PANTIP.COM : P5042513 ใครพร้อมที่จะร่วมออกรบบ้าง (ขอคนที่พร้อมจริงๆ นะ) [การเมือง]

ความคิดเห็นที่ 13

เราจะเรียกร้อง เอารัฐธรรมนูญ 40
ที่พ่อหลวงได้มอบเอาไว้ให้คนไทยทั้งประเทศ
ใช้สำหรับเป็นแนวทางบริหารประเทศ กลับคืนมา

เผด็จการทหารที่ใช้ชื่อคณะปฎิรูปการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเ
ป็นประมุขได้ใช้กำลังอาวุธกระทำการปล้นชิงอำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทย ยกเลิกระบอบประชาธิปไตย ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งไปอย่างไม่ใยดี อีกทั้ง รวบเอาอำนาจบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ และองค์กรอิสระต่างๆ ให้อยู่ใต้การบังคับบัญชาของคณะบุคคลเพียงไม่กี่คน..ทั้งนี้ภายใต้ความปลื้มปิติยินดีของกลุ่มพลังมาตรา 7 อย่างถ้วนหน้า

ระบอบเผด็จการทหารกำลังหยั่งราก ภายใต้สำนึกแห่งประชาธิปไตยที่อ่อนแอ ไขว้เขว หลงผิดและไร้ทิศทาง

สิ่งต่อไปนี้กำลังจะเกิดขึ้นกับประเทศไทยอันเป็นที่รักยิ่งของเรา :-

หนึ่ง..... สายตาของประชาคมโลกมองระบอบการปกครองของประเทศไทยในระนาบเดียวกับการปกครองของประเทศ
พม่าและการปกครองของเขมรยังก้าวหน้ากว่าเพราะรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งของประชาชนมิใช
่ได้มาจากการใช้กำลังอาวุธไปปล้นชิงอำนาจอธิปไตยของปวงชน ซึ่งจะทำให้รัฐบาลนี้ถูกประนามจากนา นา อารยะประเทศอย่างกว้างขวาง และไม่อาจยอมรับฐานะของรัฐบาลชุดใหม่ที่จะจัดตั้งขึ้น ซึ่งไม่ต้องถามถึงการจัดอันดับความน่าเชื่อถือด้านต่างๆของประเทศว่าจะตกลงไปขนาดไหน
แรงต้านจากพลังประชาธิปไตยสากลจะกลายเป็นปัจจัยกดดันการดำรงอยู่ของรัฐบาลเผด็จการทห
ารอย่างไม่ต้องสงสัย

สอง..... การปฎิรูปการเมืองและร่างรัฐธรรมนูญจะเกิดขึ้นได้ก็เพียงแต่ภายใต้การปกครองที่เป็นป
ระชาธิปไตยที่สิทธิ เสรีภาพ ในการแสดงความคิดของประชาไม่ถูกปิดกั้นเท่านั้น มิอาจเกิดขึ้นได้ในสภาพแวดล้อมของอำนาจรัฐเผด็จการที่ลิดรอน สิทธิเสรีภาพของประชาชน ความขัดแย้งในเรื่องกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการกำหนดประเด็นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญและปฎิรูปการเมืองจะขยายตัวรุนแรงขึ้นเป็นลำ
ดับ

สาม.....สถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะค่อยๆดิ่งเหวเนื่องจาก ภาคเอกชนชลอการลงทุน ภาครัฐไม่มีวิสัยทัศน์ในการลงทุนและขาดกลัวจนไม่กล้าตัดสินใจ ประชาชนไม่กล้าใช้จ่าย เศรษฐกิจภาคชนบท และภาคครัวเรือนจะถูกทอดทิ้ง ทั้งหมดนี้จะเป็นปัจจัยถ่วงให้เศรษฐกิจค่อยๆดิ่งลง แม้ว่าการส่งออก การท่องเที่ยวจะกระทบกระเทือนหรือไม่ น้ำมันจะราคาถูกลงหรือไม่ก็ตาม สภาพเช่นนี้จะกลายเป็นแรงกดดันที่พุ่งเข้าหารัฐบาลเผด็จการทหารอย่างไม่อาจหลีกเลี่ย
งได้

สี่.........เครือข่ายยาเสพย์ติดจะฟื้นคืนชีพ การค้ามนุษย์จะเฟื่องฟู อิทธิพลมาเฟีย บ่อนการพนัน หวยใต้ดิน มิจฉาชีพ การปล้น ชิงทรัพย์ ลักขโมย การปล่อยเงินกู้นอกระบบ มือปืนรับจ้างฆ่า นักเลงอันธพาลคุมคิวรถ นักเลงอันธพาลรับจ้างทวงหนี้ ขบวนการทำลายป่าไม้ และสิ่งแวดล้อมอื่นๆ จะฟื้นคืนชีพขึ้น ได้โอกาสเกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย ประชาชนจะไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน........และกลายเป็นแรงกดดันต่อรัฐบาลเผด็จการทหารอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน....

ห้า....... ประชาคมในภาคธุรกิจในประเทศทั้งภาคบริการและภาคการผลิตจะต้องทุ่มเทสรรพกำลังเพื่อพย
ุงตนเองให้อยู่รอด มากกว่าการคิดที่จะเพิ่มกำลังการผลิต ขยายธุรกิจและลงทุนในกิจการใหม่ๆ ส่วนชาวต่างประเทศอาจไม่มีประเทศไทยอยู่ในรายชื่อของแหล่งลงทุน ประชาคมภาคธุรกิจไม่อาจทนต่อสภาพเช่นนี้ได้นานและจะกลายเป็นอีกแรงกดดันหนึ่งที่พุ่ง
เข้าหารัฐบาลเผด็จการทหารเช่นกัน

หก.......ภาวะผู้นำของหัวหน้า คปค. มิได้เป็นที่ยอมรับในกองทัพอย่างเป็นเอกภาพ ได้มีโอกาสขึ้นสู่ตำแหน่งเพราะความเป็นมุสลิมที่ต้องแก้ปัญหาภาคใต้เท่านั้น อีกทั้งตัวเขาเองก็มิใช่เป็นดาวฤกษ์ที่จรัสแสงจากภายในตน แต่เป็นดาวเคราะห์ที่ได้รับแสงจากบางคน กระทำการต่างๆภายใต้การชี้นำ และการกำกับดูแลจากอำนาจพิศดาร เมื่อเหตุการณ์ผ่านไปสักระยะจะเกิดสถานการณ์ใครได้-ใครเสีย พวกเรา-พวกเขาขึ้น และนำไปสู่ความขัดแย้งภายในกองทัพ แล้วการรัฐประหารก็จะเกิดขึ้นใหม่อีกก็เป็นไปได้

เจ็ด.......กลไกตรวจสอบถ่วงดุลย์ ที่ทุกคนถวิลหากันนักหนา ได้อันตรทานหายไปพร้อมกับรัฐธรรมนูญ เสรีภาพในการเสนอข่าวสาร และสิทธิการเข้าถึงข้อมูลของภาครัฐก็ไม่มีอีกแล้ว ดังนั้นประตูแห่งการงาบงบประมาณได้เปิดกว้างสำหรับเหลือบที่สิงอยู่ในระบบราชการ เส้นทางแห่งการแสวงหาผลประโยชน์จากการใช้อำนาจรัฐสะดวกโยธิน ไม่ว่าการประมูล การจัดซื้อจัดจ้าง พรรคประชาธิปัตย์ที่แสนจะหวงแหนผลประโยชน์ของชาติก็จะหลับหูหลับตา ปิดปากเงียบ หมอประเวส นายอานัท์ นักวิชาการผู้เปี่ยมท้นด้วยหลัการแห่งธรรมาภิบาลจะไม่มีวันเอ่ยถึงเรื่องแบบนี้ บรรดาสื่อมวลชนที่ว่าเก่งกล้าในการตรวจสอบก็จะทำเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ เล่นแต่ข่าวอาชญากรรม ข่มขืน ชำเรา เอารูปโป้โชว์หน้าหนึ่ง....งบประมาณจากภาษีอากรของประชาชนจะรั่วไหล สูญเสียไปมากเท่าไหร่ คงไม่มีใครหาญกล้าที่จะเอ่ยถึง

แปด.....กลุ่มที่สูญเสียจากการรัฐประหารครั้งนี้มากที่สุดคือ นักการเมืองจากสภาผู้แทนราษฎร 500 คน วุฒิสมาชิกอีก 200 คน รวม 700 คน อีกทั้งผู้มุ่งหวังที่จะเข้าสู่สนามเลือกตั้งอีกนับพันราย คนเหล่านี้ล้วนมีฐานเสียงที่สนับสนุนและมีเครือข่ายในจำนวนที่แน่นอน เขาเหล่านี้หากพิจารณาโดยเป้าหมายและวิถีชีวิตย่อมไม่คิดเป็นมิตรกับเผด็จการทหารเป็
นแน่...

เก้า.....ยุคที่สื่อมวลชนได้รับเสรีภาพสูงสุดในประวัติศาสตร์คือยุคของรัฐบาลนายกทักษิณ แม้ว่าจะเป็นรัฐบาลที่ถูกกล่าวหาว่าแทรกแทรงสื่อก็ตาม เมื่อสถานการณ์ต่างๆแปรเปลียนไปตามที่กล่าวข้างต้น พวกเขาจะอึดอัด และจะเริ่มออกลาย การกระทบกระทั่งกันระหว่างพวกเขากับอำนาจรัฐเผด็จการก็จะเกิดขึ้น...

จากนี้...เราจึงเห็นภาพของสังคมไทยในระยะอันใกล้ว่าหม่นหมอง พร่ามัว คลอนแคลน ไม่มีอะไรแน่นอน ไร้อนาคต และตกต่ำในสายตาของประชาคมโลก เราจะมีอะไรเหลือให้ภาคภูมิใจในความเป็นคนไทย

ในสถานการณ์เช่นนี้พลังประธิปไตยอยู่หนใด

9 ปีแห่งการลิ้มรสเสรีภาพภายใต้รัฐธรรมนูญปี 2540 ไม่เพียงแต่จะทำให้กลุ่มพลังมาตรา 7 ใช้สิทธิ เสรีภาพโดยไม่มีสำนึกแห่งวินัยและกฎเกณฑ์ใดๆ กระทั่งใช้สิทธิ เสรีภาพจนกลายเป็นอนาธิปไตยเท่านั้น แต่พวกเขายังลืมรสชาดอันขมขื่นของระบอบเผด็จการอีกด้วย พวกเขาพลีกายถวายชีวิตเพียงเพื่อเป็นหมากทางการเมืองให้อำนาจนอกระบบสนตะพายให้เดิน พวกเขาไล่ขวิดคณะบุคคลที่ปกป้องอำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทย และยอมให้อำนาจนอกระบบปล้นชิงเอาอำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทยไปหน้าตาเฉย แถมยังยอมสยบให้อำนาจนอกระบบจูงจมูกให้เดินอย่างสิ้นคิด....สื่อมวลชนคือกลุ่มวิชาชีพที่ควรได้รับการประนามเป็นอันดับแรก...บัดนี้พวกเขากำลังจะได้รัฐบาลในอุดมคติของพวกเขาแล้ว...

พลังประชาธิปไตยของเรานั้นมีอยู่ทุกหนแห่ง แม้จะไขว้เขว และลืมหลักคิดพื้นฐานไปบ้าง แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถฟื้นฟูให้เข้มแข็งได้ พลังประชาธิปไตยในเบื้องต้นคือครึ่งหนึ่งของประชาชนที่เลือกพรรคไทยรักไทยคือประมาณ 8 ล้านคน บวกกับพวกโนโหวตที่ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร ซึ่งกระจายอยู่ในทุกพื้นที่และทุกวงการ
หากมีกระบวนการข้อมูลข่าวสารเข้าถึงคนกลุ่มดังกล่าว พลังเหล่านี้ย่อมมีพลานุภาพเกินเพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ทางการเมืองได้...

พลังประชาธิปไตยจะมีภารกิจและจังหวะก้าวอย่างไร

พลังประชาธิปไตยในปัจจุบันอยู่อย่างกระจัดกระจาย ไร้การจัดการ ถูกตัดขาดจากข่าวสารที่ถูกต้อง ช่องทางการสื่อสารตีบตัน ขาดกิจกรรมที่สามารถสร้างปฎิสัมพันธ์ระหว่างคน กลุ่ม และองค์กรเครือข่ายต่างๆ ตลอดจนขาดหัวขบวนเพื่อรวบรวมกำลังและขับเคลื่อนกำลัง แต่หัวใจที่รักระบอบประชาธิปไตย จิตวิญญาณที่หวงแหนสิทธิเสรีภาพยังเปี่ยมท้น ขอเพียงได้ทำความเข้าใจต่อสถานการณ์และการกำหนดทิศทางที่มีขบวนนำเท่านั้น พลังประชาธิปไตยจึงควรมีจังหวะก้าวดังต่อไปนี้...

ภารกิจที่ 1 ..... พลังประชาธิปไตยต้องมีความเข้าใจตรงกันในหลักการต่อไปนี้:-

• อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย การใช้อำนาจนี้ต้องได้รับฉันทานุมัติจากปวงชนชาวไทยโดยผ่านการเลือกตั้งเท่านั้น มิสามารถได้มาด้วยการใช้กำลังอาวุธเข้าไปยึด

• สิทธิ เสรีภาพของประชาชนจะต้องคงอยู่ตามที่รัฐธรรมนูญ 2540 กำหนดไว้ แม้ว่ารัฐธรรมนูญจะถูกฉีกทิ้งไปแล้วก็ตาม

• การปฎิรูปการปกครองและการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่อาจเกิดขึ้นได้ภายใต้อำนาจกระบอกปืนของเ
ผด็จการทหาร จะเกิดขึ้นได้ภายใต้การปกครองที่เป็นประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพของประชาชนจะต้องไม่
ถูกปิดกั้นเท่านั้น

• เมื่อ พ.ต.ท. ทักษิณ ได้ประกาศวางมือทางการเมืองแล้ว และคณะทหารได้เข้ามายึดอำนาจสำเร็จแล้ว ถือว่าข้อเรียกร้องของพลังมาตรา 7 บรรลุผลแล้ว คปค.จะต้องคืนอำนาจให้ประชาชนอย่างไม่มีเงื่อนไขและโดยทันที โดยการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 และอาจเพิ่มเติมให้ คปค. รักษาการรัฐบาลในบทเฉพาะกาล จนกว่าการเลือกตั้งสำเร็จ

• กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องดำเนินการภายใต้อำนาจอธิปไตยมาจากปวงชนชาวไทยเท่านั้
น มิใช่ภายใต้อำนาจ คปค.

• การเคลื่อนไหวทางการเมืองในโอกาสต่อไปนี้ เส้นแบ่งมิได้อยู่ที่เอาทักษิณ หรือไม่เอาทักษิณ แต่อยู่ที่เอาประชาธิปไตยหรือเอาเผด็จการ

ภารกิจที่ 2..... ซึ่งต้องทำคู่ขนานกันไปคือการสร้างกองกำลังรวบรวมข้อมูล ข่าวสาร การเขียน เรียบเรียงบทความ ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีศูนย์กลาง เพียงแต่มีระบบในการแลกเปลี่ยนข่าวสาร ข้อมูลที่เหมาะสมเท่านั้น เป็นภาระกิจที่ต่างคนต่างทำ ทำไปจนกว่าสถานการณ์เอื้ออำนวยต่อการจัดตั้งเป็นองคาพยพที่ชัดเจน ทั้งนี้

ภารกิจที่ 3 ..... กองกำลัง Forward mail และกระจายข่าวสาร ภารกิจนี้เน้นการสร้างชุมทาง Forward Mail อย่างน้อย 10,000 ชุมทางกระจายทุกพื้นที่ ทุกวงการ ทุกกลุ่มอายุ ในแต่ละชุมทาง มีอีเมล์เป้าหมายอย่างน้อย ชุมทางละ 100 รายชื่อ จะทำให้ข้อมูลข่าวสารเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ทันที 1,000,000 ราย ในแต่ละวัน และสามารถเพิ่มยอดผู้รับข่าวสารเพิ่มจากการ Forward Mail ในระดับที่ 3 กองกำลังนี้ยังส่งเสริมให้มีการเผยแพร่ในช่องทางเสริม เช่น SMS และ Fax เป็นต้น กองกำลังนี้อาจต้องมีคณะบุคคลเชื่อมประสานกันแต่ไม่จำเป็นต้องรู้จักหน้าค่าตากัน ภารกิจนี้ต่างคนต่างทำไปเรื่อยๆ เมื่อถึงจุดหนึ่งสถานการณืจะทำให้พลังประชาธิปไตยมาบรรจบกันเอง

ภารกิจที่ 4 ..... กองกำลังประสานเครือข่าย ภารกิจนี้ขึ้นอยู่กับว่าใครอยู่เครือข่ายไหน และรู้จักมักจี่กับเครือข่ายใดบ้าง ควรจัดระบบสื่อสารและการเชื่อมประสานเพื่อกระจายข้อมูลข่าวสาร แลกเปลี่ยนข้อมูลและความคิดเห็นอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด เมื่อสถานการณ์พัฒนาไปจุดหนึ่ง การเชื่อมประสานในลักษณะนี้จะสามารถรวบรวมกำลังฝ่ายประชาธิปไตยขึ้นมาได้

ภารกิจที่ 5 ..... พัฒนาองค์ความรู้และภูมิปัญญา สร้างยุทธศาสตร์ ในการสร้างระบอบประชาธิปไตยให้มั่นคง ยั่งยืน ได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและมีนโยบายบริหารประเทศที่ก้าวหน้า ซึงเป็นภารกิจที่คิดไปทำไป คู่ขนานไปกับการเคลื่อนไหวอื่นๆ แต่จะต้องรวบรวมบุคคลที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ

ขอให้พลังประชาธิปไตย จงรวมตัวกันเข้า

ดำเนินการเคลื่อนไหวโดยอำพรางตน ไม่เปิดเผยตัว อย่าทิ้งร่องรอย ให้สามารถสืบสาวได้ สร้างกำลังและรวบรวมกำลังฝ่ายประชาธิปไตยให้กว้างขวางที่สุด อย่าใจร้อนใจเร็วด่วนได้ ใช้อารมณ์ เมื่อสถานการณ์สุกงอม โอกาสจะเปิดสำหรับการสำแดงกำลังของฝ่ายประชาธิปไตยแล้วเผด็จการทหารจะต้องพบจุดจบที่
น่าอนาถอย่างแน่นอน

หมายเหตุ: ถ้าเห็นด้วย กรุณาเผยแพร่เอกสารนี้ต่อไปให้กว้างขวางที่สุด....
แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 50 21:50:51

จากคุณ : thipch - [ 12 ม.ค. 50 21:44:44 A:124.120.109.138 X:61.91.191.6 ]

ความคิดเห็นที่ 26

เมื่อเราดำเนินการตามช่องทางรัฐธรรมนูญแล้ว
ทุกสิ่งที่ดำเนินการ ผมจะส่งไปยังสำนักข่าวต่างประเทศให้รับรู้ไว้ครับ คิดดู ประชาคมโลก จะต้องจับตาดูศาลไทยอย่างตาไม่กระพริบครับ การตัดสินมั่วๆ จะนำมาซึ่งผลกระทบต่อระบบยุติธรรมของไทย ที่ต่างชาติไม่ยอมรับ

ที่นี้ เราจะมีโอกาส ปฏิรูป กระบวนการยุติธรรมเสียทีครับ แล้ว ผมอยากให้เปลี่ยนระบบตุลาการ เป็นแบบ คณะลูกขุนครับ จะได้คัดเลือกคณะลูกขุนที่เป็นกลางได้ ไม่เอนเอียงครับ

การดำเนินการครั้งนี้อาจเกิดคำตอบได้ 3 กรณี คือ
ถ้าประชาชนฟ้องศาล ให้ดำเนินคดี จับ กบฏมาลงโทษ
แล้ว กบฏ อ้าง พรบ. นิรโทษกรรม

ศาล มีหน้าที่รักษากฏหมายไว้ให้ได้ การไม่ทำหน้าที่นี้ มีความผิดตามกฏหมาย ฐานปฏิบัติ หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบครับ อัยการทั้งประเทศก็มีความผิดครับ ตำรวจก็มีความผิดครับ เพราะตำรวจเป็นเครื่องมือของ ศาล ครับ มีหน้าที่จับกบฏโดยตรง ขณะนี้ ตำรวจมีความผิดเรียบร้อยแล้ว ผบ.ตร. มีหน้าที่รับเต็มๆ แต่ขณะนี้ ยังมีโอกาสแก้ตัวอยู่ เพราะกบฏ ยังยึดอำนาจไม่สำเร็จ ส่วนเหตุผล จะอธิบายทีหลังครับ

ดังนั้น คำตัดสินของศาล จะเป็นการทำตามหน้าที่ของกฏหมายโดยตรง และ คดีนี้ จะมีคุณโทษ ต่อข้าราชการในระบบตุลาการทั้งระบบครับ วัดใจกัน

ถ้าคำตัดสินออกมา คือ
1. ศาล ให้ กบฏ ชนะ ประชาชน สามารถฟ้องเอาผิด ข้าราชการในระบบยุติธรรม ได้ทั้งระบบครับ

2. ศาล ตัดสินตามกฏหมาย ตามบทลงโทษที่ชัดเจนของกฏหมาย นั่นแสดงว่า ตำรวจ จะต้องไปจับกบฏ ตามหมายของศาล แล้ว ทหารทั้งหมด มีหน้าที่ภาระกิจเดียวกันคือ จับกบฏส่งตัวให้ตำรวจเท่านั้น ถ้าไม่อยากติดร่างแห จะต้องให้ความร่วมมือ ถ้าไม่ให้ความร่วมมือ ถือว่าเป็นพวกกบฏครับ ขัดขืนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ครับ ผิดระเบียบกองทัพ พระธรรมนูญทหาร จะต้องอำนวยความสะดวก

เพราะ ทุกคนมีหน้าที่ของตนเอง กองทัพ มีหน้าที่ในกองทัพ ไม่มีหน้าที่บริหารบ้านเมือง ท่านไม่มีอำนาจก้าวก่ายครับ ปัญหาการบริหารประเทศ จะต้องแก้ไขไปตามกฏหมายของมัน ไม่ใช่กฏหมู่ครับ ไม่ใช่การใช้กำลังตามใจของตน ตามความเห็นของตนถ่ายเดียว ใช้อารมณ์ไม่ได้ เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้น จะต้องมีคนรับผิดชอบครับ

3. ตัดสินให้ กบฏ ผิด แต่เว้นโทษ ด้วย พรบ. นิรโทษกรรม แสดงว่า ยอมรับในผลการปฏิวัติ ถ้ายอมรับผลการปฏิวัติ แสดงว่า ท่านไม่รักษากฏหมายว่าด้วย ระบอบการปกครอง ใครจะใช้สิทธิเสรีภาพมาล้มล้างการปกครองมิได้ ท่านเป็นผู้รักษากฏหมาย ท่านอยู่ในเหตุการณ์ ท่านปฏิเสธไม่ได้ว่า ท่าไม่รู้ไม่เห็น ต้องแสดงหลักฐาน เพราะ ตำรวจพบโจร ยังจับโจรได้ก่อนเลย ท่านก็เช่นกัน เมื่อเกิดการปฏิวัติ พูดออกโทรทัศน์ ท่านจะไม่รับรู้ได้อย่างไร? ท่านจึงมีหน้าที่ออกหมายศาล ให้ตำรวจ ไปจับ กบฏ แต่ท่านไม่ทำ จึงยอมรับว่า ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีความผิด ทุกคน ท่านจะสำเร็จโทษตัวเองแทน กบฏ หรือครับ

คำตัดสินของท่าน ชาวโลกในระบอบประชาธิปไตย เขาจะยอมรับ การตัดสินของท่านหรือครับ ความน่าเชื่อถือ ที่ประชาชนหวังพึ่งจะมีเหลือ หรือครับ ถ้าท่านให้ควายุติธรรมไม่ได้ กฏหมาย ก็ไม่มีใครปฏิบัติตาม ต่อไป ก็ปฏิวัติ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ต่อไป ก็มีแต่พวกมือปืนเต็มบ้านเต็มเมือง ประชาชน หาปืนคนละกระบอก ตัดสินกันเอง กลายเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนสิครับ

เหตุผลที่ผมว่า ขณะนี้ พวก กบฏ ยังยึดอำนาจไม่สำเร็จนั้น เป็นเพราะว่า ถ้ายึดอำนาจสำเร็จ ต่างประเทศ จะให้การยอมรับ ดำเนิน นโยบายต่างๆ ร่วมด้วยครับ แต่จนถึงขณะนี้ ต่างประเทศ ยังไม่มีใคร ยอมรับ รัฐบาลกบฏนี้เลยครับ

ถ้าไม่เชื่อลองไปติดตามดูข่าวหนังสือพิมพ์ต่างชาติดูครับ ตามเว็บก็ได้ CNN BBC และอื่นๆ ต่างชาติไม่ยอมรับ พวกท่านจะยอมรับหรือครับ ท่านไม่ปกป้องกฏหมาย ต่อไป กฏหมาย ก็ไม่สามารถช่วยอะไรท่านได้

จากคุณ : thipch - [ 12 ม.ค. 50 22:50:58 A:124.120.109.138 X:61.91.191.6 ]