CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ฝรั่งคู่ความ"แม้ว"เตือน ผู้นำควรซื่อสัตย์

    เอาข่าวมาฝากครับ

    ฝรั่งคู่ความ"แม้ว"เตือน ผู้นำควรซื่อสัตย์

    บินถึงไทยตามคดี"ไอบีซี" ยอมถอนถ้าจ่ายหมื่นล้าน



    ฝรั่งคู่กรณี"ทักษิณ"ปัดข่าวเกี๊ยะเซียะคดี ยืนยันไม่เคยมีติดต่อเจรจาตั้งแต่ปี 2537 แบะท่าพร้อมยอมความ อ้างสูญเสียโอกาสการลงทุน หลังเกิดคดีฟ้องร้อง"ไอบีซี" หมื่นกว่าล้าน ฟื้นอดีตบุกเบิกเคเบิลทีวีในไทย คุยใช้เงินทำวิจัยเป็นล้านดอลลาร์ "แม้ว"รวยแต่ตัวเองกลับจน

    ความคืบหน้าในคดีนายวิลเลี่ยม ไลล์ มอนซัน ชาวอเมริกันวัย 63 ปี ผู้บริหารบริษัท ซีทีวีซี ออฟ ฮาวาย จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจเคเบิลทีวี สหรัฐอเมริกาเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับพวกในความผิดฐานร่วมกันแจ้งความเท็จ ฟ้องเท็จ และเบิกความความเท็จต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลจะนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 18,25 กันยายน และวันที่ 2,9 ตุลาคม โดยนัดฟังคำสั่งว่าจะรับคดีไว้พิจารณาหรือไม่ในวันที่ 16 ตุลาคม และคดีผิดสัญญาซื้อขาย ยืม ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 11 กันยายน

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมอนซัน เดินทางมาประเทศไทยอีกครั้งเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีและได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยนายมอนซันกล่าวถึงกรณีที่มีข่าวระบุ พ.ต.ท.ทักษิณ ส่งคนมาเจรจาเพื่อชดใช้ค่าเสียหายแลกกับถอนคดีว่า ได้พบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2537 หลังจากนั้นไม่เคยมีการติดต่อกันอีกเลย ดังนั้นข่าวที่เกิดขึ้นจึงเป็นเพียงข่าวลือ

    ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการเจรจายอมชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจะยินดีถอนคดีหรือไม่ นายมอนซันกล่าวว่า ขอเรียนว่าชื่นชอบเมืองไทย แต่งงานกับคนไทยและมีลูกด้วยกันสองคน อยากเห็นสังคมไทยมีความเป็นธรรม ผู้นำควรจะเป็นคนซื่อสัตย์ แต่ในขณะเดียวกัน ในฐานะเป็นนักธุรกิจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้สูญเสียโอกาสการลงทุน

    "พ.ต.ท.ทักษิณ รวยขึ้นแต่ผมกลับจนลง แน่นอนว่าที่ผมฟ้องร้องก็เพราะต้องการเงิน แต่เพื่อชดเชยกับความเสียหายในอดีตที่ผ่านมา ถ้าหากจะมีการเจรจายอมความกัน ทนายความของผมจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าทางใดดีที่สุดและคำนึงถึงสิ่งที่สังคมไทยต้องการด้วย" นายมอนซันกล่าว

    ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้คำนวณความเสียหายที่เกิดขึ้นหรือไม่ นายมอนซันกล่าวว่า ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ แต่ระหว่างการฟ้องร้องเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ถ้าประเมินมูลค่าของบริษัทไอบีซี ณ ขณะนั้นประมาณ 700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 28,000 ล้านบาท) ในฐานะที่ริเริ่มดำเนินการกับบริษัทไอบีซี ควรจะได้รับส่วนแบ่ง 40เปอร์เซ็นต์ (ราว 11,200 ล้านบาท)

    "ผมปลุกปั้นจากธุรกิจเล็กๆ จนใหญ่โต ขยายกิจการไปทั่วริมฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ใช้เงินเป็นล้านดอลลาร์ในการทำวิจัย เป็นผู้บุกเบิกธุรกิจด้านเคเบิลทีวี เมื่อผมรู้จักกับคุณทักษิณ ผมเอาแผนการลงทุนทางธุรกิจทั้งหมดมาวางบนโต๊ะ คุณทักษิณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ผมเคยให้ทนายถามคุณทักษิณว่า ก่อนพบผม คุณรู้เรื่องเกี่ยวกับเทคโนโลยีโทรคมนาคมบ้างมั้ย คุณทักษิณบอกว่ารู้เรื่องเคเบิลทีวีเมื่อตอนอยู่มหาวิทยาลัย" นายมอนซันกล่าว

    ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นผู้มีอำนาจมาก มีความมั่นใจแค่ไหนว่าจะชนะคดี นายมอนซันกล่าวว่า ไม่ได้มองว่าต่อสู้กับ พ.ต.ท. ทักษิณ เพราะเป็นไปไม่ได้ แต่ต่อสู้กับกับสิ่งที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ได้ทำกับตนต่างหาก

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายมอนซัน เริ่มก่อตั้งบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง คอร์ปอเรชั่น หรือที่รู้จักในชื่อไอบีซี เคเบิลทีวี (ก่อนจะควบรวมกับยูทีวีในเครือเจริญโภคภัณฑ์ กลายเป็นยูบีซีในปัจจุบัน) และเป็นเจ้าของบริษัท ซีทีซี อ๊อฟฮาวาย ประกอบกิจการเคเบิลทีวีในสหรัฐอเมริกา รู้จักกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะนายประมุท สูตะบุตร ผู้อำนวยการ อ.ส.ม.ท. ในขณะนั้น (ปี 2529) เป็นผู้แนะนำ จนทั้งสองตกลงเป็นหุ้นส่วนร่วมกันจัดตั้งบริษัท วีดีโอลิ้ง เพื่อทำธุรกิจเคเบิลทีวี

    ทั้งสองฝ่ายทำสัญญาตกลงกันว่าจะให้บริษัท ไอบีซี ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณเป็นประธาน เป็นผู้ขออนุญาตคลื่นความถี่จากกรมไปรษณีย์โทรเลข แล้วโอนสิทธิให้บริษัทวีดีโอลิ้งดำเนินการ เมื่อได้รับใบอนุญาตแล้วจึงนำเข้าอุปกรณ์จากสหรัฐอเมริกาในนามบริษัท วีดีโอลิ้ง ทดลองออกอากาศอยู่ 3 เดือน ปรากฏว่าคณะรัฐมนตรีรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ มีมติระงับการออกอากาศ ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณถอดใจ ขายหุ้นบริษัทวีดีโอลิ้งให้แก่นายมอนซัน

    จนกระทั่งปี 2532 สมัยรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ บริษัทไอบีซีของ พ.ต.ท.ทักษิณสามารถขอสัมปทานเคเบิลทีวีจาก อ.ส.ม.ท.ในยุค ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลโดยมีเงื่อนไขว่าจะส่งมอบอุปกรณ์ต่างๆ ที่นำเข้ามาตั้งแต่ปี 2529 ให้แก่ อ.ส.ม.ท.

    ต่อมาทั้งสองฝ่ายฟ้องร้องต่อกันโดยยื่นฟ้องรวม 5 คดี คดีแรก นายมอนซันฟ้องไอบีซีและ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าผิดสัญญาที่ไม่โอนสิทธิในการดำเนินการเคเบิลทีวีให้วีดีโอลิ้ง แต่ศาลชั้นต้นยกฟ้อง โจทก์ไม่อุทธรณ์

    คดีที่สอง บริษัท ไอบีซี แจ้งความดำเนินคดีนายมอนซันและพวก กล่าวหาว่ายักยอกทรัพย์ที่ สน.ทองหล่อ เพราะไม่ยอมคืนอุปกรณ์สื่อสารที่นำเข้าในนามบริษัท วีดิโอลิ้ง ทั้งสามศาลสั่งยกฟ้อง (คดีดำเลขที่ 7519/2532 และเลข 11790/2533) ว่านายมอนซันไม่มีเจตนายักยอก แต่เป็นการพิพาทกันในเรื่องสัญญาซื้อขาย ซึ่งเป็นเรื่องทางแพ่ง

    คดีที่สาม เมื่อศาลยกฟ้องในคดียักยอกทรัพย์ บริษัท ไอบีซี จึงฟ้องนายมอนซันกับพวกในทางแพ่งในเรื่องผิดสัญญาซื้อขายและสัญญายืม (คดีดำที่ 11169/2537 และคดีแดงที่ 5387/2544) เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2537 ปรากฏว่าศาลแพ่งกรุงเทพใต้และศาลอุทธรณ์สั่งยกฟ้อง (เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2547) เพราะนายมอนซันมีสัญญาซื้อขาย ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา

    คดีที่สี่ หลังจากที่ศาลยกฟ้องนายมอนซันคดียักยอกทรัพย์แล้ว ในปี 2538 นายมอนซันได้ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณและพวกต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ในข้อหาแจ้งความเท็จ ฟ้องเท็จและเบิกความความเท็จ (คดีดำที่ 3200/2538) แต่ศาลมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีไว้ชั่วคราวเพื่อรอผลคดีผิดสัญญาซื้อขาย ยืม (คดีที่สาม) จนกระทั่งเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2549 นายมอนซันจึงขอให้ศาลนำคดีขึ้นมาพิจารณาใหม่ ปรากฏว่าศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 18,25 กันยายน 2,9 ตุลาคม และนัดฟังคำสั่งว่าจะรับคดีไว้พิจารณาหรือไม่ในวันที่ 16 ตุลาคม 2549

    คดีที่ห้า นายมอนซันยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้อีกคดี ในข้อหาเบิกความเท็จในข้อสำคัญแห่งคดีในคดีผิดสัญญาซื้อขาย ยืม (คดีที่สาม) ในหลายประเด็นโดยมีความประสงค์ว่า ตนเองยังเป็นเจ้าของอุปกรณ์สื่อสาร ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 11 กันยายน 2549

    หน้า 1

    http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01p0108180849&day=2006/08/18

    จากคุณ : aon_micro - [ 18 ส.ค. 49 21:33:19 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com