อำนาจเป็นสิ่งหอมหวานแทรกซึมเข้าทุกอณูของร่างกาย จนทำให้คนมีอำนาจนั้นแสดงพฤติกรรม คิด และ ทำ โดยขาดความยับยั้งชั่งใจ
อาการนี้หลายคนบอกว่าท่านทักษิณเป็นหนัก โดยเฉพาะฝ่ายที่ต่อต้านท่าน
มาบัดนี้ ชะตากรรมกลับตารปัตร คนที่ต่อต้านท่านทักษิณได้เข้ามามีอำนาจบ้าง และเรากำลังจะได้เห็นพัฒนาการของการหลงอำนาจของคนอีกกลุ่มหนึ่ง
ตามที่ได้ประกาศให้สาธารณะชนทราบ เป้าหมายหนึ่งของการปฏิรูปคือการสร้างความสมานฉันท์ ภาระนี้ก็ถือเป็นภาระหนึ่งของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ก็ต้องยอมรับว่า บ้านเมืองเรานั้นแตกแยก แบ่งเป็นสองขั้วอย่างชัดเจนก่อนเกิดการปฏิรูป แม้แต่คนในคณะปฏิรูป ยังกล่าวว่า อาจจะมีการนองเลือดเกิดขึ้นได้ ถ้าไม่ทำการยึดอำนาจ
คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบัน มาจากการคัดเลือกของคณะบุคคลนั้น ซึ่งมีอำนาจเหนือประชาชนธรรมดาอย่างเราท่าน รัฐบาลก็ควรจะสนองตอบเจตนารมณ์ของการปฏิรูป นั่นคือ ต้องสร้างความสมานฉันท์ให้กับประเทศของเรา
แต่ลองฟังท่าน(ผมไม่ขอเรียกท่านว่าอาจารย์ เพราะท่านทำตัวไม่น่ารัก ไม่เหมาะสมเป็นอาจารย์ในความคิดของผม)ธีรภัทร กลับทำปากบิดเบี้ยว (ลองไปดูเทปได้ ปากเบี้ยวจริงๆนะครับ) กระแนะกระแหน รัฐบาลที่อยู่ครบเทอม (มีกี่รัฐบาลในประวัติศาสตร์ประเทศไทย ที่อยู่ครบเทอม) ว่าไม่มีผลงาน แถมยังสร้างความเสียหายให้กับประเทศในระยะยาว
ผมอยากให้ท่านนายกสุรยุทธ์ เรียกท่านธีรภัทร เข้าไปตักเตือนสักหน่อยว่า ถ้าจะสร้างความสมานฉันท์ให้กับประเทศ ก็ไม่ควรจะไปโจมตีคณะรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญโดยประชาชนสิบกว่าล้านคน
ถึงท่านจะอยู่อีกขั้วอย่างเห็นได้ชัด อย่างน้อย การให้สัมภาษณ์อะไรก็ควรจะมีความยับยั้งชั่งใจหน่อย ทำตัวให้สมกับคนที่คนอื่นเรียกว่าอาจารย์ หมวกที่ท่านสวมในฐานะรัฐมนตรีของคณะปฏิรูป เพื่อความสมานฉันท์ มันคนละหมวกกับเมื่อครั้งที่ท่านไม่ได้มีตำแหน่งใหญ่โต แล้วกล่าวในฐานะคนธรรมดาคนหนึ่ง
จากคุณ :
อวิรุืทธ์ 
- [
21 ต.ค. 49 22:27:42
A:125.25.152.70 X:
]
ท่านธีรภัทร กับอาการหลงอำนาจขั้นที่หนึ่ง
