เวียดนามขยายที่นาอีก 6 ล้านไร่ปลูกข้าวส่งออก
กรุงเทพฯ- ทางการเวียดนามกำลังขยายพื้นที่นาทั้งในภาคเหนือและภาคใต้ เพื่อให้มีหลักประกันว่าจะมีข้าวพอส่งออกป้อนตลาดโลกปีละ 4 ล้านตันเป็นอย่างต่ำ กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท (MARD) กล่าวว่าแม้พื้นที่นาจะลดลงในหลายปีที่ผ่านมา แต่เทคโนโลยีก็ช่วยให้สามารถผลิตข้าวได้มากกว่าเดิม และ ข้าวก็มีคุณภาพดีกว่าเมื่อ 10 ปีก่อนหน้านี้ ขณะที่ตลาดโลกมีความต้องการสูงมากขึ้นทุกปี
เมื่อปีที่แล้วเวียดนามส่งออกข้าวคุณภาพต่างๆ ถึง 5.2 ล้านตัน ซึ่งเกินความคาดหมาย แต่กระทรวงเกษตร ตั้งเป้าหมายส่งออกเพียงปีละ 4 ล้านตันเท่านั้น ตลอด 4 ปีข้างหน้า เพื่อให้มีหลักประกันที่มั่นคงว่าจะมีข้าวเพียงพอใช้บริโภคภายในประเทศที่มี ประชากรกว่า 80 ล้านคน
กระทรวงเกษตรฯ ได้ปรับแผนยุทธศาสตร์ในการผลิตข้าวจนกระทั่งถึงปี 2550 ด้วยการเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกข้าวอีกกว่า 6.25 ล้านไร่ในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขงทางภาคใต้ กับอีกกว่า 1.8 ล้านไร่ในเขตที่ราบปากแม่น้ำแดงทางภาคเหนือ โดยมีเป้าหมายผลิตข้าวให้ได้ 36 ล้านตันต่อปี
ข้าวที่ส่งออกจำหน่ายต่างประเทศกว่า 90% ไปจากพื้นที่นาในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวหลัก ท้องถิ่นดังกล่าวผลิตข้าวได้มากกว่า 50% ของจำนวนข้าวที่ปลูกทั่วประเทศ ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์เวียดนามนิวส์
กระทรวงนี้กล่าวว่ารัฐบาลได้ลงทุนเม็ดเงินเป็นจำนวนมาก ในการปรับปรุงเทคโนโลยีการชลประทานและการผลิต เพื่อให้ชาวนาสามารถเพิ่มผลผลิตได้ นอกจากนั้นยังใช้เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว เพื่อเก็บรักษาข้าวเปลือกให้คงคุณภาพไว้อย่างเหมาะสม
การทำนาในเวียดนามยังต้องพึ่งพาขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ นอกจากนั้นความเสียหายที่เกิดจากศัตรูพืช รวมทั้งราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ล้วนแล้วส่งผลกระทบต่อผลผลิตในปี 2549 ทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าพื้นที่นาจะลดลงเรื่อยๆ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้ แต่เวียดนามก็ยังสามารถผลิตข้าวได้เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยปีละ 700,000 ตัน จากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางการเกษตรที่เหมาะสม และหากสภาพภูมิอากาศในปี 2549 ยังเป็นไปตามฤดูกาลปกติคาดว่าจะสามารถเก็บเกี่ยวข้าวได้ถึง 38-39 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 15.2-18.2% เมื่อเทียบกับผลผลิตในปี 2548
ปัญหาสำคัญที่บริษัทผู้ส่งออกข้าวเผชิญก่อนหน้านี้คือ คุณภาพของผลผลิตที่ไม่แน่นอน แต่การใช้เทคโนโลยีระดับสูงได้ทำให้ข้าวที่ผลิตได้มีคุณภาพดีขึ้นในช่วง 3 ปีหลังนี้ เมื่อ10 ปีก่อนหน้านั้น "เป็นเรื่องยากมากที่จะหาข้าวเปลือกที่ผลิตข้าวหักได้ 5-10% แต่ในปัจจุบัน กลับเป็นเรื่องยากที่จะหาข้าวเปลือกที่ผลิตข้าวคุณภาพต่ำ เป็นข้าวหัก 23-35%"
อย่างไรก็ตามข้าวหอมที่ถูกมองว่าเป็นข้าวชนิดพิเศษที่ส่งออกไปนั้น ยังคงมีน้อย เนื่องจากเวียดนามยังไม่สามารถปลูกข้าวชนิดนี้ได้ทั่วไป ทำให้ข้าวเวียดนามยังถูกเปรียบเทียบว่ามีคุณภาพที่ต่ำกว่าในตลาดโลก เวียดนามนิวส์กล่าว
ตัวเลขของกระทรวงการค้าระบุว่าในช่วง 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.) ของปี 2549 มีการส่งออกข้าวไปแล้ว 2.6 ล้านตัน ทำรายได้กว่า 794 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือน พ.ค. เพียงเดือนเดียว สามารถส่งออกได้ 580,000 ตัน ทำรายได้เข้าสู่ประเทศ 158 ล้านดอลลาร์
ถึงแม้ปริมาณส่งออกจะเพิ่มขึ้นถึง 3.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2548 ราคาขายกลับลดลงเฉลี่ยที่ 2-5% เป็นผลให้รายได้จากการส่งออกเพิ่มขึ้นเพียง 1.5% เท่านั้น
นับตั้งแต่เดือน พ.ค. เป็นต้นมา ความต้องการข้าวในตลาดโลกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศฟิลิปปินส์ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ราคาข้าวได้ปรับตัวสูงขึ้นเกือบ 20% เมื่อเทียบกับในเดือน มี.ค. และเม.ย. ในปัจจุบันราคาข้าวขาวหัก 5% อยู่ที่ 260-270 ดอลลาร์ต่อตัน ในขณะที่ข้าวขาวหัก 25% ราคาขายอยู่ที่ 250-255 ดอลลาร์ต่อตัน
ในครึ่งปีแรกของปี 2549 นี้ ฟิลิปปินส์ เป็นประเทศที่เวียดนามส่งออกข้าวไปเป็นจำนวนมากที่สุดถึง 38% ของจำนวนข้าวที่ส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 12% มาเลเซียเป็นอันดับ 2 คิดเป็น 9% ของจำนวนส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้น 25% เทียบกับปีที่ผ่านมา และคิวบาอยู่ในอันดับที่ 3 นำเข้าทั้งสิ้น 8% ของข้าวที่ส่งออกทั้งหมด.
อ้างอิง http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9490000093654
รูปประกอบ http://pics.manager.co.th/Images/549000010964501.JPEG
ดีไหมๆ ดีไหม...
"ไทยถูกชกลงไปนอนนับสิบ... (อเมริโกย)"
"ถอยหลังลงเหว"
จากคุณ :
BATMAN BEGIN 
- [
21 ก.ค. 49 20:39:36
]
มีข่าวดีมาบอก - เวียดนามกำลังจะเป็นมหาอำนาจผูกขาดการส่งออกข้าวในเร็วๆ นี้
