CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    "ไทยรัฐ" หนังสือพิมพ์ที่เอาตัวรอดทุกยุคทุกสมัย ก็ไม่เอาทักษิณแล้ว "ยอมเปลืองชาติ ไม่ยอมเปลืองตัว"

    http://www.thairath.co.th/news.php?section=politics03&content=12816

    จากหน้า3  ไทยรัฐ    ข่าวการเมือง  วิเคราะห์



    ยอมเปลืองชาติ ไม่ยอมเปลืองตัว

    ภาษิตคำพังเพยโบราณว่าเอาไว้ “อย่าสาวไส้ให้ กากิน” “ความในไม่ให้เอาออก ความนอกอย่าเอาเข้า” “น้ำขุ่นไว้ใน น้ำใสไว้นอก”

    คำสั่งสอนเหล่านี้ ได้ยินได้ฟังเป็นที่รู้กันโดยทั่วไป และมีการยึดถือปฏิบัติจนเป็นวัฒนธรรมของสังคมไทยมาตลอด

    คนในครอบครัวจะเอาเรื่องภายในไปบอกกล่าวเล่าให้คนนอกบ้านฟัง

    ถือเป็นเรื่องไม่สมควร

    คนในบ้านไหนทำ คนนั้นต้องถูกด่า

    หรือแม้แต่คนที่อยู่บ้านรั้วติดกัน ถ้ามีวุฒิภาวะเขาก็จะไม่ไปก้าวก่ายสอดรู้สอดเห็นเรื่องภายในของบ้านอื่น ต้องรู้จักรักษามารยาท

    เรื่องอย่างนี้ สังคมไทยรู้กันดี

    แต่ในท่ามกลางสถานการณ์วิกฤติการเมืองของประเทศ กลับปรากฏเป็นข่าวใหญ่โต

    พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีรักษาการ ร่อนจดหมายลับเฉพาะถึงนายจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา

    เพื่อชี้แจงปัญหาเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองภายในประเทศไทย

    รวมทั้งมีการเดินสายไปชี้แจงด้วยวาจากับผู้นำอังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย จีน ญี่ปุ่น และทำจดหมายไปถึงผู้นำประเทศอาเซียน 9 ประเทศ

    เล่าแจ้งแถลงไขความเคลื่อนไหวทางการเมืองของฝ่ายต่างๆ ในประเทศไทย ภายใต้มุมมองและความ รู้สึกนึกคิดของตัวเอง

    เริ่มจากจดหมายลงวันที่ 17 เมษายน 2549 ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ส่งถึงผู้นำ 9 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน

    ชี้แจงสถานการณ์ทางการเมืองหลังจากเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 2 เมษายน ในกรณีที่ประกาศเว้นวรรคไม่ขอรับตำแหน่งนายกฯในรัฐบาลชุดใหม่ และลาพักการปฏิบัติหน้าที่

    โดยเนื้อหาในจดหมายดังกล่าวมีการระบุว่า

    “พรรคไทยรักไทยได้รับคะแนนเสียง 16.4 ล้านเสียง เปรียบเทียบกับจำนวนผู้ลงคะแนนที่เรียกว่าโนโหวต 9.1 ล้านเสียงในการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะพิจารณาจากแง่มุมใดก็เป็นการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม”

    “กรณีที่เกิดขึ้น พรรคฝ่ายค้านสำคัญ 3 พรรค เลือกที่จะไม่ลงสมัครแข่งขันในการเลือกตั้งครั้งนี้ ผู้สนับสนุนของพรรคเหล่านั้นก็มีพันธะให้ต้องไปลงคะแนนเสียง และทุกคนควรกาลงในช่องโนโหวตได้ ตามที่ต้องการ

    ดังนั้น จำนวนคะแนนเสียงโนโหวตที่นับได้ จึงเสมือนตัวแทนของผู้ที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมด ที่ไม่ต้องการลงคะแนนเสียงให้กับพรรคไทยรักไทย

    ในระบอบประชาธิปไตย สิ่งนี้ควรนับได้ว่าเป็นยิ่งกว่าชัยชนะที่แน่ชัด

    อย่างไรก็ตาม ในจิตใจของข้าพเจ้ามีความต้องการที่จะรักษาประเพณีประชาธิปไตย และความเป็นเอกภาพในชาติไว้เหนือสิ่งอื่นใด ทั้งสองประการนี้ต้องมาก่อนชัยชนะในการเลือกตั้ง

    สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกในเวลานี้ ก็คือทำอย่างไรจึงสามารถทำให้กระบวนการปฏิรูปการเมือง ที่รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดำเนินต่อไปได้ตามที่หลายฝ่ายเรียกร้อง”

    ชัดเจน พ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันกับผู้นำในภูมิภาคอาเซียน การเลือกตั้ง 2 เมษายน ถูกต้องชอบธรรม

    อ้างต้องประกาศเว้นวรรคและพักการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อรักษาประเพณีประชาธิปไตยและเอกภาพในชาติ

    ยอมให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปฏิรูปการเมือง ตามเสียงเรียกร้อง

    ถัดมาเป็นจดหมายที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ร่อนไปถึงประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ลงวันที่ 23 มิถุนายน

    อธิบายสถานการณ์การเมืองในช่วงที่กลับเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ นายกรัฐมนตรีรักษาการ

    เนื้อหาบางช่วงบางตอนระบุว่า

    “ข้าพเจ้าได้กลับมารับผิดชอบเมื่อเร็วๆนี้ ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี เป้าหมายของข้าพเจ้าก็คือ เพื่อเตรียมการตามแนวทางประชาธิปไตยให้ดีที่สุด เท่าที่จะเป็นได้สำหรับรัฐบาลชุดต่อไป ที่จะมีขึ้นหลังจากการเลือกตั้งทั่วไปในปลายปีนี้

    นับตั้งแต่ต้นปีนี้เป็นต้นมา ได้เกิดมีภัยคุกคามต่อประชาธิปไตยขึ้นในประเทศไทย สถาบันหลักของประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้ง และธรรมเนียมปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญว่าด้วยข้อจำกัดของรัฐบาล ได้ถูกทำลายลงซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยกลุ่มผลประโยชน์ ที่ต้องพึ่งพาการสร้างความโกลาหล และการชุมนุมประท้วงตามท้องถนนในกรุงเทพฯ

    เป็นวิธีการให้ได้มาซึ่งอำนาจทางการเมืองที่กลุ่มเหล่านี้ ไม่อาจได้รับด้วยการได้ชัยชนะในการเลือกตั้ง เนื่องเพราะล้มเหลวในอันที่จะกระพือ ให้เกิดความรุนแรงและความปั่นป่วนขึ้นมาได้

    ฝ่ายตรงกันข้ามของข้าพเจ้าในเวลานี้ก็กำลังพยายาม หันมาใช้ยุทธวิธีนอกเหนือจากรัฐธรรมนูญหลายรูปแบบ เพื่อบิดเบือนเจตนารมณ์ของประชาชน หากสถาบันประชาธิปไตยของเรามีความเข้มแข็งจริง ในช่วงอีกหลายเดือนต่อไปนี้แล้ว ความพยายามดังกล่าวเหล่านี้ก็คงล้มเหลวไปด้วยเช่นเดียวกัน”

    “ศาลไทยได้ประกาศให้การเลือกตั้งเมื่อเดือนเมษายนเป็นโมฆะ ด้วยข้อพิจารณาเชิงเทคนิค และมีคำสั่งให้จัดการเลือกตั้งใหม่ขึ้นอีกครั้ง ที่อาจจะเป็นในราวกลางเดือนตุลาคม นี้ นักสังเกตการณ์ที่เป็นกลางส่วนใหญ่เชื่อว่าพรรค การเมืองของข้าพเจ้าจะได้รับฉันทานุมัติ จากประชาชนอีกครั้งหนึ่งให้จัดตั้งรัฐบาล”

    อธิบายรายงานสถานการณ์ภายใต้มุมมองของตัวเองล้วนๆ

    ฟ้องโดนรังแกจากฝ่ายตรงข้าม

    ปรากฏการณ์ดังกล่าว ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอื้ออึงว่า ผิดธรรมเนียมประเพณีทางการทูต

    เอาเรื่องภายในไปประจานนอกบ้าน

    ที่สำคัญ การดำเนินการของ พ.ต.ท.ทักษิณในครั้งนี้ ทำให้ถูกมองว่าเป็นการใช้สถานะความเป็นผู้นำประเทศ

    เพื่อรักษาสถานภาพของตัวเอง

    โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดกับภาพพจน์ ของประเทศ

    เหนืออื่นใด “ทีมข่าวการเมืองไทยรัฐ” ได้พิจารณาจากเนื้อหาจดหมายที่นายกฯทักษิณ ทำไปถึงประธา-นาธิบดีสหรัฐอเมริกา

    ชัดเจนว่า มีการบิดเบือนความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง

    ไม่ได้ให้ข้อมูลที่ครบถ้วน

    หยิบเอาเฉพาะเหตุการณ์ที่ดูเหมือนตัวเองถูกกระทำขึ้นมาเอ่ยอ้าง บอกในทำนอง ตัวเองทำดี ทำถูกต้องทุกอย่าง

    แต่ถูกอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ และฝ่ายตรงข้ามที่เลือกตั้งสู้ไม่ได้ รุมสหบาทา หาเรื่องล้มล้างรัฐบาล

    เรียกร้องความเป็นธรรม

    ขอความเห็นใจจากผู้นำประเทศมหาอำนาจ

    โดยไม่พูดถึงต้นเหตุปัญหาที่แท้จริง

    อย่างไรก็ตาม ทีมของเราขอบอกว่า ในสังคมระหว่างประเทศ ที่มีการติดต่อสัมพันธ์กันทางการทูต มีสถานทูตเชื่อมโยง

    เป็นที่รับรู้กันทั่วโลก ถ้ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น รัฐบาล เจ้าของประเทศก็จะให้ความสำคัญประสานกับทางสถานทูตชี้แจงผ่านเอกอัครราชทูตเป็นหลัก

    ขณะเดียวกัน ในทางลึก สถานทูตเองก็มีหน้าที่ต้องเสาะหาข่าวสาร และรายงานสถานการณ์ความเป็นไปในประเทศที่สถานทูตตั้งอยู่ กลับไปสู่ประเทศของตนเอง

    ที่สำคัญ ไม่ได้รายงานเฉพาะสถานการณ์เท่านั้น แต่จะมีการสรุปวิเคราะห์ต้นสายปลายเหตุ เบื้องหน้าเบื้องหลังของเหตุการณ์กันอย่างละเอียดยิบ

    ฉะนั้น ไม่มีใครรู้ว่า รายงานของสถานทูตที่ส่งกลับไป กับจดหมายชี้แจงของนายกฯทักษิณ

    ข้อเท็จจริงจะตรงกันหรือไม่

    และผู้นำต่างประเทศจะเชื่อถือข้อมูลของใครมากกว่ากัน

    จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้มีคำถามตามมาว่า เหตุใด พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงได้ดำเนินการในเรื่องที่ขัดธรรมเนียมปฏิบัติทางการทูต

    “ทีมข่าวการเมืองไทยรัฐ” มองว่า การดำเนินการในครั้งนี้ น่าจะเป็นเพราะนายกฯทักษิณห่วงตัวเอง คิดถึงตัวเอง

    กลัวสูญเสียอำนาจ

    เขาเชื่อว่า การนำสถานการณ์ที่ เกิดขึ้นในประเทศไปชี้แจงกับผู้นำประเทศยักษ์ใหญ่ บนเวทีโลกทั้งด้วยวาจาและจดหมายเป็นลายลักษณ์อักษร

    จะเป็นภูมิคุ้มกันบัลลังก์อำนาจให้กับเขาได้

    รวมไปถึงเป็นหลักประกันความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน กรณีถ้าเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองถึงขั้นต้องลี้ภัย

    แน่นอน การเปิดเกมร่อนจดหมายชี้แจงสถานการณ์ ทางการเมือง ขอความเห็นอกเห็นใจจากผู้นำประเทศมหาอำนาจครั้งนี้

    “ทักษิณ” ได้ไปเต็มๆ

    แต่ในขณะเดียวกัน เกมนี้ก็ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย

    โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่กำลังมีปัญหาวิกฤติการเมือง การเลือกตั้งอุดตัน สังคมแตกแยก แบ่งฝักแบ่งฝ่าย

    ยิ่งเป็นการเพิ่มตัวเร่งให้เกิดการเผชิญหน้า

    กระตุ้นให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และอดีตพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน

    เพิ่มดีกรีความขัดแย้งให้หนักยิ่งกว่าเดิม

    ผนวกกับปมปริศนาที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุถึงผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ อยู่เบื้องหลังความวุ่นวายในบ้านเมือง

    ยิ่งทำให้สถานการณ์เปราะบางมากขึ้น

    ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด สะท้อนให้เห็นว่า

    มาถึงวันนี้ นายกฯทักษิณพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อรักษาอำนาจ ให้ตัวเองอยู่รอดปลอดภัย

    โดยไม่สนใจวิธีการ รูปแบบใดๆทั้งสิ้น.


    "ทีมการเมือง"

    จากคุณ : กบดำกบแดง - [ 16 ก.ค. 49 09:20:38 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com