เห็นด้วย (10 คน)
	ไม่เห็นด้วย (1 คน)
	ยังไงก็ได้ no comment (0 คน)
	จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 11 คน

	90.91%
	9.09%
	0.00%

สืบเนื่องจากที่สำนักงานประกันสังคมได้ลงนามร่วมมือกับภาคเอกชนและสถาบันการเงิน เพื่อจัดโครงการสวัสดิการเพื่อผู้ประกันตน จำนวน 4 โครงการ ดังนี้
 1. โครงการลดภาระผู้ประกันตนด้านอุปโภคและบริโภค
 2. โครงการติดตั้งอุปกรณ์ NGV เพื่อผู้ประกันตน
 3. โครงการจักรยานยนต์ราคาพิเศษเพื่อผู้ประกันตน
 4. โครงการเครื่องใช้ไฟฟ้าราคาประหยัดเพื่อผู้ประกันตน
 
   1. โครงการแรก เบื้องต้นร่วมมือกับแม็คโคร บิ๊กซี เซ็นทรัล ฟู้ดรีเทล ดาร์ฟู และโลตัส โดยเมื่อแสดงบัตรประกันสังคมในการซื้อสินค้า(ที่ร่วมในโครงการ) จะได้ส่วนลด 3-40%     มีวัตถุประสงค์ในการลดภาระค่าใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิต  โดยจัดสินค้าราคาพิเศษที่จำเป็นในการครองชีพแก่ผู้ประกันตน  10 รายการ ได้แก่  (1)  ข้าวสาร  (2)  น้ำตาล  (3) น้ำปลา  (4)  น้ำมันพืช  (5) ไข่ไก่  (6) บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป  (7) ปลากระป๋อง       (8)  สบู่/ผงซักฟอก  (9)  แปรงสีฟัน/ยาสีฟัน  (10) นม
  2. โครงการ NGV ร่วมมือกับ บ. พี-เอนเนอยี่ จก. โดยลดค่าใช้จ่ายให้ผู้ประกันตน 20,000 คนแรกที่สนใจ โดยให้ส่วนลด 10,000 บาท เป็นการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงสำหรับยานยนต์  เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศ   ลดปริมาณมลพิษจากไอเสียรถยนต์  และลดภาระค่าน้ำมันเชื้อเพลิงของผู้ประกันตน  โดย ร่วมมือกับผู้ผลิตอุปกรณ์ NGV และธนาคารพาณิชย์ ในการจัดหาสินค้า/บริการและให้สินเชื่อเงินกู้ ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ
3. โครงการมอเตอร์ไซต์ ร่วมกับเกือบทุกยี่ห้อในตลาด โดยลดราคา10-20% จำนวน 100,000 คัน เพื่อส่งเสริมการประหยัดพลังงานด้วยการใช้พาหนะขนาดเล็กในการเดินทาง รวมทั้งเพื่อช่วยเหลือผู้ประกันตนที่มีรายได้น้อยให้มีโอกาสซื้อรถจักรยานยนต์คุณภาพดีราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป
4. โครงการเครื่องใช้ไฟฟ้าฯ เบื้องต้นร่วมมือกับ บ. LG โดยลดราคาเครื่องใช้ไฟฟ้า 10-20% จัดขึ้นเพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้ประกันตน ในการซื้อสินค้าเพื่ออำนวยความสะดวกในการดำรงชีพ  โดยให้สิทธิในการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าราคาพิเศษ  ได้แก่     หม้อหุงข้าวไฟฟ้า  ตู้เย็น  เครื่องรับโทรทัศน์  เครื่องซักผ้า และเครื่องอำนวยความสะดวกที่จำเป็นอื่นๆ
สำหรับการร่วมมือกับสถาบันการเงิน จะเป็นในรูปของการที่สถาบันการเงินจะเป็นผู้ให้สินเชื่อกับผู้ประกันตน ในกรณีซื้อสินค้าเงินผ่อน ซึ่งสถาบันการเงินจะเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณาอนุมัติวงเงินสินเชื่อเองทั้งหมด
    "โครงการทั้งหมดที่กล่าวมา มิได้ใช้เงินกองทุนประกันสังคมไปดำเนินการเป็นกรณีพิเศษแต่อย่างใด   รวมทั้งภาคเอกชนและสถาบันการเงินที่ร่วมโครงการ ไม่ได้เรียกร้องค่าใช้จ่ายใดๆจากสำนักงานประกันสังคมด้วย แต่เป็นโครงการที่สำนักงานประกันสังคมจัดขึ้นเพื่อบรรเทาภาระและช่วยเหลือผู้ประกันตนในภาวะเศรษฐกิจไม่ดี น้ำมันมีราคาสูงซึ่งส่งผลให้สินค้าอุปโภค บริโภคมีราคาสูงตามไปด้วย"
    ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่20 กค 49 และเอกสารชี้แจงโครงการสวัสดิการผู้ประกันตนจากสปส.

    ท่านมีความเห็นอย่างไรกับโครงการที่สปส จัดทำขึ้นครั้งนี้ครับ เห็นด้วย หรือ ไม่เห็นด้วย
     โดยส่วนตัวแล้ว ผมเห็นด้วยกับโครงการนี้มาก ดีกว่าการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำอีก เพราะแต่ละโครงการเป็นเรื่องพื้นฐานในชีวิตอยู่แล้ว และที่สำคัญการดำเนินโครงการนี้ก็มิได้มากระทบเงินของกองทุนประกันสังคมเลย มีนักวิชาการบางท่านกล่าวว่า การจูงใจโดยการลดราคาสินค้านี้ อาจทำให้ผู้ประกันตนตัดสินใจซื้อง่าย แล้วก่อให้เกิดสภาพความเป็นหนี้ และย่อมกระทบกับความมั่นคงของวิถีชีวิต ผมว่าเป็นเรื่องวินัยในการใช้จ่ายส่วนบุคคลมากกว่า คือที่ผมมอง ผมมองเชิงภาพรวม อย่างไรก็ดีเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว ก็ควรกำหนดกฏเกณฑ์ขึ้นมาอีกบ้างในการควบคุมการใช้สิทธิซื้อสินค้า โดยเฉพาะพวกรถและเครื่องใช้ไฟฟ้า อย่างไรก็ดีตรงนี้ สถาบันการเงินก็จะคุมอยู่ชั้นหนึ่งเพราะจะอย่างไรเค้าคงไม่คิดให้เกิดNPL ในสถาบันของเค้า และในระบบการเงินเพิ่มขึ้นแน่นอน (ขั้นตอนอนุมัติสินเชื่อเป็นอำนาจของสถาบันการเงินทั้งหมด) อย่างไรก็ดีถ้ามีการกำหนดเพิ่มเติม เช่น ต้องมีรายได้คงเหลือสุทธิเท่าใด มีระยะเวลาทำงานมาแล้วกี่ปี จึงจะให้สินเชื่อ หรือหากมีภาระการผ่อนชำระสินค้าตามโครงการอยู่ หากยังไม่ชำระเสร็จสิ้น ก็ไม่ให้สินเชื่อหรือสิทธิในการซื้อรถหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นต่อไป เป็นต้น
     แล้วท่านทั้งหลายมีความเห้นยังไงบ้างครับ...........
  โครงการนี้จะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ส.ค. 49 นี้นะครับ