Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    สิ่งที่อดีตนายกไม่บอกให้คนไทยรู้

    สิ่งที่อดีตนายกไม่บอกให้คนไทยรู้  
    ข้อความข้างล่างต่อไปนี้ประกอบไปด้วยส่วนแรกเป็นข้อกล่าวหาอดีตนายกซึ่งกลายเป็น propaganda ของบรรดาคนกรุงเทพที่เรียกตัวเองว่าปัญญาชน ข้อความถัดไปเป็น fact ที่สามารถพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ ขอเรียกว่าเป็น"สิ่งที่อดีตนายกไม่จำเป็นต้องบอกให้คนไทยทราบ" เชิญอ่านได้เผื่อพุทธิปัญญาจะได้บังเกิดแก่บรรดาสรรพสัตว์ชาวกรุงเทพ

    1) คำตอบสุดท้ายของชินคอร์ปฯ ที่อดีตนายกไม่บอกให้คนไทยรู้ คำตอบสุดท้ายของชินคอร์ปฯ ที่อดีตนายกไม่บอกให้คนไทยรู้ เพราะอะไร ชินคอร์ปฯจึงเป็นหัวใจของสิงคโปร์ จะเสริมส่วนขาดที่ประชาชนไทยอาจไม่รู้ในเรื่องเกี่ยวกับพื้นที่ส่วนภาคพื้นอวกาศของประเทศไทย...ประเทศไทยเป็นประเทศที่พิเศษกว่าประเทศใดในโลก คือ คั่นระหว่างมหาสมุทรอินเดีย กับมหาสมุทรแปซิฟิคและมีความลาดเอียงไปทางใต้ ซึ่งรับกับแสงอาทิตย์ได้อย่างพอเหมาะ การที่มีพื้นที่คาบเกี่ยว 2 มหาสมุทรนี้เองทำให้ประเทศไทยมีเนื้อที่
    ทางอวกาศมากกว่าประเทศใดใน ZONE ASIA ไม่เว้นแม้กระทั่งประเทศจีน ด้วยเนื้อที่อันมหาศาลด้านอวกาศนี้เองทำให้สามารถส่งดาวเทียมได้มากกว่าประเทศใด ๆ (จึงเป็นที่ต้องการของประเทศมหาอำนาจ) จะเห็นได้ถึงความได้เปรียบทาง
    ยุทธภูมิศาสตร์ และพื้นที่ยุทธนาวี (เศรษฐศาสตร์) การที่ประเทศสิงคโปร์ซึ่งเป็นร่างทรงของมหาอำนาจเข้ายึดครองShin นั้นก็เพื่อต้องการ "พื้นที่ทางอวกาศของไทย" เพราะสิงคโปร์ไม่มีเนื้อที่อวกาศ แต่เขาไม่รู้ว่ามีกฎหมายฉบับหนึ่งที่ยังไม่ยกเลิก ก็คือเรื่องของความมั่นคงของชาติ เรียกว่า "ยุทธปัจจัย" พื้นที่อวกาศจัดเป็นยุทธปัจจัยซึ่งกองทัพไทยสามารถใช้อำนาจตามพรบ.กลาโหมฯเอาคืนมาได้(ดังนั้น รัฐบาล จึงมีการวางแผนแก้ไข พรบ.กลาโหมเสียใหม่) ขณะนี้กฏหมายอยู่ที่สำนักงานกฤษฏีกา โดยมีกำหนดเข้าสภารับร่างในเดือนพ.ค....ตามกำหนดการเดิม..หลังรับเงินเทมาเสก..แต่ตอนนี้คงไม่ทัน
    แล้วจึงเป็นที่มาของการไม่ยอมลาออก และ จัดให้มีการเลือกตั้ง 2 เมย. แต่ก็แอบอ้างว่าต้องมีนายกเป็นคนจัดการเรื่องงานฉลองครองราชย์ 60 ปีในหลวง...สุดยอดมะล่ะ ในกรณีเทมาเสกนี้เปรียบเหมือน
    การซื้อรถ ได้ไปแต่ตัวรถ=บริษัทShin
    แต่ไม่ได้ใบขับขี่(สัมปทานความถี่)ไปด้วย
    ดังนั้น เทมาเสกต้องไปสอบเอาใบขับขี่ (ประมูลสัมปทานใหม่) แต่ถ้าหากทักษิณเป็นนายก เทมาเสกก็สามารถใช้อำนาจให้ได้มาโดยง่าย(เหมือนกับซื้อใบขับขี่) คงกระจ่างบ้างไม่มากก็น้อยนะ "รักชาติและแผ่นดินไทย ช่วยกันส่งต่อด้วยนะ..............


    2) เนื่องจากข้อกล่าวหา “สิ่งที่อดีตนายกไม่บอกให้คนไทยรู้” จากบรรดาผู้รักชาติทั้งหลาย ที่มีจิตใจอันประเสริฐอนุเคราะห์เวียนเทียนส่งให้ปัญญาชนคนไทยทั่วประเทศ ได้รับทราบถึงความเลวร้ายของอดีตนายกรัฐมนตรีคนล่าสุด ทำให้ผมเกิดความเข้าใจว่าสาเหตุที่อดีตนายกรัฐมนตรีคนล่าสุด ไม่ยอมชี้แจงข้อกล่าวหารายวันอันไม่เป็นเป็นธรรมนั้น เพราะข้อกล่าวหา “สิ่งที่อดีตนายกไม่บอกให้คนไทยรู้” เป็นข้อกล่าวหาที่ปราศจากความจริง เต็มไปด้วยอคติ โมหะจริตจ้องจะทำลายฝ่ายตรงข้ามอย่างไร้ยางอาย ซึ่งเป็นสันดานอันประเสริฐของคนที่เรียกตัวเองว่าป็นคนมีการศึกษา พิจารณาดูจาก e-mail address ที่เป็นต้นตอของข้อกล่าวหา พบว่าพวกคุณเป็นคนไม่โง่เพราะแต่ละท่านก็ทำงานในองค์กรระดับชาติทั้งนั้น แต่ในขณะเดียวกันพวกคุณไม่ใช่คนที่ฉลาดเท่าไรนัก อาจจะระบบการศึกษาของไทยหล่อหลอมให้คุณเป็นแบบนี้ ก็ไม่แปลกอะไร เพราะ United Nation เคยทำวิจัยไว้เมื่อ 2 ปีก่อน โดยงานวิจัยชิ้นนั้นพูดว่า ระบบการศึกษาของประเทศไทยจากชั้นอนุบาลถึงระดับอุดมศึกษาเป็นที่ 2 รองบ๊วย โดยมี Kenya รั้งบ๊วย การที่คุณเกลียด ไม่เห็นด้วยกับอดีตนายกทักษิณ ก็เป็นสิทธิ์อันชอบธรรมของพวกคุณ แต่พวกคุณไม่ควรจะอยู่ใน fantasy world สร้างข้อกล่าวหาอันไม่เป็นธรรม โดยปราศจากจากความรู้ ความเข้าใจ เพื่อสนับสนุนความเกลียดของคุณ เพราะว่าคนที่ไม่โง่ และไม่ฉลาดเท่าไรนักแบบพวกคุณมีมากในสังคมไทย ข้อกล่าวหาที่กลั่นกรองจากสมองน้อย ๆ สะท้อนว่าพวกคุณสอบตกวิชาเรขาคณิต ภูมิศาสตร์ รวมทั้งวิชาวิทยาศาสตร์ ข้อกล่าวหาที่คุณจินตนาการขึ้นมาอย่างง่าย ๆ หลวมๆ ถ้าเป็นจริง ดูเหมือนว่าประเทศไทยน่าจะสร้างดาวเทียมหรือยานอวกาศได้ก่อนชาติมหาอำนาจซะอีก เพราะมันดูเหมือนง่ายแบบจินตนาการของพวกคุณและก็มีคนแบบพวกคุณอาศัยอยู่มากมาย พวกคุณไม่ทราบหรอกหรือว่าระนาบการหมุนรอบตัวเองของโลกทำมุม 23.5 องศากับระนาบการเคลื่อนที่รอบดวงอาทิตย์ สาเหตุนี้เองที่ทำให้โลกเกิดฤดูกาล ดังนั้นบริเวณต่างๆ โลกจะได้รับแสงอาทิตย์มากน้อยกันไปขึ้นกับ ตำแหน่งบนโลก และ เวลาในแต่ละปี เช่นบริเวณเส้นศูนย์สูตรจะได้รับแสงอาทิตย์มากที่สุดปีละสองครั้งคือวันที่ 21 มีนาคม และ 21 กันยายน เขตอบอุ่นเหนือกับเขตอบอุ่นใต้ก็ได้รับแสงอาทิตย์มากสุดประมาณวันที่ มิถุนายน และ 21 ธันวาคมตามลำดับ ความจริงข้อนี้คุณน่าจะจำได้เพราะมีการสอนในวิชาภูมิศาสตร์ในระดับประถมปีที่ 5 ศูนย์กลางของประเทศไทย คือกรุงเทพ ตั้งอยู่ที่ 13 องศาโดยประมาณเหนือเส้นศูนย์สูตร ดังนั้นไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ๆในโลกยกเว้นบริเวณขั้วโลกเหนือ และขั้วโลกใต้ ก็สามารถรับแสงอาทิตย์ได้เท่าเทียมกัน นอกจากนี้ตำแหน่งของดาวเทียมในวงโคจรพ้องโลก(geosynchronous orbit) ซึ่งอยู่สูงจากพื้นโลกประมาณ 35786 กิโลเมตร ก็ไม่มีผลต่อความมั่นคงของชาติใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะเป็นวงโคจรสำหรับดาวเทียมที่ใช้ในการ Broadcast สำหรับดาวเทียมที่ใช้ในการทหารซึ่งมีผลต่อความมั่นคงของชาติอย่างที่พวกคุณจินตนาการกัน เป็นดาวเทียมที่เคลื่อนที่เร็วมาก โดยเคลื่อนที่อยู่ในวงโคจร low earth ซึ่งอยู่สูงจากพื้นโลกประมาณ 200 กิโลเมตร ยิ่งไปกว่านั้นรัฐบาลไทยไม่มี ดาวเทียมอยู่เหนือประเทศไทยซึ่งตั้งอยู่บน longitude 100.5 องศาตะวันออก แต่ดาวเทียมของรัฐบาลไทยทั้งหมด 5 ดวงอยู่ที่ตำแหน่งต่างกัน โดยไทยคม 2 และไทยคม 5 อยู่ที่ตำแหน่ง 78.5 องศาตะวันออกเหนือมหาสมุทรอินเดีย ข้อได้เปรียบประการหนึ่งของตำแหน่ง 78.5 องศาตะวันออก คือเสียเชื้อเพลิงในการควบคุมดาวเทียมน้อยกว่าตำแหน่งอื่นเพราะ gravitational field ของโลกที่กระทำต่อดาวเทียมมีค่าน้อยกว่าตำแหน่งอื่น ส่วนไทยคม 3 ซึ่งเพิ่งจะหมดอายุไปนั้นอยู่ที่ตำแหน่ง 50.5 องศาตะวันออกเหนือดินแดนตะวันออกกลาง ส่วนไทยคม 4 และ 1 อยู่ที่ตำแหน่ง 120 องศาตะวันออกเหนือประเทศญี่ปุ่น การที่รัฐบาลไทยมีตำแหน่งของดาวเทียมอยู่ในที่ต่าง ๆ มากมายขึ้นกับ marketing strategy ของรัฐบาล ไม่ได้ขึ้นกับความมั่นคงอะไรทั้งสิ้น โดยที่รัฐบาลไทยมีแผนจะขายบริการครอบคลุมกี่ภาคพื้นทวีป รวมทั้งมี application อะไรบ้างให้ลูกค้าได้เลือกใช้ หลังจากนั้นถึงเป็นขั้นตอนการออกแบบ และสร้างดาวเทียมให้ได้ประสิทธิภาพตามความต้องการ นอกจากนี้รัฐบาลทุกประเทศมีสิทธิ์จองตำแหน่งวงโคจรดังกล่าวได้เท่าเทียมกันตามพันธะสัญญาและกฎหมายโทรคมนาคมระหว่างประเทศโดยยื่นคำร้องผ่าน ITU (international telecommunication union) ซึ่งมีที่ทำการอยู่ที่กรุง Geneva ประเทศ Switzerland แต่หลังจากได้เป็นเจ้าของตำแหน่งเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็เป็นหน้าที่ที่ตัวแทนของประเทศที่มีดาวเทียมอยู่ที่ตำแหน่งใกล้เคียงกัน จะต้องมาประชุมกันในการออกแบบความถี่ที่จะใช้ดาวเทียมเพื่อไม่ให้สัญญานรบกวนกันระหว่างดาวเทียม เพื่อเกิดประโยชน์แก่ดาวเทียมของแต่ละประเทศให้ได้มากที่สุด หลังจากได้ตำแหน่งเป็นที่เรียบร้อยแล้วรัฐบาลของแต่ละประเทศจะเร่งขวนขวายหาดาวเทียมมา fill up ที่ตำแหน่งที่ได้มา มิเช่นนั้นตำแน่งบนวงโคจรนั้นจะ invalid ไม่มีการแลกแผ่นดินบ้านร่มเกล้าตามที่นายสนธิ ลิ้มกิมตือ กล่าวหา ถ้าเป็นอย่างที่นายสนธิพูด คงต้องมีแลกแผ่นดินกันทุกวันวุ่นวายเดือดร้อนกันไปหมดทั้งโลก ส่วนเรื่องสัมปทานก็เหมือนกันไม่ว่า Temasek จะเป็นเจ้าของ Shin Group 100 % หรือไม่ก็ตาม หรือใครก็ตามจะต้องจ่ายผลตอบแทนให้กับรัฐบาลไทยเหมือนกันหมด
    อนึ่งนายสนธิเคยได้รับสัมปทานในการ สร้าง ให้บริการ จากรัฐบาลลาวเมื่อปี 2539 เพื่อมาให้บริการแข่งขัน แย่งส่วนแบ่งการตลาดจากดาวเทียมไทยคมซึ่งเป็นดาวเทียมของรัฐบาลไทย ในนามของ M group โดยมีชื่อดาวเทียมอย่างเป็นทางการว่า L-Star หรือ Laos Star แต่เดชะบุญ อาจจะด้วยอำนาจของพระสยามเทวาธิราช ซึ่งคอยปกปักรักษาประทศไทย ให้รอดพ้นจากการที่นายสนธิพยายามที่จะแย่งผลประโยชน์จากรัฐบาลไทยในนามของรัฐบาลลาว ดาวเทียมดวงนี้ในที่สุดก็สร้างไม่สำเร็จ ทุกวันนี้ยังเป็นซากอยู่ที่บริษัท Space System Loral ที่เมือง Palo alto แถบ ๆ silicon valley รัฐ California ประเทศสหรัฐอเมริกา สาเหตุที่ดาวเทียมดวงนี้สร้างไม่สำเร็จเป็นเพราะว่า บริษัท M Group ของนายสนธิ ถังแตก หลอกรัฐบาลลาวในการให้สัมปทาน แล้วไม่มีเงินในการสร้างดาวเทียม เที่ยวไปกู้หนี้ยืมสินจากแหล่งต่าง ๆ แต่ในที่สุดแหล่งเงินกู้ต่าง ๆ ก็ไม่ให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งยังหาผู้ร่วมลงทุน คือบริษัท Telespace ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ในการให้บริการดาวเทียมของประเทศ Canada แต่ในที่สุดบริษัท Telespace ก็ไม่ให้ความช่วยเหลืออีกต่อไป เกิดหนี้สินรุงรัง จนโดนฟ้องล้มละลาย ต้องหลอกขายโครงการ ให้กับนายบุญชัย เบญจรงคกุล แห่ง UCOM แต่จนแล้วจนรอด UCOM ก็ต้องยอมแพ้แก่โครงการนี้ ทำให้ทุกวันนี้ดาวเทียม Laos Star ยังคลุมผ้าอยู่ใน High Bay (โรงงานประกอบ) ที่บริษัท Space System Loral นี่เป็นสาเหตุหนึ่งในหลายสาเหตุของความล้มเหลวที่นายสนธิ ซึ่งมีนิสัยขี้อิจฉา ริษยา จ้องทำลายประเทศไทย
    เรื่องดาวเทียม Laos Star ของนายคนนี้ นายพายัพ พนาสุวรรณ Columnist ชื่อดังของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการไม่เคยพูดถึง หรือถ้าพูดถึงก็พยายามบ่ายเบี่ยงพูดอ้อมไปอ้อมมา เมื่อมีผู้อ่านเขียนจดหมายไปถามเกี่ยวกับ project ดาวเทียม Laos Star คนกรุงเทพเป็นคนที่มีการศึกษาต่ำ เหมือนดังที่นิตยสาร the economist ของอังกฤษ เคยวิจารณ์ไว้ว่า คนกรุงเทพเป็นคนที่ ill-educated and gullible พร้อมที่จะเต็มใจเชื่ออะไรก็ได้ที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ในเชิงวิทยาศาสตร์ แต่ในขณะเดียวกันก็พร้อมที่จะปฏิเสธความจริงที่สามารถพิสูจน์ได้ในเชิงวิทยาศาสตร์เช่นกัน คำว่ามีการศึกษาไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องจบ PhD มา แต่มันอยู่ที่ว่าคุณสามารถจะวิเคราะห์ สังเคราะห์ปัญหาต่างๆ ในเชิงวิทยาศาสตร์ได้หรือเปล่า พูดไปแล้วก็ไม่ต่างจากบรรดา so-called ทั้งหลายที่สอนหนังสือในมหาวิทยาลัยของเมืองไทย บ้านเรามี so –called เต็มไปหมดพยายามทำตัวว่ารู้ทุกเรื่องแต่หน้าที่ของตัวเองไม่มีปัญญาทำให้ได้ดี เพราะมันยาก สู้มานั่งเทียนเขียน article หลอกคนกรุงเทพไปวัน ๆ ดีกว่า หรือไม่ก็แอบอ้างว่าที่ไม่ทำวิจัยที่มหาวิทยาลัยเพราะเงินน้อย แต่จริง ๆ แล้วไม่มีปัญญาทำมากกว่า สอนหนังสือก็ไม่ได้เรื่อง ทำวิจัยก็ไม่ได้ความ เลยต้องออกไปหาลำไพ่เป็นโสเภณี consultant หลอกเถ้าแก่ตามบริษัทดัง ๆ ดีกว่า นี่เป็นสาเหตุที่อดีตนายกไม่ตอบคำถามปัญญาอ่อนรายวันของพวกคุณ ถ้าพวกคุณอยากจะได้ความรู้เกี่ยวกับดาวเทียม ผมขอแนะนำให้ไปอ่าน “Design of Geosynchronous spacecraft” by Brij N. Agrawal หรือ “Digital Satellite Communications” by Tri T Ha หรือถ้าไม่มีปัญญาอ่าน ก็ไปหาอ่านฉบับแปลโดยรองศาสตราจารย์ประสิทธิ์ เจริญขวัญ แห่งคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เหมือนกัน แต่ไม่ทราบว่าแปลผิดหรือแปลถูก

    จากคุณ : nympheas - [ 29 ธ.ค. 49 11:54:11 A:203.192.34.116 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom