CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    นี่ก็เป็นอีกหนึ่งในร้อยเหตุผล ที่ผมรักและชอบท่านนายกทักษิณ

    คำปาฐกถาพิเศษ โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี



    เรื่อง “ แนวนโยบายของรัฐบาลในการปฏิรูปการศึกษา เพื่อพัฒนาคนไทยให้เข้มแข็ง ” ใน
    “ โครงการงานวิชาการและนิทรรศการ ทางสังคมศาสตร์และรัฐศาสตร์ ”
    ณ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วันที่ 8 ธันวาคม 2546
    ิ์

    ก่อนอื่นเราถามว่าเราจะพัฒนาคนไทยให้เข้มแข็ง รัฐบาลจะวางนโยบายอย่างไรในการปฏิรูปการศึกษาเพื่อพัฒนาคนไทยให้เข้มแข็ง ก่อนที่จะวางนโยบายเราก็ต้องถามก่อนมันต้องรู้เขารู้เราตลอด รู้เขาคือเรารู้ว่าวันนี้โลกจะไปทางไหน ถ้าลองย้อนดูในอดีต หลายประเทศที่เคยเฟื่องฟูในอดีต วันนี้แทบไม่มีท่า แต่ประเทศที่เกิดขึ้นใหม่วันนี้รุ่งเรืองกันมาก ยกตัวอย่าง เช่น ประเทศไอซ์แลนด์ซึ่งไม่เคยเข้าสู่ยุคที่ 2 ของการพัฒนา ยุคแรก คือ ยุคเกษตร ยุคที่ 2 คือยุคอุตสาหกรรม และมายุคสังคมประวัติศาสตร์เลย และเป็นประเทศที่เวลานี้มีรายได้ต่อประชาชาติที่สูง รายได้ต่อหัวของประชาชนที่สูง เพราะว่าเขาทำเรื่อง Software (ซอฟต์แวร์) เป็น Base (ฐาน) ในการผลิตซอฟต์แวร์ส่งออกอย่างด ีและอินเดียเจริญบางจุด แต่ยังมีปัญหาเพราะว่าประเทศเขาใหญ่เกินไป หลายประเทศที่เคยมีสิ่งที่เป็นมหัศจรรย์ของโลก วันนี้ไม่มีท่าในหลายๆ พื้นที่ เพราะว่าไม่สามารถพัฒนาคนให้ทันกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงของโลกได้ ปัญหาหลายแห่งเกิดขึ้นเพราะความล้มเหลวทางการเมือง บางแห่งไม่รู้
    สรุปแล้วอยู่ที่ Leadership (การเป็นผู้นำ)

    ถ้าท่านตั้งบริษัทขึ้นมาสักบริษัท ถ้าเอาคนแย่ๆ ไปเป็นผู้บริหารรับรองว่าบริษัทท่านมีโอกาสล้มละลายสูง แต่บังเอิญประเทศ มันล้มละลายไม่ได้ ฉะนั้นผู้บริหารสำคัญที่สุด ถ้าได้ผู้บริหารที่ไม่มีความสามารถ ยิ่งไปเลย การบริหารต้องมี Vision (วิสัยทัศน์) ไม่ใช่ วิสั้น มีวิสั้นก็ยุ่งเหมือนกัน คือคิดอย่างเดียวว่า Next Election (การเลือกตั้งครั้งต่อไป) จะว่าอย่างไร ก็ห่วงแต่เรื่องเลือกตั้งทั้งวัน ถ้ามีวิสัยทัศน์ก็ต้องห่วงว่า Next Generation (คนรุ่นต่อไป) จะเอายังไงดี เพราะฉะนั้นวันนี้ต้องมองข้างหน้าว่าโลกจะไปไหน โลกกำลังจะผลักดันทุกฝ่ายเข้าสู่สังคมฐานความรู้
    คือ สิ่งที่ผลิตจากสมอง ราคาดีกว่าสิ่งที่ผลิตด้วยมือ เพราะฉะนั้นสมองมนุษย์จะมีค่ามากที่สุด เรามีสมองมนุษย์อยู่ 63 ล้าน จะทำอย่างไรให้มันเข้มแข็ง นี่คือ จุดที่เราต้องถามตัวเองถามว่าเราจะเปลี่ยนชั่วขามคืนได้ไหม ไม่ได้ต้องใช้เวลาถึง 10 ปี แต่ระหว่างทางจะทำอย่างไร นั่นเป็นเทคนิคที่สำคัญเราต้องใช้ความอดทน และต่อสู้ที่จะทำสิ่งที่มีอยู่ให้มันดี พอทำดีอยู่แล้วคนจะไม่ยอมเปลี่ยนไม่อยากเปลี่ยน แต่ถ้าต้องทำให้ดีด้วย และให้เปลี่ยนด้วย อันนี่ยากมาก ถ้าทำเลวอยู่แล้วอยากให้เปลี่ยน อันนี้ทำได้ง่าย เพราะคนมีความรู้สึกว่ามันเลวต้องรีบเปลี่ยน มันมีคนประเภทนี้อยู่มาก พวกนี้เขาจะรู้สึกว่าในเมื่อมันดีแล้ว จะไปเปลี่ยนมันทำไม

    ผมเปลี่ยนธุรกิจตัวเองวันที่มันดี เมื่อก่อนตนทำธุรกิจคอมพิวเตอร์ปีนั้นเป็นปีทองก็ว่าได้ ตนนั่งดูตัวเลข 8 บัญชียังทำท่าว่าจะไม่ไหว และมองว่าค่าใช้จ่ายวันข้างหน้าจะสูงขึ้น ค่าตัวนักวางระบบคอมพิวเตอร์จะสูงขึ้นการแข่งขันจะสูงขึ้น ถ้าไปแนวนี้คงจะไม่รอดระหว่างที่ตนเปลี่ยน มีคนทะเลาะกับตนทุกคน ในบริษัทฯ บางคนวิ่งไปหาภริยาผมไปบอกภริยามาบอกกับตนว่าไม่ให้เปลี่ยนเพราะธุรกิจกำลังดี ผมจึงอธิบายให้ภริยาฟังว่าขนาดดียังเป็นเช่นนี้ ถ้าไม่ดีแล้วจะขนาดไหน เพราะฉะนั้นไปได้แล้วรีบเปลี่ยนได้แล้ว ตนจึงเปลี่ยน

    ผมจะเล่าให้ฟังอีกเรื่องหนึ่ง During the Crisis Only the Paranoid Survive เขียนโดย Andrew Glove ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท Intel เมื่อก่อนบริษัทอินเทลทำแผ่นวงจร (Chip) และสารกึ่งตัวนำ (Semiconductor) ด้วย แต่ตอนหลังเขาบอกว่าเขาต้องมุ่งเน้น เขาต้องทำแผ่นวงจรอย่างเดียว ซึ่งตอนนั้นยังกำไรดี เขาบอกอีกหน่อยจะแข่งขันเยอะลำบาก ส่วนเกินกำไรยังไม่ค่อยเหลือ ปรากฏว่าไม่เห็นด้วยทั้งคณะกรรมการ เขาจึงตั้งคณะกรรมการใหม่ ซึ่งไม่ได้เก่งกว่าคณะกรรมการเก่า แต่คณะกรรมการใหม่สร้างเพื่อเปลี่ยนแปลง วันนี้อินเทลเป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ประมวลผลที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเก่งที่สุดในโลก คือการเปลี่ยนต้องเปลี่ยนในวันที่ดีถึงจะเห็น เปลี่ยนในวันที่เลวใครๆ ก็เปลี่ยนได้ แต่จะเลวกว่าเดิมหรือไม่ ไม่รู้

    รัฐบาลมีหน้าที่ผลักดันใช้สิ่งที่มีอยู่ให้ดีที่สุด ถ้าผู้บริหารจะเข้าใจทฤษฎีกราฟตัวเอส เวลาเราลากตัวเอสจะลากจากล่างขึ้นบนก่อนเอสจะหัวตกต้องลากตัวไปให้ยาวก่อนหัวตก เพราะเราต้องลากเอสตัวใหม่มาคล้อง ก่อนจะได้เอสตัวใหม่เอสเก่าต้องลากให้ยาวที่สุด หมายความว่าหากินกับสิ่งที่มีอยู่ให้มากที่สุดให้ได้ประโยชน์ที่สุด และรีบหาเอสตัวใหม่เข้ามาคล้องแทน
    เพราะฉะนั้น เหมือนกับประเทศไทยในวันนี้มองว่าโลกจะไปอย่างนี้แล้วคุณจะทำอะไรอยู่คุณก็ต้องทำสิ่งที่มีอยู่ให้ดีที่สุด แต่ดีแล้วต้องถามว่าอยู่รอดอย่างนี้ตลอดไปไหวไหม มันไม่ไหวจะเปลี่ยนคนไม่เรียนหนังสือให้มาจบปริญญาเอกในวันรุ่งขึ้นไม่ได้ ้มันต้องสร้างเป็นรุ่น และต้องทำสิ่งที่มีอยู่ให้เข้มแข็ง และเอาสิ่งใหม่เข้ามาแทนที่พัฒนาเป็นรุ่นๆ ไป นั้นคือการเตรียมตัวให้ประเทศไทยเข้าสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ คือสังคมที่มีสมองดี

    ก่อนอื่นตนต้องจัดการเรื่องยาเสพติด เพราะมันทำให้สมองของเยาวชนแย่ เราต้องสร้างเซลล์สมองมนุษย์พันธุ์ใหม่ ที่ต้องขายสินค้าจากสมองตัวเองให้ได้ เราต้องรู้ว่าโลกจะไปอย่างนี้ ไม่เช่นนั้นเราก็จะเหมือนกับหลายประเทศที่เคยมีสิ่งมหัศจรรย์ของโลก และวันนี้เป็นอย่างไร ตนไม่อยากจะออกความเห็นเพราะเป็นนายกฯ มันน่าเกลียด แต่ให้รู้ว่านี่คือสิ่งที่เป็นจริง

    เมื่อเรารู้ทิศทางของโลก เรารู้ว่าจะไปอย่างนี้ทางด้านความรู้ เขากำหนดขนาดโมเลกุล (Focus Molecularized) เพื่อจะพัฒนาไปสู่เศรษฐกิจโมเลกุล
    (Molecular Economy) ประกอบด้วย Bio-technology (เทคโลโลยีชีวภาพ) Information Technology (เทคโนโลยีข้อมูลข่าวสาร) Materialized
    (เทคโนโลยีโลหะและวัสดุ) Nano-technology (นาโนเทคโนโลยี) จากเทคโนโลยีเข้าสู่ธุรกิจจากธุรกิจเข้าสู่องค์กร การศึกษาต้องรู้อย่างนี้
    และต้องมาตระหนักก่อนว่า เราคือส่วนหนึ่งของโลกใช่หรือไม่ และเราจะทำอะไรตามลำพังโดยไม่สนใจโลกไม่ได้ เราต้องเปลี่ยนเราจะต้องเตรียมตัว และมาดูตัวเราว่ามีอะไรแข็งบ้างรู้เขาและต้องรู้เรา คนที่ไปเรียนเมืองนอกทั้งหลาย คนที่มีความรู้อยู่ในประเทศไทย ผมเตรียมจะนำมาวางแผน เพื่อพัฒนาคนเราต้องมาปรับว่าคนเรามีความรู้อะไร และพอหรือไม่ ขาดเท่าไรจะแก้ปัญหาอย่างไร ระยะสั้นต้องใช้แนวความคิด (Concept) ในหลวง ร.5 เพราะจ้างต่างประเทศมาเป็นอธิบดีก็มี เพราะฉะนั้นวันนี้ถ้าเราขาดจะต้องจ้างต่างประเทศมาแพงหน่อยแต่ก็ต้องจ้าง แต่แพงแล้วต้องขยายเหมือนซื้อหัวเชื้อแพงหน่อยไม่เป็นไร นั้นคือสิ่งที่เราต้องทำในช่วงนี้

    ย้อนกลับมาหาประเทศเรา เราก็ต้องถามว่าเราจะไปทางไหน ถามว่าหนีพ้นไหม หนีไม่พ้นและไม่ควรหนีด้วย เรามีความแข็งทางด้านเกษตร สรุปแล้วก็คือว่าความก้าวหน้าความแข็งของเราใส่มูลค่าเพิ่ม เทคโนโลยีเข้าไปตรงนี้ เราไม่ตกขนวนรถ ถ้าเรากระโดดทันเราจะเป็นขบวนรถที่มีหัวรถจักรที่ใช้ได้ นาโนเทคโนโลยีไม่ยากแต่ต้องแพร่กระจายเชื้อเร็วๆ เรื่องเทคโนโลยีข้อมูลข่าวสารก็ไหว เราไม่จำเป็นต้องผลิตคอมพิวเตอร์แข่งกับเขา แต่เราผลิตซอร์ฟแวร์ได้ โลกข้างหน้าเป็นโลกของซอร์ฟแวร์ ฮาร์ดแวร์ เรื่องขี้หมา ฮาร์ดแวร์เป็นเรื่องที่ผลิตง่ายมากแต่ซอร์ฟแวร์ต้องเปลี่ยนวิธีคิดตลอดเวลา เพราะฉะนั้นซอร์ฟแวร์อยู่ที่สมองของมนุษย์ ซึ่งจะต้องมีการพัฒนา

    วันนี้ไอคิวเฉลี่ยของเด็กเราแย่ลง ยอมรับว่าใช่ แต่ต้องพัฒนา ไม่มีอะไรที่รู้แล้วจะทำไม่ได้ ถ้ารู้แล้วจะทำก็ทำได้หมด วันนี้ต้องให้รู้ว่าจริงๆ คืออะไร ถ้าใช้แล้วแก้ไม่เป็นไร ตรงนี้ต้องมีการแก้ในเรื่องของการพัฒนาที่จะเข้าไปสู่หน่วยย่อย เราต้องมีทิศทางที่จะไปด้วยกันก่อนว่า ถ้าเราตกลงว่าจะไปทุกคนรวมพลังแล้วไปด้วยกัน ความสำเร็จของยาเสพติดถ้าในหลักบริหารเราเรียกว่า Vision Death Track (แกะรอยถอนรากถอนโคน) ถ้าทุกคนรู้ว่ายาเสพติดเป็นพิษต่อประเทศ ลูกหลาน และสังคม ทุกคนจึงรู้ว่าต้องจัดการมันให้เสร็จ ไม่เช่นนั้นสังคมเราจะแย่ ถ้าทุกคนแบ่งปันวิสัยทัศน์ เราก็รวมพลังกันออกมา ทำทุกอย่างเพื่อให้มันหยุด มันก็หยุดได้ ในระยะเวลาสั้นๆ

    เรื่องการศึกษาเราถือว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ เมื่อเรารู้ว่าโลกจะไปทางนี้เราก็จะไปทางนี้ เราต้องทำความแข็งแรงในส่วนของเรา และเราจะไปด้วยกัน  อัลวิน ทอฟเลอร์ บอกว่าในยุคที่ 3 มนุษย์เริ่มเห็นความเลวร้ายที่ได้รับในด้านมืดของยุคที่ 2 และแสงสว่างในยุคที่ 1 เอามารวมกันแก้ไขในยุคที่ 3 ด้านมืดของยุคที่ 2 คือ การทำลายสิ่งแวดล้อม การละเลยสิ่งที่เป็นศิลปวัฒนธรรม ความเป็นมนุษย์มันหายไป เริ่มโหยหาสิ่งที่ดีงามในยุคที่ 1 ยุคนี้จะเป็นยุคที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆให้เกิดขึ้น และนำมาใช้อย่างเป็นประโยชน์และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ นอกจากนี้ยุคที่ 2 เป็นยุคที่สุขภาพของคนเสื่อม มันสอดคล้องในเรื่องของเทคโนโลยีชีวภาพ เรามีความหลากหลายทางชีวภาพ แต่เราต้องขยาย และให้สิ่งเหล่านี้แทรกซึมไปในเชิงวิชาการ และภูมิปัญหาท้องถิ่นในการทำเกษตรไทย ตรงนี้จะเป็นการเสริมให้มีทิศทางเดินไปในจุดที่เราอยากจะเห็น

    วันนี้ยอดส่งออกของเราทั้งๆ ที่บาทแข็ง แต่เขาไปวิเคราะห์มาเลเซียในช่วงที่สกุลเงินเขาแข็ง ถ้าเปรียบเทียบกับสกุลเงินอื่น แต่การส่งออกเขาตก ตรงกันข้ามการส่งออกของเราขึ้นเพราะสินค้าของไทยในเวลานี้มีความหลากหลาย การที่มนุษย์ในยุคที่ 3 เป็นมนุษย์ที่ทำงานกับเครื่องจักร จึงต้องการมีความรู้สึกที่เป็นมนุษย์ เราต้องผลิตนักศึกษาตามความต้องการของตลาดแรงงาน ต้องมองทิศทางประเทศไทยว่ากำลังเปิดเขตการค้าเสรี แสดงว่าจะมีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงในประเทศไทยจำนวนมาก เรากำลังส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก สิ่งที่สำคัญคือต้องรู้ภาษาอังกฤษ อินเทอร์เน็ต และวัฒนธรรม ซึ่งต้องเข้าใจวัฒนธรรมของต่างชาติด้วย ระบบการศึกษาต้องคำนึงถึงเรื่องนี้

    การบริหารในประเทศกำลังเกิดการกระจายอำนาจ จากส่วนกลางสู่ภูมิภาค และกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ต้องมียุทธศาสตร์ การพัฒนาในภูมิภาคจะเข้มแข็งขึ้น รัฐบาลกำลังดึงส่วนชนบทเข้าสู่เมือง ระบบการศึกษาจะต้องรู้ว่าจะผลิตอย่างไร ค่าใช้จ่ายเรื่องมนุษย์ราคาถูก ที่ราคาแพงก็ตรงโครงสร้าง พวกชักเปอร์เซ็นต์ฮั้ว วันนี้ที่ลงทุนไม่ได้ก็เพราะมันติดฮั้วหมด “เดี่ยวจะไปลงทุนจะสร้างโน่นสร้างนี่ จะสร้างอะไรปุ๊ปนี่นะ โอ้โหนี่ ถ้าซีใหญ่ต้องตึกใหญ่ นั่งตึกเล็กมันป่วย” นี่ถ้าเราลดรูปแบบลงนะ แล้วไปเพิ่มเนื้อหาสาระได้เมื่อไร ประเทศไทยจะเจริญกว่านี้เยอะ ประเทศไทยเสียตังค์ค่ารูปแบบมาเยอะมาก ทุกเรื่องมีแต่รูปแบบ เนื้อหาสาระหาไม่ค่อยเจอ ไปทำอะไรก็มีแต่พิธีกรรม เข้าวัดมีพิธีกรรมแต่ไม่ได้ธรรมะออกมา

    กระทรวงศึกษาธิการต้องมีความชัดเจนมากกว่านี้ ร่วมกับสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กำหนดว่าต่อไปนี้จะผลิต และมีแผนว่าจะผลิตวิศวกรจำนวนเท่าไร ในกี่ปีข้างหน้า และผลิตนักการตลาดเท่าไร เราจะมองดูกัน สิ่งที่คุณจะผลิตเองอย่างอื่นเชิญตามสบายไปหาเงินเอาเอง รัฐบาลจะดูในสิ่งที่ผลิตออกมาและเป็นประโยชน์ต่อสังคม ต่อไปมหาวิทยาลัยจะอิสระขึ้น มานั่งมองมุมแคบทางการศึกษา ซึ่งต้องทำหลายอย่าง หลักสูตรต้องเปลี่ยนตำราเรียนต้องเปลี่ยน วิธีการเรียนการสอนต้องเปลี่ยน และจะเปลี่ยนอย่างไรนั้น พรุ่งนี้ไม่เสร็จหรอก มันไม่ได้สั่งซ้ายหันขวาหัน ที่เราพังไม่ได้พังเพราะเป็นรุ่นใหม่แล้วจะเอาคืนในช่วงข้ามคืนเป็นไปไม่ได้ มันต้องใช้เวลาไม่ได้ออกกฏหมายฉบับเดียว “เฮ้ผมปฏิรูปการศึกษาเสร็จแล้ว ตบมือให้ตัวเองมันไม่ใช่ “ ยังอีกยาว เปลี่ยนวิธีคิด คนเนี่ยปัญหาใหญ่มาก




    คิดเป็นและคิดได้ดีอย่างนี้ ผมเองอดรักไม่ได้จริงๆครับ เหตุที่นำเรื่องนี้มาลงในนี้ เพราะว่ามีเพื่อนถามผมว่า ทำไมชอบทักษิณ ผมเองมีคำตอบ 108 อย่าง วันนี้ก็ขอนำมาลงหนึ่งอย่างก่อนละกัน

    ขอบคุณที่เสียสละเวลาเข้ามาอ่านครับ

    จากคุณ : chiangraiplus - [ 16 ส.ค. 49 07:22:10 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com