CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ...ผู้นำที่กล้าพูดความจริง ชาติเจริญ...

    ออกมาวิพากย์วิจารณ์ไม่รู้จบ สำหรับคำพูดของผู้นำ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตรที่ได้พูดในที่ต่างๆ โดยอ้างว่า ไม่เหมาะสมที่ผู้นำจะพูดบ้าง สร้างความแตกแยกบ้าง ก่อให้เกิดความรุนแรงเพิ่มขึ้นบ้าง  แล้วแต่มุมมองของผู้วิจารณ์ที่จะพยายามใช้คำ”เด็ดๆ” เพื่อดิสเครดิตคำพูดของผู้นำ  ให้กลายเป็นคำพูดที่ส่อแววไปในทางเลวร้าย  เพื่อเพิ่มความเลวร้ายให้เกิดขึ้นกับสังคมโดยที่ตนเองเป็นผู้กระทำ..และโยนความผิดบาปให้กับคำพูดของผู้นำ

    คำพูดเหล่านี้ว่า
    “ยูเอ็นไม่ใช่พ่อ”
    “โจรกระจอก”
    “ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ”
    “สังคมไทย เป็นสังคมแห่งความรู้สึก ไม่ใช่สังคมแห่งความรู้”
    “คนจบปริญญาในกรุงเทพฯถูกหลอก แต่คนต่างจังหวัดไม่ถูกหลอก”

    คำพูดเหล่านี้ สื่อต่างๆ นักวิชาการ ฯลฯ เร่งรีบนำไปขยายผลโดยเร่งด่วนโดยมิชักช้า เพราะเป็นงานที่ถนัด  วิเคราะห์วิจารณ์กันอย่างสนุกสนาน หวังให้เกิดความแตกแยกขึ้นมาจริงๆให้ได้ ประเภท "เรื่องแตกร้าวของชาวบ้าน คืองานของเรา" และเป็นงานหลัก...

    ขออธิบายความหมายของคำพูดเล็กน้อย

    คำว่า...
    “ยูเอ็นไม่ใช่พ่อ” ยูเอ็นหรือสหประชาชาติ เป็นที่ชุมนุมซ้องสุมกำลังของชาติต่างๆทั้งหมดในโลกที่เป็นสมาชิก คอยเข้าไปแทรกแซง ยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในของประเทศอื่นๆ ยกเว้น อเมริกา รัสเซีย จีน เพราะไม่กล้า แต่ถ้าเป็นประเทศเล็กๆ อย่างไทย พม่า ลาว เขมร จะรีบเข้าไปทันทีโดยมิได้รับเชิญ

    คำตรงข้ามที่ควรพูดถึงยูเอ็น คือ”ยูเอ็นเป็นพ่อผม” “ยูเอ็นเป็นพ่อของพวกเรา” “ยูเอ็นเป็นพ่อของคุณ”

    คำว่า...
    “โจรกระจอก” กระจอก ในที่นี้เป็นโจรชนิดหนึ่งสิงสถิตย์อยู่ภาคใต้ คอยลอบกัดเจ้าหน้าที่ แอบก่อความวุ่นวาย แต่ไม่กล้าเปิดเผยตัว เพราะกลัวความผิด ไม่กล้าหาญจริง ทำร้ายคนที่ไม่มีทางต่อสู้ หรือกำลังเผลอตัว  จึงเป็นโจรชนิดสัตว์ปีก ใหญ่กว่านกกระจิบ เล็กกว่านกกระจาบ  ตัวลายๆ ชอบเกาะตามชายคาบ้านสร้างความรำคาญเป็นยิ่งนัก

    คำตรงข้ามที่ควรพูดกับโจรเหล่านี้ คือ “โจรอินทรี”  “โจรเหยี่ยว” “โจรอีแร้ง” "โจรผู้องอาจ" "ขุนโจรนอกรัฐธรรมนูญ"

    คำว่า...
    “ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ”  ผู้มีบารมีในที่นี้ กล่าวหมายถึงคนอย่างมิต้องสงสัย เป็นคนที่เคยมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับของคนกลุ่มหนึ่ง แต่ไม่เคยมีชื่อปรากฎในรัฐธรรมนูญฉบับใดๆมาก่อน ชอบแผ่อิทธิพลครอบงำ ชักใยอยู่เบื้องหลัง(แมงมุม..) ไม่ยอมทำตามกฏหมายรัฐธรรมนูญที่มีอยู่ ชื่นชอบการแต่งตั้ง มากกว่าการเลือกตั้ง

    คำตรงข้ามทีควรพูดถึง “ผู้มีบารมีที่ยังไม่ปรากฏในรัฐธรรมนูญ”  “ผู้มีบารมีที่ยังไม่ปรากฏกายในที่แห่งใด(อีแอบ)”  “ผู้ที่คิดว่าตนเองมีบารมี”

    คำว่า...
    “สังคมไทยเป็นสังคมแห่งความรู้สึก ไม่ใช่สังคมแห่งความรู้” สังคมคือคนตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปมาพบปะเจอะเจอ แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกัน  คนไทยส่วนหนึ่งยังไม่ยอมรับรู้การเปลี่ยนแปลงของโลก ไม่ชอบแสวงหาความรู้ที่เป็นเหตุเป็นผล(เหมือนผมเด๊ะๆ..) แต่มักคิดว่าตนเองแสนจะฉลาดกว่าผู้อื่นเสมอ จะตัดสินผู้อื่นในเรื่อง รัก-เกลียด,ชอบ-โกรธ,ดี-เลว ไปตามความรู้สึกของตนเอง ของกลุ่ม หรือคนใกล้ชิด ซึ่งมักใช้คำว่า..รู้สึกว่า...คิดว่า...เห็นว่าน่าจะ...สงสัยว่า...(ผมทั้งน้าน...)โดยไม่มีเหตุผลสนับสนุนใดๆ เพียงเห็นหน้า เพียงพูดจา เพียงกิริยา ก็ทำให้สามารถตัดสินได้ว่าจะรักหรือเกลียด จะชอบหรือโกรธ จะดีหรือเลว ได้ภายในเวลา 0.0001 นาทีเท่านั้น

    คำตรงข้ามที่ควรพูดถึงสังคมไทย คือ “สังคมไทยเป็นสังคมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้” “สังคมไทยมักจะตัดสินคนอื่นด้วยเหตุด้วยผล”  “สังคมไทยไร้ความรู้สึก…” เป็นต้น

    คำว่า...
    “คนกรุงเทพฯจบปริญญาถูกหลอก คนต่างจังหวัดไม่ถูกหลอก” ปริญญา คือมาตรวัดระดับการศึกษาของคน แต่บางครั้งก็ใช้เป็นชื่อได้ เช่นนายปริญญา เทวานฤมิตรกุล เป็นต้น...
    อย่าว่าแต่คนจบ ป.ตรีเลยที่ถูกหลอก โท เอก ก็สามารถถูกหลอกได้ทั้งนั้น  สมตามภาษิตกระเหรี่ยง(เคบีเอ็น..)กล่าวไว้ว่า “ความโง่ไม่เคยปราณีใคร”
    ส่วน”การหลอก”ถ้าใช่คู่กับคำว่า”ลวง”คือ”หลอกลวง” ใช้ระหว่างคนกับคน แต่ถ้าใช้คู่กับคำว่า”หลอน”คือ”หลอกหลอน”จะใช้ระหว่าผีกับคน...
    นายกพูดหมายถึงคนที่จบปริญญาในกรุงเทพฯบางกลุ่ม บางคน ถูกนายสนธิและพวกพ้องหลอกลวงให้เชื่อว่า “นายกสั่งคนไปทุบพระพรหม” “นายกเป็นมนุษย์ต่างดาวจึงหน้าสี่เหลี่ยม” (ถ้าใครเรียกเหลี่ยมคือศิษย์ของสนธิ...ชัวร์)

    คำตรงข้ามที่ควรเรียกคนในกรุงเทพฯที่จบปริญญาและเชื่อง่ายบางกลุ่มคือ “คนจบปริญญาในกรุงเทพฯได้รับข้อมูลมากเกินไป จึงสับสน”  “คนจบปริญญาในกรุงเทพฯส่วนใหญ่อ่านหนังสือพิมพ์ที่มีค่าควรเมืองอย่างเช่น ผู้จัดการ”  “คนต่างจังหวัดไม่ได้อ่านข้อมูลดีๆจากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ”  “คนจบปริญญาในกรุงเทพฯคือคนโง่ผู้ยิ่งใหญ่” เป็นต้น


    คำพูดของผู้นำ ความหมายเพื่อให้กำลังใจ คลายกังวล เพื่อให้เห็นว่าเราเป็นประเทศที่มีเอกราช มีอิสระ เพื่อบอกให้รู้ถึงความพยายามที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย เพื่อบอกว่าเป็นสังคมที่ต้องการพัฒนาในองค์ความรู้ให้มากขึ้น เพื่อบอกให้รู้ว่าการศึกษาของไทยมิใช่ทำให้คนฉลาดขึ้นแต่อย่างใดเลย

    ผู้นำประเทศ..คือแบบอย่างของผู้ตามคือประชาชน  ผู้นำ...ต้องกล้าคิด กล้าพูด กล้าตัดสินใจในสิ่งที่แม้จะทำให้เกิดผลกระทบบ้างแต่เป็นประโยชน์ในระยะยาวต่อสังคมของตน  ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดี ดึงคนที่กำลังก้าวออกนอกลู่ให้กลับมาสู่ถนน...อย่างเช่น พณฯจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์

    ถ้าเป็นผู้นำประเทศ แต่ไม่กล้าอะไรสักอย่าง จะทำอะไรสักทีก็ต้องคอยหลบๆซ่อนๆ แอบๆอยู่ตามมุมตึก แล้วก็คิดคนเดียว พูดคนเดียว เอออออยู่คนเดียว ตัดสินใจไม่เป็น...อย่างนี้เขาไม่เรียกผู้นำประเทศ ครับ

    เขาเรียก “ผู้นำมุมตึก หรือผู้นำแบบขายหัวเราะ” !!!

    แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 49 18:04:42

    จากคุณ : ปลายอ้อกอแขม - [ 10 ส.ค. 49 17:46:53 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com