หนังสือจาบจ้วงเบื้องสูง ชื่อ "The King Never Smiles" เล่มนี้ออกมาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยถูกห้ามจำหน่ายในประเทศไทยและเว็บไซท์ที่เกี่ยวข้องถูกแบนโดยกระทรวงไอซีที โดยทางสันติบาลและกระทรวงไอซีทีให้เหตุผลในการห้ามจำหน่ายว่า "มีเนื้อหาขัดต่อความมั่นคงและความสงบสุขของประชาชน"
คือว่าสิ่งปฏิกูลเหล่านี้มีเกิดขึ้นตลอดจากกลุ่มคนต่างประเทศ ตลอดเวลา และรัฐบาลได้มีการจัดการแบบเงียบๆ เนื่องจากไม่มีความเหมาะสมหากจะแบนหนังสืออกมาดังๆ เพื่อให้กระทบใจคนไทยและยังความเกลียดชังมากขึ้น โดยอาจทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทอีกด้วย
นายพอล แฮนด์ลีย์ อาศัยอยู่ในประเทศไทยราวๆสิบสามปี ก่อนเดินทางกลับประเทศแบบคนตกงาน หลังจากนั้นจึงเขียนหนังสือเล่มนี้ออกมา โดยรู้สึกว่าจะเป็นหนังสือจากสำนักพิมพ์ของมหาวิทยาลัยเยล อเมริกา
โดยมีหนังสือทำนองเดียวกันนี้ ตอนปี 2001 ชื่อ "The Revolutionary King" เขียนโดย "William Stevenson" มาแล้วเช่นกันโดยก็มีการจัดการในแนวทางเดียวกัน เรื่องนี้นายสนธิ หยิบยกมา หาเหตุและการพูดออกมาดังๆเช่นนี้ ถือว่า ทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท อีกตามเคย
โดยปกติสิ่งที่คนเขียนหนังสือ แบบนี้ขึ้นมานิยมอยากให้มีการประท้วงอย่างรุนแรงจากประเทศที่กล่าวถึง เพราะเป็นการกระตุ้นยอดขายในอเมริกา เทียบเท่ากับเป็นการโหมช่วยโฆษณาอีกแรงหนึ่ง ซึ่งทางสันติบาลและไอซีทีรู้เท่าทัน เกมส์เหล่านี้มาตลอดจึงจัดการเท่าที่จัดการได้ในประเทศและไม่ทำให้เป็นข่าวใหญ่
ไม่ทราบว่านักข่าว ฟาร์อีสเทรินเอคนอมิกรีวิว คนนี้รึเปล่าที่เคยเขียนจาบจ้วงเบื้องสูง ตอน นายกฯทักษิณเป็นรัฐบาลในปีแรก ตนต้องออกมาระงับการเป็นนักข่าวและเชิญออกจากประเทศรึเปล่า เมื่อ สี่ ห้าปีก่อน แล้วมี สว.บางคนไปเอาข้อความมีถ่ายเอกสารแจกเพื่อน สว.ด้วยกัน โดย ข่าวตอนนั้นที่สื่อออกมาโจมตีรัฐบาลว่า ปิดกั้นสื่อ โดยนักการเมืองพรรค ปชป ได้ออกความเห็นในขณะนั้นว่า นายกฯ ปิดกั้นสื่อ คุกคามสื่อ และเขียนเรื่องแทงใจดำนายกฯบ้าง จำได้ว่า พล.อ.เชาวลิต ตอบทราบข่าวใหม่ๆให้สัมภาษณ์ว่า ต้องเรียกมาเขกกระบาล ที่เขียนแบบนี้ จำได้อีกว่า นักข่าวเดนนรกสองตัวนี้ ถูก ตำรวจสันติบาลจับตัวมา และ มันยังทำหน้าตาไม่สำนึก ไม่รู้ร้อนรู้หนาว แล้วบอกซื่อๆ ว่า เสียใจ แต่ยังเถียงอะไรอีกมาจำไม่ได้
แต่แทนที่สื่อสมัยนั้นจะเปิดเดือนเป็นร้อน ....
แทนที่นักวิชาการตอนนั้นจะเป็นเดือดเป็นร้อน ....
แทนที่ ปชป ฝ่ายค้านตอนนั้นจะเป็นเดือดเป็นร้อน ....
แทนที่สว.ตอนนั้นจะเป็นเดือนเป็นร้อน ....
แต่...กลับว่า นายกฯ คุกคามสื่อ
บัดนี้ยังมากุข่าวซ้ำอีก โดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล ไม่รู้ฟ้าต่ำแผ่นดินสูงอีกตามเคย โดยชำนาญเหลือร้ายกับการนำเบื้องสูงมากล่าวอ้างเพื่อเป็นประโยชน์ทางการเมืองแก่ตัวเอง
ผมว่าเราไม่ควรให้ราคาว่า "ผู้จัดการ" ยังเป็นสื่ออีกต่อไป เพียงแต่ให้เราจับตาว่า "มัน" กระทำต่อประเทศชาติ ประชาชน ประชาธิปไตยอย่างไร
เหตุการณ์เหล่านี้ เป็นเหตุการณ์อุทาหรณ์ของเหล่า สาวกนายสนธิว่า เสพสิ่งปฏิกูลมากไป ทำให้แยกแยะ ดีชั่วผิดถูก เหมาะสม ไม่เหมาะสมไม่ได้เลย...
ผมอยากขอร้องคนที่นิยมชมชอบนายสนธิซักนิดว่า ฟังแล้วหากเห็นด้วยกับนายกสนธิ ก่อนจะปักใจเชื่อขอให้ตรวจสอบข้อมูลด้วยตัวเองเป็นเบื้องต้นก่อน เขามาอ่าน มาตั้งกระทู้ถามในนี้ก็ได้ ผมจะหาข้อมูลมาช่วยตอบดีๆ
ขอขอบคุณ คุณธาตุน้ำที่ช่วยเห็นข้อสงสัยมาตั้งกระทู้ถามด้วยความเป็นห่วงบ้านเมือง เพราะผมเองไม่ได้เข้าไปอ่านเว็บ ขยะอย่างนั้นบ่อยเท่าไหร่
แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 49 07:54:19
จากคุณ :
My_Wisdom 
- [
18 ก.ค. 49 07:51:43
]
ตอบนายสนธิ ลิ้มทองกุล เรื่อง"หนังสือจาบจ้วงเบื้องสูง"ที่เขียนโดยนักข่าวฟาร์อีสเทรินเอคนอมิกรีวิวว่ารัฐบาลเพิกเฉยหรือไม่
โหวตให้เจ้าของกระทู้ค่ะ
โหวตค่ะ