พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกท่านครับ...

หลังจากมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2549 แล้วและกำหนดวันเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน 2549 ที่ผ่านมา คนไทยทุกคนที่มีใจรักในประชาธิปไตยก็รอคอยวันเลือกตั้ง เพื่อที่จะตัดใจสินเลือกคนที่เขาไว้ใจไปทำหน้าที่ในการบริหารประเทศชาติ

พี่น้องครับ แต่เหตุการณ์ต่างๆ กลับไม่เป็นไปตามที่ประชาชนส่วนใหญ่หวังไว้  เนื่องจากมีพรรคการเมืองบางพรรคไม่ยอมส่งคนลงรับสมัครเลือกตั้ง และกลุ่มบุคคลต่างๆได้ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ผมลาออก และทำการปฏิรูปประชาธิปไตย ซึ่งผมเองก็มิได้ขัดข้องต่อข้อเสนอของกลุ่มบุคคลต่างๆแต่อย่างใด ผมได้เว้นวรรคไปชั่วขณะหนึ่ง แต่บุคคลบุคคลดังกล่าวก็ยังคงเรียกร้องต่อไปให้ผมพ้นไปจากการเมืองไทยให้ได้

พี่น้องครับ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษาเป็นโมฆะ ผมและพรรคไทยรักไทยก็น้อมรับคำตัดสินของศาล  แต่ก็ยังมีบางฝ่ายพยายามกล่าวหาว่าผมแทรกแซง กกต.ทั้งที่การทำงานของ กกต.เป็นไปโดยอิสระ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคไทยรักไทยแต่อย่างใด

พี่น้องครับ ผมมองว่าเหตุการณ์บ้านเมืองชักจะไปกันใหญ่ บางกลุ่มออกมาบอกให้ทหารปฏิวัติ บางกลุ่มจะขอนายกฯพระราชทาน บางกลุ่มบอกให้ยุบ กกต.ไปเลย ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย แต่พอผมพูดว่าให้เป็นไปตามกติกา ก็ออกมาตำหนิผมว่ายึดแต่กติกา ๆ วุ่นวายไปหมด ผมดูว่าถึงผมจะเว้นวรรคไป ก็คงไม่ทำให้เหตุการณ์ต่างๆสงบลงได้ ผมจึงตัดสินใจกลับมาทำงานอีกครั้ง เพราะช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาเฉลิมฉลองครองราชย์ครบ 60 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาแก้ไขเพิ่มเติมการเลือกตั้งกำหนดวันที่ 15 ตุลาคม 2549 เหตุการณ์น่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดี เพื่อที่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศจะได้กลับสู่ระบอบประชาธิปไตย พรรคการเมืองต่างๆ ก็เตรียมพร้อมส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้ง  ถึง กกต.ชุมเดิมจะพ้นสภาพไปเพราะคำพิพากษาของศาล ซึ่งก็เป็นเรืองที่ผู้เกี่ยวข้องตามรัฐธรรมนูญจะดำเนินการกันไปเพื่อสนองพระราชดำรัสของพระเจ้าอยู่หัว และเพื่อความสงบสุขของประเทศชาติ  เพราะบัดนี้ประเทศของเราสูญเสียโอกาสไปมากจากเหตุการณ์คลุมเครือในทางการเมือง ทำให้ต่างชาติไม่แน่ใจ จึงถอนการลงทุนไปหมด

พี่น้องที่สนับสนุนผมพรรคไทยรักไทยทุกท่านครับ  ผมทราบว่าท่านกังวลว่า หากได้ กกต.ชุดใหม่ขึ้นมาอาจจะทำให้พรรคไทยรักไทยตกที่นั่งลำบาก ..ผมขอบคุณและขอเรียนชี้แจ้งว่าพี่น้องอย่ากังวลเลยครับ ผมเชื่อมั่นในกระบวนการสรรหาของศาลฎีกา ที่ต้องสรรหาบุคคลที่เป็นกลาง เที่ยงธรรมเข้ามาทำงาน เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้กับทุกฝ่ายอยู่แล้ว ซึ่งผมไม่รู้สึกหนักใจในเรื่องนี้

และที่สำคัญที่สุด ผมเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ จริงใจที่ผมมีต่อประชาชน ประเทศชาติ ผมพร้อมที่จะทำงานเพื่อตอบแทนแผ่นดินเกิดของผมอย่างสุดกำลังเต็มความสามารถ ซึ่งผมก็ต้องทำหน้าที่ของผมที่ได้รับมอบหมายมาจากประชาชนให้ดีที่สุด ตลอดการทำหน้าที่ของผม.....พี่น้องครับ..เพราะฉะนั้น


สำ ห รั บ ผ ม...ใ ค ร ก็ ไ ด้ ที่ จ ะ ม า เ ป็ น ก ก ต.  ข อ บ คุ ณ ค รั บ !!!

แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 49 14:54:15