่ในกรอบ ระเบียบและวัฒนธรรมอันดีงาม แต่อย่างไรก็ตาม อันเนื่องจาก การเสริมสร้างเอกลักษณ์และความแข็งแกร่งแห่งการเป็นชนชาติที่มีวัฒนธรรมอันดีงามของตนเอง มีไม่มากพอ และกระทำกันแบบไม่มีระบบแบบแผน ไม่มีการควบคุมที่ดี มีช่องโหว่ ตั้งแต่สถาบันครอบครัว ยันระดับ บริหารประเทศ อีกส่วนก็มาจากการทำงานอย่างสุกเอาเผากินของวงการบันเทิงไทย ละครน้ำเน่า กับเกมโชว์ตลกลามก เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด ทำไมคนไทยชอบหลอกตัวเอง เช่นเรื่อง เพศศึกษา เรื่องการพนัน คำตอบคือ นี่เป็นเอกลักษณ์ของคนไทยที่ยากจะหาใครเหมือน ผมดูสารคดีที่ ต่างชาติทำแล้ว ให้นึกอยากด่าคนทำเหลือเกิน มันไปถ่ายแต่ พัฒพงศ์ สลัม บ่อนชนไก่ ไม่ได้ถ่าย พระบรมมหาราชวังเลย  แต่ก็จริงของมัน เราติดอันดับโลก ทั้งเรื่อง สถานบริการ และ การพนัน แต่เราก็พยายามอธิบายอะไรให้มันขัดแย้ง แทนที่จะยอมรับความจริง และหาทางควบคุมอย่างเป็นระบบ คนมองว่าคดีข่มขืนมาจากสื่อลามก ผมกลับมองว่า ก็เพราะไม่มีการให้การศึกษาอย่างโปร่งใสในวัยที่เหมาะสมต่างหาก เราไปทำให้เซ็กซ์เป็นเรื่องลึกลับ ต้องห้าม ฝืนธรรมชาติ ทำให้ รู้สึกเก็บกดไม่มีที่ระบายในสิ่งที่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ จึงเกิดเรื่องขึ้น เราเล่นป็อกเด้งกันทุกทริป ที่บริษัทจัดไปเที่ยว แต่เราก็แกล้งโง่มานั่งด่า หาก รัฐบาลจะเปิด คาสิโน จากคุณ : Kitty Pat - [ 14 ก.ค. 49 11:02:03 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ทำไมคนไทยถนัดไปในทางการพูด การวิจารณ์มากกว่า การกระทำที่เป็นรูปธรรม และวัดผลได้ คำตอบคือ คนไทยใจร้อน ไม่อดทน แต่ขณะเดียวกันก็อยากให้มีคนยอมรับนับถือ การไปทำตัวเองให้เด่นดัง หรือให้เกิดการยอมรับนับถือโดยการสร้างผลงานที่เป็นรูปธรรม เป็นชิ้นเป็นอัน ต้องใช้เวลานาน สู้ศึกษาเอาจากตำรา สแกนการกระทำ และคำพูดของคนหรือกลุ่มคนที่อยู่ในเป้าหมายที่จะวิจารณ์อย่างละเอียดยิบ แล้วจับประเด็นมาเรียงร้อยถ้อยคำให้ดูมีหลักมีการ ให้สังคมเชื่อแค่นั้นก็อาจดังได้ แม้บางครั้ง เรื่องไม่เป็นเรื่องก็ยังเป็นเรื่องได้ เช่น การหันคูหาเลือกตั้ง เป็นต้น พวกนักวิชาการ หรือ ด็อกเตอร์ สติเฟื่องหลายๆ คน ต่อให้เป็นคนที่เขียนหนังสือให้คนอ่านทั่วบ้าน ทั่วเมือง มีคนนับหน้าถือตามากมาย กว่าครึ่ง หาใช่คนที่จะประสบผลสำเร็จในการไปทำงานบริหารจริงๆ ไม่ บุคคลเหล่านี้ให้เป็น คอนซัลแทน จะดีมาก แต่ไปไม่เป็น เวลาที่ต้องมาจัดการกับงาน และคนในสภาพจริง ซึ่งมีความซับซ้อนกว่าทฤษฎีมากมายหลายเท่านัก ผู้เขียนเป็น ผู้บริหารมา เกือบ 20 ปี ก็ยังพบว่าตัวเองยังต้องปรับปรุงอีกมาก ทำไมคนไทยถึงเชื่ออะไรง่ายๆ และ ฝังจิต ฝังใจ คำตอบคือ เรายังขาดการยอมรับนับถือตัวเอง กรณีนี้ไม่ได้หมายถึงทุกคน กรณีนี้อาจเกิดได้กับทุกฝ่าย และทุกระดับของการศึกษาด้วย ผมไปอยู้อเมริกามาช่วงหนึ่งสมัยเรียน ป. โท มีอย่างหนึ่งที่ไอ้กันมันน่าจะดีกว่าเรา (หลายอย่างมันแย่กว่าเรา) คือ การยอมรับนับถือตัวเอง คนอเมริกัน ไม่มีทางยอมให้ใครชักจูงได้ง่ายๆ มั่นใจในตัวเองสูง ในทุกระดับการศึกษา ตั้งแต่ โฮมเลส ที่ เซ็นทรัลปาร์ค ยัน ผู้บริการบริษัท มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ในระดับล่างของเรา ที่เป็นตัวอย่างแบบฮ็อตๆ ก็ พระใบ้หวย กับ ไอ้ตัววุ้นต่างดาวนั่นไง ระดับมีการศึกษาหน่อย ก็พวกเชียร์ทั้งคุณทักษิณ และไล่ คุณทักษิณแบบไม่ลืมหู ลืมตานั่นไง จากคุณ : Kitty Pat - [ 14 ก.ค. 49 11:03:22 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ทำไมคนไทยถึงใช้อารมณ์และความรู้สึก ในการตัดสินปัญหา มากกว่าการใช้เหตุผล คำตอบคือ ไม่จริงเสมอไป ยังมีอีกหลายชาติที่ใช้อารมณ์นำในการตัดสินปัญหามากกว่าเรา ที่ชัดๆ และ ผู้เขียน ประสบมาเอง คือ ประเทศจีน คนที่นั่น เวลารถชนกัน หรือเฉี่ยวกัน มักจะลงมาชกกันก่อน ก่อนที่จะพูดกันว่าใครผิด ใครถูก หรือ อย่างสภาไต้หวันที่เราเห็นๆ กันอยู่ทางโทรทัศน์ (จริงๆ ชนชั้นปกครองไต้หวัน มาจาก พวก ก๊กมินตั๋งเดิม ไม่ใช่มาจาก คนที่เป็นเนเจอร์ไต้หวัน ยกเว้น ปธน เฉิน สุ่ย เปียน) การใช้อารมณ์และความรู้สึกของคนไทย แม้จะไม่แสดงออกทางกายภาพชัดเจน แต่ การแสดงออกทางด้านอื่นๆ ในมุมมองของนักจิตวิทยา ถือว่า เป็นเรื่องที่น่าตระหนกมากกว่า เรามักตัดสินอะไรๆ บนรากฐานของการมองเห็นการกระทำของบุคคลใด บุคคลหนึ่งซ้ำ ๆ หากการกระทำนั้นตรงจริตเรา เราก็ว่าเป็นคนดี หากไม่ตรงจริต เราก็ว่าเป็นคนไม่ดี คนเลวอาจเป็นฮีโร่ได้ ใสนขณะที่คนดีกลับกลายเป็นคนถ่อยได้เหมือนกัน มันขึ้นอยู่กับภาพพจน์การนำเสนอออกมาทางกายภาพของบุคคลนั้นๆ ไม่อยากวกเข้าการเมือง แต่คนที่ชอบดูหนัง ฮอลลีวู้ด น่าจะรู้ดีว่า บ่อยครั้งที่เราเชียร์พระเอก หรือ นางเอก ที่ไปแย่งผัว หรือ เมีย ชาวบ้าน ตลอดจน นับถือ โจรเป็น ฮีโร่ ถ้า ประเทศชาติเรา สามารถ ปรับปรุงเรื่องต่างๆ ที่ผมกล่าวมาได้ทั้งหมด จริยธรรม คุณธรรม กับ ความเจริญในยุคโลกาภิวัฒน์มันก็จะสามารถเดินควบคู่ไปด้วยกันได้อย่างเหมาะสม และเราก็จะได้ไม่ต้องมานั่นทะเลาะกันให้เสียโอกาสพัฒนาประเทศเหมือนเช่นทุกวันนี้ แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 49 11:26:57 จากคุณ : Kitty Pat - [ 14 ก.ค. 49 11:04:18 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ทำไมคนไทยถึงไม่รู้จักประชาธิปไตยซะที? เพราะการศึกษายังไม่เข้าถึงน่ะสิครับ... จากคุณ : In the name of Justice. (ขวางขวาง) - [ 14 ก.ค. 49 11:16:40 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เห็นด้วยกับข้อเขียนนี้มากๆเลยครับ โหวตให้เลยครับ ขอให้พี่สู้ๆต่อไปนะครับ ช่วงหนึ่งพี่ Kitty Pat หายไป ตอนนั้นพวกเราเหลือไม่กี่คนเองครับ ตอนนี้ก็ยังไม่เห็นคุณ Sky เลยครับ ไม่รู้ว่าหายไปไหน คิดถึงเหมือนกัน จากคุณ : chiangraiplus - [ 14 ก.ค. 49 11:21:07 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นด้วยครับ อารมณ์ ความรู้สึก และ ความรัก เหนือเหตุผล จากคุณ : จัดชิดขวา (poonpin) - [ 14 ก.ค. 49 12:01:08 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ก่อนอื่นก็ขอ Vote ให้ จขกท. ก่อนละกัน..ขอเป็นกำลังใจให้.."สู้" ต่อไปครับ อย่างน้อยก็ช่วย "เปิด" ประตูแห่งโลกทรรศน์..ให้น้องๆเค้าได้รู้อะไรได้กว้างขึ้น ทีนี้มาถึงหัวข้อที่ จขกท. แยกออกมาเป็นประเด็นย่อยๆ...ขอร่วมแจมด้วยความรู้ ที่น้อยนิดแล้วกันนะครับ..ถูกผิด...ไปบ้างคงไม่ว่ากัน... "ทำไมเด็กไทยรุ่นใหม่จึงหลงไปกับค่านิยมฟุ้งแฟ้อ มั่วเซ็กซ์ พี้ยา คลั่งวัฒนธรรม นำหน้าเกาหลี " ประเด็นนี้..ที่จริงก็คงเกิดขึ้นมานานแล้วกับความเจริญของบ้านเมืองเรา...ที่ ได้รับเอา "วัฒนธรรม" จากต่างแดนมา..ในรูปของ "แฟชั่น"...ภาพยนตร์..ดนตรี ฯลฯ ดังนั้นคงไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นมั้งครับ...มันมีมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายายแล้วหละ... แล้วคนที่ค่อนข้างจะ "ไม่เห็นด้วย"..ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน...ก็คือคนที่ มีอายุมากกว่า คือรุ่น พ่อ ปู่ ย่า ตา ยาย นั่นเอง..ทั้งๆที่เมื่อก่อน...ท่านเหล่านั้นก็ "แหกกฏ"...มา บ้างเหมือนกัน...เพียงแต่มันเป็นคนละแบบ...คนละยุคเท่านั้น...แล้วถ้ามอง ในแง่ร้าย....มันก็เหมือน..."หนักข้อ"..ขึ้นทุกที...ตัวอย่างเช่น..แต่งตัว "โป๊" กันมาก ขึ้น....นี่อีกหน่อยเราอาจจะได้เห็น..วัยรุ่น แต่ง "โนบรา"...กันแน่ๆ...ถ้าผมไม่ตายก่อน ฮิฮิฮิ.....ตอนนี้ ก็เพียง "สายเดี่ยว เกาะอก"....ส่วนเรื่อง "มั่วเซ็กซ์"..เนี่ย...ก็เหมือนกัน ก็อย่าไปโทษเด็กเค้าข้างเดียวเลย...มันต้องโทษที่ "ความเห็นแก่ตัว"..ของผู้ใหญ่ บางคนด้วยที่ทำธุรกิจ..ที่ "เอื้อ" ต่อกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้อง...ตัวอย่างเช่น "โรงแรมม่านรูด"...."ไนท์คลับ".."เทค"....."คาราโอกเกะ"...ฯลฯ...ขายสุรา บุหรี่ ก็ไม่แบ่งว่าเด็ก..หรือผู้ใหญ่...ซื้อได้หมด....ขาย CD หนัง XXX   หวังรวยอย่าง เดียว...ไม่คำนึงถึง..ผลเสียที่ตามมา....ภาพยนตร์..บ้านเราก็ไม่เข้มงวดเท่าที่ควร ดาราคนไทย...หนังไทย...ฯลฯ...ก็ไม่ค่อยช่วย..ไม่ร่วมมือกัน..ดารานักร้อง... ก็พยายาม Intrend เอาอย่างดาราฝรั่ง...ไม่รู้ว่านั่นก็เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี... มันเกี่ยวพันกันไปหมดหละครับ...นี่ยังไม่รวมถึงการมีเวลา หรือวิธีการให้กับการ อบรมเลี้ยงดูของคนที่ได้ชื่อว่าเป็น "คุณพ่อ คุณแม่"...เค้าด้วยนะครับ........ พอ "ทักษิณ" จะสร้างสนามกีฬายักษ์ที่ดอนเมือง..ในโครงการ "เมกะโปรเจค" มันก็มีคนมาคัดค้าน....หารู้ไม่ว่า...ทักษิณ..ได้พยายามที่จะให้เด็กไทย หันมาเล่นกีฬากันมากขึ้น...เพราะเล็งเห็นแล้วว่า.."กีฬา"...สามารถทำให้คน มีอาชีพร่ำรวยได้....คนที่มีอาชีพเกี่ยวข้องกับการกีฬาจะเพิ่มจำนวนอีกมากมาย มีรายได้มากขึ้น..ทีงานทำกันมากขึ้น...ไม่ต้องไปเอาอย่างดารา หนัง..ดารานักร้อง เท่านั้น..ที่เป็นมทางเลือกเพียงน้อยนิด....และไม่กี่เปอร์เซ็นต์..ที่จะเป็นกันได้ นอกจากนี้...เมื่อเด็กๆ..หันมาเล่นกีฬากันมากขึ้น...ก็จะได้ไม่ต้องไป.."พี้ยา" หรือ..ยกพวกตีกัน....มั่วเซ็กซ์....ฯลฯ...เท่านี้ก่อนดีมั้ยครับ....หัวข้ออื่นค่อยมาแจม ทีหลังครับ.... จากคุณ : ยังมีต่อครับ (NoomMan) - [ 14 ก.ค. 49 12:01:08 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เข้าใจว่าคุณ sky เปลี่ยนล็อกอินเป็น คุณ"ไทยมุงมืออาชีพ" แล้วนะคะ ถ้าเข้าใจผิดก็ขออภัย แต่ค่อนข้างแน่ใจมาก จากคุณ : Without me - [ 14 ก.ค. 49 12:30:59 ]

ความคิดเห็นที่ 9 นั่นสิ sky หายไปไหน แต่ก่อนชอบเรียกผมว่าลุง ผมไม่แก่ขนาดนั้นนะ ไม่เหมือนตาแคน แห่ง weopenmind จากคุณ : Kitty Pat - [ 14 ก.ค. 49 12:53:07 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ผมเห็นด้วยว่าเป็นเช่นนั้น ตามความเห็นของ จขกท.ครับ จากคุณ : โชแปง - [ 14 ก.ค. 49 13:01:30 ]

ความคิดเห็นที่ 11 โลกนี้มีมาก่อนผู้คน แต่โลกจะทนอยู่อีกนานสักเท่าใด ถ้าเงินหมื่นแสนล้านถูกผลาญไป ใช้สร้างอาวุธมายัดใส่มือคน ขวานนี้มีมาก่อนเราเกิด คือสิ่งประเสริฐที่มีบ้านเป็นของตน จะแยกไปทำไมไร้เหตุผล พี่น้องประชาชนจะอยู่อย่างไร แถบธงแดง ขาว น้ำเงิน จงโบกนำความเจริญสู่พี่น้องผองไทย ให้โลกรับรู้ว่าเราคือใคร ขวานเอย ขวานไทยดวงใจเป็นหนึ่งเดียว ฟ้านี้มีโอกาสเป็นหนึ่ง เมื่อคนคำนึงถึงการเสียสละ เหล่าบรรพชนที่พลีชีพแลกมา ต้องเสียน้ำตาเลือดเนื้อไปเท่าใด แผ่นดินยามมีคนคอยยุแหย่ ระส่ำย่ำแย่บ้านเมืองลุกเป็นไฟ ถึงเวลาต้องร่วมแรงร่วมใจ หวงแผ่นดินไทยด้วยหัวใจยุติธรรม แถบธงแดง ขาว น้ำเงิน จงโบกนำความเจริญสู่พี่น้องผองไทย ให้โลกรับรู้ว่าเราคือใคร ขวานเอย ขวานไทยดวงใจเป็นหนึ่งเดียว ขวานที่ไม่มีด้าม นำไปใช้ย่อมไร้พลัง คนไทยไม่เคยแบ่งข้าง ไทยแขกจีนฝรั่งที่เกิดยังเมืองไทย ใต้ร่มบรมโพธิสมภาร พระเจ้าอยู่หัว พระราชินีทรงห่วงใย ลูกเอย หลานเอย ล้วนคนไทย มาสร้างฝันกันใหม่ ให้ขวานไทย ใจหนึ่งเดียว แถบธงแดง ขาว น้ำเงิน จงโบกนำความเจริญสู่พี่น้องผองไทย ให้โลกรับรู้ว่าเราคือใคร ขวานเอย ขวานไทยดวงใจเป็นหนึ่งเดียว ขวานที่ไม่มีด้าม นำไปใช้ย่อมไร้พลัง คนไทยไม่เคยแบ่งข้าง ไทยแขกจีนฝรั่งที่เกิดยังเมืองไทย ใต้ร่มบรมโพธิสมภาร พระเจ้าอยู่หัว พระราชินีทรงห่วงใย ลูกเอย หลานเอย ล้วนคนไทย มาสร้างฝันกันใหม่ ให้ขวานไทย ใจหนึ่งเดียว ขวานนี้มีมาก่อนเราเกิด คือสิ่งประเสริฐที่มีบ้านเป็นของตน จะแยกไปทำไมไร้เหตุผล เราล้วนเป็นคนเป็นประชาชนไทย แผ่นดินยามมีคนคอยยุแหย่ ระส่ำย่ำแย่บ้านเมืองลุกเป็นไฟ ถึงเวลาต้องร่วมแรงร่วมใจ หวงแผ่นดินไทยด้วยหัวใจสามัคคี แถบธงแดง ขาว น้ำเงิน จงโบกนำความเจริญสู่พี่น้องผองไทย ให้โลกรับรู้ว่าเราคือใคร ขวานเอย ขวานไทยดวงใจเป็นหนึ่งเดียว ขวานที่ไม่มีด้าม นำไปใช้ย่อมไร้พลัง คนไทยไม่เคยแบ่งข้าง ไทยแขกจีนฝรั่งที่เกิดยังเมืองไทย ใต้ร่มบรมโพธิสมภาร พระเจ้าอยู่หัว พระราชินีทรงห่วงใย ลูกเอย หลานเอย ล้วนคนไทย มาสร้างฝันกันใหม่ ให้ขวานไทย ใจหนึ่งเดียว ขวานที่ไม่มีด้าม นำไปใช้ย่อมไร้พลัง คนไทยไม่เคยแบ่งข้าง ไทยแขกจีนฝรั่งที่เกิดยังเมืองไทย ใต้ร่มบรมโพธิสมภาร พระเจ้าอยู่หัว พระราชินีทรงห่วงใย ลูกเอย หลานเอย ล้วนคนไทย มาสร้างฝันกันใหม่ ให้ขวานไทย ใจหนึ่งเดียว http://www.carabao.net/MusicStation/musicPlay.asp?id=219 http://www.carabao.net/MusicStation/musicPlay.asp?id=218 จากคุณ : BATMAN BEGIN - [ 14 ก.ค. 49 13:10:56 ]

ความคิดเห็นที่ 12 "ทำไมคนไทยถึงเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากว่าประโยชน์ของชาติ" คำตอบคือ มนุษย์ทุกชาติ สันดานดิบแล้วเห็นแก่ตัวทั้งนั้น เพียงแต่ว่า ประเทศนั้นๆ จะมีการจัดระบบ ระเบียบ รวมทั้งการตรวจสอบให้ ความ เห็นแก่ตัว นั้นไม่ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย และ กระทบกับผู้อื่น รวมทั้งเป็นอุปสรรคต่อความเจริญของประเทศหรือไม่ ..(.โดย จขกท.) ------ที่จขกท. ว่ามาก็ถูกนะครับ  แต่เราลองมาดูอีกประเด็นหนึ่งสิครับว่า ที่มาของการก่อตั้งเป็น "ประเทศไทย"...เราเกิดขึ้นมาจากอะไร...ถ้าไม่ใช่มาจาก การ "แก่งแย่งชิงดีกัน"..มาตลอดเวลายาวนาน (ตามประวัติศาสตร์. ถ้าเข้าใจผิด ก็ขออภัยครับ)......เมืองไทยเราเป็น "อู่ข้าวอู่น้ำ"....อาชีพหลักก็คือ "ทำนา" แม้ว่าเราจะเห็นว่า..ชาวบ้านมีความสามัคคีกัน..ลงแขก ดำนา...เกี่ยวข้าว ไถหว่าน...ฯลฯ....แต่นั่นเป็นเพียงส่วนน้อยหรือเปล่า...แท้จริงแล้ว..คนไทย ขาดการ "รวมกลุ่ม"....อยู่อย่าง "ตัวใครตัวมัน"...นาอยู่ติดกัน..ก็ทะเลาะกันเรื่อง ความเห็นแก่ตัว...วิดน้ำเข้านา....ฯลฯ หรือไม่...บ้านช่องก็อยู่ห่างไกลกันออกไป และจากที่เป็นดินแดนอู่ข้าวอู่น้ำนี่เอง...จึงมีคนหลายหลากพันธุ์เข้ามาอาศัยอยู่ ทำมาหากิน...ตักตวงผลประโยชน์จากพื้นนาพื้นไร่....อย่างเห็นแก่ตัว..มากขึ้น พ่อค้า..คนกลางรับซื้อผลผลิตทางการเกษตร...เอาเปรียบ...โกง....ฯลฯ มานานแล้ว การหนีภาษี...ดูเหมือนเป็นสิ่งที่ทำกันจนเป็นนิสัยส่วนตัวของคนไทย..ที่อยู่อย่าง ตัวใครตัวมันมานานแล้ว..เช่นเดียวกัน.......ดังนั้น...ก็ต้องย้อนถามว่า...คนไทย รู้จักคำว่า "ชาติไทย".....สักแค่ไหน.....ในเมื่อ..เค้า..(คนไทยน่ะแหละ...ฮิฮิฮิ) ก็ไม่เห็นได้รับความช่วยเหลือจาก...ความเป็น "ชาติไทย"...สักแค่ไหน...ชีวิต ความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่เป็นคนไทย...ต้อง "ปากกัด ตี---นถีบเรื่อยมา ทำงานตัวเป็นเกลียว..หัวเป็นน๊อต".....ไปวันๆหนึ่ง....เพื่อให้ชีวิตตนเองและ ครอบครัว..อยู่รอด.....เราฝากชีวิตไว้กับ "โชคชะตา" "วาสนา"..."โชคลาง"... ความงมงาย...ไสยศาสตร์..ฯลฯ.....อาจจะมองไปไม่เห็นถึง "ภาพรวม" ของความเป็น "ชาติไทย"...แม้สักนิดเดียวก็เป็นได้....เพราะไม่ว่าใครจะ ขึ้นมาเป็นผู้บริหาร....ก็ไม่เห็นว่า...ปัญหาต่างๆที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ต้อง ประสพอยู่..จะได้รับการแก้ไข..อย่างเป็น "รูปธรรม"....มานานแล้ว...... แต่พอมีคนๆหนึ่ง...กำลังทำให้ทุกคนได้รู้ว่า...อะไรคือ "ชาติไทย"....เราก็ กำลังจะกลับไปอยู่ใน "วังวน" แบบเดิมๆ...อีกแล้ว...จาก "คนกลุ่มหนึ่ง" ที่มองว่า....นั่นไม่ใช่หนทางที่ควรจะเป็น.....นี่ถ้าไม่ใช่เพราะ "ความเห็นแก่ตัว" ผมก็ไม่รู้ว่าจะนิยาม...ว่าอย่างไร..จริงมั้ยครับ.. แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 49 13:43:10 จากคุณ : ยังมีอีกครับ (NoomMan) - [ 14 ก.ค. 49 13:39:17 ]

ความคิดเห็นที่ 13 หนุ่มแมน หากยังหนุ่มนับว่ามีมุมมองใช้ได้ครับ อยากเห็นความเห็นให้ครบทุกข้อครับ รออ่านอยู่ จากคุณ : Kitty Pat - [ 14 ก.ค. 49 13:50:22 ]

ความคิดเห็นที่ 14 "ทำไมคนไทยชอบหลอกตัวเอง เช่นเรื่อง เพศศึกษา เรื่องการพนัน " คำตอบคือ นี่เป็นเอกลักษณ์ของคนไทยที่ยากจะหาใครเหมือน ผมดูสารคดีที่ ต่างชาติทำแล้ว ให้นึกอยากด่าคนทำเหลือเกิน มันไปถ่ายแต่ พัฒพงศ์ สลัม บ่อนชนไก่ ไม่ได้ถ่าย พระบรมมหาราชวังเลย  แต่ก็จริงของมัน เราติดอันดับโลก ทั้งเรื่อง สถานบริการ และ การพนัน แต่เราก็พยายามอธิบายอะไรให้มันขัดแย้ง แทนที่จะยอมรับความจริง และหาทางควบคุมอย่างเป็นระบบ คนมองว่าคดีข่มขืน มาจากสื่อลามก ผมกลับมองว่า ก็เพราะไม่มีการให้การศึกษาอย่างโปร่งใสในวัยที่ เหมาะสมต่างหาก เราไปทำให้เซ็กซ์เป็นเรื่องลึกลับ ต้องห้าม ฝืนธรรมชาติ ทำให้ รู้สึกเก็บกดไม่มีที่ระบายในสิ่งที่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ จึงเกิดเรื่องขึ้น เราเล่นป็อกเด้ง กันทุกทริป ที่บริษัทจัดไปเที่ยว แต่เราก็แกล้งโง่มานั่งด่า หาก รัฐบาลจะเปิด คาสิโน (โดย..จขกท.) -------ผมก็เห็นด้วยกับจขกท. ที่เราเหมือน "หลอกตัวเอง"....แต่ จขกท.ต้องเข้าใจสิว่า สังคมไทยมีที่มาต่างจาก..ชาติที่เจริญแล้ว...ลำพังปัญหา "การไม่รู้หนังสือ"..คือ อ่านภาษาไทยไม่ออก...เราก็แก้กันยังไม่ค่อยตกเลย...เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ "การยกเมฆ" แต่เกิดขึ้นจริงๆ...ในภาคชนบทไทย....ที่ผมบอกได้อย่างนี้เพราะผมเคยคลุกคลีอยู่กับ วงการศึกษามาตั้งแต่ปี 2511 แล้ว....นอกจากนี้...สื่อต่างๆ..ในการให้ความรู้เรื่องต่างๆ... แม้กระทั่ง "การเมือง"...ยังเคยมีการสั่งห้ามไม่ให้..มีการ "อ่าน"...."ฟัง"...การรวมกลุ่ม คุยกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป..โดยคณะปฏิวัติ..... แล้วยังพื้นฐานเดิมของคนไทยเรา...เคยปกครองแบบ.."เจ้าขุนมูลนาย"..แบบ "ทาส" มานานแล้ว...เรื่อง "เพศ"....อย่าหวังว่าจะทำอะไรได้..แม้กระทั่ง "คิด"....เพราะ เพศหญิงของไทยเรา....เป็น "ทาส" ของชายไทย...มาตั้งนานแล้ว...ผู้ชายมีเมียหลายคน ยิ่งมี "บารมี" มาก....แต่ผู้หญิง...มีบ้างกลายเป็น "แพศยา".... ผมเห็นด้วยกับที่ จขกท. คิดว่า..."คนมองว่าคดีข่มขืนมาจากสื่อลามก ผมกลับมองว่า ก็เพราะไม่มีการให้การศึกษาอย่างโปร่งใสในวัยที่เหมาะสมต่างหาก เราไปทำให้เซ็กซ์ เป็นเรื่องลึกลับ ต้องห้าม ฝืนธรรมชาติ ทำให้ รู้สึกเก็บกดไม่มีที่ระบายในสิ่งที่เป็น ธรรมชาติของมนุษย์ จึงเกิดเรื่องขึ้น"...... เราต้องใช้เวลาครับ....เพราะที่มาของคนไทยอย่างที่บอก...ดังนั้น..การที่จะให้เป็นดังที่หวัง ก็คงต้องให้...มีการ "ปลูกจิตสำนึก"...เหมือนการ "ปลูกต้นไม้"....ที่จริงเราก็กำลังเริ่ม ทำให้ "คนไทย" เจริญขึ้นหลายๆด้านอยู่แล้ว...ถ้าไม่ใช่ "คนบางกลุ่ม"....ที่ออกมาทำให้ อะไรๆ..มันสะดุด...หยุด...แล้ว ถอยหลังออกไปอีก....ไม่เข้าใจจริงๆ....เฮ้อออออ.... ก็เช่นเดียวกับเรื่อง "บ่อนกาสิโน".....ก็เฉกเช่นเดียวกัน....มันก็ยากพอๆกับว่า เราไม่สามารถจะไปแก้..."ความเชื่อ"...ของคนไทย...ในเรื่อง "ศาสนา"...."ศีล" ฯลฯ วิถีทางที่เหมาะสม.....หละครับ จากคุณ : ยังมีต่อครับ (NoomMan) - [ 14 ก.ค. 49 14:04:05 ]

ความคิดเห็นที่ 15 "ทำไมคนไทยถนัดไปในทางการพูด การวิจารณ์มากกว่า การกระทำที่เป็นรูปธรรม และวัดผลได้" คำตอบคือ คนไทยใจร้อน ไม่อดทน แต่ขณะเดียวกันก็อยากให้มีคนยอมรับนับถือ การไปทำตัวเอง ให้เด่นดัง หรือให้เกิดการยอมรับนับถือโดยการสร้างผลงานที่เป็นรูปธรรม เป็นชิ้นเป็นอัน ต้องใช้ เวลานาน สู้ศึกษาเอาจากตำรา สแกนการกระทำ และคำพูดของคนหรือกลุ่มคนที่อยู่ในเป้าหมาย ที่จะวิจารณ์อย่างละเอียดยิบ แล้วจับประเด็นมาเรียงร้อยถ้อยคำให้ดูมีหลักมีการ ให้สังคมเชื่อ แค่นั้นก็อาจดังได้ แม้บางครั้ง เรื่องไม่เป็นเรื่องก็ยังเป็นเรื่องได้ เช่น การหันคูหาเลือกตั้ง เป็นต้น พวกนักวิชาการ หรือ ด็อกเตอร์ สติเฟื่องหลายๆ คน ต่อให้เป็นคนที่เขียนหนังสือให้คนอ่านทั่วบ้าน ทั่วเมือง มีคนนับหน้าถือตามากมาย กว่าครึ่ง หาใช่คนที่จะประสบผลสำเร็จในการไปทำงาน บริหารจริงๆ ไม่ บุคคลเหล่านี้ให้เป็น คอนซัลแทน จะดีมาก แต่ไปไม่เป็น เวลาที่ต้องมาจัดการ กับงาน และคนในสภาพจริง ซึ่งมีความซับซ้อนกว่าทฤษฎีมากมายหลายเท่านัก ผู้เขียนเป็น ผู้บริหารมา เกือบ 20 ปี ก็ยังพบว่าตัวเองยังต้องปรับปรุงอีกมาก....(โดย.....จขกท.) -------ผมค่อนข้างเห็นด้วยอย่างมากครับ...ก็ดีใจนะครับ..ที่จขกท. รออ่านอยู่...ฮิฮิฮิ...ผมมีความ รู้ และประสบการณ์น้อยกว่า..จขกท. เยอะครับ...มิบังอาจๆๆๆๆ...เพียงแต่เข้ามาเพื่อ.."เสริม" เท่านั้นเอง...กรุณาอย่ามองว่าเป็น "การขัดแย้งซะล่ะครับ..เรา..มีแนวทางเดียวกันครับ...ต่อนะ อย่างที่บอกแล้วว่า...."พื้นฐาน" ของคนไทย...ดูๆไปคือคนที่ "เห็นแก่ตัว"..อยู่แบบ "ตัวใครตัวมัน" ในหลายๆเรื่อง.....ขาดการรวมกลุ่ม....เรียกได้ว่า.."ไม่มีทักษะในการรวมกลุ่ม.."...ว่างั้นซะเลยดีมั้ยครับ (แหม...ถ้ามันจะเป็นการมองในแง่ร้ายเกินไป...ก็ขออภัยด้วยละกัน)....ถ้าจะบอกว่า "อยากดัง" เอ้อ...คำๆนี้ก็ "เข้าท่า" ครับ...ก็ความอยากที่จะเป็น "ฮีโร่" ไง.....มีมาตั้งนานแล้ว...ดูตัวอย่างการ เล่นฟุตบอลของคนไทยเราสิ....ผมยังจำได้...มีศูนย์หน้าอยู่ตัวหนึ่ง....ดังมาก...พอมีผู้สื่อข่าวไป สัมภาษณ์ออกอากาศ...ชมว่า เก่งอย่างโง้นอย่างงี้....แทนที่แกจะบอกว่า..."ที่ผมยิงลูกเข้าประตู นั้นๆได้..ก็เพราะเพื่อนที่ชงลูกโด่งมาให้อย่างเหมาะเจาะ"...แต่กลับไปบอกทำนองว่า... เป็นเพราะตัวเองทุ่มเท...ให้กับเกมนั้นๆอย่างเต็มที่....และจะไม่ให้คนไทยผิดหวัง.."...ดูสิ ก็นี่แหละ..เป็นการยืนยันคำกล่าวของ จขกท. ได้เป็นอย่างดีครับ....555555 ส่วนเรื่อง "การเมือง"....ก็เหมือนกัน...ก็ในเมื่อพื้นฐานมันเริ่มจาก "ความเห็นแก่ตัว" เป็นที่ตั้ง แล้ว...มันก็ทำได้หมดแหละครับ....ที "โรบินฮูด" มันยังบอกว่า..มันเป็น "โจรผู้มีคุณธรรม" เลย นับประสาอะไร...กับ "โจรค้ายาบ้า"..มันก็คงบอกว่า..มันมีคุณธรรม..ที่หาเงินมาส่งเสียให้ ลูกๆเรียน..เลี้ยงดูครอบครัว....จริงมั้ยครับ เรื่อง "ด๊อกเตอร์สติเฟื่อง" นั่นเหมือนกัน....ผมเคยรู้จักพวกนี้เยอะครับ..เคยทำงานร่วมกัน มาก็หลายคน...ส่วนใหญ่จะดีนะครับ....จะมีก็เพียงส่วนน้อยครับ...พวกนี้ถ้าจะให้วิเคราะห์ ก็ต้องบอกแบบ คาดคะเน (ฟันธงไม่ได้.เดี๋ยวหาว่า..ขี้อิจฉา..ฮิฮิอิ)..ว่า...ก็คงเกี่ยวข้องกับ คำว่า "Ego" หละครับ....พวกนี้อาจจะมีปัญหามาตั้งแต่ตอนเรียนแล้วหละครับ....คงเป็น นิสัยส่วนตัวมากกว่า...ที่ พื้นฐานจริงๆ...แล้ว...ไม่มีใครในที่ทำงานยอมรับ..หรือเปล่า...ฮิฮิฮิ ด๊อกเตอร์ที่จบมาใหม่ๆ..ในที่ทำงานผม...ก็ยังมีปัญหาเรื่องการปรับตัว...ปากไม่ดี..เจ้านาย เกลียด....ฯลฯ...แล้วอย่างงี้...คุณคิดเหรอว่า...จะหวังอะไรกับ..."ปริญญา"....ก็ดีใจนะ ที่คุณยังเป็นคนที่ใช้ได้..กับคำว่า... "ผู้เขียนเป็น ผู้บริหารมา เกือบ 20 ปี ก็ยังพบว่าตัวเองยังต้องปรับปรุงอีกมาก.".... แสดงว่า....คุณใจกว้างมากทีเดียว..ในแนวความคิด....ขอเป็นกำลังใจให้มากๆเลยครับ.. "คนเขียนตำราเก่ง..."....กับคนที่ "ทำงานเก่ง"....กับคนที่ "บริหารงานเก่ง"...กับ "คนดี 100%" กับคนที่เป็นที่รักของทุกๆคน"....ฯลฯ...อาจจะไม่ใช่คนๆเดียวกันหรอกครับ...ไม่มีใครที่ Perfect ที่สุดหรอกครับ...จริงมั้ย....55555555 แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 49 14:50:20 จากคุณ : ไม่ทราบว่าเบื่อผมหรือยัง..ฮิฮิ (NoomMan) - [ 14 ก.ค. 49 14:33:26 ]

ความคิดเห็นที่ 16 "ทำไมคนไทยถึงเชื่ออะไรง่ายๆ และ ฝังจิต ฝังใจ คำตอบคือ เรายังขาดการยอมรับนับถือตัวเอง กรณีนี้ไม่ได้หมายถึงทุกคน กรณีนี้อาจเกิดได้กับทุกฝ่าย และทุกระดับของการศึกษาด้วย ผมไปอยู้อเมริกา มาช่วงหนึ่งสมัยเรียน ป. โท มีอย่างหนึ่งที่ไอ้กันมันน่าจะดีกว่าเรา (หลายอย่าง มันแย่กว่าเรา) คือ การยอมรับนับถือตัวเอง คนอเมริกัน ไม่มีทางยอมให้ใคร ชักจูงได้ง่ายๆ มั่นใจในตัวเองสูง ในทุกระดับการศึกษา ตั้งแต่ โฮมเลส ที่ เซ็นทรัลปาร์ค ยัน ผู้บริการบริษัท มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ในระดับล่าง ของเรา ที่เป็นตัวอย่างแบบฮ็อตๆ ก็ พระใบ้หวย กับ ไอ้ตัววุ้นต่างดาวนั่นไง ระดับมีการศึกษาหน่อย ก็พวกเชียร์ทั้งคุณทักษิณ และไล่ คุณทักษิณแบบ ไม่ลืมหู ลืมตานั่นไง ...(โดย....จขกท.ว่า...) --------อเมริกันชน....มันมีที่มาต่างจากเรามากหลายเท่าตัวนักครับ...กว่าที่ คนของเค้าจะมีคุณภาพขนาดนั้น...ไม่ใช่ว่าได้มาง่ายๆ....บรรพบุรุษของเค้า ผ่านการต่อสู้กับอะไรๆ..มามากกว่าเราครับ...นับตั้งแต่การมาแสวงหาอาณานิคม การเป็น "ผู้รุกราน"...รบชนะ...ครองดินแดนมากมาย....ในโลก...ฯลฯ..มีเสรีภาพ "จ๋าาาาาาา"....ออกอย่างงั้น......ลองถ้าเราอพยพ..หนีจาก "ขวานทอง" แล้วไปแสวงหา อาณานิคมใหม่ๆได้อย่างเค้า..เราก็อาจจะมีลักษณะเหมือนเค้าก็ได้...ฮิฮิฮิ..... (เดี๋ยวจะล่อแหลมไป...วกเข้าเรื่องดีกว่า)......เราหนีไปไหนไม่ได้อีกแล้วหละมั้งครับ.. ยกเว้นว่าเราจะสามารถ "ไล่" เขมร..ลาว..พม่า...ออกจากประเทศเค้าไปด้ แล้วไปตั้งประเทศใหม่อยู่กัน...ดวลปืนกัน...ใครดีใครอยู่...เลี้ยงวัว..เลี้ยงม้า เป็น "คาวบอย"...คนเก่ง..ได้เป็น "นายอำเภอ" ใส่เสื้อติดดาวทอง...พกปืนคู่..ยิงปืนแม่น แต่นี่ก็ไม่ใช่แล้วมั้งครับ..ยุคนี้....ขืนทำไป...ตายเกลี้ยง....ฮิฮิฮิ....เราจึงกลายเป็น ต้องเชื่อ...เรื่องเข้าเจ้าเข้าทรง....ไสยศาสตร์...ผี...ป่า...ซาตาน..ฯลฯ..ไปพลางๆไง ดีกว่า...ไม่มีความหวังอะไรซะเลย...บางคนเลยแอบไปเสพยาบ้า..ปีนเสาไฟฟ้า.. เอามีดจ่อคอหอยตัวเองไง....555555.....มันไม่มีอะไรจะทำ..คิด..ดีไปกว่านี้แล้วไง.. นี่ก็ดีขึ้นนะครับ..ดื่มเบียร์ช้าง..สามขวดร้อย..ไปวันๆ....55555..เมาๆๆๆ..แล้วก็ ขับรถไปชนเด็ก...ศิลปิน..รถโรงเรียน..ฯลฯ.... อย่าหวังเรื่อง.."นับถือตัวเอง" เลย....จะให้เกียรติ...คนอื่นยังยากเลยครับ ไปโรงพยาบาลก่อนหน้านี้...เค้าบอกให้มาตรวจตามคิว....ก็ตื่นมาแต่ไก่โห่... เอารองเท้ามาวางเรียงๆๆๆกันเป็นแถว....เจ้าของรองเท้า..นอนเหยียดยาว บนเก้าอี้นอน...หน้าห้องทะเบียนผู้ป่วยนอก...กว่าจะได้ตรวจ...โน่น...บ่าย ขึ้นรถเมลล์...อย่าหวังเลยว่าจะมีคนสละที่ให้สตรี..เด็ก..คนชรา ฯลฯ นั่ง ถ้าได้..ก็ไปซื้อหวยเลย....ฮิฮิอิ....ขับรถ..ก็ขอให้ ชั้นไปก่อน...พวกเธอจะ จ่อคิวต่อแถวยาวยังไง..ฉันไม่สน..ขอแทรกไปปาดซ้าย ปาดขวา...เค้ามี 3 เลน...ก็แทรกทำให้มันเป็น 5 เลน..ซะอย่างงั้น...คนทำซื่อๆ....ก็กลายเป็น คนโง่..บนท้องถนนไป....เป็นต้น....แหม...ก็ "ทักษิณ"...เค้าเป็น "ตำรวจ"... จับโน่นจับนี่....ใครบ้างที่ชอบตำรวจ....ขอให้ยกมือขึ้นนนนน....5555555 แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 49 15:36:15 จากคุณ : ต้องแก้ครับ... (NoomMan) - [ 14 ก.ค. 49 15:32:56 ]

ความคิดเห็นที่ 17 "ทำไมคนไทยถึงใช้อารมณ์และความรู้สึก ในการตัดสินปัญหา มากกว่าการใช้เหตุผล" คำตอบคือ ไม่จริงเสมอไป ยังมีอีกหลายชาติที่ใช้อารมณ์นำในการตัดสินปัญหามาก กว่าเรา ที่ชัดๆ และ ผู้เขียน ประสบมาเอง คือ ประเทศจีน คนที่นั่น เวลารถชนกัน หรือเฉี่ยวกัน มักจะลงมาชกกันก่อน ก่อนที่จะพูดกันว่าใครผิด ใครถูก หรือ อย่างสภา ไต้หวันที่เราเห็นๆ กันอยู่ทางโทรทัศน์ (จริงๆ ชนชั้นปกครองไต้หวัน มาจาก พวก ก๊กมินตั๋งเดิม ไม่ใช่มาจาก คนที่เป็นเนเจอร์ไต้หวัน ยกเว้น ปธน เฉิน สุ่ย เปียน) การใช้อารมณ์และความรู้สึกของคนไทย แม้จะไม่แสดงออกทางกายภาพชัดเจน แต่ การแสดงออกทางด้านอื่นๆ ในมุมมองของนักจิตวิทยา ถือว่า เป็นเรื่องที่น่า ตระหนกมากกว่า เรามักตัดสินอะไรๆ บนรากฐานของการมองเห็นการกระทำ ของบุคคลใด บุคคลหนึ่งซ้ำ ๆ หากการกระทำนั้นตรงจริตเรา เราก็ว่าเป็นคนดี หากไม่ตรงจริต เราก็ว่าเป็นคนไม่ดี คนเลวอาจเป็นฮีโร่ได้ ในขณะที่คนดีกลับ กลายเป็นคนถ่อยได้เหมือนกัน มันขึ้นอยู่กับภาพพจน์การนำเสนอออกมาทาง กายภาพของบุคคลนั้นๆ ไม่อยากวกเข้าการเมือง แต่คนที่ชอบดูหนัง ฮอลลีวู้ด น่าจะรู้ดีว่า บ่อยครั้งที่เราเชียร์พระเอก หรือ นางเอก ที่ไปแย่งผัว หรือ เมีย ชาวบ้าน ตลอดจน นับถือ โจรเป็น ฮีโร่ ถ้า ประเทศชาติเรา สามารถ ปรับปรุงเรื่องต่างๆ ที่ผมกล่าวมาได้ทั้งหมด จริยธรรม คุณธรรม กับ ความเจริญในยุคโลกาภิวัฒน์มันก็จะสามารถเดินควบคู่ไปด้วยกัน ได้อย่างเหมาะสม และเราก็จะได้ไม่ต้องมานั่งทะเลาะกันให้เสียโอกาสพัฒนา ประเทศเหมือนเช่นทุกวันนี้ ------พูดอีกเดี๋ยวถูกอิฐ...เอ้ยยย....ฮิฮิฮิ...ก็ถูกอีก..ครับ...ใครตัด "กิเลส " ได้หมด (รวมทั้งอารมณ์ด้วย)...ผมว่า...ประเสริฐสุด..แล้วหละครับ..อย่างน้อยก็...เหลือไว้แค่ "ตัณหา" อย่างเดียวก็พอ..."อ้าว..แล้วกัล....ตลกไปได้...เดี๋ยวโดนด่า...ฮิฮิฮิ"........ อย่าไปหวังให้เค้าใช้อะไรมากกว่ากันเลยครับ.....แค่เพียงว่า....คนในสังคมเดียวกันเนี่ย ต้องถามตัวเองให้ชัดๆหละมั้งครับ..ว่า..."จะอยู่ด้วยกันอย่างไร"....ในบ้านเดียวกันเนี่ย 1.      สิ่งที่จะต้องใช้ร่วมกันมีอะไรบ้าง.....จะช่วยกัน "แชร์".....หรือต่างคนต่างใช้ไม่ต้องคิดถึงคนอื่น 2.      พอจะตกลงทำอะไร...ใช้การ Vote หรือไม่....หรือต่างคนต่างทำ...แม้ว่าเสียงข้างน้อย 3.      จะไว้ใจคนที่ Vote เลือกเป็น "หัวหน้า"..เป็น คนดูแล ควบคุมคนไม่ดี.หรือเอาไว้ให้ทำตามใจเรา           ทุกอย่าง...หรือทำตามเสียงส่วนน้อย 4.       เลือกผู้แทนไปนั่งประชุม...ตรวจสอบ... Vote ใครแพ้ต้องยอมรับ..หรือ.ข้ามหัวผู้แทน..จัดการซะเอง 5.       อ้างเลือกตั้งไม่โปร่งใส.....เพราะไม่เอาเสียงข้างน้อย....แล้วเลือกใหม่ไปเรื่อยๆ...เอาเสียงข้างน้อย            เป็นหัวหน้า...แม้ว่าจะเหลือคนเดียวได้คะแนนเดียวก็เอา.....5555555 6.       กกต. บอกว่าไม่โปร่งใส....เลือกกี่ที...จะ "โปร่งใส".เพราะ กกต. ก็ต้องมีเพื่อนเหมือนกัน.ใครอยู่คนเดียว           ไม่มีเพื่อนรักเลย..ก็ "คนบ้า" แล้ว.... 7.       หา "นายก"....ที่ถูกใจ....ตัวเอง..คนส่วนน้อย...แต่ชาวบ้านร้อง "ยี้"...เหรอ 8...      ฆ่า "หัวหน้า".....แล้ว..ทำให้ทั่วโลกชื่นชม..เหรอ..ว่า...เป็นประเทศที่ "เจริญแล้ว" 9.    """"ข้อนี้เลขมงคล......ไม่เอาดีกว่า...นึกไม่ออกด้วย....55555555 จบซะทีนะ..จขกท..เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ......55555555 จากคุณ : เหนื่อยแฮะ...ฮิฮิฮิ (NoomMan) - [ 14 ก.ค. 49 16:02:57 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณในความเห็นดีๆ ครับ save ไว้แล้ว จากคุณ : Kitty Pat - [ 14 ก.ค. 49 16:58:38 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นด้วยครับ ผมว่าสภาพสังคม ทัศนคติ อะไรต่อมิอะไรของเรามีปัญหาเน่าเฟะภายใน อยากนักที่จะเจริญก้าวหน้าทัดเทียมประเทศอื่น กรรมเวรประเทศไทย คนไทยรักประเทศ รักสถาบันแต่ปากครับ แต่ปาก แต่ปาก แต่ปาก พูดได้เลยว่า บ้านเมืองเราจะไม่มีวันเจริญ เท่าที่มีคนไทยอาศัยในประเทศนี้ ถ้าเราไม่แก้ไขมันก่อนสายเกินแก้ ปัญหาทุกอย่างเกิดจาก ตัวเรา อายประเทศเพื่อนบ้านจริงๆ นะตอนนี้ จากคุณ : Boon-Kwang - [ 14 ก.ค. 49 17:37:41 ]

ความคิดเห็นที่ 20 zแม้แต่ศาลรัฐธรรมนูญ ยังเอาความรู้สึกมาตัดสินให้การเลือตั้งไม่ชอบ ทำให้ปัจจุบันเกิดช่องว่างทางการเมือง และมีกลุ่มคนที่ต้องการล้มรัฐบาลเพื่อผลประโชน์ตัวเอง ผมว่าเหตุการทั้งหมดที่เกิดในปัจจุบัน ศาลรัฐธรรมนูญต้องรับผิดชอบ โดยการลาออกตามรับสั่งเมื่อทำไม่ได้ก็ต้องออกไป************************ผมเสื่อศัทธาการเลือกตั้งแล้วและนับแต่นี้ไปผมจะไม่ขอไปเลือตั้งตลอดชีวิต เพราะผมเคยให้ความร่วมมือไปเลือตั้ง ตลอเวลา 30 ปี มาไม่เคยเบี้ยว อยู่คนที่ไม่ไปใช้สิทธิในการเลือกตั้งมาพยายามทำให้การเลือตั้งไม่ชอบ ชอลาที ประชาธิปไตยแบบไทยๆ จากคุณ : ฮูเอ๋อ - [ 14 ก.ค. 49 22:20:14 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คุณ : Kitty Pat เมื่อไปอ่านหนังสือเขียนโดยฝรั่งสมัยโบราณ      เขาก็บรรยายลักษณะพิเศษของคนไทยแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน จากคุณ : jersy (jersy) - [ 16 ก.ค. 49 01:10:52 ]

ความคิดเห็นที่ 22 จาก ประสบการณ์ที่ผ่านมา.... "ความรู้สึก(จากจิตใจที่สงบเย็นและนิ่ง) เชื่อถือได้" ยิ่งกว่า ความรู้ ความรู้สึกประเภทนี้  เราเรียกว่า "ญาณทัศนะ" ที่ ไม่เคยพลาดเลย ถ้าใจนิ่งและสงบเพียงพอ ไม่ใช่ ความรู้สึก ประเภท โลภโกรธ หลง นะคะ เหตุผล: เพราะ 'ความรู้' มักจะมี 'ความรู้ใหม่'(ที่เจ๋งกว่า) มาขับไล่ ความรู้เก่า(ที่ตกยุค) อยู่เสมอ ค่ะ จากคุณ : ** ผู้หญิงไทย ** - [ 16 ก.ค. 49 02:31:42 ]

ความคิดเห็นที่ 23 สังคมไทย ชอบเป็นทาส ชอบถูกสั่ง มากกว่าชอบคิด กลัวเรื่องใหม่ๆ กลัวการผลิตใหม่ๆเพราะเห็นว่าเปลือง กลัวการเรียนรู้และก้าวไปข้างหน้าเพราะเดี่ยวถูกหาว่าแตกต่าง กลัวความก้าวหน้า กลัวความเจริญ ล้าหลังยิ่งกว่าล้าหลัง จากคุณ : the author (the author) - [ 28 ก.ค. 49 12:41:52 ]