ใช่ (19 คน)
	ไม่ใช่ (0 คน)
	จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 19 คน

	100.00%
	0.00%

กลุ่มบุคคลผู้ที่มีหน้าที่สรรหาคณะกรรมการเลือกตั้ง ที่กฏหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยกำหนดไว้ให้สรรหาคณะกรรมการการเลือกตั้ง    
นั้นทราบในเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน 2540 นี้หรือไม่ ?

การได้มาของก.ก.ต. ที่จะต้องเสนอชื่อให้วุฒิสภารักษาการเลือกนั้น   มาจากการสรรหาโดยคณะบุคคลเพียงฝ่ายเดียวนั้น ถือว่าผิดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  

ใช่/ไม่ใช่

-เพียงแค่มาตรา 138 (1) ในยามที่มีพรรคการเมืองที่มีส.ส. ก็เถียงกันแทบเป็นแทบตายเพื่อแย่งชิงความได้เปรียบทางการเมือง

แต่แมทช์นี้ ที่ประชุมข้าราชการตุลาการที่มีหน้าที่ประจำอยู่ในศาลฏีกา จะพากันเหมาเลือกแต่เพียงฝ่ายเดียวยกชุด ทั้ง ๆที่สามารถ เลือกเพิ่มเข้ามาได้เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารณ์ของรัฐธรรมนูญ แต่พวกเขากลับไม่ทำ  

ในการเลือกคณะกรรมการกาเลือกตั้งเองทั้งหมด 10 คนส่งต่อให้ส.ว.นั้น คัดเลือกเหลือ 5 นั้นนับว่าสุ่มเสี่ยง และเป็นการทำผิดต่อเจตนารณ์ของกฏหมายรัฐธรรมนูญ  ท่านรู้ตัวเองกันหรือไม่ !?

นี่คือคำถามจากมหาชน คนมีความคิด ???


คำว่า "เจตนารมณ์" พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ได้ให้ความหมายไว้ว่า "น. ความมุ่งหมาย."
______________________________________________

:: รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
  :: หมวด6 รัฐสภา
      :: ส่วนที่4 คณะกรรมการการเลือกตั้ง

มาตรา 138 การสรรหาและการเลือกประธานกรรมการและกรรมการ การเลือกตั้ง ให้ดำเนินการ ดังนี้
(1) ให้มีคณะกรรมการสรรหากรรมการการเลือกตั้งจำนวนสิบคน ซึ่งประกอบด้วยประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุด อธิการบดีของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐที่เป็นนิติบุคคลทุกแห่งซึ่งเลือก กันเองให้เหลือสี่คน ผู้แทนพรรคการเมืองทุกพรรคที่มีสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรพรรคละหนึ่งคน ซึ่งเลือกกันเองให้เหลือสี่คน ทำหน้าที่ พิจารณาสรรหาผู้มีคุณสมบัติตาม มาตรา 137 ซึ่งสมควรเป็นกรรมการ การเลือกตั้ง จำนวนห้าคน เสนอต่อประธานวุฒิสภา โดยต้องเสนอ พร้อมความยินยอมของผู้ได้รับการเสนอชื่อนั้น มติในการเสนอชื่อ ดังกล่าวต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนกรรมการ สรรหาทั้งหมดเท่าที่มีอยู่

-แค่อนุมาตรานี้ในยามปรกติก็เถียงกันแทบเป็นแทบตายเพื่อแย่งชิงความได้เปรียบทางการเมืองแล้ว
(2) ให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิจารณาสรรหาผู้สมควรเป็นกรรมการ การเลือกตั้งจำนวนห้าคนเสนอต่อประธานวุฒิสภา โดยต้องเสนอพร้อม ความยินยอมของผู้ได้รับการเสนอชื่อนั้น
(3) การเสนอชื่อตาม (1) และ (2) ให้กระทำภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่มีเหตุที่ทำให้ต้องมีการเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว ในกรณีที่คณะกรรมการสรรหาตาม (1) ไม่ อาจเสนอชื่อได้ภายใน เวลาที่กำหนด หรือไม่อาจเสนอชื่อได้ครบจำนวนภายในเวลาที่กำหนด ให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิจารณาเสนอชื่อแทนจนครบจำนวนภายใน สิบห้าวันนับแต่วันที่ครบกำหนดต้องเสนอชื่อตาม (1)
(4) ให้ประธานวุฒิสภาเรียกประชุมวุฒิสภาเพื่อมีมติเลือกผู้ได้ รับการเสนอชื่อตาม (1) (2) และ (3) ซึ่งต้องกระทำโดยวิธีลงคะแนน ลับ ในการนี้ ให้ห้าคนแรกซึ่งได้รับคะแนนสูงสุดและมีคะแนนมากว่า กึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภาเป็นผู้ได้รับ เลือกเป็นกรรมการการเลือกตั้งแต่ถ้าจำนวนผู้ได้รับเลือกตั้งดังกล่าว มีไม่ครบห้าคนให้นำรายชื่อผู้ไม่ได้รับเลือกในคราวแรกนั้นมาให้ สมาชิกวุฒิสภาออกเสียงลงคะแนนเลือกอีกครั้งหนึ่งต่อเนื่องกันไป และ ในกรณีนี้ ให้ถือว่าผู้ได้รับคะแนนเสียงสูงสุดเรียงลงไปตามลำดับจน ครบห้าคน เป็นผู้ได้รับเลือกให้เป็นกรรมการการเลือกตั้งในครั้งนี้ ถ้ามีผู้ได้คะแนนเสียงเท่ากันในลำดับใดอันเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับเลือก เกินห้าคน ให้ประธานวุฒิสภาจับสลากว่าผู้ใดเป็นผู้ได้รับเลือก
(5) ให้ผู้ได้รับเลือกตาม (4) ประชุมและเลือกกันเองให้คนหนึ่ง เป็นประธานกรรมการการเลือกตั้ง และแจ้งผลให้ประธานวุฒิสภา ทราบ และให้ประธานวุฒิสภานำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงแต่งตั้ง ต่อไป