CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ”คนดี”…ตุ๊กตาตัวอย่างของสังคมไทยที่นับวันจะถูกลืม

    การทำความดีมันทำยาก เพราะมันยืนตรงข้ามกับกิเลส กิเลสมันคอยแต่จะชักพาให้เราหลงทำในสิ่งที่ใจเราต้องการ เมื่อมันชักพาไป เราก็มักเดินเข้าสู่กับดักของการลงมือในสิ่งที่ผิด

    ขณะที่ความเก่งโดยไม่ต้องใส่ใจกับความดีมันทำได้ง่ายกว่า เพราะไม่ต้องคอยพะวงจริตของตัวเอง…ชั่ง ตวง วัด ให้เห็นผลได้ง่าย เพราะตัวเลขที่จับต้องในทางเนื้อหนังมันมองเห็นได้ชัดเจนมากกว่าในทางจิตวิญญาณเป็นไหนๆ

    ดังนั้นความเก่งที่จะเดินตามกิเลสคนเพื่อทำให้ตัวเองสมอยากจึงกลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่าศีลธรรมหรือคุณธรรมใดๆสำหรับคนเดี๋ยวนี้ไปเสียแล้ว

    ปัจจุบันโลกได้เปลี่ยนไปมากเหลือเกิน สายพานโลกาภิวัฒน์ได้ฉุดให้คนในสังคมหันมาแข่งขัน กอบโกย และเน้นความสุขที่ได้จากการเสพกินทางเนื้อหนัง เกิดอาการ อยู่เติบ กินเติบ ใช้เติบ …จึงเปิดโอกาสให้คนเอาเปรียบกันและเริ่มหาทางปีนกรอบในเรื่องของการทำความดี เพราะไม่สามารถเข้าถึงความสำเร็จด้วยมรรคผลวิธีปรกติได้

    ทำให้การทำความดีของคนเปลี่ยนไป เพราะทำความดีมันเสพ-กินไม่ได้ ตรงข้ามกับ”เงินตรา”ที่ยิ่งมีก็ยิ่งได้เสพสุขมาก…คนเดี๋ยวนี้จึงวิ่งเข้าหาเงินกันหมด เส้นทางไหนก็ได้..ขอให้ได้เงินมามากๆก็แล้วกัน จะเป็นเส้นทางลัดหรือคดโกงใครมาก็ไม่ต้องไปใส่ใจกับเสียงนกเสียงกามาก เพราะเดี๋ยวนี้ด้านได้อายอด

    เดี๋ยวนี้การเป็นคนดีที่เน้นการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนกลายเป็นสัญลักษณ์ในเชิงเสียเปรียบ หรือไม่ทันคนไปเสียแล้ว



    ทำไมสังคมมนุษย์ต้องมีแบบแผนของการทำความดี ?


    เหตุสำคัญก็เกิดมาจากการจัดระเบียบทางสังคม มนุษย์จะได้รู้ขอบข่ายหน้าที่ที่พฤติกรรมที่พึงกระทำได้ จะได้ไม่ไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น หรือสร้างความเดือดร้อนให้เพื่อนที่อยู่ร่วมสังคมเดียวกัน

    ประเด็นที่กล่าวข้างต้นก็คือมนุษย์ต้องมีสังคม ถ้าทุกคนเอาเปรียบกันโดยไม่จัดระเบียบไว้ สังคมก็จะพบแต่ความยุ่งเหยิง เขาจึงกำหนด”ความดี”เพื่อเป็นแนวทางให้มนุษย์ร่วมสังคมถือเป็นแบบในการดำเนินชีวิต

    ส่วนความดีงามจะเป็นเช่นไร ก็แล้วแต่ละสังคมจะสร้างแนวทางในการปฏิบัติต่อกัน แต่ส่วนใหญ่สูตรทางเคมีของการเป็นคนดี จะต้องมีสารตั้งต้นของการแบ่งบัน ดังที่ศาสนาต่างๆในโลกล้วนสรรเสริญผู้ให้  เช่น”ซะกาต”  ของอิสลาม “ความรัก” ของคริสต์ “ทานและพรมวิหาร”ของพุทธ …ผมจึงมองว่าพื้นฐานของการเป็นคนดีจึงอยู่ที่การเสียสละและแบ่งปัน  ซึ่งสิ่งที่อยู่ตรงข้ามสิ่งเหล่านี้คือความเห็นแก่ตัวและความโลภ

    “ความดีงาม”จึงเป็นต้นทุนทางสังคมที่สำคัญในการจะวัดคุณค่าความเป็นคนว่าใครจะมีมากกว่ากัน สังคมเก่าจึงยึดถือ”คนดี” และร่วมกันยกย่องชื่นชมคนเหล่านั้นว่าเป็นผู้เสียสละ…น่าเสียดายที่เดี๋ยวนี้คนหันไปยกย่องคนรวยแทนคนดีกันหมด โดยเฉพาะระบบการเมืองสมัยนี้มันเปิดกว้างสำหรับคนมีเงินและผู้กว้างขวาง ทำให้คนไม่ดีหลุดเข้ามาอยู่ในวงโคจรนี้เป็นจำนวนมาก และนับวันคนเหล่านี้จะครองเมือง

    คนไม่ดีมองไม่ยาก เพราะความโลภมันจะทำให้คนพวกนี้ออกมาเปลือยเปล่าให้เราได้เห็นกันบ่อยๆ พวกนี้สติจะอยู่ตื้นมากแค่จิ้มลงไปเพียงนิดเดียวก็จะแสดงอาการหลุดให้เห็นแล้ว และคนเหล่านี้ก็ไม่นิยมที่จะสะสมต้นทุนแห่งความดีงามกัน จึงทำให้ทุนทางสังคมของเขาจึงน้อยนิด

    มองอย่างไรว่าคนไหนเป็นคนดี ?….ผมมองที่ต้นทุนที่เขาได้สะสมมา คนที่เสียสละมากๆหรือแบ่งปันมากๆก็จะกลายเป็นคนที่มีต้นทุนทางสังคมสูง

    คนดีมักถูกหยิบยกเป็น”ตุ๊กตาตัวอย่าง”เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับสังคม ทั้งๆที่ในโลกแห่งความเป็นจริงอาจไม่มีใครสักคนที่รอดผ่านจากความมัวหมองของสิ่งไม่ดีมาก่อน…เพียงแต่เขาเหล่านั้นได้รับการยกย่อง เพราะเหตุของการมีต้นทุนของการปฏิบัติดีมามาก จนกระทั้งมีต้นทุนมากพอที่จะทำให้มองไม่เห็นจุดไม่ดีที่อาจพลั่งเผลอกระทำลงไป

    คนที่ออกมาด่าหรือคอยให้ร้ายคนดีพวกนี้เปรียบเหมือนกับหมาหางด้วน เขาจะขับเคลื่อนการกระทำด้วยสิ่งที่เราเรียกกันว่าทางแห่งมิจฉาทิฐิ คือแสดงความหยาบช้า ละโมบ ใช้วิธีการสกปรกในการเอาชนะผู้อื่น พวกนี้อ่านพฤติกรรมได้ไม่ยาก เพราะจิตใจของเขาจะตระกระกินไม่รู้จักอิ่ม แต่ถึงจะเป็นอย่างไรสุดท้ายสิ่งที่ตัวเองลงมือไว้อย่างไรก็จะปรากฏตัวออกมาให้คนอื่นเห็นเป็นบ่วงกรรม

    ต่างกับคนดี…เมื่อลงมือทำความดี ผลผลิตแห่งความดีที่ลงไว้ก็จะบังเกิด และลงสู่เนื้อในแห่งความเป็นคน ทำให้คุณค่าความเป็นคนมีสูงขึ้น ก็คือที่เรารู้จักกันในคำว่า “ต้นทุนทางสังคม”นั้นเอง

    คนดี…ไม่ต้องไปทำการตลาด หรือโฆษณาชวนเชื่ออย่างไร ผู้คนในสังคมเขาก็จะรับรู้และสัมผัสได้ ต่างจากคนไม่ดีที่จะพยายามทำให้ตัวเองก็ดูดีกับเขาเหมือนกัน ซึ่งมักจะใช้วิชาชุบย้อมตัวด้วยเปลือกห่อหุ้มที่แสนสวยด้วยเทคนิคทางการตลาด ออกโอ้อวดสร้างสีสรรความดีงามที่เน้นเพียงภาพลักษณ์ แต่ขาดองค์ประกอบเนื้อในของความดีงามอันแท้จริง

    จากคุณ : ไทยพันธุ์แท้ - [ 13 ส.ค. 49 06:51:07 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com