จากปฏิกิริยาของนักลงทุนต่างชาติ กับปรากฏการณ์ Black Tuesday เมื่อวันที่19 ธันวาคม 2549
สิ่งที่ผมเห็นคือการเทขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติซึ่งเป็นเรื่องหนักพอสมควร แต่ยังพอมีทางกอบกู้ขึ้นมาบ้าง
แต่ทว่าปัญหาใหญ่ที่ผมภาวนาว่าขอให้เป็นเพียงวิตกจริตของผมคนเดียว และไม่มีทางเกิดขึ้นจริง
เรื่องก็คือ การตัดสินใจชะลอการลงทุนรวมถึงย้ายฐานการลงทุนไปยังประเทศเวียดนาม และจีน
การชะลอการลงทุนของต่างชาติในประเทศไทยนั้นเริ่มส่อแววมาเกือบจะปีแล้ว โดยเนื่องมาจากสภาพทางการเมืองที่ง่อนแง่น แม้รัฐบาลเก่าจะมาจากการเลือกตั้งแต่ทว่ามีปัญหาเรื่องรังจากการประท้วงต่างๆ ซึ่งผมจะไม่ลงลึกไปว่าใครถูก/ผิด ขี้คร้านจะเถียงกันไม่จบ
และเมื่อมีเหตุการณ์รัฐประหารเกิดขึ้นยิ่งมีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุน เสถียรภาพความมั่นคงของการเมืองนั้นมีปัจจัยสำคัญกับนักลงทุนต่างชาติอยู่ในอันดับต้นๆ ซ้ำร้ายเมื่อหวยมาออกตรงๆที่เทมาเสกกับไอทีวี เป็นการแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลทหารนี้สามารถใช้อำนาจไปในทางใดก็ได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผู้กุมอำนาจ สัญญาต่างๆที่ตกลงกันไว้ ข้อตกลงทางธุรกิจ ไม่มีผลบังคับใช้ข้อยกเว้นที่ รบ.ต่างๆเคยทำไว้สามารถถูกยกเลิกเมื่อใดก็ได้ คราวนี้นักลงทุนที่ไหนจะกล้าเสี่ยง เมื่อไม่นานมานี้ได้ข่าวว่าทางญี่ปุ่นยื่นข้อตกลงว่า ข้อพิพาทใดๆนั้นให้ทำการพิจารณาตัดสินที่ศาลของญี่ปุ่นพูดง่ายๆว่า ไม่เชื่อใจกระบวนการยุติธรรมของไทยแล้ว
เมื่อ2-3ปีก่อนผมเคยพูดถึงเรื่องการพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรมของเวียดนาม ซึ่งเวียดนามนั้นมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถโดยมีค่าแรงต่ำกว่าทางเมืองไทยเรา และปรเทศเขายังใหม่อยู่เพิ่งเปิดประตูรับนักลงทุน และก็ไม่ผิดหวังโดยจะเห็นได้จากการลงทุนจากต่างชาติในเวียดนามในรอบ1ปีที่ผ่านมา ทั้งญี่ปุ่น หรือแม้แต่อเมริกาชาติที่เคยเป็นคู่อาฆาต วันนี้อเมริกาหอบเงินเข้าไปลงทุนเป็นล่ำเป็นสัน ผิดกับเมื่อตอนช่วง 1967-1973 ที่หอบแต่ฝนเหลือง และลูกกระสุนไปปูพรม
ทุกวันนี้นิคมอุสาหกรรม แหล่งธุรกิจศูนย์ธุรกิจต่างชาติ มีเพิ่มมากขึ้น
เวียดนามน่าลงทุนมากครับ ขนาดคนหาเช้ากินค่ำอย่างผมยังฝันลมๆแล้งๆว่าหากมีตังค์วันใด จะไม่พลาดแน่ๆ
ในขณะเดียวกัน จีนที่ถือว่าเป็นพี่เอื้อยของประเทศสังคมนิยมได้ทำการเปิดประเทศ ผสมผสานเข้ากับโลกทุนนิยมตะวันตก โดยที่เราๆท่านทราบกันดีว่าจีนนั้นมีประชากรมากเป็นอันดับ1ของโลก แรงงานก็แสนจะถูก สินค้าตีตรา Made In China เริ่มที่จะก้าวขึ่นมาวางตามร้านค้าในยุโรป อเมริกา หรือแม้แต่สินค้าBrand ดังต่างๆ ก็เริ่มล่งไปผลิตในจีนแล้ว
ปีนี้สหรัฐอเมริกาขาดดุลการค้าอย่างหนัก เริ่มมีการชะลอการนำเข้า เงินสกุลดอลล่าร์อ่อนตัวลงส่งผลมาถึงค่าเงินบาท ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของไทยเรามีมาตรการอะไรรองรับไว้บ้างไหม น่าจับตานะครับ
ย้อนกลับมายังเหตุการเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จากมาตรการที่ออกมาจากแบงค์ชาติ โดยจุดประสงค์ใดก็ตามแต่ ผมเชื่อว่าหลายๆท่านคงปากค้างด้วยความตกตะลึง เสียหายไป แปดแสนกว่าล้านบาทในวันเดียว ถึงแม้ว่าจะมีมาตรการกอบกู้ตามหลังมา แต่ขวัญและความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติกู่ไม่กลับแล้วล่ะครับ
นักการเงิน นักลงทุนต่างชาติสวด รบ.ไทยเสียยับ หาอ่านได้จากสื่อต่างๆ
ยังจำกันได้ไหมครับ เมื่อปี 2540-41 ต้มยำกุ้งรสแซ่บที่คุ้นลิ้นคนไทย แต่ทำเอากระอักไปทั้งภูมิภาค
ณ วันนั้นเราเสียหายกับการล้มบนฟูกของสถาบันการเงิน และการโจมตีค่าเงินบาทของกองทุนเก็งกำไร ที่โยกย้ายการโจมตีไปเรื่อยๆ วันนั้นแบงค์ชาติสู้จนหมดตัว หน้าตักไม่เหลือ จนต้องขอเข้า IMF
แต่
วันนี้ปรากฏการณ์เงินที่ไหลออก เกิดขึ้นมาจากการดำเนินนโยบายทางการเงินที่ผิดพลาดของแบงค์ชาติเอง โดยที่ยังไม่มีการโจมตีจากศัตรูภายนอก อย่างที่ทุกท่านเห็นแค่วันเดียว !!! แปดแสนล้านบาท..!!!
และหาก กองทุนนักโจมตีค่าเงินเข้ามาทำกำไรที่บ้านเราเมื่อไหร่ ลองนึกกันเองนะครับ ผมเชื่อว่าหลายๆท่านได้ผ่านบทเรียนที่เจ็บปวดกันมาแล้ว
และแถมสำหรับกองชียรที่รักรัฐบาลทหารจนไม่ลืมหูลืมตา ที่ออกมาแซ่ซ้องสาธุการว่า ทำดี ทำได้ประเสริฐ ชาติไทยเราต้องการแค่พอเพียง เรามีดัชนีวัดความสุข เราไม่สนใจเงินจากต่างชาติ...เราอยู่อย่างไทยๆ หาใช้กันพอเพียง
โธ่ ถัง กะลังมังเ อ๋ย
ขนาดจีนยังเปิดประเทศ โลกทุกวันนี้มันเชื่อมต่อกันเป็น Global เหมือนอย่าง อินเตอร์เนท เอาสมองที่ไหนมาคิดเชียร รบ.ทหารก็ลืมตาเชียรด้วยครับ เงินลงทุนต่างชาติ ไม่ว่าระยะสั้น ระยะยาว ต่างก็มีผลต่อารเจริญเติบโตทางธุรกิจ/เศรษฐกิจ
ที่ผมเขียนมาทั้งหมดนี้ไม่ได้จะเขียนมาเพื่อด่า รบ. ทหาร ชวนเพื่อนออกมาขับไล่ คณะรัฐประหาร
ทุกท่านมีความรัก ความชอบความเชื่อส่วนตัว เปลี่ยนกันได้ยาก
เพียงแค่อยากให้เพื่อนได้มองกลับยังภาพรวมว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง แนวโน้มข้างหน้าจะไปในทิศทางใด อยากให้เตรียมตัวรับมือกันให้พร้อม
ส่วนเรื่องการเมือง ใครจะรียกร้องประชาธิปไตย รัฐธรรมนูณ หรือใครจะกระดี๊กระด๊ากะรบ.เผด็จการ ก็เชิญกันตามสะดวกครับ
ด้วยรักและห่วงใย จากใจคนไทยที่รักไทย
จากคุณ :
รันย์อะเวย์@ไทยเมลดอทคอม 
- [
20 ธ.ค. 49 21:16:57
A:60.241.232.203 X:202.7.166.164
]
จะรัก ทักษิณ จะเชียรคนแซ่ลิ้ม หรือจะปลื้มรัฐบาลในเครื่องแบบทหาร อย่างน้อยคุณควรอ่าน
