ขออนุญาติ เจ้าของจดหมายและผู้โพสด้วยนะค่ะ

ความคิดเห็นที่ 6  

และนี่ก็เป็นหนังสือสะท้อนภาพความเป็นจริง ที่คุณครูท่านหนึ่ง  เขียนถึงผู้ที่สื่อมวลชนไทย สรรเสริญยกย่องว่าเป็น "ผู้ดีรัตนโกสินทร์"  ดังมีเนื้อความต่อไปนี้

"ครูใต้ที่อยากบอกความจริง
เสียงจากครูใต้(อ่านแล้วต้องยอมรับความจริง)
พฤษภาคม 2549
เรียน นายอานันท์ ปันยารชุน
เรื่อง ขอยืนยันทำงานในพื้นที่ 3 จังหวัดนี้ต่อไป

        ดิฉันเป็นคนไทยธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่เคยชื่นชม นับถือแนวความคิดของคุณและติดตามการทำงานของคุณมาช้านาน ดิฉันเชื่อในความตั้งใจดีของคุณ นานมาแล้วที่ดิฉันบอกใครๆว่าท่านเป็นนายกรัฐมาตรีที่ดีสุด เหมาะสมที่สุด และยังคิดเช่นนั้นอยู่
       แต่วันนี้ดิฉันและคุณมีความเชื่อในสถานการณ์ภาคใต้ที่ต่างกัน ดิฉันไม่เคยมีอคติกับใครรวมทั้งคุณ ดิฉันถือว่าเราต่างคนต่างมีความเชื่อ เลยขอเรียนว่า ทำไมถึงมีความเชื่อที่ต่างจากคุณที่เห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความผิดความเลวของเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่ไม่เข้าใจวัฒนธรรมของคนในพื้นที่ ( คงต้องรวมถึงดิฉันที่เป็นข้าราชการครูด้วย )
ดิฉันขอเริ่มจากสิ่งที่ตัวเองเห็นเมื่อเป็นครูภาคใต้มา 35 ปี
     1. ชาวบ้านแท้ ๆ  จะเป็นคนซื่อแต่เชื่อผู้นำอย่างหูหนวก ตาบอด ผู้หญิงขยันและอดทนอย่างเหลือเชื่อ
( เคยถามคนที่ไม่เคยคลุมหัวฮิญาบ ว่าทำไมเดี๋ยวนี้ต้องคลุม เธอบอกว่าจะทำให้ผัวได้บุญ ) ในขณะที่ผู้ชาย ขี้เกียจ อ้างหลักศาสนาก็เพียงเพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์ ( มีลูกกี่คนก็ได้ ยิ่งมากยิ่งดี เพราะถือว่าเป็นของขวัญจากพระเจ้า ) เชื่อในชีวิตหน้า ชีวิตนี้จะลำบากแค่ไหนก็ได้ ( ขนาดถึงยอมตายถ้าผู้นำชี้แนะ  ที่มีลูกสาวสวย ผู้นำก็จะชี้เอาเป็นเมียก็ต้องยอมให้ )
    2. มีผู้นำศาสนาที่เลว อ้างหลักศาสนาจนทำให้ชาวบ้านอยู่ในระบบปิด ไม่พูดภาษาไทย ไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนไทย ปลูกฝังไม่ให้รับรู้โลกภายนอก เพื่อให้ตัวเองยังคงความเป็นคนสำคัญ และมีอำนาจเหนือชาวบ้าน ( ผู้ปกครองนักเรียนแอบมาเล่าว่าอยากให้ลูกเรียนสูงๆ บ้าง ก็ทีลูกผู้นำเขามีแต่จะส่งเรียนสูงๆ แต่พอเป็นลูกเรา เขาบอกให้เรียนปอเนาะและจะได้บุญ  เขาขอให้ครูช่วยหาทางให้ลูกเขาได้เรียนด้วย ครูก็ช่วยแล้วมาน้ำตาตกทีหลัง เมื่อมาพบว่าเด็กมาเรียนจนจบปริญญาแล้วเขาไม่รู้จักเรา แถมบางคนทำท่าเหมือนเรามาอาศัยแผ่นดินเขาอยู่ )
    3. โดยนิสัยคนพื้นเมืองที่พอมีความรู้และได้เป็นใหญ่ จะเห็นแก่ตัว  ไม่ช่วยพัฒนาคนระดับล่างให้มีความรู้ ไม่รู้จักบุญคุณคนโดยเฉพาะคนนอกศาสนา  ถ้าใครให้เขาจะรับ แต่จะไม่มีการให้ตอบเพราะถือว่าเป็นบาป นักการเมืองรุ่นเก่าจะเอื้อประโยชน์ให้กับผู้นำศาสนาและชาวบ้านเพื่อคะแนนเสียง ) โดยยอมรับเรื่องที่ผู้นำปิดโลกของคนพื้นเมืองจากโลกภายนอก ทำให้คนพื้นเมืองมีชีวิตอยู่ไปวันๆ อย่างไม่มีอนาคตในโลกนี้ เพราะเชื่อกันว่าโลกหน้าต่างหากที่เป็นของจริง เมื่อชีวิตความเป็นอยู่ของเขายากจน ก็ถูกโยนมาเป็นความผิดของรัฐบาลที่ไม่เข้าไปดูแล เมื่อเขาพูดไทยไม่ได้และไม่ยอมรับรู้ว่าที่นี่คือประเทศไทย เขาก็ต้องเชื่อฟังผู้นำ ในอนาคตพวกเขาจะเป็นพลเมืองส่วนใหญ่ในพื้นที่เพราะมีลูกมาก และคนไทยต้องพากันอพยพหนีตาย จากนั้นก็เรียกร้องขอแผ่นดินที่มีแต่พวกเขา เรื่องนี้เล่นไม่ยากในเวทีโลกไม่ใช่หรือ?


     4. มาในระยะหลังเริ่มมีขบวนการแบ่งแยกเชื้อชาติ และส่งเสริมให้ขับไล่ซือแย ( ไทยพุทธ ) ออกไปจากแผ่นดินรุนแรงขึ้น  เนื่องจากได้เงินสนับสนุน ( จากไหนบ้างคุณน่าจะรู้ ) ได้แรงหนุนจากความฮึกเหิมของชาวอิสลามที่ร่ำรวยขึ้น และการปลูกฝังที่ถือว่าอิสลามว่าเป็นพี่น้องกันทั้งโลก ( แต่อยู่ร่วมกับใครไม่ได้ ) เรื่องอย่างนี้เหมือนน้ำท่วมปาก แต่ไม่มีใครกล้าพูดดังๆ ให้พวกคุณฟัง เพราะเรากลัวตาย การเข่นฆ่ารายวันที่เกิดขึ้นได้ เพราะผู้ร้ายไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
      เรื่องที่พูดมานี้เพื่อจะบอกคุณว่า ในเมื่อคนพื้นเมืองถูกครอบงำให้คิดว่า พวกเขาไม่ใช่คนไทย แผ่นดินนี้เคยเป็นของเขา ทุกสิ่งที่เราให้เขารับ แต่เขากลับไปสำนึกขอบคุณพระเจ้าที่บันดาลให้  ดังนั้นการหยิบยื่นอะไรให้เชส จึงไม่ถือเป็นบุญคุณต่อคนนอกศาสนา  ดิฉันเจ็บใจเวลาที่เห็นพวกคุณเอาแต่แสดงความเห็นอกเห็นใจในคนพวกนี้และโยนความผิดว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะคนไทยไปทำร้าย ไปสร้างเงื่อนไขแก่เขา   คุณรู้กันบ้างไหมว่าทุกสิ่งที่เราทำ เราไม่เคยมีความคิดว่าเรื่องนี้จะทำให้แต่เฉพาะคนไทยเพราะเราทุกคนถือเป็นคนไทย  ในจังหวัดที่ดิฉันเป็นครูมา 30 ปี  ดิฉันไม่เคยเห็นส่วนข้าราชการไหนที่แบ่งเขาแบ่งเรา  มีแต่เขานั่นแหละที่ทำตัวผิดแปลกแตกแยกมากขึ้นทุกวัน ถ้าคุณอยู่ที่นี่ซึ่งเป็นผืนแผ่นดินไทย คุณจะรู้สึกอย่างไร เมื่อเขาเรียกร้องเอาโน่นเอานี่มากขึ้นทุกวัน ฉันจะต้องแต่งตัวอย่างนี้ ฉันจะต้องหยุดวันนี้ ฉันจะไม่มีการไหว้ครูร่วมกันคนชาวพุทธ  ฉันจะไม่เรียนวิชานี้ ฯลฯ ซึ่งก็ล้วนด้วยข้ออ้างว่าเพราะขัดกับหลักศาสนา  แล้วเราก็ยอมเขาไปหมดทุกเรื่อง และให้เห็นความแตกแยกชัดเจนขึ้นทุกวัน นักการเมืองที่เป็นเลือดเดียวกับพวกเขาก็พูดเอาแต่ได้  และการเอาแต่ได้ของเขาโดยอ้างแต่หลักศาสนา แล้วก็ครอบงำความคิดคนของเขาให้หูหนวกตาบอด ให้ขี้เกียจ ไม่ให้มีความรู้  เพื่อที่เขาจะได้ใช้คนพวกนี้เป็นโล่ห์กำบัง  โดยมีกลุ่มคนที่มองภาพรวมในเรื่องความไม่เท่าเทียมที่คนในสังคมชนบทได้รับ ( อย่างพวกสิทธิมนุษยชน ) พลอยตกเป็นเครื่องมือ ใจคอคุณจะให้ยอมจนกระทั่งคนไทยที่อยู่ใน 3 จังหวัด ต้องพูดภาษาถิ่นที่โลกนี้เขาไม่พูดกัน เพื่อเข้าใจเขาแต่เขาไม่ต้องหัดพูดภาษาไทย เพื่ออยู่ในโลกปัจจุบันได้กระนั้นหรือ ( แต่ครั้นจะช่วยก็ยังช่วยอะไรไม่ได้หรอก เพราะเขาถูกสอนว่าเราเป็นคนนอกศาสนา นอกเชื้อชาติเขา ) แล้วทำไมคนไทยที่มีภาษาถิ่นในภาคอื่น เขาไม่ทำกันอย่างนี้บ้าง ทำไมเขาถึงยอมพูดภาษากลางที่เป็นภาษาราชการ ก็เพราะเขาคิดว่าเป็นคนไทย แต่คนพวกนี้ไม่เคยคิดใช่ไหม แล้วเราจะยอมให้เขาคิดต่อไปหรือให้เขาเลิก คิดกันเสียที ให้เขาได้หลุดพ้นจากการครอบงำของคนที่หาประโยชน์จากความไม่รู้ของพวกเขาจะดีกว่าไหม ถ้าหวังดีกับคนพื้นเมืองจริงๆ
       ดิฉันแปลกใจมากที่คนในกลุ่มคุณอานันต์ (ประธานกอส.) พร่ำพูดแต่เรื่องกรือเซะ เรื่องตากใบอยู่นั่นทั้งปี ทำไมไม่เคยพูดถึงผลที่มาจากเหตุ  คุณมีแต่พูดตัดตอนโยนให้เป็นความผิดของเจ้าหน้าที่ได้อย่างไร ทำไมคุณไม่พูดบ้างว่าคนที่พาคนพวกนี้มาตายมีความผิดไหม  บ้านเมืองมีกฏเกณฑ์กติกาในการอยู่ร่วมกันอย่างไร คนระดับคุณไม่เข้าใจพวกบ้าคลั่งลัทธิเชียวหรือ  ทำไมต้องดูแลเอาใจคนพวกนี้ให้ฮึกเหิมว่ามีคนดีๆ ในสังคมอย่างพวกคุณคอยหนุนหลังอยู่ เขาใช้ประโยชน์จากพวกคุณ (ที่พวกดิฉัน แอบเรียกว่าพวกซื่อบริสุทธิ์) เพื่อสร้างภาพว่าเขาเป็นฝ่ายถูก ทั้งที่เขาคือผู้ก่อเหตุร้ายขึ้นในแผ่นดิน
       หากคุณเป็นครูมานานเท่าดิฉันที่เป็นคนภาคกลาง แต่ไปอยู่ที่นั่น คุณจะรู้ว่ามีความเปลี่ยนแปลงที่น่าสพรึงกลัวขนาดไหน  ดิฉันเคยไปไหนมาไหนในจังหวัดอย่างคนที่เป็นครู  เจอลูกศิษย์ที่ยิ้มแย้มแจ่มใส เจอผู้คนที่มีอัธยาศัย แม่ค้าในตลาดพูดกันรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้บ้าง แต่ต่างฝ่ายต่างพยายามสื่อสารกัน จนดิฉันเชื่อว่าจะใช้ชีวิตบั้นปลายอยู่ที่นี่ได้ แต่สิบปีที่ผ่านมานี้  สถานการณ์เริ่มเลวร้ายขึ้นเรื่อย ๆ  จากการเรียกร้องของผู้ที่อ้างศาสนาทุกวันนี้ เราต้องอยู่ท่ามกลางการไม่ไว้ใจกัน  ทุกอย่างเห็นชัดว่าเลวร้ายมากขึ้น จากการปลีกแยกตัวของพวกเขาที่เข้มงวดเรื่องการแต่งกาย เรื่องภาษา เรื่องศาสนา และจากเด็กที่เกิดเป็นจำนวนมาก  จนน่าตกใจ เขาเชื่อว่าลูกคือของขวัญจากพระเจ้า ยิ่งผลิตออกมามากเท่าไหร่ยิ่งดี  แต่ไม่เคยสนใจว่าจะเลี้ยงดูให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีได้อย่างไร  (รัฐบาลแม้จะทุ่มเทดูแลแก้ไขก็เท่านั้น เพราะเขาไม่ถือเป็นบุญคุณอะไร )  สังคมของเขาปัจจุบันนี้  ผู้ชายมีแต่เข้ากลุ่มแสดงโวหารตามร้านน้ำชา ทำงานก็อืดๆเอื่อยๆ นึกจะพักก็พัก นึกจะเลิกก็เลิก (อันนี้ผู้พิมพ์เห็นด้วยกับครูผู้เขียน เพราะเพื่อนไปทำถนนที่ปัตตานี ต้องเอาคนงานจากอีสานไปทำ  เพราะคนที่โน่นไม่อดทนทำงาน ดีแต่เรียกร้อง) พอไม่มีเงินใช้ก็ตั้งวงด่าว่าสังคมไม่ให้ความเป็นธรรม ใครจะเข้ามาทำธุรกิจก็มีใบปลิวมาขอค่าคุ้มครองแล้ว แล้วใครที่ไหนจะอยากมาลงทุน  เขาพร่ำสอนกันแต่ว่าพวกคนเจ๊กคนไทย มันมาเอาเปรียบเขาทั้งที่มาอาศัยแผ่นดินเขาอยู่ จากคนที่เคยเป็นเพื่อนกันก็จะมองกันอย่างไม่ไว้ใจ ไม่ทักทายปราศรัยกันเหมือนเดิม  ครูอิสลามบางคนที่ไม่ใช่คนที่นี่บอกว่าเขาคงอยู่ด้วยไม่ได้ เพราะเขาไม่คลุมหัวก็โดนมองแปลกๆ จากพวกศาสนาเดียวกัน แต่พวกที่ไม่ใช่อิสลามก็มองเขาอย่างไม่ไว้วางใจ
          ดิฉันเชื่อว่าในคณะกรรมการสมานฉันท์ที่เป็นฝ่ายอิสลาม จะต้องแสดงความคับแค้นนานับประการที่ได้รับจากบ้านเมือง ช่วยถามเขาด้วยนะคะว่าทุกวันนี้เขาโดนกดขี่จากใคร  เขาทำตัวกดขี่คนระดับล่างของเขากันเองหรือใครเป็นคนทำ ? มีเรื่องอะไรบ้างที่ภาครัฐไปปิดโอกาสเขาไม่ให้ได้รับแล้วให้แต่ซือแย (ไทยพุทธ)  จากอดีตจนถึงปัจจุบัน เคยบ้างไหมที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า จะทรงคิดว่าเขาเป็นคนอื่น ท่านทรงมีแต่เมตตากับทุกคนทุกหมู่เหล่าอย่างไม่เคยเลือกที่รักมักที่ชัง  แล้วอย่างนี้ข้าราชการของท่านจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร แผ่นดินนี้ประเทศนี้ให้ชีวิตกับเขาได้เจริญก้าวหน้ายิ่งกว่าคนในศาสนาเดียวกัน เขาควรสำนึกในบุญคุณ ของแผ่นดินและช่วยพัฒนาคนของเขา แต่เขากลับเลือกใช้ความหวาดกลัว ความไม่รู้ของชนชาติเดียวกับเขา เป็นฐานให้เขาได้สืบความเป็นใหญ่ต่อไป จนเขาไปทำลายผู้อื่น เพื่อให้ได้สิ่งที่เขาต้องการ  คิดว่าทำถูกต้องแล้วหรือ แล้วพวกคุณก็มีแต่พลอยเห็นดีเห็นงามไปสนับสนุนเขาไปด้วย ทั้งที่คุณรู้เห็นอยู่เต็มตาว่า ประเทศที่ผู้นำแตกแยกเป็นก๊กเป็นเหล่า ประชาชนได้รับความเดือดร้อนแค่ไหน
        ดิฉันขอประณามและสาปแช่งผู้อยู่เบื้องหลังความไม่สงบ จงประสบแต่ความวิบัติในชีวิตและขอให้บาปทั้งมวลสืบต่อไปถึงลูกหลาน  ให้เป็นผู้ที่ไม่มีแผ่นดินอยู่อาศัย สมกับที่บรรพบุรุษได้เนรคุณต่อแผ่นดินเกิด ขออย่าให้ได้รู้จักกับความสุขสงบเมื่อมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ และเมื่อล่วงลับไปสู่โลกหน้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์บนสรวงสวรรค์ย่อมรับรู้ในบาปชั่ว ไม่รับวิญญาณขึ้นไปอยู่กับพระองค์ ต้องตกนรกหมกไหม้จนชั่วนิรันดร์ เพื่อชดใช้ความผิดอันเลวร้ายที่ทำต่อมนุษย์ผู้บริสุทธิ์และแผ่นดินที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน

จาก…..หนึ่งในครูภาคใต้

ปล. ดิฉันไม่มีความกล้าพอจะลงชื่อจริง เพราะเกรงจะเดือดร้อนไปถึงญาติพี่น้องและเพื่อนฝูง บรรยากาศในจังหวัดที่ดิฉันทำงานอยู่เป็นอย่างนี้จริง ๆ  ถ้าจะกรุณาในฐานะที่ดิฉันเชื่อในความตั้งใจดีของคุณ โปรดอย่าได้พูดให้ร้ายคนไทยที่อยู่สามจังหวัดภาคใต้อีกต่อไป ท้ายที่สุด ดิฉันขอเรียนว่า  พี่น้องดิฉันถามทุกวันว่าทำไมไม่กลับบ้าน แก่ป่านนี้แล้วจะทนอยู่ทำไมให้เขาเป็นห่วง ดิฉันก็บอกว่า ขออยู่บนผืนแผ่นดินไทยจนกว่าจะถึงวันที่ไม่ใช่แผ่นดินไทยอีกต่อไป และเมื่อถึงวันนั้นคงมีคนไทยที่มีชื่อเสียงอยู่ในปัจจุบัน ได้รับการจารึกชื่อไว้ในประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังรู้ว่า ครั้งหนึ่งที่นี่  เขาจะให้เกิดการสมานฉันท์  จนต้องปกป้องพิทักษ์สิทธิมนุษยชนให้กับกลุ่มคนพวกนี้อย่างสูงสุด  จนกระทั่งคนไทยต้องยอมถูกขับไล่ออกจากแผ่นดินไทย  "



จากคุณ : ส่องเมือง  - [ 24 พ.ย. 49 12:00:24 A:203.118.120.232 X: ]