ตอนนี้หากใครมองให้ดี ทางการเมืองจะมีการเคลื่อนไหวกันอย่างคึกคัก ถึงแม้สองพรรคใหญ่กำลังอยู่ในการพิจารณายุบพรรคก็ตาม
ในช่วงการเลือกตั้งปี 2548 มีหลายเสียงโดยเฉพาะกลุ่มนักวิชาการกลุ่มขี้เบื่อ และสื่อมวลชนไร้สติบางคน เขาบอกว่า เขาอยากได้พรรคทางเลือกที่ 3 ก็เลยมีการตั้งพรรคมหาชนขึ้น โดยการชูเอา นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ขึ้นมาเป็นจุดขาย เพื่อหวังจะเอาเป็น candidate สู้กับทักษิณ
คนกลุ่มนี้ เบื่อทักษิณ อยากหาอะไรใหม่ ๆ มาชิมเล่น โดยไม่ได้สนใจประเทศชาติ และประชาชนหรอกครับ พอพูดขึ้นมา ก็บอกว่าตนเองนั้นเป็นผู้รอบรู้ เป็น top-notch ที่จะสามารถชี้นำสังคมได้ ซึ่งสังคมไทยบางกลุ่มบางพวก พอเห็นคนกลุ่มนี้ มียศฐา และมีชื่อเสียงก็จะพากัน "ซูฮก" โดยไม่ได้ใช้สติปัญญาของตัวเองพินิจพิจารณาถึงเหตุถึงผลอย่างรอบคอบ (ดูกรณี มาตรา 7 เป็นตัวอย่าง ใครก็ตามที่ทำให้ในหลวงทรงมีพระราชปรารภว่า ทรงเดือดร้อนมาก ก็ขอให้พิจารณาตรงนี้ด้วย)
ผมเห็นคนกลุ่มนี้ออกมาพูดบ่อย ๆ เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ให้มีมาตรานั้นมาตรานี้ ซึ่งเป็นการพูดแบบมั่ว ๆ บางคนก็บอกว่า รัฐธรรมนูญมันดีอยู่แล้ว แต่คนทำไม่ดี แต่พอถามว่า จะทำอย่างไรถึงจะให้มันดี เขาก็ตอบกันไม่ค่อยจะได้
ตอนนี้ก็เหมือนกัน เห็นมีพรรคการเมือง อย่างพรรคประชาราช ซึ่งเรียกว่ารวมเอากลุ่มคนอกหัก และเคียดแค้นทักษิณมาไว้ด้วยกัน หันไปดูฝ่ายประชาธิปัตย์ ตอนนี้ก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ตั้งหน้าตั้งตาชูอภิสิทธิ์ เป็นนายก ฯ อย่างเดียว โดยพยายามออกนโยบายเพื่อ "ลด-แลก-แจก-แถม"
ในขณะที่พรรคมหาชน เขารู้ตัวว่า เขาไม่มีทางได้เป็นแกนนำจัดรัฐบาลแน่นอน จึงหวังพึ่งสายสัมพันธ์ กับประชาธิปัตย์และพรรคประชาราช เพื่อจะดันให้ใครคนใดคนหนึ่งมาเป็นนายก ฯ ทีนี้ คนกลุ่มนี้เขาก็มองว่า อภิสิทธิ์ ไม่ได้รับความนิยมแน่นอน
เขาจะชูใครล่ะ ?
จะหันไปหาบรรหาร เขาก็ไม่เอา เพราะเขาไม่ชอบบรรหารมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว คนที่บอกว่า บรรหารจะเป็นตาอยู่นั้น ฝันหวานครับ ถ้าพรรคชาติไทยได้เป็นแกนนำจัดรัฐบาล คนกลุ่มนี้จะกลายเป็นฝ่ายค้านทันที และจะใช้วิธีเดิม ๆ ในการสกัดพรรคชาติไทยในการบริหารประเทศ ตรงนี้ ถามว่า คุณบรรหารรู้ไหม ผมตอบว่า น่าจะพอรู้ว่า ใครคือมิตร ใครถือดาบไว้ข้างหลัง
ล่าสุดเห็นว่า สนธิ บอกจะชูประชัย เลี่ยวไพรัตน์ เลขา ฯ พรรคประชาราช เป็นนายก ฯ นี่ก็ยิ่งไม่เข้าท่าใหญ่ แต่ก็ทำให้พอมองเห็นความคิดของสนธิว่า เขาไม่ชอบประชาธิปัตย์อยู่แล้ว แต่อาศัยประชาธิปัตย์มาเป็นเครื่องมือในการฆ่าทักษิณทางการเมืองเท่านั้น เพราะสายสัมพันธ์อันดี ระหว่างผู้จัดการของสนธิ กับ อดีตผู้บริหารทีพีไอ นั้น ค่อนข้างจะเรียกว่า อยู่หัวอกเดียวกัน
แล้วมันจะต่างจากทักษิณตรงไหนครับ
หากประชัย เข้ามาเล่นการเมือง คนกลุ่มวิชาการ + สื่อ ก็จะบอกว่า เข้ามาปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง และในที่สุด มันก็จะเข้าอีหรอบเดิม ๆ อีกครั้ง เขาเรียกว่าวัฏจักรการเมืองไทย นั่นคือการช่วงชิงอำนาจของกลุ่มต่าง ๆ
สิ่งสำคัญก็คือ คนกลุ่มนักวิชาการ + สื่อ จะต้องดูให้ออกว่า อะไรเป็นอะไร แยกแยะให้ออก ใช้สมองให้มาก ๆ สื่อก็อย่าทำตัวเป็นนักวิชาการ นักวิชาการก็อย่าโอเว่อร์ร้อนวิชาให้มาก เห็นว่า คุณสรยุทธ์เงินดี เดือนหนึ่งได้เงินหลายล้าน ก็อย่าริไปทำอย่างเขา เพราะคุณกับเขาไม่เหมือนกัน นายลม เปลี่ยนทิศ แห่งไทยรัฐก็เหมือนกัน ให้ดูนายซูม เป็นตัวอย่าง ถ้าอยากจะรู้เรื่องมากกว่านี้ ให้ไปอ่าน "โคลนติดล้อ" พระราชนิพนธ์ของล้นเกล้า ฯ ร. 6 ทรงพระราชนิพนธ์ไว้กว่า 90 ปีแล้ว ยังทันสมัยอยู่เลย ส่วนสื่อค่ายเนชั่น ผมขี้เกียจจะพูด เพราะบอกไปเขาก็จะหาว่าไปสอนเขา ส่วนค่ายผู้จัดการกับมติชนนั้น ผมไม่ขอพูดถึงก็แล้วกัน เพราะเสียเวลาพูดเปล่า ๆ
การโจมตีนโยบายประชานิยมของทักษิณ สื่อเขาก็บอกว่า ลด-แลก-แจก-แถม ผมเห็นการจับรางวัล 10 ล้านบาท ของไทยรัฐ มันต่างกันตรงไหนครับ นั่นก็ประชานิยมเหมือนกัน
เพราะอะไร?
เพราะสมัยนี้ คุณอยู่ในโลกแห่งทุนนิยม โบราณเขาบอกว่า "นกไม่เห็นฟ้า ปลาไม่เห็นน้ำ" ฉันใด หลายคนยังหลอกตัวเองว่า ไม่ได้สนใจเรื่องทุนนิยมฉันนั้น ซึ่งแสดงว่าไม่รู้จัก "ทุนนิยมแบบพอเพียง"
ยิ่งเห็นว่าคุณอภิสิทธิ์ไปลองไถนา ผมเห็นว่าไม่ต่างจากรายการไฮโซบ้านนอกที่เคยฉายทางทีวี มันคือการสร้างภาพดี ๆ นี่เอง ไม่ต่างจากรายการ Academy Fantasia ที่ให้เด็กออกไปฝึกเพื่อจะเป็นนักร้อง โดยมีผู้ฝึกสอนบอกว่า ให้ทำท่าอย่างนั้น หรือ อย่างนี้ ไม่ได้ต่างกันเลย (ต่างกันตรงที่ ผู้ที่ได้รับการโหวตมากที่สุด จะกลายเป็นนายกรัฐมนตรี)
เลือกตั้งแล้ว มันไม่จบหรอกครับ เพราะไม่ว่าใครจะเป็นนายก ฯ ก็ตาม จะมีเสียงเรียกให้แก้รัฐธรรมนูญ และให้รัฐบาลชุดนั้นยุบสภาโดยเร็ววัน
เด็ก ๆ รุ่นใหม่ ที่เข้ามาอ่านกระทู้ในราชดำเนิน ให้บันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ ไว้ให้ดี ทุก ๆ สิบปี เมืองไทยจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง ผมพูดในฐานะ "คนแก่แห่งราชดำเนิน" เพราะเห็นมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว
พวกนักข่าวที่จบใหม่ ๆ อายุ 20 กว่า ๆ ให้ดูไว้ แล้วอย่ารอแต่พวกแก่ ๆ ให้มาจูงไปทางเสื่อม และอย่าคิดว่า ตนจะเป็นสรยุทธ์ 2 บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับพวกคุณ ๆ ทั้งหลาย ว่าจะเลือกไปทางไหน ทางมีสติ หรือทางไร้สติ
การเมืองเป็นเรื่องของอำนาจล้วน ๆ ฉะนั้น วิธีดูให้ออกว่า ใครทำอะไรเพื่อบ้านเมือง เพื่อประชาชน ให้ดูที่การกระทำ อย่างการเลือกผู้แทน ฯ ผมเลือกตั้งมานับไม่ถ้วน เห็นผู้สมัคร ส.ส. ให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำอย่างนั้นจะทำอย่างนี้ แต่นั่นคือ "ลมปาก"
ลมปากที่พูดออกมาแล้วก็หายไปกับเวลา
เห็น ๆ กันอยู่ตอนนี้ ก็คือการช่วงชิงอำนาจอธิปไตยจากประชาชน โดยมีประชาชนเป็นหมาก และเป็นเดิมพันของเกมนี้
จากคุณ :
ขนมต้ม
- [
8 ส.ค. 49 15:17:34
]