PANTIP.COM : P5029709 ขอเชิญพลังราชดำเนินช่วยกันเอารัฐธรรมนูญ 40 กลับคืนมาให้แก่ประชาชน โดยการฟ้องร้องต่อศาลปกครอง []

ขอเชิญพลังราชดำเนินช่วยกันเอารัฐธรรมนูญ 40 กลับคืนมาให้แก่ประชาชน โดยการฟ้องร้องต่อศาลปกครอง

พลังประชาชนจะดำเนินการเพื่อฟ้องร้องเอารัฐธรรมนูญฉบับประชาชนกลับคืนมา โดยนัดหมายกันจะไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครองในวันศุกร์ 12 ม.ค. เวลาประมาณ 11.00 น. ซึ่งเนื้อหาสาระคำฟ้องเบื้องต้นมีดังต่อไปนี้

----------------------------------------------------------
ตามที่มีกลุ่มบุคคลที่ใช้ชื่อว่า คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้เข้ายึดอำนาจการปกครองตั้งแต่วันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ และได้ออกประกาศหลายฉบับ โดยประกาศฉบับที่ ๓ ได้มีคำสั่งให้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ วุฒิสภา สภาผู้แทนราษฎร และศาลรัฐธรรมนูญ สิ้นสุดลง ส่งผลให้สิทธิเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญถูกลิดรอน การกระทำของคณะปฏิรูปการปกครอง ฯ ที่ประกาศให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.๒๕๔๐ อันเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศซึ่งที่มีที่มาจากปวงชนชาวไทยที่ได้ร่วมกันร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว และรัฐบาลในขณะนั้นได้นำขึ้นทูลเกล้าให้ลงพระปรมาภิไธยประกาศบังคับใช้ รัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวได้อำนวยประโยชน์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขได้เป็นอย่างดี แต่คณะปฏิรูปการปกครองฯ กลับใช้กำลังอาวุธบีบบังคับให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นการกระทำโดยมิชอบ ดังเหตุผลต่อไปนี้ ๑. คณะปฏิรูปการปกครองฯ อันมีผู้ก่อการประกอบด้วยข้าราชการทหารและตำรวจ ซึ่งถือว่าเป็นข้าราชบริพารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่ผู้ที่มีสถานะเป็นข้าราชบริพารกลับบังอาจออกคำสั่งล้มล้างรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายที่องค์พระมหากษัตริย์ได้ทรงพระราชทานลงมา การยกเลิกรัฐธรรมนูญจึงถือว่าเป็นการกระทำที่ละเมิดต่อพระราชอำนาจโดยตรง มีความผิดในฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ คำสั่งที่มีลักษณะดังกล่าวจึงไม่สมควรใช้บังคับในราชอาณาจักรไทยซึ่งมีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุข จึงขอให้ศาลฯ วินิจฉัยว่า คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองฯ มีสถานะเหนือกว่าพระบรมราชโองการได้อย่างไร เหตุใด จึงสามารถยกเลิกรัฐธรรมนูญอันถือว่าเป็นพระบรมราชโองการได้โดยพลการ ๒. อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย ตามประเพณีการปกครองที่มีพระมหากษัตริย์ เป็นประมุข พระมหากษัตริย์ทรงใช้อำนาจนิติบัญญัติผ่านทางรัฐสภา ทรงใช้อำนาจบริหารผ่านคณะรัฐบาล กับทรงใช้อำนาจตุลาการผ่านสถาบันศาลต่างๆ แต่คณะปฏิรูปการปกครองฯ กลับออกคำสั่งให้ยกเลิกวุฒิสภา สภาผู้แทนราษฎร และศาลรัฐธรรมนูญ อันเป็นส่วนหนึ่งของพระราชอำนาจ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครอง ฯ จึงเป็นการลิดลอนพระราชอำนาจและมีความผิดในฐานะล้มการปกครองเข้าข่ายเป็นกบฎต่อราชอาณาจักร จึงขอให้ศาลฯ วินิจฉัยว่า คณะปฏิรูปการปกครองใช้อำนาจตามกฎหมายใด เหตุใดจึงสามารถยกเลิกสถาบันต่างๆ อันเป็นส่วนหนึ่งของพระราชอำนาจได้ ๓. คณะปฏิรูปการปกครองฯ ได้ออกประกาศยกเลิกรัฐธรรมนูญและคำสั่งทางปกครองอื่นๆ อีกหลายฉบับ แต่หลังจากนั้นเมื่อทราบว่าพวกตนเองมิได้อำนาจใดๆ ทางกฎหมายรองรับในการออกประกาศหรือคำสั่งใดๆ จึงได้เข้าเฝ้าเพื่อนำเรื่องขึ้นทูลเกล้า จากนั้นจึงทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งพลเอกสนธิ บุญรัตกลิน เป็นหัวหน้าคณะปฎิรูประบบการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข การยกเลิกรัฐธรรมนูญจึงเป็นกระทำโดยพลการ เพราะเป็นการกระทำก่อนหน้าที่จะทรงโปรดเกล้าแต่งตั้งหัวหน้าคณะปฏิรูปฯ ดังนั้นประกาศใดๆ ก่อนหน้านั้นจึงไม่ควรมีสถานะเป็นกฎหมายเนื่องจากไม่มีพระราชอำนาจรองรับทำให้ปราศจากความชอบธรรมใดๆทั้งสิ้น และการออกกฎหมายที่บังคับใช้ในราชอาณาจักรไทย จำเป็นต้องมีพระราชอำนาจรองรับหรือยึดโยงกับพระราชอำนาจในทางใดทางหนึ่ง จึงขอให้ศาลปกครองวินิจฉัยเพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไปว่า คำสั่งใดๆ ที่ไม่มีพระราชอำนาจรองรับย่อมถือเป็นโมฆะ ๔. อำนาจทางกฎหมายของคณะปฏิรูปการครองฯ เริ่มต้นตั้งแต่เมื่อใด ก่อนหรือหลังจากที่มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งประธานคณะปฏิรูปการปกครองฯ หากมีภายหลังจากมีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง การยกเลิกรัฐธรรมนูญซึ่งกระทำก่อนหน้าย่อมเป็นโมฆะ แต่หากอำนาจนั้นมีมาก่อนหน้ามีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง อำนาจนั้นมีมาตั้งแต่เมื่อใด และอาศัยบทบัญญัติทางกฎหมายใดรองรับ
๕. การยอมรับคำสั่งที่มิชอบและไม่มีพระราชอำนาจรองรับเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ไม่ถูกต้องต่อไปในอนาคต เพราะต่อไปอาจมีรัฐบาลหรือกลุ่มบุคคลที่ใช้อำนาจโดยพลการทำการออกกฎหมายใช้บังคับต่อประชาชนโดยมิได้นำขึ้นทูลเกล้าเพื่อลงพระปรมาภิไธย หรือแม้แต่ยกเลิกสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยอ้างว่ามีบรรทัดฐานที่คณะปฏิรูปการปกครองฯ ได้ปฏิบัติมาก่อนซึ่งจะส่งผลต่อความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างร้ายแรง ๖. รัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.๒๕๔๐ ถือว่าเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ กฎหมายหรือคำสั่งใดๆ ก็ตามที่ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญถือว่าเป็นโมฆะ ประกาศของคณะปฏิรูปการปกครองฯ ถือว่าเป็นคำประกาศของกลุ่มบุคคลที่ใช้อำนาจโดยมิชอบจึงไม่มีผลในการยกเลิกรัฐธรรมนูญ อีกทั้งรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.๒๕๔๐ เป็นกฎหมายที่มีที่มาจากปวงชนชาวไทยซึ่งร่วมกันร่างจนได้รับการขนานนามว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน การล้มล้างรัฐธรรมนูญดังกล่าวจึงเป็นการฝืนเจตนารมณ์ของประชาชนทั้งประเทศ และในมาตรา ๖๓ ของรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว ยังห้ามมิให้บุคคลกระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อีกทั้งการกระทำของคณะปฏิรูปยังผิดต่อประมวลกฎหมายอาญา มาตราที่ ๑๑๔ ในฐานะที่เป็นกบฏต่อแผ่นดิน และมาตรา ๑๑๖ ในฐานะที่ใช้กำลังอาวุธล้มล้างรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย ด้วยเหตุผลดังกล่าว ข้าพเจ้าในฐานะประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกรัฐธรรมนูญจึงได้นำเรื่องขึ้นสู่การพิจารณาของศาลปกครอง เพื่อวินิจฉัยให้คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองฯ ฉบับที่ ๓ เป็นโมฆะ เพื่อให้รัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.๒๕๔๐ กลับมามีผลบังคับใช้ดังเดิม และขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองโดยเร่งด่วนมิให้คณะปฏิรูปการปกครองฯ หรือองค์กรอื่นใดกระทำการใดๆ อันเป็นการล้มล้างหรือละเมิดต่อรัฐธรรมนูญ ฉบับ พ.ศ.๒๕๔๐ อีกต่อไป จนกว่าศาลปกครองจะมีคำวินิจฉัยเป็นที่สุด
-----------------------------------------------------
ขอเรียนเชิญพี่น้องราชดำเนินช่วยกันพิจารณาคำฟ้องเพื่อทำให้สำนวนฟ้องมีความรัดกุมมากขึ้น และไปเป็นกำลังใจให้ซึ่งกันและกัน

จากคุณ : พลเมืองไทย - [ 8 ม.ค. 50 15:47:44 A:125.25.144.61 X: ]