ได้เห็นข่าวการยกเลิกพาสปอร์ตการทูตของท่านนายก ฯ ทักษิณโดยกระทรวงการต่างประเทศ ยุคคุณนิตย์ พิบูลสงคราม สั่งการให้สถานทูตไทยในที่ต่าง ๆ ไม่ให้การต้อนรับกับคุณทักษิณแล้ว ผมนั่งหัวเราะอยู่ในใจ เพราะนึกถึงภาษิตไทยดังที่ว่า "วัวสันหลังหวะ" ว่าคนไทยสมัยก่อนเขาช่างคิดจริง ๆ ก็ไม่ทราบว่าวัวตัวนี้จะมีอะไรที่ทำให้กลัวอีกาตัวนั้นหนักหนา
เมื่อตอนก่อนปีใหม่ นิตยสาร The Economist ได้เขียนบทความว่า แค่การที่นายก ฯ ทักษิณบินผ่านไปผ่านมาในประเทศต่าง ๆ เช่น ช็อบปิ้งที่ฮ่องกง ไปเยี่ยมเพื่อนที่จีน ไปตีกอล์ฟที่บาหลี แค่ไปช็อปปิ้ง ประดานายพลทั้งหลายยังกลัวคุณทักษิณจะไปตั้งขบวนรบเพื่อทวงอำนาจคืน จนโดนคุณทักษิณฝากกลับมาว่า ให้เอาเวลาไปดูแลชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมดีกว่าจะไปเสียเวลาจับตาดูเขา ซึ่งผู้สื่อข่าวต่างประเทศหลาย ๆ สำนักเขาได้รายงานค่อนข้างตรงกันว่า แค่ภาพลักษณ์ของทักษิณ ก็สามารถสร้างความพรั่นพรึงให้แก่บรรดานายทหารที่ทำการยึดอำนาจจากเขาได้
มาวันนี้ ได้ข่าวว่า ท่านนายก ฯ ทักษิณจะไปสิงคโปร์และมีนัดทานข้าวกับรองนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ที่ชื่อ Wong Kan Seng และจะเดินทางต่อไปพำนักที่ประเทศอังกฤษ (เพราะอังกฤษเริ่มหายหนาวแล้ว) ผมยังมองไม่เห็นเลยว่า การถอนพาสปอร์ตการทูตของนายก ฯ ทักษิณนั้นจะมีผลอะไรเลย รังแต่จะทำให้ชาวบ้านมองว่า คมช. รังแกคนไม่มีทางสู้ เพราะไม่ว่าคุณทักษิณไปที่ไหน ก็มีแต่เพื่อน ๆ ของเขาทั้งนั้น
ผมนั่งฟังท่าน พล.อ.วินัย ออกมาแถลงข่าวกับสื่อมวลชน เรื่องว่า ท่านอึดอัดใจหลายอย่าง ท่านบอกว่า
"ผมค่อนข้างซีเรียส เพราะมันต้องช่วยกันคนละไม้คนมือ ช่วยกันใช้วิจารณญาณ ช่วยกันใช้สามัญสำนึกในการเสนอข่าว เพราะมิฉะนั้นจะเกิดความสับสนวุ่นวาย ทั้ง ๆ ที่ทีมงานเศรษฐกิจของรัฐบาล ยืนยันว่า เศรษฐกิจบ้านเราแข็ง ซึ่งก็คงจะแข็งจริง เพราะดูจากการนำเข้า และการเกินดุลของบัญชีเดินสะพัด ค่าเงินบาท และตลาดหุ้น แม้ว่าจะเจอยาแรง แต่พอมีการปรับตัวแก้ไขก็สามารถดีดกลับขึ้นมา ดังนั้น เพียงขอความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และนักลงทุน ก็จะเดินไปได้ด้วยดี ผมคิดว่า ได้ทำหน้าที่ของผมที่ควรจะต้องทำ คือทำให้สังคมนิ่งในเรื่องการเมือง ไม่วุ่นวาย ปล่อยให้กลไกต่าง ๆ ทำงานไป ผมคิดว่าทุกคนน่าจะเห็นด้วย เพราะเป็นหน้าที่ของ คมช. ที่เข้ามาดูแลบริหารประเทศให้อยู่ในสภาพนิ่งที่สุด
ผมในฐานะประชาชน ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลยกับกลุ่มอำนาจเก่าอำนาจใหม่ อยากจะเรียนท่าน พล.อ.วินัยว่า เศรษฐกิจบ้านเราแข็งจริงครับ แต่มันกำลังล่มสลายลงเรื่อย ๆ ถ้าท่านไม่เชื่อผม ท่านก็คอยดูต่อไปก็แล้วกันครับ อันนี้ไม่ได้แช่งหรืออะไรเลย แต่มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ซึ่งผลก็คือ สังคมมันจะไม่นิ่งอย่างที่ท่านคาดหวัง ผมเองก็อยากให้มันนิ่งเหมือนกัน แต่บังเอิญว่า เราไม่ใช่เทวดา ที่จะดลบันดาลอะไรก็ได้ตามใจปรารถนา
ท่าน พล.อ.สุรยุทธ์ ท่านเองก็บอกว่า รัฐบาลของท่านเปิดกว้างในการแสดงความคิดเห็น ท่านเองก็ต้องฟังเสียงคนวิจารณ์ด้วย เพราะท่านบอกว่า ท่านเป็นคณะปฏิรูปการเมืองในระบอบประชาธิปไตย
อันไหนที่เขาวิจารณ์แล้วมันไม่จริง ท่านก็ต้องออกมาให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่ใช่ไปห้ามเขาพูด เพราะปรกติวิสัยของมนุษย์ไม่ว่าจะชาติไหนภาษาไหน เขาก็ต้องพูดกันอยู่แล้ว เพราะ "ปากคนยาวกว่าปากกา"
สิ่งที่สำคัญที่ผมอยากจะขอฝาก คมช. และรัฐบาลของพล.อ.สุรยุทธ์ ช่วยรีบทำก็คือ แก้ปัญหาความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ให้ได้เถิดครับเพราะอ่านข่าวทุกวันเห็นยิงตายทุกวัน จะถือว่าเป็นกุศลแรง และถือว่าท่านได้ทำหน้าที่เพื่อรักษาความมั่นคงชองชาติไว้ อย่าไปเสียเวลากับท่านนายก ฯ ทักษิณเลยครับ รายนั้นน่ะ ป่านนี้ช๊อปปิ้งสบายใจเฉิบแล้ว สบายใจจนกระทั่งเหน็บผ่านทนายนพดลเล็ก ๆ ว่า "หวังว่าคงไม่ถอนบัตรประชาชนผมนะ" ได้ฟังแล้วก็นั่งหัวเราะอีกที ว่า คุณทักษิณยังคงเส้นคงวาในการใช้คำพูดด้วยอารมณ์ขันร้ายลึก
ตรงนี้ผมนึกถึงคำพูดของคุณทักษิณที่เคยพูดไว้ว่า "การบริหารประเทศเป็นเรื่องหลายมิติ" ท่านนายพลทั้งหลายก็ต้องพยายามเข้าใจด้วยว่า มันมีมิติอะไรบ้างในการบริหารบ้านเมืองเพื่อความเรียบร้อย และความอยู่เย็นเป็นสุขของประชาชน
ผมไม่บังอาจจะไปสอนท่านหรอกครับ เพียงแต่อยากให้ท่านสบายใจกันเท่านั้นเองว่า อย่าไปวิตกกังวลอะไรมากกับ "อดีต" นายก ฯ ทักษิณ เพราะลำพังทั้งบุตรและภรรยาของท่านนายก ฯ ทักษิณ แถมน้องนุ่งทั้งหลาย ยังถูกสอบสวนกันวุ่นวายจนกระถางต้นไม้แตก อย่าให้ภาษิตไทยที่ขึ้นหัวข้างบน มันเข้าใครบางคนเลยครับ
จากคุณ :
ขนมต้ม 
- [
12 ม.ค. 50 23:15:36
A:61.91.92.24 X:
]
***ชาติวัวสันหลังขาด...เห็นอีกาบินผาดก็ตกใจ***
