PANTIP.COM : P4989679 ร่วมต้านคอรัปชั่น จันทร์ที่ 25 กลุ่มคอร์รัปชันวอชท์ (Corruption Watch) [การเมือง]

ความคิดเห็นที่ 31

ตัวอย่างบางตอนกำลังฉายวันนี้ โปรแกรมหน้า CTX
...................................
"อนุฯไต่สวนหุ้นชิน" เดินหน้าเรียก"พจมาน-บรรณพจน์"รับทราบข้อกล่าวหา ระบุขั้นแจงข้อกล่าวหาส่งเป็นเอกสารได้ แต่ถ้าไม่ชัดเจน คตส.ส่งอัยการ - ศาลฟันทันที

นายสัก กอแสงเรือง ประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณี นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร และพวกรวม 6 คนหลีกเลี่ยงภาษีกรณีการซื้อขายหุ้นบริษัทชินวัตรคอมพิวเตอร์แอนด์คอมมิวนิเคชั่น จำกัด กล่าวถึงมติของอนุกรรมการที่ให้ส่งหนังสือไปยังผู้ถูกกล่าวหาทั้งหกมารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 4 มกราคม 2550 ว่า ทั้งหกคนต้องมารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตัวเอง หากไม่มาจะออกหนังสือเรียกอีกรอบหนึ่งจนกว่าจะมารับทราบข้อกล่าวหา จากนั้นจะเรียกบุคคลทั้งหกคน ให้มาชี้แจงข้อกล่าวหาอีกรอบ

"แต่หากใครไม่มาก็ถือว่าสละสิทธิ์ ดังนั้นต้องการที่จะปฏิเสธหรือไม่ปฏิเสธก็เป็นสิทธิของเขาเอง อย่างไรก็ตามแม้ไม่มาด้วยตัวเองก็สามารถส่งเอกสารชี้แจงต่ออนุฯ ไต่สวนได้ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าหนังสือที่ส่งมาจะชัดเจนตามที่คณะอนุกรรมการไต่สวนกล่าวหาหรือไม่ เราก็มีสิทธิที่จะสรุปสำนวนส่งเรื่องให้อัยการและศาลได้เลย เพราะถือว่าเราให้โอกาสแล้ว แต่ไม่ใช้สิทธิ ก็ช่วยอะไรไม่ได้"

ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบทุจริตโครงการของรัฐบาลชุดที่แล้ว นายอำนวย ธันธรา กรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบโครงการจัดซื้อจัดจ้างการเปลี่ยนแปลงระบบสายพาน ลำเลียงกระเป๋าและสัมภาระผู้โดยสาร และเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 ในสนามบินสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการฯ ได้สรุปสำนวนการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว โดยทุกคนมีความเห็นในแนวทางเดียวกันคือเห็นว่าคดีมีมูล เหลือเพียงการตรวจสอบคำผิดเท่านั้น จึงได้นัดประชุมกันอีกครั้งในเช้าวันจันทร์ที่ 25 ธันวาคมเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยและเสนอต่อที่ประชุม คตส. ชุดใหญ่ให้ชี้มูลความผิด และตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนแจ้งข้อกล่าวหาผู้เกี่ยวข้องในบ่ายวันเดียวกัน

ทั้งนี้ โครงการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด หรือซีทีเอ็กซ์ 9000 เป็นโครงการในสมัย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประเด็นที่ถูกตรวจสอบคือการที่บริษัทท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ ที่มีนายศรีสุข จันทรางศุ เป็นประธาน ได้เปลี่ยนมติเดิมให้สนามบินสุวรรณภูมิที่รองรับผู้โดยสาร 30 ล้านคนต่อปีมาเป็น 45 ล้านคน จนต้องมีการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องซีทีเอ็กซ์ 9000 จำนวน 26 เครื่อง รวมทั้งกรณีส่วนต่างจำนวน 600 ล้านบาท ซึ่งอาจมีความผิดกรณีการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ตามมาตรา 46 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542

มีรายงานแจ้งว่า ในวันจันทร์นี้ มีคณะอนุกรรมการตรวจสอบชุดอื่นที่เตรียมเสนอให้ที่ประชุม คตส.ชุดใหญ่ พิจารณาชี้มูลความผิด ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาอีกหลายโครงการ อาทิเช่น อนุกรรมการตรวจสอบโครงการท่อร้อยสายไฟฟ้าสนามบินสุวรรณภูมิ ที่มีคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา เป็นประธาน โครงการแอร์พอร์ตลิงค์ ที่มีนายแก้วสรร อติโพธิ รับผิดชอบ อนุกรรมการตรวจสอบการจัดซื้อกล้ายางของกรมวิชาการเกษตร ที่มีนายบรรเจิด สิงคะเนติ เป็นประธาน

ส่วนโครงการการซื้อขายที่ดินย่านรัชดาภิเษกของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีนายอุดม เฟื่องฟุ้ง เป็นประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบนั้น ที่ประชุม คตส.ยังมีประเด็นที่ถกเถียงกันในเรื่องการตั้งอนุกรรมการไต่สวนเพื่อกล่าวหาผู้ที่กระทำผิด
จะต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งถือว่าเป็นผู้เสียหายมาร้องทุกข์กล่าวโทษหรือไม่ โดยหน่วยงานที่เสียหายคือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลัง

นายอุดม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ขณะนี้คดีเรื่องการซื้อขายที่ดินย่านรัชดายังไม่มีความคืบหน้า เพราะต้องรอให้ที่ประชุม คตส.ชุดใหญ่ ชี้ขาดเสียก่อนว่าควรจะเดินต่อไปอย่างไร ส่วนตัวเห็นว่าถ้าไม่มีหน่วยงานมาร้องทุกข์กล่าวโทษก็ถือว่าต้องหยุดกัน คตส.ไปบังคับไม่ได้

ขณะที่นางเสาวณีย์ อัศวโรจน์ คตส.ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบโครงการทุจริตกรณีธนาคารกรุงไทยอนุมัติสินเชื่อ บริษัท โกลเด้น เทคโนโลยีอินดัสเทรียล พาร์ค และกรณีขายหุ้นบุริมสิทธิให้บริษัท แกรนด์คอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น และในฐานะประธานตรวจสอบโครงการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ของบริษัท ห้องปฏิบัติการกลางตรวจสอบผลิตภัณฑ์อาหาร (เซ็นทรัลแล็บ) เปิดเผยว่า ในขณะนี้อนุกรรมการฯ ได้เรียกบุคคลมาชี้แจงเป็นจำนวนมาก แต่ที่ไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากต้องรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์
ของพยานบุคคลไว้ ซึ่งหากเปิดเผยชื่อพยาน ตนหรือคนที่ทาบทาม อาจถูกต่อว่าได้ เพราะเอาชื่อไปเปิดเผย

อย่างไรก็ตามการตรวจสอบมีการคืบหน้าไปมาก แต่ที่ยังไม่สามารถตั้งอนุฯ ไต่สวนได้เหมือนโครงการอื่นๆ เพราะหากเราตั้งอนุฯ ไต่สวนและแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลที่เกี่ยวข้องและส่งไปให้ศาลพิจารณาคดี คดีดังกล่าวจะต้องมีข้อมูลหลักฐานที่ชัดเจนและจะไม่ถูกจำหน่ายคดีออกไป ดังนั้นการรวบรวมข้อมูลหลักฐานต้องมีความละเอียดชัดเจนครบถ้วนทุกองค์ประกอบ ซึ่งเชื่อว่าคดีที่ตนตรวจสอบจะสามารถเอาคนผิดมาลงโทษได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับศาลในการพิพากษา

http://www.bangkokbiznews.com/

จากคุณ : ชวนเชิญ - [ 24 ธ.ค. 49 17:46:12 A:58.8.109.82 X: ]

ความคิดเห็นที่ 38

ผู้สื่อข่าวถามว่า คำพิพากษาดังกล่าวจะเกี่ยวพันกับตำแหน่งผู้ว่าฯ สตง.ของคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา อย่างไร นายประธาน กล่าวว่า ประเด็นของศาลในตอนท้ายระบุว่ากรณีดังกล่าวได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ เราควรนำมาคิดต่อว่าได้ก่อความเสียหายต่อประเทศชาติอย่างไร ตนไม่ได้แปลหรือกล่าวอะไรเพิ่มเติมจากคำพิพากษานี้ แต่ตนเคยเบิกความว่ากรณีดังกล่าวจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อ สตง. เพราะในขณะที่ตนดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ สตง.เคยเสนอให้ปรับยุทธศาสตร์การตรวจเงินแผ่นดินใหม่ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่อย่างสมบูรณ์ คิดว่าตรงนี้คงทำให้ศาลเห็นว่ากรณีดังกล่าวได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศ นอกจากนี้ สิ่งที่สร้างความเสียหายคือการทำงานของ สตง.ทำงานผิดกฎหมายหลายเรื่อง ที่เน้นหรือให้ความสำคัญในเรื่องการปราบปรามการทุจริต ทั้งๆ ที่วัตถุประสงค์ที่แท้จริงคือการป้องกันการทุจริต ทำให้ประชาชนคาดหวังว่า สตง.ต้องเป็นมือปราบ

นายประธาน กล่าวต่อว่า ในเมื่อไม่รู้จะปราบปรามอย่างไรก็ทำรายงานการตรวจสอบอันเป็นเท็จ แจ้งผลการตรวจสอบอันเป็นเท็จ ทำรายงานผลการปฏิบัติงานอันเป็นเท็จเสนอต่อนายกฯ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา ซึ่งตนได้ทำความเห็นในส่วนนี้เสนอไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด แต่ไม่รู้ว่ามีความคืบหน้าไปมากน้อยแค่ไหน อย่างไร มาจนขณะนี้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ขอความร่วมมือมาว่าทำอย่างไรถึงจะยับยั้งการกระทำที่ผิดกฎหมายของ สตง.ได้ จึงได้ทำหนังสือเวียนไปถึงกระทรวง ทบวง กรม จังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการส่วนท้องถิ่น ทั้งหลาย เพื่อแจ้งถึงภาระหน้าที่ของ สตง.ที่แท้จริง เพื่อให้หน่วยงานเหล่านี้ช่วยควบคุมการปฏิบัติงานของ สตง.ให้อยู่ในกรอบที่กฎหมายกำหนด ไม่ใช่ทำอะไรแบบที่ผ่านมา

เมื่อถามว่า แสดงว่าช่วงที่คุณหญิงจารุวรรณดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ สตง.ได้มีการกระทำผิดกฎหมายเกิดขึ้น นายประธาน กล่าวว่า ถูกต้อง และได้แจ้งไปยังส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว ส่วนตนคงไม่ดำเนินการอะไร เพราะได้ส่งเรื่องไปหมดแล้ว ขึ้นอยู่กับผู้ที่รับผิดชอบโดยตรง คือ ป.ป.ช. อัยการ จะต้องดำเนินการต่อไป แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นคงประเมินเป็นตัวเงินไม่ได้ แต่มันเป็นความเสียหายของระบบบริหารราชการแผ่นดินระส่ำระสาย และถ้าผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบจริงจังก็จะเอาผิดได้ตั้งแต่ระดับผู้อำนวยการไปถึงผู้ว่าฯ สตง.ที่รับผิดชอบอยู่ขณะนั้น เมื่อถามว่าแสดงว่าการปฎิบัติงานของคุณหญิงจารุวรรณที่ผ่านมาเป็นการสร้างภาพ นายประธาน กล่าวว่า จะไปบอกอย่างนั้นก็ไม่ใช่หน้าที่ แต่ให้คิดเอาเองก็แล้วกัน

นายประธาน กล่าวว่า คำวินิจฉัยส่วนตัวของนายมานิต วิทยาเต็ม ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ระบุไว้ตอนหนึ่งว่า พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งพระมหากษัตริย์ทรงใช้อำนาจแต่งตั้งตามคำแนะนำขององค์กรที่เกี่ยวข้อง โดยต้องมีผู้รับสนองพระบรมราชโองการ การกล่าวอ้างว่าสิ่งที่ผิดพลาดบกพร่องนั้น เมื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธยแล้วผู้ใดจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ต้องปล่อยเลยตามเลย ดังเช่นที่มีการกล่าวอ้างกรณีการแต่งตั้งผู้ว่าฯ สตง.ถือว่าไม่ถูกต้องและเป็นธรรมต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ บุคคลซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง หรือรับประโยชน์จากการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ที่มีผู้กระทำผิดอยู่เบื้องหลังเช่นนี้ ไม่บังควรกล่าวอ้างพระราชโองการ เพื่อคงไว้ซึ่งสิทธิและประโยชน์อันมิชอบของตน แต่ใครจะคิดเห็นอย่างไรกับคำวินิจฉัยของนายมานิตก็แล้วแต่
^
^
^
^
^
คุณคนนี้เขาก็มีข้อมูลทุจริจครับเชิญคุณหญิงฯ ไปขอข้อมูลได้เลยครับ

จากคุณ : ผีน่ารัก - [ 24 ธ.ค. 49 22:10:30 A:222.123.122.196 X: ]