Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    แด่ คมช. (ขออนุญาตตัดแปะ)

    เหตุผลสำคัญ ๔ ประการ ที่คณะปฏิรูปใช้กำลังทหารยึดอำนาจจากรัฐบาลเก่า
    ๑. สร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชนคนไทยอย่างไม่เคยมีมาก่อน
    ๒. หมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
    ๓. คอรํรับชั่น ทุจริตอย่างมโหฬาร
    ๔. แทรกแซงองค์กรอิสระ

    ที่ยกขึ้นมาพูดอีกครั้ง ไม่ใช่จะมาฟื้นฝอยหาตะเข็บ อะไร
    แต่ พูดเพราะเป็นห่วง คมช.
    ว่าเหตุผลทั้ง ๔ ข้อ นี้ ต้องรีบทำความจริงให้ปรากฏ
    และต้องมีหลักฐานสมเหตุ สมผล มีน้ำหนักที่รับฟังได้
    ประชาชนกำลังจับตาเรื่องความชอบธรรมของคณะ ปฏิรูป อย่างใกล้ชิด
    ว่า การปฏิรูปครั้งนี้ ได้กระทำไปด้วยความสุจริตใจ โปร่งใส ยุติธรรม ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง
    ไม่มีเรื่องของการแก่งแย่งชิงอำนาจ เพื่อแสวงหาประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง
    หรือของกลุ่มอำนาจใด ๆ ทั้งสิ้น
    แต่ได้กระทำไปด้วยความรับผิดชอบต่อภารกิจหน้าที่อันพึงมีต่อประเทศชาติ
    ต่อพันธะสัญญา “ เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน “ โดยแท้
    เหตุผล ทั้ง ๔ ข้อข้างต้น ซึ่งก่อนที่จะได้ทำการปฏิรูปนั้น
    ทหารย่อมมีข้อมูลหลักฐานปรากฏชัดแจ้ง แน่ชัดแล้ว แบบเต็มร้อย หรือเกือบเต็มร้อยก็ได้
    ไม่ใช่เป็นข่าวเท็จ กล่าวแบบเลื่อนลอย ฝ่ายปฏิรูป คงได้ยินกับหู ได้รู้กับตาด้วยตนเองจริง ๆ
    และเห็นว่า ขืนปล่อยไว้ให้เนิ่นนานต่อไป ประเทศชาติจะเสียหายมากไปกว่านี้
    จึงตัดสินใจปฏิรูป ในวันเวลาที่ได้เปรียบตามความเหมาะสม ดังที่ทราบกันอยู่

    มาถึงตรงนี้ ก็คงจะเข้าประเด็นที่ว่า
    หลักฐานข้อมูลที่ใช้เป็นเหตุผล ในการปฏิรูป บางอย่างน่าจะออกมาแถลง
    ทำความจริงให้ปรากฏบ้างได้แล้ว

    โดยเฉพาะการหมิ่นเหม่ต่อพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งทหารนั้นทราบดีกว่าใคร ๆ
    เพราะอยู่ใกล้ชิด ถวายความจงรักภักดีต่อใต้เบื้องพระยุคลบาท

    หรือเรื่องการแทรกแซงองค์กรอิสระก็เช่นกัน
    องค์กรไหน องค์กรอะไร ถูกแทรกแซงเรื่องใด แทรกแซงไปแล้วประเทศชาติ
    เสียหายอย่างใด ก็น่าที่จะดาหน้ากันมาเปิดประเด็นกันให้เห็นชัดแบบสุด สุด
    โดยเฉพาะพวกสื่อ ที่กล่าวหาว่าถูกรัฐบาล แทรกแซง
    เพราะคำพูดกล่าวหา แบบครอบจักรวาลแบบนี้ ฟังดูเลื่อมใส น่าเชื่อถือ ใครก็พูดได้
    ซึ่งเมื่ออยากจะรู้ความจริง ลงไปในรายละเอียด กลับไม่ค่อยจะมีข้อมูล
    ฐานแหล่งที่มาของข่าวต่าง ๆ ก็ยังไม่สามารถจะปักใจเชื่อได้สนิท
    ไม่ทราบว่าการกระทำ อะไรของรัฐบาลเก่า ที่เป็นจริง เป็นเท็จ
    ความเสียหายเหล่านี้ ต้องกล่าวให้ชัดเจนเป็นรูปธรรม
    ในเรื่องความแตกแยกก็เช่นกัน ใครแตกแยกกับใคร อะไรคือสาเหตุ
    สาเหตุทั้งหลาย จะนำไปสู่ภาวะที่ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างไร
    สังคมที่แตกแยกกันนั้น เมื่อมีการปฏิรูปแล้ว กลับมาคืนดีกันหรือยัง

    ส่วน การคอร์รัปชั่น ทุจริต นั้น คงต้องให้เวลาแก่กระบวนการสอบสวนยุติธรรม
    ไปตามระยะเวลา ไปตามขั้นตอน ซึ่งเรื่องนี้ ประชาชนเข้าใจอยู่แล้ว
    คมช. ทำตัวเปรียบเสมือน พ่อแม่ ของครอบครัว ที่สั่งสอนลูกให้ประพฤติดี
    ย่อมมีกรอบกติกา ลงโทษลูก เมื่อทราบว่าลูกได้กระทำผิด
    แต่พ่อแม่ ควรได้รู้ ได้เห็น พฤติกรรมความผิดของลูกด้วยตนเอง จึงลงโทษ
    ไม่ใช่ ฟังความจากคนอื่น มาพูด มาบอกให้ฟังเป็นตุเป็นตะ
    ก็เชื่อถือคล้อยตาม ยิ่งคนมาบอกเป็นผู้ใหญ่ที่ดูน่าเชื่อถือแล้ว
    ก็คงไม่ฟังอีร้าค่าอีรม ใด ๆ เจอหน้าลูก ก็ลงโทษ ทันที
    เมื่อลงโทษลูกไปแล้ว มารู้ความจริงทีหลังว่าลูกไม่ได้กระทำผิด
    พ่อแม่ จะตีหน้าแบบไหน จะเอ่ยวจีอย่างไร เมื่ออยู่ต่อหน้าลูก
    ฉันใด ก็ ฉันนั้น
    เหตุผลที่ใช้เป็นเงื่อนไขในการปฏิรูปทุกข้อ
    ควรทยอยนำเสนอ ความจริงในรายละเอียดให้ปรากฏ
    จะเริ่มต้นด้วย จากคำพูด ของ คมช.เอง
    หรือถ้าขึ้เกียจชี้แจง ก็ทำหนังสือเป็นหลักฐานแจกจ่ายขายความจริงออกไป
    อย่าอมพะนำ เก็บเอาไว้ รู้ ฝ่ายเดียว เพราะจะก่อให้เกิดความเคลือบแคลงใจ
    เกิดแรงเสียดทาน ถาโถมรุมเร้า เป็นเสมือน คลื่นใต้น้ำอยู่ในเวลานี้
    หรือ คมช. คิดว่า ไม่จำเป็น เพราะคนไทยมีนิสัยขี้ลืม อยู่แล้ว ตีกินเอาดื้อ ๆ
    อย่าได้ประเมินความคิดเห็น เช่นนี้กับประชาชน เด็ดขาด
    เพราะความเคลือบแคลงสงสัยเหล่านี้ แน่นอน สะสมนานเข้า ๆ จะเกิดการตกผลึก
    นำไปสู่การเกิดวิกฤติศรัทธาในที่สุด
    ซึ่งไม่มีใครอยากให้มี หรืออยากให้เกิด
    กงล้อประวัติศาสตร์ในอดีต เคยมีมาแล้วเมื่อ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๖
    เป็นการเคลื่อนไหวประชาธิปไตยครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย
    ชัยชนะครั้งนั้นเป็นชัยชนะของประชาชนชาวไทย ซึ่งก่อกระแสไปทั่วโลก
    ได้รู้ ได้เห็นพลังอำนาจของประชาชนที่แท้จริง ที่ต้องการเลือกทางเดินเป็นของตนเอง
    จากการที่ถูกปกครองภายใต้รัฐบาลทหารที่เผด็จการ มายาวนาน
    เป็น ”วันมหาวิปโยค” และกลาย มาเป็น “ วันมหาปิติ “ ในที่สุด

    ทหารเมื่อนำกำลังพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ออกมา แล้วบอกว่าทำไปเพื่อชาติ รักชาติ
    จงอย่าได้คิดว่า ทำเป็นฝ่ายเดียว
    เพราะ ถ้าประชาชนทั้งประเทศ ออกมาแสดงพลังว่ารักชาติบ้าง แบบ ๑๔ ตุลา ฯ อีกเมื่อใด
    ระบบสังคมและระบบการเมืองของประเทศจะสั่นสะเทือนยิ่งกว่าคลื่นสึนามิ เป็นร้อยเท่าพันทวี
    ยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ ทุกแห่งในโลก
    จะบอกให้

     
     

    จากคุณ : ตต - [ 27 พ.ย. 49 15:22:58 A:172.31.145.236 X:61.90.184.202 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom