CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    แนวคิดการกระจายความเจริญไปสู่ต่างจังหวัด กระทู้ต่อเนื่องจากเมื่อเช้า

    เมื่อเช้าผมได้ชวนคุยเรื่องการกระจายความเจริญสู่จังหวัดต่าง ๆ   และได้อ่านความเห็นของหลาย ๆ  ซึ่งมันได้ทำให้ความคิดของผมเข้าที่เข้าทางขึ้น   ดังนั้นผมจึงขอขอบพระคุณทุกท่านไว้  ณ  ที่นี้ด้วยใจจริง   ผู้น้องก็คงไม่มีอะไรจะตอบแทนไมตรีของพวกท่านได้มากไปกว่า  จิบสุราที่อยู่ในมือขณะนี้  คารวะทุกท่านด้วยใจ   ขณะนี้ถ้าใครถือเหล้าอยู่จะชนกับก็ได้นะครับ  (แต่อย่าแรง  เดี๊ยวแก้วแตก  และมันจะบาดปาก)

    ตรงนี้ผมเลยขอเพิ่มเติมส่วนของเมื่อเช้า   เพื่อแนวคิดนี้จะได้พอเป็นรูปธรรมมากขึ้น   ซึ่งในหลักความเป็นจริงก็น่าจะเป็นไปได้น้อย   แต่ดีกว่ามานั่งด่ากันเล่น ๆ แล้วไม่ได้อะไรกับไปเลย...  จริงไหม

    ตามกระทู้เมื่อเช้า  ผมได้เสนอ  “ระบบเอื้อ”  ไปหรือถ้าจะเรียกกันให้เชยเล่นก็คงต้องเรียกว่า  “บ่วงโซ่สัมพันธ์”  ตรงนี้ได้อ่านความเห็นของเพื่อนสมาชิกและสหายบางท่านแล้วก็พบว่า  มันมีปัญหาตรงผู้รับผิดชอบ

    ผู้ว่าซีอีโอ  ส.ส.  หรืออะไรก็ตามที   ด้วยอำนาจหน้าที่อันซับซ้อนและไม่เป็นเอกภาพจึงทำให้การพัฒนาชะงักงันหรือพัฒนาได้แต่ก็ไม่เต็มที่

    ส.ส.  ก็เดินหน้าไปงานศพ  งานบวช  ตะบันสร้างถนน  

    ผู้ว่า  ก็เตรียมแต่ไปออกรอบ  และเป็นผู้ช่วยหรือรองประธานผ้าป่าสามัคคี

    เมื่อผู้ใหญ่เกี่ยงหน้าที่และไม่เคารพการทำงาน  ปัญหานี้ก็สั่นสะเทือนจนทำให้ความเจริญที่อยู่เบื้องหน้าพังทลายลงอย่างไม่เหลือดี

    ดังนั้นส่วนกลางหรือรัฐบาลต้องมีนโยบายที่แน่ชัดและต้องเข้มงวด

    การพัฒนาในแต่ละจังหวัดต้องเป็นไปอย่างเท่าเทียมกันและแทรกซึมระบบจัดเก็บให้ลงลึกปึถึงระดับเทศบาล  

    ผมจะขอพูดเป็นข้อ ๆ โดยรวมครับ

             1.     ให้ทุกจังหวัด  มีโรงเรียนตำรวจเป็นของตนเอง  ซึ่งตรงนี้หมายถึงพลตำรวจและตำรวจระดับประทวน  แต่จำนวนเปิดรับขึ้นอยู่กับขนาดของจังหวัดและประชากรและความต้องการที่จะช่วงใช้   อย่างหนึ่งจะเป็นประโยชน์ในการราชการเพราะคนพื้นที่ย่อมเข้าอกเข้าใจและรู้ซึ้งถึงหลักประเพณีมากกว่าที่อื่น ๆ   เช่นในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้   แม้จะมีการทำอย่างนี้ก็ไม่ตรงประเด็นเท่าที่ควร   เพราะยังมีคนนอกพื้นที่อยู่พอสมควร  ต้องเข้าใจอีกอย่างว่า  จังหวัดแม้อยู่ติดกันภูมิภาคเดียวกัน  แต่ความเป็นอยู่ย่อมไม่เหมือนกัน   คนจะเข้าใจต้องเป็นคนในพื้นที่   และรู้กำพืดของคนในชุมชนเป็นอย่างดี
             แต่ในทางกลับกัน  จะต้องมีบทลงโทษต่อ  ตำรวจ  ที่ละเมิดหน้าที่อย่างเข้มข้น   ไม่มีการพักราชการหรือการตรวจสอบวินัยหน่อมแหน้มเหมือนแต่ก่อน   แต่ต้องลงโทษอย่างเด็ดขาดเช่น  จำกัดกรอบในการตัดสินให้ไม่เกิน 15 วันและทันทีที่ตรวจสอบเสร็จจำคุกทันที   ถ้ามีปัญหาความผิดเรื่องคอรัปชั่น  ส่วย  สินบน  ยึดทรัพย์ทั้งส่วนตัวและเครือญาติ

             2.     ให้ทุกจังหวัดทั่วประเทศจดทะเบียนสินค้าท้องถิ่นหรือจะเรียกว่า  โอทอป  ก็น่าจะได้  หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์   โดยห้ามซ้ำกันอย่างเด็ดขาด   เช่น  ชาใบหม่อน  (ที่ผมรำคาญมาก ๆ )  ที่ไหนจดทะเบียนก่อนที่นั่นรับไปทำ   ตำบลอื่นจะทำเป็นสินค้าไม่ได้   ถ้าพื้นที่อื่นมีการปลูกหม่อนต้องทำหน้าที่ผู้ผลิตวัตถุดิบให้เจ้าของผลิตภัณฑ์มารับซื้อ  หรือจะแปรรูปใบหม่อนเป็นอย่างอื่นได้แต่ต้องมิใช่  ชาอบแห้ง  จะทำสำเร็จแล้วปรุงรสปรุงกลิ่นตามธรรมชาติก็ว่ากันไป   และตรงนี้หน่วยกลางหรือรัฐบาลต้องมารับซื้อและรับประกันราคา   โดยมีที่ระบายออกสองอย่างคือ  ส่งเสริมการส่งออกและเปิดช็อปในประเทศ
             พื้นที่ว่างเปล่าเยอะครับ  แต่ละอำเภอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือกระทรวงพาณิชย์ไปเปิดร้านเพื่อขายสินค้าจำพวกนี้จากทั่วประเทศ   หนึ่งอำเภอหนึ่งร้าน   หรือถ้าเก็บภาษีได้มากจะเปิดทุกหัวมุมถนนแบบเซเว่นส์ก็ไม่ว่ากัน
             และมีการรณรงค์การใช้สินค้าไทยอย่างเป็นรูปธรรม  กินไก่โชว์กันยังทำมาแล้ว  กินชาใบหม่อนรสสตรอว์เบอร์รี่โชว์หน่อยจะเป็นไร   มันอาจจะทับซ้อนกับหน้าที่ของสหกรณ์แต่ถ้ามองกันอย่างจริงจังแล้ว  มันเป็นคนละเรื่องเดียวกัน

             3.     ให้ทุกจังหวัด  ทุกเทศบาล  เก็บค่าบำรุงตลาดจากคนที่มาใช้บริการ   หัวละ ห้า บาท   แต่ต้องควบคุมเรื่องคุณภาพและความสะอาดของตลาดให้เป็นอย่างดี   มิใช่ให้ผู้มาใช้บริการเดินไปทำหน้าเหม็นเยี่ยวไป   รัฐบาลต้องหักด้ามพร้ากับนักธุรกิจประเภทเนื้อสดไก่สด   โดยการใช้กฏหมายหรือออกกฏเฉพาะการมาบังคับ   ให้แต่ละพื้นที่รับไก่เป็ดวัวควายในแต่ละพื้นที่มาขายเท่านั้น   แต่ถ้าของเขาดีจริง ๆ ก็ให้ยกระดับเข้าห้างไปหรือเข้าช็อปของรัฐบาลไปมิให้วางขายทั่วไป   ตรงนี้จะทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ตั้งหน้าตั้งตาบำรุงและเอาใจใส่กับที่ดินของตนมากขึ้น   เปิดกองทุนให้กู้ยืมผลิตภัณฑ์ทางเกษตรแต่ระบบจัดเก็บต้องชัดเจนแน่นอน  สามปีต้องคืน  ทั้งต้นและดอก
             ในกรณีนี้ถ้าเนื้อล้นตลาดให้รัฐจับเก็บแช่แข็งเพื่อกระจายไปในพื้นที่อื่น  แบบบราเตอร์เทรด  เช่นเนื้อแลกปลา  ไก่แลกหอย  หมูแลกลางสาด  (ในกรณีที่ล้นตลาดจริง ๆ)  ความสมดุลย์ในการกระจายทรัพยากรก็จะมีขึ้น  ชาวบ้านมิต้องซื้อของแพงโดยมิจำเป็น

             4.     ให้กำหนดกรอบเขตการปกครองเหมือนการกำหนดเขตในการแข่งขันกีฬา  เช่น  เชียงใหม่  เขต 5  พิษณุโลก เขต 6  และจังหวัดที่ใช้เลขนำหน้าเหมือนกันบรรจุเข้าเขตเดียวกัน   และใช้ระบบเอื้อกันเป็นการกำหนดเขตรับผิดชอบ   โดยรัฐต้องเจาะจงให้ศูนย์กลางบริหารพื้นที่อยู่ในที่ใด ๆ จะว่าในทีก็คือตั้งเมืองหลวงของภูมิภาคนั้น ๆ   โดยแต่ในละเมืองหลวงจะมีการเปิดเขตคาสิโน
             แต่ตรงนี้ต้องมีการเด็ดขาด   การเข้าสถานคาสิโน  ต้องยื่นบัตรประชาชนยืนยันความเป็นคนในภูมิภาคและข้ามเขตไม่ได้และกำหนดแต่ละบุคคลให้เล่นได้แค่  สิบเปอร์เซนต์  ของเงินเดือน   ถ้าหมดเครดิตเดือนหน้ามาเล่นใหม่   และหน้าคาสิโนต้องเปิดตู้ร้องเรียน   ถ้าผู้ใดมาเล่นแล้วก่อความเดือดร้อนให้กับครอบครัวจะตัดสิทธ์การเข้าเล่นตลอดชีวิต  และในกรณีเกิดอาชญากรรมต้องลงโทษอย่างเด็ดขาด  ไม่มีการจำคุก  มีแต่การประหารและทัณฑ์ทรมาน  เท่านั้น
             ในคาสิโนนั้นจะประกอบด้วย  สนามม้า  โต๊ะฟุตบอล  หวยจับยี่กี   แต่ทั้งหมดใช้กฏเดียวกัน  ไม่ว่าคุณจะเล่นเท่าไหร่ ก็ได้แต่ไม่เกินสิบเปอร์เซนต์ของเงินเดือน   ที่คาสิโนจะมีการบันทึกการเล่นได้เสียของผู้เล่นไว้ตลอดคือเวลาจะออกต้องเอาชิปทั้งหมดไปแลกและทำประวัติ    ถ้าแลกชิบคืน  เดือนนั้นคุณจะไม่ได้กลับมาเล่นอีก  แต่ถ้าอยากมาในวันใหม่หรืออยากเล่นหลาย ๆ วัน  ห้ามแลกคืนโดยเด็ดขาด
             แต่สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ  เชิญตามสบายจะเล่นให้หมดเนื้อหมดตัวก็เรื่องของคุณ    แต่ถ้าก่ออาชญากรรมในประเทศ   คุณต้องรับโทษที่ทางประเทศไทยบัญญัติไว้สูงสุด

        5.     ให้รัฐเข้าควบคุมหรือเปิดบริการขนส่งมวลชนในแต่ละจังหวัด   รถเมล์  เรือเมล์  ให้รัฐเปิดเป็นทางเลือกให้แก่ประชาชน   แรก ๆ ทางจังหวัดต้องส่งคืนรัฐจนครบทุนที่ลงไปก็จัดเก็บกันเองแต่  20 เปอร์เซนต์ของรายได้ในส่วนนี้ต้องหักคืนให้รัฐเสมอห้ามขาด  เพื่อที่จะนำไปพัฒนาระบบ  รถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดิน  ให้โยงใยถึงกันทั่วประเทศ   หรือหักเก็บกันเองจนได้มาพอและสร้างเองเป็นของแต่ละจังหวัดแต่ต้องมีโครงข่ายโยงใยให้แต่ละจังหวัดข้ามหากันได้

         6.     ให้ละภูมิภาคมีการปลูกปาล์ม  หรือถ้าเป็นไปได้ก็ทุกจังหวัด  โดยมีการคำนวณการใช้พลังงานแต่ละจังหวัดให้ดีและรับปาล์มจากผู้ผลิตเข้าโรงงานผลิตพลังงานใช้เองในแต่ละจังหวัด  จะได้มิต้องพึ่งพิงการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศมากนัก

        7.     แต่ละจังหวัด  ต้องผลิตบุหรี่เอง  เหล้าเอง  และติดแบรนด์เอง  ไม่มีการนำเข้าบุหรี่จากต่างประเทศ  แต่นำเข้าจากโรงงานยาสูบได้  โดยจำกัดปริมาณ  ภาษีอากรที่ได้มาให้แบ่งให้ส่วนกลางครึ่งหนึ่ง

        8.     แต่ละภูมิภาคต้องมีการพัฒนาเรื่อง  โซล่าร์  เซลล์  เพื่อจะส่งแผงโซล่าร์ขายในแต่ละจังหวัดในภูมิภาคนั้น เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการใช้ทรัพยากรอย่างชาญฉลาด

        9.     น้ำดื่ม  น้ำเปล่าบรรจุขวด  โซดา  ผลิตกันเองห้ามในเข้าจากเขตอื่น

        เท่านี้ผมว่ามันเพียงพอที่จะให้การเติบโตในแต่ละท้องที่เพิ่มมากขึ้นตามลำดับ   เพราะทุกวันนี้ปัญหาคนล้นเมืองมาจาก  “ไม่มีอะไรทำ”   หน่วยรัฐบาลก็เห็นแก่ตัวไม่ทำอย่างจริงจัง   ภาคเอกชนก็เห็นแก่ประโยชน์จนมากเกินไป   ทุกอย่างมาอัดกันที่กรุงเทพให้กรุงเทพรับภาระจนหลังแอ่นโดยมิโยนทางออกไปที่จังหวัดอื่นบ้าง

    ความเจริญก็มาตีบตันที่กรุงเทพ  และ  เมืองใหญ่  เมืองที่เป็นทางผ่านก็อับเฉาโดยไม่จำเป็น   ทั้ง ๆ ที่แต่ละพื้นที่มีศักยาภาพที่จะทำได้

    ใครมีข้อเสนอหรือแนะนำอะไรก็เชิญนะครับ  

    ยกเว้นคุณ  บ็อบ  เพราะผมออกกฏว่า  ห้ามคุณหิ้ว  “กรุงเทพ”  กลับบ้านอีก

    ด้วยความเคารพเพื่อนสมาชิกและสหายทุกท่าน


    *****  กระทู้เมื่อเช้า  http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4604410/P4604410.html

    จากคุณ : ShowyPower - [ 8 ส.ค. 49 20:45:54 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com