ผมยอมเสียสละเวลาส่วนตัว แต่งทั้งโคลงและกลอนให้
ด้วยความจริงใจเลยล่ะ...
สันดานเคยกร่างชี้................ คนแจว
คนอยู่เรียงรายแถว............... ร่วมพ้อง
สอนสานเชื่อในแวว................ คนสั่ง
ผิดถูกมิอาจร้อง..................... บ่นได้ "ครับผม"
คนสูงจูงเหล่าใต้.................... ตามใจ
จึงเบ่งหลงภาพไหล................ ไหล่โน้ม
จึงคิดว่าตนใส....................... สะอาด
ตนอยู่เหนือคนก้ม.................. บ่อ้างอายใด
หลงคิดผิดว่าได้..................... ทำดี
หลงข่าวประชาชี.................... อ่อนให้
หากทำเก่งยามมี.................... ศึกสู่ ดีแล
ไยนี่ทำเกินได้....................... บ่รู้เสียงประชา
จัดทางวางท่าเข้ม................... เจียมตัว
หวังว่าคนหลงมัว.................... มั่วบ้า
พอคนเริ่มเกลียวกลัว.............. เรียงบ่น
จึงขยับหลังหน้า..................... โผล่ให้เห็นหาง...
======
อันนี้แต่งตอนทำรัฐประหารใหม่ ๆ:
ลากรถถังมากร่างกลางถนน
เพียงหวังผลทำลายอีกฝ่ายสิ้น
หวังประตูสู่ทรัพย์กลับคืนกิน
นกพิราบเริงบินจึงสิ้นทาง
ดึงรถถังมากร่างกลางถนน
เพียงเพราะคนเถียงกันสนั่นกว้าง
เพียงเพราะไม่ยอมมีวิถีกลาง
กฎของกูเป็นอย่างเดียววางยืน
เอารถถังมากร่างกลางถนน
เพียงบ่ทนคนหนึ่งซึ่งเข็นขืน
เห็นเขาผิดติดใจใคร่เอาคืน
ยอมกินกลืนหลักการของฐานเมือง
เชิญรถถ้งมากร่างกลางถนน
เพียงเพราะคนชั้นกลางกร่างตนเปรื่อง
ชาวนาไร่หมายกาหาผลเรือง
ถูกคนเมืองมุบมิบอุบอิบเอา
ให้รถถังมากร่างกลางถนน
เพราะบ่ทนรอนานการเงินเฉา
หวังตัวเลขเสกใหม่ได้ดีเอา
ลืมว่าเงารถถังยังมีพาล
หลังรถถังที่กร่างกลางถนน
ยังมีคนคอยรอขอเหยียบฐาน
อำนาจใหม่ใครเกาะเหมาะกับการณ์
จักมีงานเงินจ่ายสบายตัว
หลังรถถังที่กร่างกลางถนน
ผีกระทิงสิงห์ปนเสือคนมั่ว
ในฝุ่นเมืองเคืองนักมักน่ากลัว
อกระรัวเห็นเปรตแปรเหตุตาม
เงารถถังยังกร่างกลางถนน
ประชาชนเริงใจไม่คิดถาม
ถ่ายรูปกับปีศาจขาดคิดตาม
นึกว่างามเท่ห์ดีไม่มีภัย
เมื่อรถถังมีทางกลางถนน
ประชาชนจงจำจักย้ำให้
เสียงของเจ้าเคยดังฟังชัดไกล
จักถูกกลบทันใดหากไม่ตรอง
เสียงรถถังดังไกลความหมายส่ง
ว่าผีเก่ายังคงน่าสยอง
เพราะหากใครใคร่คิดผิดเขามอง
อาจจะกองกายเกลื่อนเลือดเปื้อนดิน
เขาจักยัดข้อหานานาข้อ
รถถังรอจากฐานมาผลาญสิ้น
ครองอำนาจขาดไว้ตามใจจินต์
เค็กทั้งสิ้นสู่เขาเอาแบ่งกัน
ประชาชนบ่นไปไม่มีผล
เพราะเหล่าคนล้อมรอบขอบรถนั่น
เขามียศศักดิ์ยอขอแบ่งกัน
เสียงประชาชนนั้นจึงเลือนลอย
โอ ประชาธิปไตยไทยเคยเด่น
บัดนี้เป็นเช่นใดใจนึกหงอย
วีรชนเลือดหลั่งฝังร่องรอย
ฤาชะรอยกรรมโศกกลับโยกเรือน
เมื่อรถถังจากฐานเป็นงานง่าย
ดังเราเรียกความตายมาเป็นเพื่อน
เขาเสาะเหตุหาได้ไม่มาเตือน
รอยเคยเลือนเลือดใหม่อาจไปแทน
ข้าพเจ้าขอเรียกร้องสิทธิที่จะแสดงความเห็นทางการเมืองในเชิงสร้างสรรค์และด้วยสันติ
===================
อันนี้หลังรัฐประหารได้ประมาณหนึ่งเดือน
หากมองตื้นชื่นใจไทยสงบ
เพียงเพราะลบลายเก่าเขาคนกล้า
ชวนรถถังถางทางแขนกางมา
จากบนฟ้าสู่พิภพสยบมาร
อคติมองมารดังมารหยาบ
หวังกรานกราบฤทธิไกรยามไทยซ่าน
ลากกลุ่มใหม่ใจหวังพลังการ
เขาสานงานตนงาบในคราบมิตร
คนหนึ่งกลุ่มมีกรรมทำดีชั่ว
หากใครมัวหวังเมาว่าเขาผิด
ย่อมจะหลงลืมไปใจเคยชิด
ตาบ่พิศหูบ่เพ่งเล็งตรงตรอง
อีกกลุ่มหนึ่งขึงฐานหว่านอำนาจ
หากใจคิดเด็ดขาดควรสนอง
ยอมวางใจให้เขาสวมเขาครอง
รู้สึกสายเกินร้องจะหมองใจ
ประชาธิปไตย....คือการแบ่ง
ผลประโยชน์ยิ่งแพงยิ่งผันได้
วาดอีกาตราต่ำปืนหน่ำไกล
เอาอีแร้งมาใส่ในลานแทน
ดวงเมืองไทยใครกล่าวตกอ่าวล่ม
ฟังคำลมคิดลามตามหลักแม่น
ก็พอเห็นกรรมหามยามย้ายแกน
จะห่วงแทนเท่าใดไม่ช่วยเลย
จึงหวังว่าข้าไพร่ไทยทั้งหมด
ทำใจลดความปลื้มลืมฝันเผย
ว่าวันหนึ่งซึ่งหน้าชะตาเกย
คนเสวยอำนาจกรรมบาดเวียน
คิดอย่างนี้จริง ๆ ...
จากคุณ :
piangdin
- [
11 ม.ค. 50 10:07:59
A:149.159.2.77 X:
]