จาก คมชัดลึก
เมื่อเช้ามีคนให้ข้อมูลกับผมว่ามีคนที่มีความสัมพันธ์กับผู้หลักผู้ใหญ่ เป็นความสัมพันธ์จากนักการเมืองใหญ่คนหนึ่งอ้อมไปหาอีกคนหนึ่ง และคนนี้ก็มีความสัมพันธ์ด้วย แต่บอกไม่ได้ว่าว่าเป็นคนในหรือคนนอกตุลาการ นายเจิมศักดิ์ กล่าว
นายเจิมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การทำงานของ กกต.จะต้องได้รับเสียงข้างมากในการตัดสินเรื่องสำคัญ จึงกลายเป็นว่าคนคนเดียวอาจจะชนะคนทั้งหมดได้หากต้องการคะแนนเสียงเอกฉันท์ ตนจึงเป็นห่วงว่าหาก 2-3 คนนี้เข้าไปจะทำให้ความเป็นกลางเสียไป และกลายเป็นมติที่จะเป็นปัญหา ซึ่งเรื่องนี้ตนได้แนะนำให้คนที่ให้ข้อมูลกับตนไปให้ข้อมูลโดยตรงกับกรรมาธิการตรวจสอบประวัติฯ
********************************
นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง รักษาการ สว.กทม. ได้ออกมาวิจารณ์การคัดเลือกสรรหา กกต.ของศาลฎีกาที่คัดเหลือจำนวน 10 คนเพื่อส่งให้ สว.เมื่อวานนี้ อาจไม่โปร่งใส
แสดงให้เห็นว่า จริงๆแล้ว นายเจิมศักดิ์เอง มิได้ให้ความเคารพ เชื่อมันต่อสถาบันตุลาการเลย เพราะเมื่อศาลคัดคนออกมาแล้ว แต่ไม่ถูกใจนายเจิมศักดิ์เท่านั้น นายเจิมศักดิ์ก็ออกมาต่อว่าต่อขาน...ทางอ้อม
ดูเหมือนว่า สิ่งใดๆที่นายเจิมศักดิ์ไม่พอใจ สิ่งนั้นคือความผิดที่ต้องระงับยับยั้งทั้งหมด โดยใช้ตนเองเป็นบรรทัดฐาน และจะออกมาตำหนิติเตียนสิ่งนั้นๆ โดยใช้เล่ห์ลิ้น คารม พูดจาให้ดูเหมือนดี เหมือนพรรคการเมืองบางพรรค
นายเจิมศักดิ์เป็น สว.สายพรรคประชาธิปัตย์แม้ว่าจะพยายามปิดบังไม่ให้คนทั่วไปได้รับรู้ก็ตาม แต่คนในวงในต่างรู้กันดี นายเจิมศักดิ์เติบโตไต่เต้ามาจากนักจัดรายการโทรทัศน์ในช่วงพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลโดยความเอื้อเฟื้อของคุณหญิงสุพัตรา มาศดิสถ์ ตั้งบริษัทผลิตรายการโทรทัศน์ชื่อว็อชด็อก และวิพากย์วิจารณ์ฝ่ายตรงข้ามกับพรรคประชาธิปัตย์มาตลอด เช่นรายการมองต่างมุม จนกระทั้งพรรคประชาธิปัตย์หมดอำนาจ และถูกถอดรายการออกไปเพราะไปวิจารณ์ล้ำเส้นเกินขอบเขต จากนั้นก็อาศัยความเป็นนักวิชาการปากกล้า ร่วมกับพรรคพวกแนวร่วม คอยทำการดิสเครดิสรัฐบาลทุกพรรคที่เข้ามาบริหารประเทศ จนกระทั่งสมัครเป็น สว.ในการเลือกครั้งแรกและได้รับการเลือกตั้ง เส้นทางเดินของนายเจิมศักดิ์คล้ายๆกับนางรสนา โตสิตระกูล ว่าที่ สว.กทม.ที่ยังไม่ถูกรับรองจาก กกต.
ในขณะที่คนทั่วไปให้น้ำหนักการเข้ามาทำหน้าที่ของศาลฎีกาในการคัดเลือก กกต.เพื่อให้ทันกำหนดวันเลือกตั้งที่ 15 ตุลาคม แต่ตรงข้ามกับนายเจิมศักดิ์ที่พยายามจะถ่วง จะยืดเวลาออกไปให้มีการเลือกตั้งช้าที่สุดเท่าทีจะเป็นไปได้
หากให้เดา ก็คือ ตราบใดที่ยังล้มทักษิณไม่ได้ ก็อย่าเพิ่งให้มีการเลือกตั้ง ว่างั้นเถอะ...
นายเจิมศักดิ์เคยออกมาเปิดประเด็นให้สัมภาษณ์ไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการเลือกตั้งวันที่ 15 ตุลา อ้างเหตุเหมือนกันกับครั้งนี้ แต่ไม่มีใครตอบรับ แต่วันนี้ เมื่อศาลฎีกาได้ทำการคัดเลือกบุคคลที่จะมาทำหน้าที่เป็น กกต.จำนวน 10 คนได้แล้ว เหตุการณ์ทำท่าว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน จึงทำให้นายเจิมศักดิ์ร้อนใจ จนเก็บอาการไม่อยู่ต้องออกมาพูดเชิงตำหนิศาล....ว่ารีบร้อน
ประเด็นที่นายเจิมศักดิ์กล่าวหา ก็เหมือนกันกับที่เคยกล่าวหา คือมีบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับนักการเมืองใหญ่ซึ่งคงหมายถึง พ.ต.ท.ทักษิณ แอบแฝงเข้ามาเป็น กกต.อันจะทำให้การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม คนๆเดียวที่นายเจิมศักดิ์พอใจที่สุดคือนายแก้วสรร อติโพธิ เพื่อน สว.อุดมการณ์เดียวกัน
และเป้าหมายของนายเจิมศักดิ์ที่ออกมาพูดครั้งนี้ คือหากต้องเกิดการเลือกตั้งขึ้นมาจริงๆ และพรรคไทยรักไทยได้เสียงข้างมาก การให้ใบแดง ใบเหลืองเกิดขึ้นกับพรรคพวกของตนมากว่าไทยรักไทยแล้ว กกต.ชุดนี้ ก็จะกลายสภาพเป็นคนของไทยรักไทยทันที...
จากนั้น สิ่งที่ตามมาอีกครั้งก็คือ การร่วมมือกับเพื่อนร่วมอุดมการณ์เคลื่อนไหวล้ม กกต.และรัฐบาลต่อไปด้วยข้อกล่าวหาสูตรสำเร็จคือมีการโกง ช่วยเหลือพรรคไทยรักไทยอีกครั้ง
การดิสเครดิส กกต.ล่วงหน้า และการปูทางเพื่อการเคลื่อนไหวในภายภาคหน้า ของนายเจิมศักดิ์แลพรรคพวก แสดงให้เห็นว่ากระบวนการใดๆของบ้านนี้เมืองนี้ แม้จะเหาะมาจากสวรรค์ชั้นใด หากไม่ถูกใจ..ก็ย่อมไม่ใช่ความถูกต้องสำหรับนายเจิมศักดิ์อยู่ดี
มีอย่างเดียวที่จะทำให้นายเจิมศักดิ์พอใจสูงสุดได้ก็คือ พรรคของตัว และพวกของตัวเท่านั้นที่จะต้องเข้ามาทำหน้าที่ จึงจะชอบธรรม นอกนั้น ไม่เป็นธรรม !!!
แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 49 13:24:21
จากคุณ :
ปลายอ้อกอแขม
- [
11 ส.ค. 49 13:18:51
]