CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ...เมื่อนักวิชาการ อยากมีคำนำหน้าเป็น “ศิลปินนักวิชาการ”…

    ความอยากมีชื่อเสียง ได้รับความนิยมชมชอบจากมหาชน เป็นที่รู้จักไปทั่วเพื่อสิ่งดีๆที่จะตามมาอีกคณานับ   ล้วนมีอยู่ในใจของบรรดา”ศิลปินนักร้อง นักแสดง” ทุกคน  ไม่มีใครปฏิเสธได้

    นอกจากหน้าหน้าที่แสนสวย สุดหล่อ เป็นที่จดจำแล้ว หน้าตาที่แสนอัปลักษณ์ ก็ยังเป็นจดจำได้เหมือนกัน วงการศิลปินไทยทุกวันนี้ ถ้าไม่หล่อไม่สวย ก็ให้ออกทางขี้เหล่ไปเลย  มันขายได้

    ส่วนหน้าตาธรรมดาๆ พื้นๆ จะหล่อก็ไม่ใช่ จะขี้เหล่ก็ไม่เชิง  ครึ่งๆกลาง...สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกอย่างผม  ดังยาก...

    ศิลปินบางคนที่ชอบทำตัวแปลกๆ  ประหลาดๆ  ชอบในสิ่งที่คนอื่นเกลียด เกลียดในเรื่องที่ไม่สมควรจะเกลียด  นั่นก็เพราะต้องการให้ผู้ชมได้จดจำตัวเองไว้  ถือเป็นการตลาดอย่างหนึ่ง..ที่คิดขึ้นมาเพื่อการโปรโมทโฆษณาตัวเอง ให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

    แต่วงการนักวิชาการนั้น  การกระทำทุกอย่างเป็นไปเพื่อความถูกต้องเท่านั้น ไม่สนใจว่าสิ่งนั้นใครจะชอบ จะเกลียด ถ้าพูดไปแล้ว คนกลุ่มไหนจะรับได้หรือรับไม่ได้ ใครจะได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์ ก็ไม่สนใจ ยึดหลักความถูกต้อง เพียงเพื่อผดุงความจริงให้อยู่คู่กับสังคมของตน  ไม่เอาใจใคร ไม่ยึดติดกับใคร ให้ถูกหลักเท่านั้นเป็นพอ

    สังคมเรา จึงเรียกพวกเขาด้วยความยกย่องว่า “นักวิชาการ” เพราะเขามีความรู้ ความสามารถ มีความชำนาญในแขนง สาขา หรือศาสตร์ที่เขาเรียนมาอย่างเที่ยงตรง และกระทำ พูด คิด ให้เป็นไปตามหลักที่เป็นไป เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ แก้ไข ที่ถูกต้องแท้ๆ

    นักวิชาการเมืองไทยทุกวันนี้ เมื่อถลำตัวเข้ามาในแวดวงการเมือง กลับทำตัวครึ่งๆกลางๆ เป็นนักการเมืองผสมนักวิชาการไปซะฉิบ ! จนทำให้แวดวงนักวิชาการแท้ๆ เสียหาย

    ที่หนักไปกว่านั้น  นักวิชาการบางคน อยากดัง อยากเด่น จึงทำตัวเป็น”ศิลปิน” คอยวัดเรตติ้งของตัวเอง จะพูดสักที ต้องประดิษฐ์ประดอยถ้อยคำให้ติดหู  ให้มันส์ ให้สะใจ ให้ได้ลงหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ ถือว่าประสบความสำเร็จ

    หลักการเหตุผลใดๆ ไม่ต้องยึด จริยธรรม มโนธรรม คุณธรรม ไม่สนใจ ดูแต่ว่ากระแสบ้านเมืองไปในทางทิศใด ก็จะรีบตามน้ำ ซ้ำเติมสถานการณ์ให้หนักขึ้นไปกว่าเดิม  เอามันส์ เอาฮา เอาคำชื่นชม แสวงหาชื่อเสียงจากการด่ารัฐบาล  แทนการเขียนตำรา..เพราะตำราไม่เป็นที่ยอมรับ

    บ้านเมืองจะบรรลัย หายนะ ก็เพราะพวก “ศิลปินนักวิชาการ” เหล่านี้  ทุกวันนี้ โผล่หน้าสลอนออกทีวี โพสท์ท่าถ่ายรูป ทำอะไรแปลก พูดอะไรบ้าๆ พิเลนๆ อย่างขาดสติสัมปัชชัญญะ

    แต่ยังมีนักวิชการแท้ๆ ซึ่งผมยกตัวอย่างให้เห็นคนหนึ่งครับ ที่พอจะพึ่งพิง อ้างอิงได้โดยไม่อายปากผม ว่าเป็นนักวิชาการจริงๆ แท้ๆ ไม่อาศัยกระแสการเมืองสร้างความดังให้ตัวเองอย่างคนอื่นๆ  ก็คือ อ.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ ครับ

    อาจารย์วรเจตน์ คนนี้ ไม่ชอบ พ.ต.ท.ทักษิณเลย  แต่การวิพากย์วิจารณ์รัฐบาลเป็นไปตามหลักการและเหตุผล ถูกก็ว่าถูก ผิดก็ว่าผิด...ตามหลักวิชาการนะครับ

    แต่บรรดา”ศิลปินนักวิชาการ”ท่านอื่นๆ หรือพวกนักวิชาการผสมเทียมทั้งหลาย  เมื่อออกมาพูดทีไร ไมค์จ่อปาก จะแสยะยิ้มมุมปากเล็กน้อย และพร้อมจะพูดอย่างไม่อาย  ถูกก็จะบอกให้ผิด ผิดก็จะให้ผิดอย่างมหันต์...

    ไม่มีเสียละ ที่จะยึดหลักความถูกต้อง   เพราะเดี๋ยวสื่อมันจะไม่มาสัมภาษณ์อีก !!!

    จากคุณ : ปลายอ้อกอแขม - [ 13 ส.ค. 49 16:45:53 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com