ความคิดเห็นที่ 42
#34 ผมว่าโครงการกรุงเทพเมืองแฟชั่น เป็นโครงการที่ปัญญาอ่อนที่สุดโครงการหนึ่งของรัฐบาลที่แล้วเลย การจะส่งเสริมอะไร ผมว่ามันต้องดศักยภาพตัวเองก่อนว่ามีเพียงพอที่น่าจะส่งเสริมรึเปล่า ถ้ายังไม่เพียงพอ มันก็เป็นการเอาเงินมาให้นักการเมืองเอาไปถลุงเปล่าๆ ปลี้ๆ เพื่อให้มีโครงการขึ้นมากินกันของตัวเองและพวกพ้องเท่านั้น
-ผมคิดว่าไทยมีศักยภาพพอครับ ถ้าเกิดเราทำจริงๆ ส่วนเรื่องนักการเมือง ผมว่าแล้วแต่จิตสำนึกครับ ถ้ามองว่านักการเมืองจะเอาเงินมาถลุง ก้อสุดแล้วแต่ครับ คืออยากให้เริ่มตั้งแต่จุดเล็กๆ ครับ จริงอยู่โครงการของรัฐบาลชุดก่อนมองไกล และฝันไกลไป แต่ผมเชื่อในจุดประสงค์และความต้องการ ยกระดับครับ ประเด็นคือจะทำอย่างไรจะให้แข่งขันในระดับเอเชีย หรือ เป็นผู้นำในอาเซี่ยนได้ เลยจุดประกายเรื่อง กรุงเทพเมืองแฟชั่น เพื่อเป็นการกระตุ้นให้หลายภาคส่วนหันมาสนใจในแฟชั่น แต่ก้ออย่างว่าครับ ผมก้อคิดว่าโครงการเพิ่งเริ่มและมาอยู่ในช่วงที่มีแต่เรื่อง แต่ราว อะไรๆ มันก้อเลยดูไม่ค่อยเป็นรูปเป็นร่างอย่างที่ควรจะเป็นซักเท่าไหร่
ถ้าเป็นโครงการครัวไทยไปครัวโลกน่ะ ผมยังเห็นว่าประเทศเรามีศักยภาพเพียงพอ และมีความเป็นไปได้ แต่ไอ้กรุงเทพเมืองแฟชั่นนี่เรายังไปไม่ถึงหรอกครับ ดูรสนิยมคนในประเทศเราก่อนก็แล้วกัน ผมว่าคนไทยเป็นชนชาติที่แต่งตัวไม่ได้เรื่องเอาเลย ถ้าพวกเมืองแฟชั่นจริงอย่างปารีส มิลาน นิวยอร์ค แม้แต่โตเกียว คนในเมืองเหล่านี้ส่วนมากมักจะแต่งตัวดูดีกันทั้งนั้น ที่สำคัญ เมืองแฟชั่นชั้นนำเหล่านี้มักจะอยู่ในประเทศที่เจริญแล้ว เมื่อคนในประเทศมีกินมีอยู่สบาย มีการศึกษา เขาถึงจะหันไปสนใจเรื่องสวยๆงามๆ ความมีรสนิยม ซึ่งเป็นสิ่งจรรโลงใจ แต่ไม่ใช่สิ่งจำเป็นในชีวิต เมื่ออยู่แต่ในสังคมที่มีรสนิยม คนในสังคมนั้นก็มักจะมีรสนิยมที่ดีตามไปด้วยเมื่อได้เห็นสิ่งสวยๆ งามๆ มาตลอด ก็จะทำให้ยิ่งมีความคิด มีแรงบันดาลใจ ที่จะสร้างสรรค์สิ่งสวยๆงามๆ ออกมา
แต่ประเทศที่ประชาชนส่วนมากยังจนดักดาน อดมื้อกินมื้อ กินข้าวเหนียวจิ้มปลาร้า แค่เวลาจะทำมาหากินให้มีชีวิตรอดไปวันๆ ก็แทบไม่มีแล้วจะเอาหัวสมองที่ไหน ไปคิดเรื่องสวยๆงามๆ ที่ไม่ใช่สิ่งจำเป็นในชีวิตครับ
-ตรงนี้ผมไม่เห็นด้วยน่ะครับ มันขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถจะสร้างจุดขายอย่างไร ใช้ประโยชน์เมืองต่างๆ ที่เจริญแล้วอย่างไร ไม่จำเป็นว่าต้องให้เป็นแฟชั่นทั้งประเทศ หรือทั้งจังหวัด อย่างเช่น อาเจนติน่า และ บราซิล ประชาชนในประเทศก้อจัดว่าไม่ได้เป็นประเทศที่เจริญและมั่งคั่งอะไร แต่เขาสามารถส่งเสริม แฟชั่นในประเทศของเขาให้อยู่ในระดับหัวแถวชั้นนำได้ ทุกวันนี้ บูโนสไอเรส แฟชั่นวีค, ริโอ แฟชั่นวีค มีชื่อเสียงมากครับ ส่วนหนึ่งก้อเป็นเพราะเขาส่งเสริมอย่างจริงๆ จังๆ มีการเปิด อาคาเดมี่ และ จับมือกับ FTV เพื่อปั้นนางแบบชั้นนำ ตอนนี้ฟิลิปินส์ กำลังทำอยู่ และก้อเช่นกันสถานะของฟิลิปินส์ จะว่าไปแล้วประเทศไทยของเรายังมีศักยภาพเหนือกว่าด้วยซ้ำ แต่ในกรณีของไทย ผมมองว่ายังเป็นช่วงเพิ่งเริ่มต้น และยังขาดความรู้และการบริหารจัดการแบบบูรณาการ ซึ่งผมก้อไม่แน่ใจนักว่าตอนนี้โครงการเป็นอย่างไร ทำไปถึงไหน และมีภาคส่วนไหนบ้างที่ร่วมมือกันทำและส่งเสริม และส่วนเรื่องรสนิยมและความสนใจของคนในชาติ ก้อต้องไล่กันไปเป็นกลุ่มๆ ไปครับ ขึ้นอยู่กับว่าศักยภาพของการส่งเสริมดีแค่ไหน การโปรโมท การทำความรู้ความเข้าใจ การอุดหนุน งบประมาณต่างๆ ถ้าทั่วถึง ประชาชนในประเทศก้อหันมาสนใจกันเองครับ และอยากให้จับตากระแส เอเชียอย่าง จีน,ฮ่องกง,เกาหลี,เวียดนาม, อินเดีย ตอนนี้ประเทศเหล่านี้ก้อพยายามจะงัดจุดเด่นและเอกลักษณ์ของคนในชาติตัวเอง มาเป็นจุดขาย ตอนนี้ให้สังเกตุดูง่ายๆ ครับ เวลาชาติต่างๆ เหล่านี้มีงานสำคัญๆ ระดับชาติ มักจะมีการนำเอาการเดินแฟชั่นโชว์ มาร่วมด้วยตลอด
แม้กระทั่งพวกดีไซเนอร์ที่พูดกันว่าเป็นดีไซเนอร์ระดับชั้นนำของเมืองไทย ก็มักจะก็อปงานเมืองนอกมา ไม่ค่อยมีหัวคิดที่จะสร้างสรรค์ผลงานด้วยตัวเอง
-อันนี้เห็นด้วยในบางส่วน และค่านิยมของคนไทยก้อเป็นอย่างนั้นจริงๆ เอาเร็วเอาสะดวกเข้าว่า แต่ก้ออย่างที่ว่าไปครับ จะทำอย่างไรให้คนไทยหันมาสนใจ และเล็งเห็นความสำคัญของรูปแบบไทยๆ ที่ต่างชาติสนใจอยู่ จะทำอย่างไร ที่จะนำจุดเด่นเหล่านั้นใส่ลงไปในผลิตภันฑ์แฟชั่น ให้เกิดเป็นที่โด่งดัง และแพร่หลายไปทั่วโลก ทั้งนี้ต้องเร่งปลูกฟังเรื่องค่านิยม เอกลักษณ์แบบไทยๆ ใส่ลงไปในตำราเรียนให้มากๆ ซึ่งปัจจุบันก้อเป็นเรื่องจริง ที่ความเป็นไทย คนไทยมักมองข้าม มักให้ความสำคัญและสนใจกับตะวันตก หรือญี่ปุ่น เกาหลี มากกว่า
และผมก็งงว่าไอ้กรุงเทพเมืองแฟชั่นมันจะจับตลาดแฟชั่นระดับไหนครับ ระดับสูงเหรอเพราะเห็นไอ้งานเดินแบบกลางถนนที่เคยจัดนั่นมันออกจะเป็นแนวนั้นนะ ถ้าจะจับตลาดระดับนี้ขอบอกครับว่ายากมากๆ ขนาดห้องเสื้อระดับสูงชั้นแนวหน้าของโลกหลายรายยังต้องงดจัดงดทำแฟชั่นระดับโอ๊ตกูตูร์แล้ว เพราะสิ้นเปลืองมาก ลูกค้าที่ซื้อเสื้อผ้าระดับนี้ก็ลดลงจนน่าใจหายมีอยู่ไม่กี่แห่งอย่างวาเลนติโน่ ดิออร์ ชาแนล ลาครัวซ์ที่ยังต้องจัดต้องทำอยู่เพื่อรักษาอิมเมจของความเป็นสุดยอดห้องเสื้อระดับโอ๊ตกูตูร์เอาไว้
- ประเด็นนี้ ยังไม่ชัดเจน ผมก้อยอมรับด้วยความจริงใจว่า ผมก้องง ถึงวิธีการจัดการ กรุงเทพเมืองแฟชั่น อยู่ว่ามีการส่งเสริมในทางด้านใดบ้าง ซึ่งก้อรวมไปถึง ระดับต่างๆ ก้ออย่างที่บอกไปครับ ต้องยอมรับว่าช่วงเทอมหลังของรัฐบาลก่อน ปัญหาเยอะจริงๆ ครับโดนทุบ โดนตีซ่ะน่วม โครงการรองๆ ที่เพิ่งเริ่มและยังไม่สามารถนำมาเป็นจุดขายได้ ก้อพลอยถูกลดบทบาทและความสำคัญไปด้วย
ปล.ผมส่งเสริมให้มีการวางนโยบายแบบบูรณาการ มีการจับมือกับผู้จัดแฟชั่น ชั้นนำในการขอคำแนะนำและความร่วมมือในหลายๆ ด้านอย่างเช่นที่ฟิลิปินส์ กำลังทำอยู่ เอาเริ่มต้นเลยควรมีอาคาเดมี่ ที่ได้มาตราฐาน และครบวงจร และอื่นๆ ที่ผมก้อไม่สามารถแนะนำเพิ่มเติมได้อีกเพราะว่าผมก้อไม่ใช่คนวงการนี้ แต่ก้อสนใจมาตลอด
แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 49 21:46:32
แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 49 21:45:45
แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 49 21:41:51
แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 49 21:38:29
จากคุณ :
::Sholl::
- [
18 พ.ย. 49 21:37:37
A:203.113.67.101 X:
]
|
|
|