ความคิดเห็นที่ 1
ลองมาดูความเฮงอันเป็นภาพรวมที่สำคัญกันบ้าง :
1. การลงทุนของต่างชาติในปี 2549 ทะลุ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไม่คาดไม่ฝัน ทั้งๆ ที่ตั้งเป้าเอาไว้เพียง 6,500 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าปี 2548 ที่ทำได้เพียง 6,200 ล้านดอลลาร์
ในปี 2547 ตัวเลขการลงทุนของต่างชาติคิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ในปี 2548-2549 สัดส่วนเงินลงทุนของต่างชาติในจีดีพีของเวียดนามย่อมจะสูงกว่านั้นอย่างมากมาย
2. การส่งออกดีวันดีคืน ประเทศนี้ส่งออกน้ำมันดิบมากเป็นอันดับ 3 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากอินโดนีเซียและมาเลเซียโดยแซงหน้าประเทศบรูไนมาหลายปีแล้ว
การส่งออกสินค้าที่ไม่ใช่น้ำมันดิบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าการเกษตรก็สูงขึ้นทุกตัว ยกเว้นข้าวที่ส่งออกได้น้อยลงในปีที่ผ่านมา เพราะความต้องการใช้บริโภคในประเทศสูงขึ้น อันเนื่องมาจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ถึงกระนั้นเวียดนามก็ยังเป็นรองแชมป์ผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก คือเป็นรองจากประเทศไทยเท่านั้น
เวียดนามยังได้กลายเป็นประเทศส่งออกกาแฟรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก รองจากประเทศบราซิล และ เมื่อปีที่แล้วก็เป็นปีแรกที่มูลค่าส่งสินค้ารายการนี้พุ่งทะลุ 1,000 ล้านดอลลาร์ขึ้นไป เช่นเดียวกันกับการส่งออกยางพาราที่มีมูลค่าถึง 1,300 ล้านดอลลาร์
การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งเสื้อผ้าสำเร็จรูปกับเครื่องนุ่งห่ม ต้องเรียกว่าไปโลด อีกเช่นกัน โดยมีตลาดใหญ่ที่สหรัฐฯ กับสหภาพยุโรป
การส่งออกรองเท้าปีที่แล้วเจออุปสรรคใหญ่ เวียดนามถูกอีซีกล่าวหาว่าทุ่มตลาดและโดนมาตรการตอบโต้ แต่ตัวเลขส่งออกสินค้าหมวดนี้ก็ยังเพิ่มขึ้น
3. เมื่อปีที่แล้วตลาดทุนเวียดนามเติบโตรวดเร็วมาก ศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์นครโฮจิมินห์ซึ่งเป็น "ตลาดหุ้น" แห่งแรกของประเทศ ขยายตัวกว่า 160% ตอนสิ้นปี เทียบกับตอนเริ่มปีใหม่
ต้นปี 2549 ศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์โฮจิมินห์ มีบริษัทจดทะเบียนเพียง 43 แห่ง ถึงสิ้นปีได้เพิ่มขึ้นเป็น 70 แห่ง มูลค่ารวมของตลาดเพิ่มขึ้นแบบทุบทุกสถิติ ที่ศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ฮานอยก็ไม่ได้แตกต่างกัน
ดัชนีหุ้นเวียดนาม (VN Index) ได้พุ่งขึ้นทำสถิติใหม่ๆ เกือบจะทุกวันนับตั้งแต่เปิดทำการวันแรกในปีนี้ ดัชนีปิดลงที่ 865 จุดเมื่อวันพุธ (10 ม.ค.) เทียบกับ 809 จุด ที่ทำเอาไว้ก่อนสิ้นปี 2549
รัฐบาลได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจะนำธนาคารของรัฐ 4 แห่งเข้าจดทะเบียนในตลาดตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปจนถึงปี 2553 รวมทั้งธนาคารเวียดนามคอม (Vietcombank) หรือ Bank of Indochina แห่งอดีต ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ
ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของรัฐวิสาหกิจกับบริษัทของรัฐรวม 71 แห่งที่จะเข้าจดทะเบียนในช่างปีเดียวกันนี้ ในนั้นมีบริษัทสายการบยินแห่งชาติ คือ เวียดนามแอร์ไลนส์รวมอยู่ด้วย
ตลาดทุนเวียดนามก็จึงมีแต่ข่าวดีตลอด ดัชนีตลาดก็จึงทะยานตลอดเหมือนกระทิงบ้า
จากคุณ :
Kiama
- [
12 ม.ค. 50 00:11:23
A:218.215.24.209 X:
]
|
|
|