วันแรกที่คุณจรัล ภักดีธนากุล ออกมาแถลงข่าวตำหนิกกต.ไม่เที่ยงธรรมทำหน้าที่เข้าข้างพรรคไทยรักไทย และแสดงออกในนามเลขาของ 3 ศาล ก็เป็นที่ฮือฮากันทั้งฝ่ายชังและฝ่ายเชียร์คุณทักษิณ จึงเริ่มมีชมและด่าครั้งมโหฬาร
วันนั้น ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทยก็ได้ที่คนเริ่มวิพากย์วิจารณ์ศาลกันจำนวนมาก และรุนแรง ถึงความยุติธรรมของศาล ความเอนเอียงเข้าข้างใดข้างหนึ่งของเหล่าตุลาการไทย
แต่เมื่อนานเข้า สังคมก็เริ่มชินกับการวิจารณ์ศาล หรือศาลก็ชินกับคำวิจารณ์ ถือว่าไม่ได้วิจารณ์คำพิพากษา แต่วิจารณ์ความคิดเห็นของคนที่เป็นตุลาการ ต่างหาก...
ชื่อของคุณจรัญ ดังขึ้นมาทันที ตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้ ซึ่งต่อมามีการเปิดเผยข้อมูลว่า แท้ที่จริงแล้ว คุณจรัลสนิทสนมกับพรรคประชาธิปัตย์....
แต่ก็ยังมิได้มีข้อสรุปชัดเจนว่า การสนิทสนมกับพรรคประชาธิปัตย์จะทำให้การตัดสินลดความน่าเชื่อถือลงไป หรือไม่เที่ยงธรรมอย่างไร เพราะคนระดับคุณจรัล มีวุฒิภาวะสูงย่อมแยกแยะผิดถูก ชั่วดีได้
แต่เมื่อคุณจรัลออกมาพูดล่าสุดนี้ ความอึมครึม ไม่ชัดเจนทั้งปวงก็หายไปสำหรับคนที่ยังคลางแคลงอยู่ว่าคุณจรัลเป็นฝ่ายไหนกันแน่ !!!
ครับ ไม่ผิดสำหรับคุณจรัลที่จะยืนอยู่อีกฝากหนึ่ง เพราะผมเชื่อว่าคุณจรัลก็รักชาติ รักในหลวง รักความสงบสันติเหมือนคนทั่วๆไป
แต่เมื่อท่านสวมหมวกตุลาการ ทำหน้าที่ชี้ผิด ชี้ถูกให้ชาวบ้านท่านก็ไม่ควรแสดงจุดยืนในใจของท่านออกมาให้คนอื่นรับรู้มากเกินไป ควรนิ่งและสงบ เพื่อให้ทั้ง 2 ฝ่ายยอมรับคำตัดสิน
แต่เมื่อท่านกระโจนออกมาข้างนอก บอกว่าใครผิดใครถูกนอกศาลแล้ว ก็ไม่มีทางเสียละ...ที่อีกฝ่ายหนึ่งจะก้มหัวยอมรับโดยง่าย
เห็นได้ชัดเจนว่า วันนี้อาจเป็นคดีประวัติศาสตร์ชาติไทยก็ได้ที่มีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษตุลาการต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ....มันน่าตลก หรือมันน่าสลดใจ
เพราะใครหรือ...
ศาสนาไม่เสื่อม แต่พุทธบริษัทนั่นแหละเสื่อม
องค์กรศาลไม่เสื่อม แต่คนในองค์กรนั่นแหละเสื่อม !!!
จากคุณ :
ปลายอ้อกอแขม
- [
19 ก.ค. 49 17:52:28
]