ความคิดเห็นที่ 1 ข้อเท็จจริง 10 ประการเกี่ยวมหกรรมพืชสวนโลก 1. ไทยเราจดทะเบียนกับ AIPH (Association of International Horticultural Producers) หรือสมาคมคมพืชสวนระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นสมาคมเอกชนหรือ NGOsนั่นเอง มันเป็นสมาคมเกี่ยวกับค่าขายพืชผลทางการพืชสวน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่พยายามสร้างกรอบของการมีส่วนร่วม ในการผลักดันด้านมาตราฐานสินค้าและราคา โดยส่วนมากพรรคพวกมันอยู่ในตลาด EU ซึ่งเป็นตลาดที่มีการแข่งขันกันสูงมาก ในปี คศ.1999 รัฐบาลจีนขอเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกที่เมือง คุนหมิง มณฑลยูนนาน ทางตอนใต้ของประเทศ คุนหมิง ขณะนั้นมีการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกไม้ดอกเพื่อป้อนให้กับประเทศจีนทั้งประเทศ แต่คุนหมิงเองยังไม่เป็นที่รู้จักกับสายตาของชาวโลก ดังนั้นรัฐบาลท้องถิ่นเห็นว่า นี่คือโอกาสในการประชาสัมพันธ์ให้โลกได้รู้จักคุนหมิง ด้วยเงินลงทุนขณะนั้น กว่าสามหมื่นล้านบาทเนรมิต ให้เหมืองหินเก่าๆเป็นที่จัดงาน รัฐบาลไทยซึ่งเป็นเพื่อนที่ดีของจีนมาตลอดได้เดินเข้าไปร่มงานด้วย ท่านอนันต์ นาโลดม(คนที่ออกมาโจมตีงานพืชสวนโลกขณะนี้) เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ท่านเป็นหัวแรงในการไปจัดงานและได้เชิญให้กรมส่งเสริมการส่งออกของกระทรวงพานิชย์ไปร่วมจัดงานด้วย ทางสมาคมAIPH เห็นศักยภาพเมืองไทยว่ามีผลผลิตทางด้านพืชสวนหลายอย่างมากๆ เช่นกล้วยไม้ ผลไม้ ทุเรียน มังคุด ลำไย ส้มโอ รวมถึงพืชสมุนไพร ก็น่าสนใจ เขาจึงยุให้คนไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานอย่างที่คุนหมิงบ้างสิ เรื่องยังไม่จบที่ใครอยากจัดก็จัดได้... จากคุณ : อืมม...V2 - [ 28 พ.ย. 49 00:15:59 A:58.9.63.233 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 2.ในปีที่เราไปร่วมจัดงานที่คุนหมิง กรมส่งเสริมการส่งออกเป็นหน่วยงานที่เข้าไปลงทะเบียนสมัครเป็นสมาชิกของสมาคม AIPH ซึ่งตอนนั้นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังไม่มีความพร้อมในเรื่องการจ่ายเงินค่าสมัครสมาชิก และที่สำคัญสมาคมAIPH ไม่ให้ไทยสมัครในนามของรัฐบาล ดังนั้นข้อเท็จจริงก็คือ งานมหกรรมพืชสวนโลกที่จัดกันทั่วโลกภายใต้การรับรองของ AIPH ถือเป็นงานของหน่วยงานที่เรียกว่า NGOs เท่านั้น ดังนั้นในการจัดงานจำเป็นต้องดึงสมาคมที่เกี่ยวข้องกับพืชสวนโลกในเมืองไทย นั่นก็คือ สมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย ซึ่งขณะนั้นผู้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมก็คือ คุณอนันต์ นาโลดม คนเดิมคนที่เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร 3.วัตถุประสงค์หลักในการจัดงานครั้งนั้นที่ทางประเทศไทยขอในที่ประชุมใหญ่ ก็คือการเฉลิมฉลองในสองวโรกาสที่น่ายินดีของคนไทย คือ เราขอจัดในปี คศ.2006 ต่อเนื่องปี 2007 เพราะเป็นที่ที่พวกเรารู้กันอยู่แล้ว ดังนั้นที่มีคนกล่าวว่าเราไม่เตรียมตัวอาจจะไม่จริงทั้งหมด สมัยนั้นเป็นสมัย ฯพณฯ ชวน หลีกภัย หลายคนคิดว่าเราเพิ่งมาเตรียมเมื่อสองปีที่แล้ว จากคุณ : อืมม...V2 - [ 28 พ.ย. 49 00:17:01 A:58.9.63.233 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 4. ครั้งนั้น ค.ร.ม. มีมติให้จัดงานที่ พิพิธภัณฑ์การเกษตรที่นวนคร อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เดิมที ผังหลักทั้งออกแบบโดย บ.นนท์-ตรึงใจ สถาปัตย์ นับเป็นโครงการพิพิธภัณฑ์อีกโครงการหนึ่งในเมืองไทย ที่เสร็จแล้ว ไม่เป็นที่นิยมของคนทั่วไป ต่อมาพอถึงรัฐาบาล ทักษิณ 1 หรือย้อนกลับไป 5 ปีที่ผ่านมา ค.ร.ม.ได้มีการทบทวนการจัดงานในสถานที่ดังกล่าวข้างต้น โดยท่านอนันต์ นาโลดม ซึ่งขณะนั้น ย้ายมาเป็น อธิบดีกรมวิชาการเกษตร และขอให้งานมหกรรมพืชสวนโลกมีกรมวิชาการเกษตรเป็น:-)าน ซึ่งข้อเท็จจริงคือ กรมนี้มีแต่นักวิชาการเกษตรที่มีความเห็นเอกอุเป็นตัวของตัวเองมาก และกรมวิชาการเกษตรไม่เคยจัดงานหรือร่วมงานมหกรรมระดับโลกที่ไหนมาก่อน คงพอเข้าใจได้ว่า ทำไมต้องเป็นกรมวิชาการเกษตร สมัยนี้เองที่เรามี รมช.เกษตรที่ชื่อว่าเนวิน ชิดชอบ และเนวินคนนี้เองที่เข้ามาแล้ว ท่านอนันต์ไม่ชอบ ทำงานเป็นจรเข้ขว้างคลองกันอยู่ตลอดเวลา ในคราวนั้นเองได้มี พรบ.เลือก สว.เป็นครั้งแรก ท่านอนันต์ทิ้งตำแหน่งอธิบดี ลงเลือกตั้งที่สุราษฎ์ฯ และได้เป็น สว.ตามที่มุ่งหวัง เนวิน ได้ตั้งท่านฉกรรจ์ แสงรักษาวงศ์มาเป็นอธิบดีกรมวิชาการเกษตรแทนท่าน สว.อนันต์ ปล.เกร็ดเล็กน้อยพอให้ทราบ กรมส่งเสริมการเกษตร และกรมวิชาการเกษตร มักจะมีข้าราชการกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาค โดยเฉพาะ เกษตรจังหวัด เกษตรอำเภอ และเกษตรตำบล จะสังกัดกรมส่งเสริมการเกษตร จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไม นักการเมืองชอบกระทรวงเกษตรฯ เพราะมันเป็นรากหญ้าที่เข้าถึงประชาชนมากที่สุด หัวคะแนนจึงกระจายอยู่ในกลุ่มของกรมกองนี้เอง จากคุณ : อืมม...V2 - [ 28 พ.ย. 49 00:17:55 A:58.9.63.233 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 5.ผู้ที่นำเรื่องเข้า ค.ร.ม. ให้ย้ายงานมาจัดที่เชียงใหม่คือ คุณอนันต์ นาโลดม ตอนที่เป็นอธิบดีกรมวิชาการเกษตร โดยคุณอนันต์มีเหตุผลมากมายที่ทำให้ครม.เชื่อได้ว่า จัดที่เชียงใหม่ดีกว่าที่ปทุมธานี หลังจากที่คุณอนันต์ไปเป็น สว. แล้ว ก็ทำให้พลาดโอกาสที่จะได้กำกับงานพืชสวนโลกตามที่ใจปรารถนาไว้ทีแรก แต่ตำแหน่งนายกสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย ยังคงเป็นของท่านอยู่ด้วยการเลือกตั้งภายในสมาคมเอง ครั้งนี้เองที่ทำให้ท่าน สว.หลุดออกจากกระบวนการจัดงานพืชสวนโลก เพราะครม.มีมติให้ ม.เกษตรศาสตร์เป็นผู้จัดทำผังแม่บทและออกแบบสิ่งก่อสร้างเพื่อใช้ในการจัดงานมหกรรมที่เชียงใหม่ โดยมหาวิทยาลัยมีเวลาที่จะทำแบบก่อสร้างได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น จากคุณ : อืมม...V2 - [ 28 พ.ย. 49 00:21:14 A:58.9.63.233 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 6. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตั้งทีมทำงาน 2 ทีม ทีมแรก เป็นทีมจากคณะเกษตร มี รศ.เอื้อมพร วีสมหมายเป็นหัวหน้าทีม ทีมสอง เป็นทีมจากสำนักวิจัยและพัฒนา มี ศ.ดร.รังสิต สุวรรณเขตนิคมเป็นหัวหน้าทีม ผมทำงานร่วมกับทีมที่สอง ให้จัดทำแบบและแนวคิดเพื่อนำเสนอ นายกรัฐมนตรี นายกฯ เลือกแบบของทีมสองให้เป็นผังหลัก อ.เอื้อมพร ไม่ยอมและไม่พอใจมากเพราะเห็นว่า ผมไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัย ไปฟ้องคณะสถาปัตย์ที่**และบอกว่า งานแบบนี้ต้องมีการประกวดแบบให้สำนักงานออกแบบทั่วไปเสนอความคิด ไปฟ้องสภาสถาปนิกและสมาคมภูมิสถาปนิก แต่ก็ไม่ได้การตอบสนองเพราะส่วนใหญ่มักตอบว่า เห็นว่างานนี้มีผมเป็นคนทำแบบอยู่แล้วไม่น่ามีปัญหานะ ความไม่พอใจครั้งนั้นยังคงถูกเก็บไว้ จนถึงวาระที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เลือกอธิการบดีคนใหม่ ปัญหาตามมาก็คือ อ.เจริญศักด์ ซึ่งสังกัดกับคณะเกษตร ลงชิงชัยแข่งขันกับ อ.วุฒิชัย ซึ่งสังกัดคณะวิศวะ อ.วุฒิชัยเป็นรองอธิการบดีฝ่ายบริหารอยู่ ส่วน อ.เจริญศักด์ สี่ปีที่แล้วลงเลือกตั้งแล้วไม่ได้คราวนี้จึงหวังว่าจะได้แน่นอน ผลการโหวตทั้งมหาวิทยาลัย อ.เจริญศักด์ชนะ แต่ระเบียบของสภามหาวิทยาลัยคือ การเลือกอธิการบดีต้องเลือกผ่านสภามหาวิทยาลัย ซึ่งในสภาจะมีผู้ทรงคุณวุติอีกมากมาย ผู้ชนะโหวตแบบป๊อบปูล่าโหวต จะได้ 1 เสียงในสภา ปรากฎว่า สภาลงมติเลือก อ.วุฒิชัย นับแต่นั้น กระบวนการดีสเครดิตก็เริ่มต้น สภาไม่ทรงคุณวุฒิเพราะมีผู้บริหารที่ประพฤติไม่ชอบ เล่นพรรคเล่นพวก บริหารงานที่ผ่านมาด้วยความทุจริตรวมทั้งงานพืชสวนโลกที่ถูกเก็บไว้ ก็ได้เวลาการล้างความคับแค้นให้จางลง หนังสือปกขาวที่แจกจ่ายในมหาวิทยาลัยไม่ได้รับการตอบสนองจากคนภายใน เพราะเห็นว่าเป็นผู้ใหญ่ทะเลาะกัน อ.เจริญศักด์เริ่มเดินเกมส์ นอกมหาวิทยาลัย ยื่นหนังสือเป็นฎีกาถึงในหลวง ปัจจุบันยังไม่มีข้อสรุปใดๆ มหาวิทยาลัยก็ยังคงมีแค่รักษาการอธิการบดีเท่านั้น สว.อนันต์ เห็นว่าข่าวเสียของพืชสวนโลกกำลังไปด้วยดี จึงต้องเข้าร่วมการแฉ เพราะไม่เช่นนั้น สังคมก็จะไม่รู้จักตนเอง บุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระ มันเป็นเรื่องที่ น่าเบื่อมากที่ผู้ใหญ่เวลาอยู่ต่อหน้าพูดจาดีมาก แต่พอลับหลังแทงให้เด็กๆดูกัน ผมหมดศรัทธากับผู้ใหญ่แบบนี้จริงๆ จากคุณ : อืมม...V2 - [ 28 พ.ย. 49 00:24:08 A:58.9.63.233 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 7. การดำเนินการของโครงการมหกรรมพืชสวนโลก ภายใต้กรอบที่ทางรัฐบาลเป็นเจ้าภาพ ในช่วงที่มีการย้ายสถานที่จัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ครม.ยังอนุมัติให้มีการจัดรูปของคณะกรรมการเพื่อมากำกับดูแลงานนี้อีก สองชุด และอนุกรรมการอีก สองชุด ในคราวเดียวกันคือ หนึ่ง คณะกรรมการอำนวยการ ภารกิจหลักคือกำกับดูแลประสานงานกับหน่วยงานรัฐและเอกชน มีรองนายกฯเป็นประธาน สอง คณะกรรมการบริหาร ภารกิจหลักคือบริหารงานและกำหนดรูปแบบงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ มี รมว.เกษตรฯ เป็นประธาน สาม อนุกรรมการด้านก่อสร้าง อยู่ภายใต้คณะกรรมการบริหาร ภารกิจหลักคือ ออกแบบกายภาพและจัดการสร้างให้เสร็จ มี รมช.เกษตรฯ เป็นประธาน สี่ อนุกรรมการด้านวิชาการและต่างประเทศ อยู่ภายใต้คณะกรรมการบริหาร ภารกิจหลักคือ หาสาระ หาเพื่อนต่างชาติ และหาเรื่อง มี ปลัด กท.เกษตรฯเป็นประธาน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รับมอบหมายจาก รมช.เกษตรขณะนั้นคือ คุณเนวิน ชิดชอบ ให้ทำงานออกแบบผังหลัก สิ่งก่อสร้าง และควบคุมงานก่อสร้าง ซึ่งเป็นไปตาม TOR ที่ออกโดยกรมวิชาการเกษตร ปัญหาช่วงนั้นภายในกระทรวงคือ ปลัดไม่กินเส้นกับ รมช.เกษตร โดยมักมีข้อคิดเห็นที่ไม่ตรงกันเสมอ แต่ดวงดาวขณะนั้น ชี้ชัดว่า เนวิน กำลังขึ้นหม้อ ด้วยผลงานระดับชาติที่คิดค้นขึ้นมา เพื่อประชาสัมพันธ์งานของรัฐบาล ช่วงครึ่งทาง สองปีความดีของไทยรักไทย ภายใต้ชื่อโครงการ พัฒนาชาติจากรากหญ้าสู่รากแก้ว จัดที่อิมแพคฯ โดยการเกณฑ์หัวคะแนนมาดูงานทั้งประเทศ ซึ่งตอนนั้น เนวินทำอะไร ทักษิณก็เห็นดีด้วยไปหมด ปลัด บรรพตตอนนั้นจึงไม่ดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับงานพืชสวนโลกเลย คล้ายกับจะบอกว่า ท่านเก่งท่านทำไป กระผมเฉยๆก็ไม่ผิดอะไร รวมทั้งงานวิชาการและต่างประเทศ ท่านก็ไม่จัดประชุมหรือเตรียมการใดๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่ราชการไทยกำลังประสบอยู่ ไม่แย่งงานกันทำ ก็เกี่ยงงานกันทำ แต่สิ่งที่ไม่เคยทำเลยก็คือ ร่วมมือกันทำ จวบจนกระทั่งลมมรสุมทางการเมืองปรับเปลี่ยนทิศทาง สถานการณ์นักการเมืองก็เปลี่ยนไป รมช.เนวิน ถูกย้ายไปเป็น รมต.สำนักนายกฯ และให้ รมว.สุดารัตน์มาคุม กท.เกษตรฯแทน ด้วยบทบาทใหม่ถอดด้ามของคุณหญิงมือใหม่ จำเป็นต้องแจ้งให้สาธารณะทราบว่า งานมหกรรมพืชสวนโลกนั่น มีปัญหามากมายเหลือเกิน โอ๊ย..กลุ้มใจ ...กลุ้มใจ งานนี้ต้องหมกเม็ดหรือเมล็ดอะไรมากมาย ต้องตรวจสอบหาข้อเท็จจริงก่อน และแล้วปลัดก็เข้ามาสมทบ คล้ายขุนพลอยพยัก และบอกว่า เสียเงินจ้าง มก.ออกแบบไปแล้ว เหตุไฉนไม่มีสาระวิชาการเลย ผมเองเป็นผู้นำเสนองานมาโดยตลอด แจ้งในที่ประชุมต่อหน้ารมว.สุดารัตน์ว่า งานออกแบบก่อสร้างของเราทำหน้าที่เหมือนสร้างภาชนะสำหรับรองรับสิ่งแสดงที่ท่านจะจัดสรรหามา ปลัดฯกริ้ว อุเหม่อย่ามาตอบซี้ซั้ว ทำให้ รมว.สุดารัตน์ต้องตั้งที่ปรึกษาสำหรับงานนี้ เพิ่มขึ้นอีก 1. พล.ท พรชัย กาญเลิศ(ตอนนี้เป็น พล.อ.แล้ว เป็นนายทหารรุ่นเดียวกับนายกฯทักษิณ) 2. คุณปลอดประสพ สุรัสสวดี เจ้าของโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี 3. คุณ สว.อนันต์ นาโลดม อดีตผู้ก่อการพืชสวนโลก จากคุณ : อืมม...V2 - [ 28 พ.ย. 49 00:28:15 A:58.9.63.233 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 8. หลังจากนั้นหนทางการแก้ไขปัญหาอันทรงภูมิของที่ปรึกษาก็คือ คงตามแผนเดิมที่เตรียมไว้ เพียงเพิ่มเรื่องราวใหม่เข้าไปคือ หนึ่ง จัดแสดงสวนสมุนไพรให้ยิ่งใหญ่มากขึ้น ซึ่งเดิมก็มีอยู่แล้ว แต่ต้องการให้ หมอเพ็ญนภา จากสถาบันการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกเป็นคนจัด โดยขอเงินใหม่ สามสิบเก้าล้านบาท สอง จัดทำสวนและส่วนแสดงกล้วยไม้ให้ยิ่งใหญ่ขึ้น โดยมอบให้ สว.อนันต์เป็นผู้ดำเนินการ และขอสนับสนุนงบประมาณ สามสิบสองล้านเก้าแสนบาท สาม จัดทำสวนไม้ผลและ อาคารนิทรรศการผลไม้และอาคารโลกแมลง ให้มหาวิทยาลัยเกษตรฯ เป็นผู้ออกแบบ โดยผมเป็นผู้ออกแบบอาคารทั้งสองหลัง และกรมวิชาการจัดหาสิ่งแสดงในอาคาร ของบประมาณเพิ่ม สิบสามล้านบาท สี่ จัดทำสิ่งแสดงในอาคารหอคำหลวง มีหม่อมเจ้า ภีศเดช รัชนีเป็นประธาน ให้ ผศ.ปรีชา เถาทองเขียนภาพจิตรกรรมและออกแบบต้นบรมโพธิสมภารแสดงชั้นบน ให้ ซีเอ็ม ออแกนไนเซอร์ จัดนิทรรศการ หกทศวรรษกษัตริย์นักการเกษตร ทั้งหมดของบสนับสนุน ห้าสิบห้าล้านบาท ข่าวเชิงลบภายหลังโดย อ.รพี สาคริกก็มาจากการจัดสรรงบประมาณภายหลังนี้ คือ เกษตรกรที่ผลิตกล้วยไม้ ฟ้อง อาจารย์ว่าไม่ได้พื้นที่ในการมาจัดแสดง พร้อมทั้งงบที่ได้มาใหม่ เป็นงบที่ให้กับผู้ส่งออกกล้วยไม้มากกว่า ซึ่งผู้ส่งออกกล้วยไม้ได้รับการสนับสนุนจาก สว.อนันต์ เป็นไงครับเหนื่อยมากกับการคิดของผู้บริหาร จากคุณ : อืมม...V2 - [ 28 พ.ย. 49 00:29:45 A:58.9.63.233 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 9. ข้อเท็จจริงอีกประการหนึ่งที่ควรบันทึกไว้เมื่อครั้งที่ไทยเราดำเนินการขออนุมัติการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกต่อ สมาคมพืชสวนนานาชาติ หรือ เอไอพีเอช ที่ที่ประชุม ณ นครคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีนนั้น เราขออนุมัติการจัดอยู่ในระดับของงานประเภท เอทูบีวัน (A2B1) ซึ่งนั้นหมายความว่า เราเองจะสามารถจัดอยู่ภายใต้เงื่อนไข คือ หนึ่ง พื้นที่จัดงานไม่น้อยกว่า สามสิบเฮกเตอร์ สอง มีประเทศอื่นเข้าร่วมไม่น้อยกว่า 10 ประเทศ สาม ระยะเวลาจัดงานไม่เกิน 20 วัน หลายคนคงสงสัยว่า การจัดงานเพียงแค่ ยี่สิบวันมันไม่น้อยเกินไปหรือ แล้วที่จัดกันถึงสามเดือนมันแปลว่าอะไร อันนี้เป็นเหมือนฝรั่งสอนเราในเรื่องการเลี่ยงบาลี กล่าวคือ ตามระเบียบให้จัดงานอย่างเป็นทางการแค่ยี่สิบวัน แต่ประเทศที่เป็นเจ้าภาพอาจมีความต้องการจัดมากกว่านั้น ก็สุดแท้แต่จะทำ นานาชาติก็ร่วมอย่างเป็นทางการแค่ ยี่สิบวันนั่นแหละ อันนี้จะเหมือนงานที่ ชิซึโอกะ เมือง ฮามามัตซึ ที่ประเทศญี่ปุ่นจัดเมื่อสองปีก่อน ชื่องานว่า แปซิฟิก ฟลอร่า สองศูนย์ศูนย์สี่ งานนนี้เขาจัดกันถึงหกเดือนแต่ก็อยู่ภายใต้กรอบ เอทูบีวัน เหมือนกัน ประเทศไทยเราก็เข้าไปร่วม ผมมีโอกาสไปดูและไปลอกงานเขาถึงสามครั้งด้วยกัน ในเมืองไทยช่วงเปิดตัวงานอย่างเป็นทางการใหม่ เราท่านอาจเคยได้ยินข่าวที่เราประท้วงการจัดงานของประเทศจีนที่มาขอจัดงานตัดหน้างานของเรา โดยเริ่มงานช่วงเมษายน 2549 และมาจบงานตอนกันยายน 2549 ส่วนงานของเราเริ่มเอาตอนพฤศจิกายนนี้นั่นเอง ข้อเท็จจริงก็คือ จีนนั่นจะได้รับอนุมัติจาก เอไอพีเอช หรือไม่ก็ตาม กำหนดการของเขาที่จัดก็จะจัดช่วงดังกล่าว เพราะเขาจัดงานในเมืองทางตอนเหนือห่างจากปักกิ่งไปอีกเจ็ดร้อยกิโลเมตร เมืองนั้นมีชื่อว่า เซินหยาง ซึ่งเซินหยางนี้เองเมืองที่มีอากาศค่อนข้างหนาวมากถึงมากที่สุด ช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนก็จะเป็นช่วงที่เขาอยากจัดอยู่แล้ว เซินหยางเป็นเมืองที่มีอดีตน่าสนใจเมืองอาจกล่าวได้ว่า เป็นเมืองหลวงของแมนจูก่อนที่จะย้ายพระนครมาปักกิ่ง เราประท้วง ลาออก จาก เอไอพีเอช แล้วรัฐบาลโดยคำแนะนำของ บจ.รี๊ดเทรดเด็กซ์ ก็ทำหนังสือเชิญฑูตที่อยู่ในเมืองไทยกว่า หกสิบประเทศมาที่ทำเนียบรัฐบาลและก็แจกสาห์นจากนายกฯถึงผู้นำประเทศต่างๆ เชิญให้เข้ามาร่วมงานมหกรรมพืชสวนโลกครั้งนี้ คราวเคราะห์ของไทยยังไม่จบที่เท่านี้แน่นอน เพราะจดหมายดังกล่าว ผิดต่อปฏิฏญาระหว่างชาติว่าด้วยการจัดงานมหกรรม ตามสนธิสัญาภายหลังสงครามโลกครั้งที่ สอง ซึ่งการเชิญผู้เข้าร่วมงานแบบ G2G (government to goverment) ไม่สามารถกระทำได้ จะต้องผ่านหน่วยงานที่เรียกว่า บีไออีรับรองก่อน เหนื่อยอีกแล้ว จากคุณ : อืมม...V2 - [ 28 พ.ย. 49 00:32:44 A:58.9.63.233 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 อย่างแรง... จากคุณ : บุรุษไปรษณีย์ในชุดไปรษณีย์ - [ 28 พ.ย. 49 00:34:19 A:unknown X:58.64.126.145 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ตอนนี้หมดแค่นี้ครับ แต่คิดว่าคงพอจับประเด็นอะไรได้บ้าง ไอ้ที่บอกว่าโกงๆกันน่ะ ข้อเท็จจริงเป็นยังไง จะได้รู้กันซะที จากคุณ : อืมม...V2 - [ 28 พ.ย. 49 00:34:57 A:58.9.63.233 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 ข้อ10หล่ะท่าน อิอิ จากคุณ : บ่าวภูธร - [ 28 พ.ย. 49 00:35:22 A:222.123.76.218 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอถามหน่อยนะครับ ตอนนี้งานที่เกี่ยวเนื่องกับ บีโอไอ ดร๊อปหมดเลยหรือเปล่าครับ? เช่นสมาคมสโมสรนักลงทุน.. อะไรเทือกนี้ ชลอการดำเนินกิจการส่วนใหญ่ไว้หรือเปล่าครับ? จากคุณ : บุรุษไปรษณีย์ในชุดไปรษณีย์ - [ 28 พ.ย. 49 00:38:16 A:unknown X:58.64.126.145 ]

ความคิดเห็นที่ 13 มีต่อมั้ยค่ะ จะรออ่าน ขอบคุณ จากคุณ : horseshoes - [ 28 พ.ย. 49 00:41:23 A:195.195.217.130 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 ข้อสิบมันติดผมไว้หลายวันแล้วครับ แต่เรื่องคงเคลียร์เรียบร้อยแล้ว ไม่งั้นคงจัดไม่ได้หรอก ตอนนี้เพื่อนผมมันยุ่งน่ะครับ ถ้าได้มาเมื่อไหร่เอามาลงทันทีครับ จากคุณ : อืมม...V2 - [ 28 พ.ย. 49 00:49:01 A:58.9.63.233 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณ บุรุษไปรษณีย์ในชุดไปรษณีย์  เรื่องอื่นผมไม่ทราบเลยครับ จากคุณ : อืมม...V2 - [ 28 พ.ย. 49 00:50:19 A:58.9.63.233 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณครับ  จะรอ ข้อ10.นะครับ แบบว่า อิอิ  ประดับความรุ้อ่ะ จากคุณ : บ่าวภูธร - [ 28 พ.ย. 49 00:54:00 A:222.123.76.218 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณครับ ที่ถามเพราะแค่สงสัยเพราะว่าฟังๆ มาว่า นายกทักษิณท่านกำลังผลักดันเรื่องบีโอไออยู่ แล้วทีนี้พอท่านพ้นไป เข้าใจว่า งานบางอย่างที่เกียวเนื่องกับส่วนนี้ คงจะดร็อปไปด้วย เพราะงานส่วนที่ผมนึกว่าจะได้ ก็เงียบหายไปด้วย เลยมาถามยืนยันข้อมุลเฉยๆครับ.. จากคุณ : บุรุษไปรษณีย์ในชุดไปรษณีย์ - [ 28 พ.ย. 49 01:01:24 A:unknown X:58.64.126.145 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คือจริงๆงานนี้ผมเกือบได้ร่วมงานด้วยแล้ว ถ้าไม่ติดว่าต้องไปเป็นพนักงานประจำนะ ผมเห็นเพื่อนผมทำงานด้วยความตั้งใจแบบเอากล่องมากกว่าเอาเงิน มันยังหาเรื่องมาเล่นกันอีก เลยอดไม่ได้บอกให้มันเขียนข้อเท็จจริงเอามาเผยแพร่น่ะครับ จากคุณ : อืมม...V2 - [ 28 พ.ย. 49 01:08:07 A:58.9.63.233 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 ตกลงว่า กรมวิชาการเกษตร ก็มีส่วนในงานซะส่วนใหญ่ใช่ไหมครับ? จากคุณ : บุรุษไปรษณีย์ในชุดไปรษณีย์ - [ 28 พ.ย. 49 01:13:49 A:unknown X:58.64.126.145 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ลองอ่านดูดีกว่าครับ ผมไม่รู้อะไรมากมายเลยจริงๆ แต่ก็น่าจะอย่างนั้นแหละครับ เพราะหน่วยงานมันชัดเจนที่สุด จากคุณ : อืมม...V2 - [ 28 พ.ย. 49 01:20:55 A:58.9.63.233 X: ]

ความคิดเห็นที่ 21 รออ่านต่อนะครับ จากคุณ : methyl - [ 28 พ.ย. 49 01:34:23 A:61.47.98.254 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22 ก็ดีครับ คอนเฟิร์มในความเป็นสังคมใส่ร้ายป้ายสี ได้ครบสิบตอนเอามาลงเรียงกันต่อนะครับ จากคุณ : X-CU - [ 28 พ.ย. 49 01:37:57 A:58.9.43.40 X: ]

ความคิดเห็นที่ 23 เรื่อง BOI จะต้องไปดาวน์โหลดเอดสาร เขามาอ่านดูนะครับ ลองดูหลายๆ ปีเปรียบเทียบ/ไฟล์จะเป็น pdf ในรูปตัดให้มาดูในบางส่วน ดาวน์โหลดมานานแล้วครับ ไว้ดูแนวโน้ม เรื่อง งานโรงงานที่ ถูกดรอปไป นะครับ ก็สรุปได้ว่า ปีหน้า ไม่เวิค อ่ะครับ ขอมากขึ้น แต่อย่างอื่น ลดหมด นะครับ ข้อมูล คุณอืมม.... น่าสนใจมากครับ/ไม่เคยได้ยินจากทีไหนแบบนี้ เลยนะครับ . [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : 3rd_wave_robin - [ 28 พ.ย. 49 01:50:20 A:202.5.87.143 X: ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณนะครับ กำลังจะนอนพอดีเลยครับแว๊บเข้ามาดู.. จากคุณ : บุรุษไปรษณีย์ในชุดไปรษณีย์ - [ 28 พ.ย. 49 03:16:23 A:unknown X:58.64.126.197 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้าให้ ปชป หรือ คอมอชอทำ มันไม่มีปัญญาทำงานแบบนี้ได้หรอก หรือถ้าทำได้ก็ สี่ห้าหมื่นล้านบาทโน่นแหละ จากคุณ : มังกรพิษลึก - [ 28 พ.ย. 49 07:48:44 A:80.242.237.78 X: ]

ความคิดเห็นที่ 26 น่าแก้กฎหมายเพิ่มโทษพวกตั้งใจใส่ร้ายป้ายสีมีโทษจำคุกตลอดชีวิต  รับรองเมืองไทยเจริญแน่ จากคุณ : ฟ้าบัญชา - [ 28 พ.ย. 49 07:59:24 A:124.120.3.211 X: ]

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่แย่งกันทำงาน ก็เกี่ยงกันทำงาน แต่ไม่เคยทำงานกันแบบร่วมมือ อืมม เห็นภาพได้ชัดเจนมาก จากคุณ : ร่วมมือกันหน่อย (goochua) - [ 28 พ.ย. 49 08:26:06 A:58.8.118.71 X: ]

ความคิดเห็นที่ 28 รอดูครับ  เห็นใจจริง ๆ ครับคนทำงาน  แต่ไอ้ที่ไม่ทำงานแต่อยากเป็นข่าวมันมีเยอะครับ ธรรมดาของคน จากคุณ : ok3 - [ 28 พ.ย. 49 09:02:18 A:124.121.124.190 X: ]

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่แย่งกันทำงาน ก็เกี่ยงกันทำงาน แต่ไม่เคยทำงานกันแบบร่วมมือ........ โดนใจสุดๆ จากคุณ : นางสาวหมอนทอง - [ 28 พ.ย. 49 09:42:01 A:124.120.159.171 X: ]

ความคิดเห็นที่ 30 เพื่อนสนิทก็ทำงานโครงการนี้ แบบเงินไม่ต้องคิดมาก เอากล่องจริงๆ ทำเต็มที่ พออ่านข่าวเรื่องอาจารย์ระพี ทำเอาเซ็งไปเลย ป้ายสีไม่มีหลักฐาน.... น่าสงสารคนทำงาน จากคุณ : tomoko - [ 28 พ.ย. 49 09:44:37 A:58.9.192.193 X: ]

ความคิดเห็นที่ 31 พูดความจริงหมด แต่ไม่ครบ อาจจะเวอร์ไปหน่อย ที่ว่า งบก่อสร้างทั้งหมด 1,800 ล้านบาท งบ ปชส.และบริหารและกิจกรรมและนิทรรศการ 800 ล้านบาท รวมแล้ว 2,600 ล้านบาท ผมว่าไม่ได้รวมงบภายนอกที่ได้จากสิทธิประโยชน์ร่วมพันล้าน ไม่ได้รวมงบที่เอกชนมาลงจัดสวนเฉลิมพระเกียรติราว 500 ล้าน ไม่ได้รวมงบเงินเดือนข้าราชการและลูกจ้าง ตลอดจนงบราชการที่ใช้ในการดำเนินงานนี้ ผมว่ารวมดีๆจะร่วมพันล้าน ผมว่าสรุปแล้วงานนี้คนไทยควักไปราวๆ 5,000 ล้าน ไม่นับรวมกับที่ต่างชาติควักมาจัดสวนของแต่ละชาติ ใครว่าคุ้มหรือไม่ แพงหรือไม่ ก็แล้วแต่มุมมอง แล้วไปเทียบกับประเทศญี่ปุ่นที่ค่าเงินต่างกันได้อย่างไร ส่วนจีนผมว่าราคาคุยมากกว่า สงสัยรวมค่าที่ดินเข้าไปด้วย แต่อยากอ่านให้จบครับ ยอมรับว่ารู้จริงเห็นสันดานคนทุกประเภท แต่บางเรื่องผมว่าข้ามไปหน่อย งานนี้จะแฉอย่าเลือกข้างสิครับ ส่วนใครที่อ่านผ่านๆ แล้วนึกว่าเขาไม่ด่ารมต.นายกทักษิณ กลับไปอ่านอีกทีครับ งานนี้โดนเต็มๆ จากคุณ : Pom.com - [ 28 พ.ย. 49 10:27:42 A:210.1.58.8 X: ]

ความคิดเห็นที่ 32 ห่างเพียงแค่กาย.... แต่หัวใจยังอยู่คู่แผ่นดินไทย จากคุณ : แม่แคม - [ 28 พ.ย. 49 11:48:42 A:58.147.94.218 X: ]

ความคิดเห็นที่ 33 "เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่ราชการไทยกำลังประสบอยู่ ไม่แย่งงานกันทำ ก็เกี่ยงงานกันทำ แต่สิ่งที่ไม่เคยทำเลยก็คือ ร่วมมือกันทำ" ประโยคนี้ถึงกับอึ้งเลย จากคุณ : junjun - [ 28 พ.ย. 49 12:20:23 A:192.168.10.52 X:124.120.148.200 ]

ความคิดเห็นที่ 34 มีตอนต่อไปช่วยหลังไมค์บอกด้วยนะครับ จากคุณ : Mr.DogGie - [ 28 พ.ย. 49 15:47:45 A:58.9.122.200 X: ]

ความคิดเห็นที่ 35 10 การจัดงานมหกรมมพืชสวนโลกราชพฤกษ์ 2549 ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางกลางแล้วตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 ท่ามกลางกระแสที่มีการตรวจสอบโครงการใหญ่ๆ สมัยรัฐบาลที่แล้วทำไว้ พืชสวนโลกก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีข้อครหามากมาย สุดแท้แต่ผู้มีปากและปากกา จะดลบันดาลให้มันเป็นไป สำหรับผมเองแล้ว งานนี้เป็นมากกว่างานก่อสร้างเพื่อให้ยิ่งใหญ่ เป็นมากว่างานจัดสวนลงต้นไม้ให้สวย มันเป็นการเดินทางของความคิด ทั้งคิดดีและคิดชั่ว มันเป็นการเดินทางของเพื่อนใหม่ในชีวิตผม ผมรู้สึกว่าโอกาสของชีวิตคน มันสำคัญมากๆ เพราะเมื่อมันมาแล้วเราไม่พยายามทำให้ดีที่สุด มันจะไม่มีโอกาสย้อนกลับมาใหม่ งานที่ออกมาไม่ได้ดีที่สุด หรือดีเท่าที่คนในวงการจะรับได้ งานที่ออกมาเป็นหน้าหนึ่งของ สารที่จะสื่อให้ใครก็ได้ ได้มีโอกาสไปเยือน และเชยชมกับมัน ตลอด ยี่สิบกว่าวัน สิ่งที่ได้ยินเป็นคำชื่นชมมากกว่าการตำหนิ มันทำให้ผมรู้สึกสบายใจ ที่งานได้ผ่านการพบเห็นจากคนอื่นแล้ว สิ่งที่ทำให้รู้สึกดี อีกอย่างหนึ่งคือ งานนี้ ถูกสร้างโดยคนไทย หัวใจไทยล้วนๆ ความสำเร็จหรือไม่คงยังต้องรอกาลเวลาพิสูจน์ตัวของมันเองอีกนาน ผมหวังแค่ มันอาจเป็นแรงบันดาลใจให้ใครชื่นชมความเป็นไทยมากขึ้นเท่านั้นเอง จากคุณ : อืมม...V2 - [ 28 พ.ย. 49 16:58:55 A:58.9.59.179 X: ]

ความคิดเห็นที่ 36 ถ้าไม่มี "นายกทักษิณ" งานนี้คงไม่เป็นรูปร่างขนาดนี้หรอก จากคุณ : BadCompany - [ 28 พ.ย. 49 17:30:36 A:124.121.6.89 X: ]

ความคิดเห็นที่ 37 เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่ราชการไทยกำลังประสบอยู่ ไม่แย่งงานกันทำ ก็เกี่ยงงานกันทำ แต่สิ่งที่ไม่เคยทำเลยก็คือ ร่วมมือกันทำ โดนใจเหมือนกันครับ เป็นมาตั้งแต่เรียนละแบบนี้เวลาทำงานกลุ่มทีไรพอให้ตัดสินใจเลือกหัวข้อทำทีไรแหม่งเป็นเรื่องทุกที คนที่เห็นด้วยก็ทำไป ไอ้คนไม่เห็นด้วยมันไม่ทำซักอย่าง ทั้งที่ตกลงกันแล้ว จากคุณ : click2 - [ 28 พ.ย. 49 19:37:44 A:124.121.150.141 X: ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณจขกทที่เล่าความจริงให้คะ จากคุณ : DOGNAK - [ 30 พ.ย. 49 20:59:09 A:202.57.182.141 X: ]