CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    "กับดัก"เลือกตั้ง 15 ต.ค. แผนโค่น"ทักษิณ-ยุบทรท."

    บทความชิ้นนี้วิเคราะห์ได้น่าสนใจดีค่ะเลยนำมาให้ได้อ่านกัน ท่านนายกฯและแกนนำพรรคไม่ควรประมาทและมองข้ามอย่างยิ่ง
    ____________________________
    ทันทีที่มีประกาศพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งวันที่ 15 ตุลาคม ออกมา บรรดาแกนนำและอดีต ส.ส.ของพรรคไทยรักไทยต่างดีใจกันถ้วนหน้า

    เพราะคิดว่าปัญหาอุปสรรคต่างๆ ที่ถาโถมใส่ตัวหัวหน้าพรรค คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพรรค ได้คลี่คลาย เริ่มเห็นแสงสว่างทางออกกันบ้างแล้ว

    แต่คล้อยหลังเพียงไม่กี่วัน คำตัดสินของศาลอาญาที่ให้จำคุกอดีต กกต.ทั้ง 3 คนเป็นเวลา 4 ปี และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในวันที่ 25 กรกฎาคมนั้น

    ทำให้แกนนำและอดีต ส.ส.ของพรรคไทยรักไทยต่างหนาวๆ ร้อนๆ ไปตามๆ กัน เพราะทุกคนไม่คิดว่า 3 กกต.จะถูกลงโทษทัณฑ์รุนแรงขนาดนี้!!!

    แม้แต่ พ.ต.ท.ทักษิณเองยังยอมรับว่าของขวัญก่อนวันคล้ายวันเกิดอายุ 57 ปี ชิ้นนี้ "เหนือความคาดหมาย"!!!

    นั่นก็หมายความว่า นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทุกย่างก้าวของพรรคไทยรักไทยจะต้องระมัดระวังอย่างเต็มที่ ซึ่งทำให้ระดับแกนนำด้านกฎหมายและการเมืองเริ่มวิเคราะห์กันว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ยังมีเรื่องอะไรที่ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ แกนนำพรรค หรือพรรค จะต้องเผชิญบ้าง

    โดยมีการทำตารางไล่เรียงและคาดการณ์เหตุการณ์ในแต่ละช่วงออกมา

    พร้อมกันนี้ก็ได้สั่งกำชับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทุกเขตให้เตรียมแกนนำประชาชนไว้เขตละ 3,000 คน ซึ่งนอกจากจะใช้เป็นหัวคะแนนในพื้นที่เลือกตั้งแล้ว ยังเตรียมการณ์ไว้ในกรณีที่เกิดเหตุ "ไม่คาดฝัน" ขึ้นกับตัวหัวหน้าพรรคและพรรค

    โดยได้มีการกำชับว่า คนเหล่านี้ต้องสามารถระดมมาได้ทันทีที่ต้องการ หากว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศ 400 เขต สามารถเตรียมคนได้ตามแผน ทางพรรคก็จะมีพลังมวลชนที่สามารถระดมได้ทันที 1.2 ล้านคน!!!

    อุปสรรคด่านแรกที่แกนนำพรรคค่อนข้างกังวล คือกรณีที่นายวิลเลียม ไลล์ มอนซัน นักธุรกิจชาวอเมริกัน ที่เคยร่วมทำธุรกิจเคเบิลทีวี "ไอบีซี" กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ คุณหญิงพจมาน และพวก ในคดีอาญาโทษฐานฟ้องเท็จและให้การเป็นเท็จต่อศาล

    โดยเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2538 พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ได้ฟ้องคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายจากนายวิลเลียมในข้อหายักยอกทรัพย์ ซึ่งต่อมาทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาให้ยกฟ้อง จึงทำให้นายวิลเลียมฟ้องกลับ

    ซึ่งคดีอาญาที่นายวิลเลียมฟ้องนั้น ทางทนายของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ได้ร้องต่อศาลว่าควรพิจารณาคดีแพ่งให้ถึงที่สุด คือชั้นศาลฎีกาเสียก่อน แล้วจึงค่อยไต่สวนคดีอาญา

    เรื่องนี้นิ่งเงียบมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา จนนายวิลเลียมเองก็ถอดใจ เพราะคู่ต่อสู้เป็นถึงนายกรัฐมนตรี มีอำนาจมากมาย แต่จู่ๆ ก็มีผู้ให้การสนับสนุนนายวิลเลียมให้ออกมาสู้และทางศาลไม่รับคำร้องของทนาย พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเห็นว่าคดีอาญาที่นายวิลเลียมฟ้องนั้นควรมีการเร่งพิจารณาทันที!!!

    ทางศาลได้มีคำสั่งรับคดีไว้ไต่สวนมูลฟ้อง โดยจะเร่งพิจารณา 5 นัดรวด แล้วตัดสินทันที คือจะไต่สวนในวันที่ 18 และ 25 กันยายน วันที่ 2, 9 และตัดสินในวันที่ 16 ตุลาคม

    หลังวันเลือกตั้งในวันที่ 15 ตุลาคม เพียงวันเดียว!!!

    คดีนี้ทางฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณค่อนข้างประมาท เนื่องจากเห็นว่าฝ่ายตัวเองเป็นถึงนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ ที่ผ่านมาแม้จะแพ้คดีแพ่งในศาลชั้นต้นและศาลชั้นอุทธรณ์ จนโดนนายวิลเลียมฟ้องคดีอาญากลับ แต่ก็นิ่งนอนใจไม่ได้ทำการประนีประนอมไว้

    มาตอนนี้เมื่อเห็นกรณีที่ศาลพิจารณาคดีของ กกต.ทั้ง 3 คน ก็ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณและคนใกล้ชิดเครียดไปตามๆ กัน

    เพราะโทษสูงสุดในคดีนี้คือ "จำคุก 7 ปี"

    ด่านต่อมาคือ กรณีของ กกต.ชุดใหม่ ซึ่ง กกต.ชุดนี้จะมาจากการคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมโดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา จำนวน 10 คน เพื่อส่งให้วุฒิสภาตรวจประวัติและเลือกให้เหลือ 5 คน เพื่อนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ

    เนื่องจาก กกต.ชุดใหม่ได้รับคัดเลือกในเบื้องต้นจากศาล ทั้งยังทำงานภายใต้แรงกดดันในการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมตามพระราชดำรัสแนบท้ายร่าง พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ทั้งสังคมและประชาชนต่างคาดหวัง

    กกต.ชุดนี้รับรองได้ว่าจะตรงยิ่งกว่าไม้บรรทัด

    ดังนั้น พรรคไทยรักไทยที่ตกเป็นเป้าย่อมโดนสอดส่องตรวจสอบเป็นพิเศษ

    ลำพังเจอแค่ฝ่ายตุลาการก็ย่ำแย่อยู่แล้ว ยังต้องมาเจอกับ กกต.ชุดใหม่อีก บรรดาแกนนำและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคจึงวิตกกังวลไปตามๆ กัน

    เพราะตั้งแต่การลงพื้นที่หาเสียง การปราศรัยต่างๆ ถ้าถูกคู่แข่งร้องขึ้นมา มีหวังอดเป็น ส.ส.

    โดยเฉพาะตัว พ.ต.ท.ทักษิณเอง ที่ชอบขึ้นเวทีกล่าวท้าทายฝ่ายต่างๆ แถมสัญญาว่าจะให้โครงการนั้นโครงการนี้เป็นประจำ

    รถไฟฟ้าบ้างล่ะ ถนนหนทางบ้างล่ะ เงินกองทุนบ้างล่ะ คราวนี้ต้องระวัง "ปาก" ให้ดี

    ที่สำคัญอย่าเผลอไปสงสารเห็นใจเด็กนักเรียนหรือชาวบ้านควักใบละพันแจกหน้าเวทีปราศรัย ถ้าพลาดทำขึ้นมาอาจโดนสอยก่อนเลือกตั้ง เพราะคนร้องต้องมีอยู่แล้ว และคราวนี้ไม่มีใครคอยช่วย ดังนั้น จะทำอะไรต้องระวังทุกฝีก้าว

    แต่ถึงจะเตรียมซักซ้อมป้องกันอย่างไร บรรดาทีมการเมืองและทีมกฎหมายของพรรคไทยรักไทยก็ยังกลัวพลาด

    นี่กระมังจึงได้มีการสั่งให้ผู้สมัคร ส.ส.ทุกเขตเตรียมหัวคะแนน เตรียมมวลชนเอาไว้ล่วงหน้าในกรณีฉุกเฉิน

    ด่านสุดท้าย ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นก่อนหรือหลังการเลือกตั้ง คือการที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาคดียุบพรรคการเมือง

    ซึ่งอ่านตามเกมแล้ว การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก็ต้องนำคำตัดสินของศาลอาญาที่ระบุว่า อดีต กกต.จัดการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม มิใช่เป็นการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เป็นการประพฤติมิชอบในการปฏิบัติหน้าที่ ช่วยเหลือผู้สมัครพรรคไทยรักไทยให้มีคู่แข่งในการเลือกตั้ง อันเป็นการหลีกเลี่ยงกฎเกณฑ์ที่ต้องได้คะแนนเสียงไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของจำนวนผู้มีสิทธิในเขตเลือกตั้งนั้น ในกรณีที่เขตเลือกตั้งนั้นมีผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทยเพียงคนเดียว มาพิจารณาด้วย

    รวมถึงข้อมูลการสอบสวนของอนุ กกต. ชุดนายนาม ยิ้มแย้ม ได้ทำไว้

    ประเมินแล้วมีโอกาสสูงที่พรรคไทยรักไทยจะโดนยุบพรรค แต่เชื่อว่าการพิจารณาจะมีขึ้นหลังการเลือกตั้งเพื่อไม่ให้บรรดา ส.ส.ในพรรคไทยรักไทยต้องเดือดร้อนกันไปหมด

    เพราะถ้าตัดสินก่อนการเลือกตั้ง อดีต ส.ส. 300 กว่าชีวิต จะกลายเป็นคนตกงานทันที เพราะไม่สามารถลงสมัคร ส.ส.ได้

    แต่ถ้าตัดสินหลังการเลือกตั้ง โดยเฉพาะ 30 วัน ในช่วงของการรับรองผล ที่ยังไม่สามารถเปิดประชุมสภาเลือกนายกฯและตั้งรัฐบาลได้นั้น บรรดา ส.ส.ก็ไม่เดือดร้อนกันมาก เพราะยังสามารถไปหาพรรคการเมืองสังกัดได้ภายใน 60 วัน

    หลังการยุบพรรคจึงเป็นจุดชี้ขาดว่า กลุ่มของ พ.ต.ท.ทักษิณจะสามารถรักษาอำนาจต่อไปได้หรือไม่

    เพราะแน่นอนว่า ด้วยฐานเสียงและความนิยมที่มีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคไทยรักไทย ในภาคเหนือและภาคอีสาน น่าจะทำให้พรรคไทยรักไทยชนะการเลือกตั้งได้ ส.ส.มากที่สุด

    ซึ่งจำนวน ส.ส.ที่ได้หลังการเลือกตั้งครั้งหน้า อาจจะน้อยกว่าทุกครั้งที่พรรคไทยรักไทยเคยได้ แต่ก็เชื่อว่ายังชนะพรรคประชาธิปัตย์และพรรคชาติไทย รวมถึงพรรคการเมืองอื่นๆ

    แต่ในช่วงของการรับรอง ส.ส.หากมีการตัดสินยุบพรรคในช่วงนั้น เชื่อว่าจะเกิดเกมการดึงกลุ่ม ส.ส.ต่างๆ เพื่อชิงจัดตั้งรัฐบาลให้ได้

    เกมนี้บรรดาขุนพลขุนศึกแกนนำกลุ่มต่างๆ ที่ช่ำชองการเมืองมานานก็ต้องต่อรองกันอย่างเต็มที่

    ถึงวันนั้น พ.ต.ท.ทักษิณยังมีบารมีอยู่แค่ไหน เพียงพอที่จะจับกลุ่มคนเหล่านี้ไปรวมไว้ ณ พรรค "นอมินี" ที่ตัวเองส่งคนไปจดทะเบียนไว้ได้หรือไม่???

    ที่สำคัญคือ กลุ่มพลังที่อยู่ตรงข้ามกับ พ.ต.ท.ทักษิณ จะอยู่เฉยรอให้ พ.ต.ท.ทักษิณทำอย่างนั้นหรือ

    การเลือกตั้งวันที่ 15 ตุลาคม ที่ทั้งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ และคนของพรรคไทยรักไทย ต่างคิดว่าเป็นทางออกเพื่อกลับไปสู่ความยิ่งใหญ่เช่นในอดีตเมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา จึงอาจจะเป็น "กับดัก"

    เป็น "กับดัก" ที่เตรียมไว้สำหรับโค่น พ.ต.ท.ทักษิณและพรรคไทยรักไทย!!!

    จากคุณ : เอื้องอัยราวัณ - [ 31 ก.ค. 49 08:08:29 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com