CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    "ต่างคนต่างกรรม" บทความดีๆของอ.ดุสิต อยากให้อ่านกันนะ..

    ผมเกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายและรำคาญเต็มทนแล้ว
    กับข่าวที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์หนังสือของนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
    ที่ได้ส่งหนังสืออธิบายความสับสนวุ่นวายในสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยที่มันเป็นอย่างที่เราเห็นกันอยู่นี้
    ไปยังผู้นำประเทศมหาอำนาจและประเทศเพื่อนบ้านบางประเทศ

    โดยมุ่งประสงค์ที่จะสร้างความเชื่อมั่นและมั่นใจให้ประเทศเหล่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญของประเทศไทยในยุคปัจจุบัน

    เหตุแห่งความเบื่อหน่ายและรำคาญของผม
    ก็ขอบอกกันตามตรงตามความเห็นของผมว่า
    เป็นเรื่องปกติวิสัยธรรมดาของผู้นำรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยทุกประเทศทั่วโลก

    เมื่อปรากฏว่า ได้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะที่จะนำไปสู่ความสับสนวุ่นวายและการสร้างกระแสอันจะนำไปสู่ความเข้าใจไขว้เขวและการเบี่ยงเบนประเด็นที่เป็นผลทำให้นานาประเทศทั่วโลก
    เกิดความกังขาในสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศนั้นๆ และอาจมีผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่อาจเกิดขึ้นได้ จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ผู้นำรัฐบาลทุกรัฐบาลบนพื้นฐานของความรับผิดชอบ จะต้องมีหนังสืออธิบายความชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

    เพื่อไม่ให้นานาชาติทุกประเทศเกิดความตื่นตระหนกเกินกว่าเหตุ และไม่หลงตกเป็น -เหยื่อ”
    อันโอชะของพวกสร้างกระแสแรงกดดันที่มีผลประโยชน์เป็นวาระซ่อนเร้นอยู่ในจิตใต้สำนึก

    ผมจำได้ว่า เมื่อครั้งที่นายชวน หลีกภัย เป็นหัวหน้ารัฐบาล ก็ได้เคยมีหนังสือฉบับลงวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ.2542 ถึงประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในเวลานั้น
    ซึ่งก็คือ ประธานาธิบดีบิล คลินตัน
    แล้วลงท้ายจดหมายว่า -Chuan Leekpai -
    ซึ่งใส่ตำแหน่งใต้ลายมือชื่อในหนังสืออย่างเป็นทางการฉบับนั้นว่า -Prime Minister of Thailand”

    ผมขอถามใครบางคนในสภาทนายความ
    ที่ได้โผล่เคยหัวออกมาวิพากษ์วิจารณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า
    กระทำผิดบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 ซึ่งหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
    ฉบับประจำวันศุกร์ที่ 14 กรกฎาคม 2549 หน้า 8 ได้รายงานข่าวในเรื่องนี้เอาไว้ว่า -...

    ประการสำคัญของความไม่ถูกต้องก็คือ
    การลงท้ายใต้ลายมือชื่อว่า Prime Minister of Thailand ไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 1

    ที่บัญญัติว่า ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวจะแบ่งแยกมิได้ ในทางตรงกันข้าม
    จดหมายของประธานาธิบดีสหรัฐได้ตอบรักษาการนายกรัฐมนตรีโดยใช้ถ้อยคำขึ้นต้นที่ถูกต้องคือ
    ใช้คำว่า Prime Minister of The Kingdom of Thailand ซึ่งสอดคล้องกับถ้อยคำที่ใช้ในรัฐธรรมนูญ
    และสอดคล้องกับการถวายสัตย์ปฏิญาณของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามมาตรา 205 ของรัฐธรรมนูญ...”

    อ้าว...แล้วการที่นายชวน หลีกภัย
    เมื่อตอนเป็นนายกรัฐมนตรีก็ได้เคยลงนามในหนังสือถึงประธานาธิบดีคลินตันที่ผมได้นำมากล่าวอ้างเอาไว้ข้างต้นในบทความวันนี้
    จะถือว่า
    นายชวนก็ได้กระทำผิดบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญมาตรา 1 เช่นเดียวกับที่ได้กล่าว หาพ.ต.ท.ทักษิณกันในคราวนี้ด้วยหรือไม่ ? เพราะบทบัญญัติในมาตรา 1 ก็เป็นบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกันนะจะบอกให้...

    แล้วตอนนั้น
    ผมก็ไม่เคยเห็นพวกสภาทนายความแม้แต่คนเดียว
    โผล่หัวออกมาวิพากษ์วิจารณ์นายชวน หลีกภัย ในฐานะนายกรัฐมนตรีขณะนั้นว่า กระทำผิดบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540
    เหมือนอย่างที่ได้โผล่หัวกันออกมาในคราวนี้

    หรือ มีเหตุผลแต่เพียงว่า
    นายชวน หลีกภัย
    เคยมีอาชีพเป็นทนายความพวกเดียวกันกับพวกสภาทนายความด้วยกันหรืออย่างไร ?

    จากคุณ : วิสัยทัศน์ - [ 17 ก.ค. 49 09:08:18 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com