สะท้านพิภพ
ตอนที่ 1 เสือลำบาก
ขณะที่ตนเองนำกองกำลังนักรบและผู้ติดตามจำนวนหนึ่ง เดินทางเข้าร่วมประชุมกับสุดยอดเจ้าสำนักโลกที่เมืองมาริเกอยู่นั้น พลันก็ได้ทราบข่าวถึงความเปลี่ยนแปลงในแคว้นไทไท ซึ่งเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของตน เมื่อเกิดการยึดอำนาจเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองในแคว้นไทไทขึ้นใหม่ โดยกลุ่มมือปราบเก่าแก่กลุ่มเดิมๆ ที่มีชื่อเรียกขานอย่างไม่เป็นทางการว่า กลุ่มมือปราบไร้ธรรม ซึ่งอยู่ภายใต้การชักใยและสั่งการของขันทีในราชสำนักนั่นเอง การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก ถ้าเปรียบถึงเรื่องราวที่เคยประสบมาในอดีตมิอาจทัดเทียม สินทักมิอาจข่มใจให้เยือกเย็นได้ ด้วยความคิดที่จะปกป้องราชสำนักและฮ่องเต้ สินทักได้ตัดสินใจที่จะกอบกู้สถานการณ์ที่ตกเป็นรองโดยเร่งรีบ ใจหนึ่งก็คิดห่วงใยอ่องเต้ ที่มีอายุมากและมีสุขภาพไม่ค่อยดีนัก ใจหนึ่งก็ห่วงข้าทาสบริวารคนใกล้ชิด เหตุเพราะว่า
การกระทำของกลุ่มมือปราบไร้ธรรมนั้น โหดเหี้ยม และไร้ใจยิ่งนัก สินทักจึงสั่งกองกำลังที่เหลืออยู่ ให้เดินทางกลับเข้าเมืองไทไททันที แต่ด้วยกำลังที่น้อยกว่า สินทักไม่สามารถนำกำลังบุกเข้าเมืองได้โดยง่าย สินทักได้แต่นำกำลังส่วนหนึ่งรวนเร เร่ร่อนไปตามรอบพระนครอย่างไร้จุดหมาย คิดไม่ตกว่าจะแก้ไขสถานการณ์ประการใด
ภายในเมืองนั่นเล่า เหล่าข้าราชการกังฉิน และนักวิชาการที่สิ้นคิด เมื่อเห็นกองกำลังของกลุ่มมือปราบไร้ธรรม เข้าโจมตีเมืองหลวงเพื่อหวังเปลี่ยนแปลงการปกครอง ก็รู้สึกดีใจเป็นยิ่งนัก เห็นโอกาสที่พวกตนจะได้เป็นใหญ่อีกครั้ง ทั้งเห็นเป็นโอกาสดี ที่จะได้แก้แค้นสินทัก ที่ทำลายพวกตนให้หมดความสำคัญในครั้งก่อน จึงพากันออกมาสนับสนุนกลุ่มมือปราบไร้ธรรม อย่างพร้อมเพียงและออกหน้าออกตา นับได้กว่า 242 คน ทั้งยังระดมลูกน้องเก่า ทั้งเพื่อนร่วมกินและได้เสียกันทางผลประโยชน์เมื่อครั้งอดีต ก่อการเป็นแนวร่วมกับกลุ่มมือปราบไร้ธรรมอย่างเป็นล่ำเป็นสัน เพื่อหวังว่าการกระทำในครั้งนี้ จะช่วยยกระดับของตนให้กลับเข้ามาในวังวนแห่งอำนาจได้ดั่งเช่นในอดีตที่ผ่านมา จนกองกำลังรักษาพระนครไม่อาจที่จะต้านทานได้ การสิ้นสุดการปกครองในแคว้นไทไท จึงเป็นไปตามจุดหมายของกลุ่มมือปราบไร้ธรรมอย่างไม่ยากเย็นนัก ในขณะเดียวกันรอยยิ้มที่เกิดบนใบหน้าของนักฆ่าผมขาว ที่ปรากฏให้เห็นนั้น น่าที่จะต้องจดจำไปนานเท่านาน รอยยิ้มเช่นนี้มีไม่มากคนนักที่จะทำได้ ที่เห็นได้ชัดๆน่าจะไม่เกิน 3 คนเท่านั้นในพื้นพิภพ หนึ่งคือนักฆ่าผมขาว ฉายาขันทีสุดขอบฟ้า หนึ่งคือนักวาดภาพ ฉายาสุนัขคาบกระดูก หนึ่งคือจอมลวงโลกคนจน ฉายา 5 ขัน
สินทักเมื่อเห็นดังนั้นจึงเสียใจเป็นอันมาก ทำอะไรไม่ได้ จึงจัดส่งยอดฝีมือเข้าไปยังภายในพระนคร เพื่อรับอิดกุให้ออกมาร่วมมือกัน เพื่อทำการต่อต้านพวกกบฏ แต่ในยามนั้นอิดกุซึ่งแก่ตัวมากแล้ว การกระทำใดๆย่อมไม่รวดเร็วและรังจะเป็นการทำให้ทุกอย่างติดขัดมากไปกว่าที่ควร และทั้งยังไม่อยากให้คนรุ่นหลังนำไปพูดและถูกตราหน้าได้ว่า ตนนั้นทอดทิ้งฮ่องเต้ในยามคับขัน จึงตัดสินใจบอกแก่ยอดฝีมือ ให้กลับไปบอกกับสินทักด้วยว่า การที่เราจะหนีเอาตัวรอดนั้นไม่ควร ถึงจะตายก็ขอเอาความชอบธรรมไว้เป็นเยี่ยงอย่างในภายภาคหน้า และขอให้สินทักนำเนื้อความเหล่านี้ออกไปบอกกับหัวเมืองทั้งปวงว่า เราขอคำนับไปด้วย และบัดนี้เกิดเหตุร้ายขึ้นในเมืองหลวง ให้หัวเมืองทั้งหลาย ตั้งใจทะนุบำรุงแผ่นดิน และยกกองทัพมาช่วยกำจัดศัตรูของราชสมบัติโดยเร็ว สินทักเมื่อได้ทราบข่าวแล้วก็มีความเสียใจเป็นอันมาก สั่งให้กองกำลังถอยห่างออกจากพระนคร เพื่อหาทางแก้ไขสถานการณ์ต่อไป
ความวุ่นวายต่างๆมีไม่มากนักในการเปลี่ยนแปลงการปกครองในครั้งนี้ เหตุเพราะว่าผู้คนส่วนใหญ่ ยังคงให้ความสำคัญกับความรู้สึกของเจ้าผู้ครองนครไทไท เป็นอันดับต้นๆ ต่างพยายามอดทนและรอคอยปรากฏการณ์จากฟ้า แต่การเข้าถึงพระราชวังชั้นในยังคงทำไม่ได้เช่นกาลก่อน เหล่าพสกนิกรจำนวนมาก ยังคงวิตกกังวลกับความเปลี่ยนแปลง ว่าจะสร้างความเสียหายให้เกิดกับสถาบันหลักอันเป็นที่รักและเถิดทูนของตน แต่กลุ่มมือปราบไร้ธรรม ก็ยังคงกองทหารไว้เป็นจำนวนมากโดยรอบพระนคร และอ้างว่าตนเองต้องการอารักขาความปลอดภัยให้กับท่านเจ้าเมือง และแล้วความตกต่ำก็เริ่มเข้าครอบงำแคว้นไทไทอีกครั้ง เมื่อกลุ่มมือปราบไร้ธรรมมีความคิดที่จะยึดอำนาจในทางทหารและการปกครองเข้าไว้ในกลุ่มของตนอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เริ่มจากการส่งกองกำลังของตนเข้ารับราชการในกองกำลังรักษาพระนคร ส่วนกองกำลังรักษาพระนครเดิมที่เข้าสวามิภักดิ์ ก็ยังคงให้รับราชการต่อไปในตำแหน่งหน้าที่เดิม ครั้นยึดกองกำลังรักษาพระนครได้แล้ว กลุ่มมือปราบไร้ธรรม กลับฮึกเหิมที่จะทำการใหญ่ต่อไปอย่างไม่หยุดหย่อน จากการที่พวกตนได้กลายมาเป็นคณะผู้บัญชาการอย่างเต็มตัวนั้น ทำให้ช่องทางในการสืบทอดอำนาจมีมาอย่างไม่ขาดสาย มารู้สึกตัวอีกทีก็ในตอนที่ตนเองได้กลายมาเป็นคณะรัฐประหารอย่างเต็มตัวแล้ว
คนหนึ่งประมาทเลินเล่อจนอำนาจการปกครองหลุดลอยไปจากมือ แต่กับอีกกลุ่ม ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงเพียงเพื่อไม่ให้พวกตนถูกตอนเข้ามุมอับ และบังเอิญได้อำนาจรัฐเข้ามาอยู่ในปกครอง ดูเหมือนประหนึ่งว่าฟ้านั้นไร้กฎเกณฑ์ แต่แท้จริงแล้วนี่เป็นปรากฏการณ์จากฟ้า นี่เป็นกฎเกณฑ์จากฟ้า เนื่องเพราะกฎเกณฑ์ของฟ้า ไม่สามารถคิดคำนวณได้ ไม่ว่าจะใช้หลักการใดๆ ไม่ขึ้นต่อกฎเกณฑ์ของตรรกะ ไม่ขึ้นต่อเจตจำนงของประชาชน แต่ใครเล่าจะเข้าถึงกฎเกณฑ์ของฟ้า
กลุ่มมือปราบไร้ธรรม เมื่อได้อำนาจการปกครองเข้ามาอยู่ในมือแล้ว กลับคิดการณ์ใหญ่ต้องการล้มล้างราชวงศ์ ต้องการตั้งระบอบการปกครองโดยการตั้งสภารัฐประหาร แต่มีบ้างบางคนในกลุ่มผู้ก่อการที่ไม่เห็นด้วย จึงมีการทัดทานไว้ และมาลงตัวที่ยังคงขอให้มีการปกครองในระบอบสภารัฐประหาร ที่พวกตนแต่งตั้งคนเข้ามาทำหน้าที่ทั้งหมด อนิจจาแคว้นไทไท จำต้องยอม เหล่าขันทีเลวที่ชักใยอยู่เบื้องหลังกลุ่มผู้ก่อการเอง ก็เห็นด้วยกับแนวความคิดนี้ ล้มล้างสถาบันสูงสุดทำไม่ได้ เพราะประชาชนคนทั่วไปยังคงเคารพและเถิดทูนสถาบันอยู่เป็นจำนวนมาก จำต้องเข้าเฝ้าเพื่อทูลขอ สภารัฐประหาร ให้มาอย่างถูกหลักวิธีการปกครอง เพื่อลดแรงกดดันจากประชาชน และเพื่อสลายคราบเผด็จการที่ตนสร้างขึ้นมา และการเข้าอาศัยในเสื้อคลุมของฮ่องเต้ในเรื่องนี้ จะเป็นผลดีแก่กลุ่มตนเป็นอย่างมาก และหลังจากนั้นเราค่อยคิด หาทางกำจัดคู่แข่งทางการเมืองในภายหลัง เมื่อมีความคิดเห็นตรงกันเช่นนี้ หัวหน้าขันทีชั่วชาติ จึงนำกลุ่มมือปราบไร้ใจ เข้าเฝ้าฮ่องเต้ทันที ทั้งที่เป็นยามวิกาล โอ้ อนิจจา สินทักยิ่งคิดยิ่งเศร้าตรมในใจ เราทำอะไรได้บ้าง สินทักถามคนรอบข้าง
ตอนที่ 2 ยุดสุครองเมือง ( จะตามมาเร็วๆนี้ )
แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 49 20:19:55
จากคุณ :
chiangraiplus
- [
18 พ.ย. 49 15:56:29
A:61.7.134.211 X:61.7.134.211
]